☻ ของรัก.. ของหวง ☻

กระทู้สนทนา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 

           “เด็กตัวเล็กผิดปกติขนาดนั้น คุณยังสรุปผลไม่ได้อีก งั้นเรอะ”
 
             เสียงนายแพทย์หัวหน้าแผนกสูตินรีแพทย์แปร๋นขึ้นอย่างไม่พอใจ ภายในส่วนทำงานส่วนตัวของแพทย์หนุ่ม เขากำลังนั่งอ่านบันทึกของพยาบาลอยู่เพลินๆ ท่านผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการแม่ลูกอ่อน ก็โผล่เข้ามาในห้องด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด อากาศวันนี้ร้อนเป็นพิเศษ เพราะเห็นท่านหัวหน้าเอาผ้าซับเหงื่อหัวล้านแตกซิกๆ ไปมา
 
             “ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือว่า ให้สนใจแม่ของเด็กให้ดี กําชับข้อห้าม กําชับข้อควรไม่ควรกับแม่เด็กให้ชัดเจน เดี๋ยวก็ได้เสียชื่อสถาบันหมด พักนี้คนเรากำลังนิยมกักตุนของกินกัน คุณก็รู้  ใครๆ ต่างขี้เหนียวกันขึ้น ขนาดพวกแม่ลูกอ่อนลูกค้าเรา ยังหวงนํ้านมตัวเองไม่ยอมให้ลูกดูดสักอึก! สักซ้วบ! ไอ้พวกเด็กแว้นต์โซเชี่ยลก็ดันทะลึ่งปล่อยแชร์มั่ว หาว่าเต้านมเป็นหน้าต่างของเชื้อไวรัสโควิด บ้า!  เต้านมเป็นหน้าต่างของหัวใจต่างหาก โควิดมันไม่สนใจเต้านม พวงนมหรอก มันสนแต่ ปอด ตับ ไต ผ้าขี้ริ้ว คันแทนาโน่น คุณเองก็รู้มิใช่หรือ?”
 
              เสียงขุ่นมัวประมาณนํ้าซาวข้าวยังคงดําเนินต่อไป นายแพทย์หัวหน้าใหญ่เดินพุงพลุ้ยดั่งคนท้องแปดเดือนวนไปมาหน้าโต๊ะอย่างคนอารมณ์พลุ่งพล่าน ไม่ยอมนั่ง ไม่ยอมนอนลง เพื่อระงับสติอารมณ์ สายตานายแพทย์หนุ่มมองเลยไปยังฝาผนังห้อง จิ้งจกตัวหนึ่งกําลังผงกหัวหงึกๆ ราวกับอาการคนหัวเราะชอบใจ เออ เยาะเย้ยไห้พอเลยเอ็ง

              “ใจเย็นๆ ครับ”  แพทย์หนุ่มพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ “เดี๋ยวคลอดก่อนกําหนดเสียก่อน  มีเรื่องอะไร คนไข้คนไหน ตึกไหนเหรอครับ ผมจะส่งคนไปดูเบื้องต้นก่อน”

              “ไปดูเองสิ  คุณต้องรีบสรุปผลให้ผมอยู่แล้ว ลูกค้าอยู่ตึกนี้แหละ ชั้นล่างนี่เอง”

              ดูไม่ใช่พุงพลุ้ยอย่างเดียวหรอก หัวหน้าก้นงอนด้วย อาการงอนของคนเราปกติจะออกเฉพาะทางด้านหน้า แต่ตอนนี้หัวหน้าออกอาการทางข้างหลังไปด้วย เพราะพอพูดเสร็จ พุงกับก้นประหลาดนั้นก็ส่ายซ้ายส่ายขวาหายไปจากประตู แพทย์หนุ่มวางมีดผ่าตัดในมือไขว้หลัง ปล่อยลงกับถาดสแตนเลสเสียงดังแกรก ถอนหายใจเหยียดยาว เกือบไปแล้ว.. เกือบเผลอทําคลอดก่อนกําหนดให้หัวหน้าไปแล้ว

              แพทย์หนุ่มสวมแมสก่อนออกจากห้อง พยายามผ่อนคลายตัวเองโดยการเดินลงทางบันไดไปอีกชั้น ว่าจะผิวปากเป็นเพลงผู้สาวขาเลาะไปด้วย แต่หักห้ามใจตัวเองได้ทัน เขาไม่ต้องเลาะไปไหนหรอก ในตึกแผนกสูตินี้ ก็แทบจะเดินไปไหนไม่ทั่วถึงอยู่แล้ว

              เขาเดินสวนกับพยาบาลก่อนเข้าห้องตรวจ กําลังจะถามอะไรบางอย่าง พยาบาลคนนั้นก็ชิงตอบก่อน

              “เดี๋ยวดิฉันกลับมาค่ะคุณหมอ พอดีมีเรียกตัวฉุกเฉินจากอีกห้องค่ะ”

              “ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณเทียนหาย”  แพทย์หนุ่มก้มผงกหัวรับรู้  พลางนึกไปถึงจิ้งจกในห้องของเขา .. เออแฮะ  บางทีการผงกหัวมันก็ไม่ใช่อาการต้องหัวเราะเสมอไปนี่นา ..

              โผล่เข้าห้องตรวจ นายแพทย์หนุ่มก็ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง บนบ่าข้างหนึ่งของเธอ ทารกวัยห้าถึงหกเดือนกําลังหลับปุ๋ย สองแก้มยุ้ยย้อย ช่างน่ารักน่าชัง

               “เด็กดูจะตัวเล็กกว่าเกณฑ์นะครับ  คุณ... เอ่อ ”  แพทย์หนุ่มมองหาชื่อแม่เด็กจากแฟ้มพยาบาลเทียนหาย บนโต๊ะ  .. อยู่ไหนนะ  มองไม่เห็น  โอเค. ไม่เป็นไร  ..

               “เค้าไม่ค่อยได้กินนมค่ะ”   นึกแล้วเชียว ...  คําพูดหัวหน้าดังมาเข้าหูแว่วๆ  .. ขนาดพวกแม่ลูกอ่อนยังหวงนํ้านมตัวเอง ไม่ยอมให้ลูกดูดสักอึก! สักซ้วบ!  ..  เออแฮะ  คําพูดแบบนํ้าซาวข้าวของหัวหน้าเพิ่งน่ารับฟังตอนนี้เอง

               “เค้ากินนมแม่หรือนมผงล่ะ”

               “กินนมแม่ค่ะ”

               “เปิดเสื้อหน่อยครับ หมอขอตรวจเต้านมหน่อย”  หญิงสาววัยยี่สิบทําตามคําสั่ง

               “โอว...  นมไม่สมบูรณ์ครับ”  นึกถึงคําหัวหน้าอีกหนที่ว่าแม่ลูกอ่อนหวงนํ้านม ทําให้แพทย์หนุ่มบีบเค้นด้วยสองมือ ทั้งสองเต้า

               กว่าห้านาทีเขาถึงได้หยุด

                “นมไม่สมบูรณ์จริงๆ  หมอบีบหนักแล้วนะ ไม่มีนํ้านมเลย  คุณ เอ่อ.. ”  แพทย์หนุ่มมองเห็นชื่อหญิงสาวบนแฟ้ม “คุณอรทัย”

                “หนูไม่ใช่อรทัยแม่เด็กค่ะ  พี่อรทัยไปเข้าห้องนํ้า  หนูชื่อริจิเลข เป็นน้าเด็กค่ะ”

                นายแพทย์หนุ่มผงกหัวหงึกๆ  เขาไม่ได้นึกขํา หรืออยากหัวเราะแบบไอ้จิ้งจกหน้าไหนทั้งสิ้น

                เขาอยากจะวิ่งออกนอกห้องตรวจมากกว่า  

                เวรกรรมจริงๆ
                ไอ้หมอคม..

...

จบแล้วครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่