คุณรู้มั้ยว่า ที่อเมริกาไม่ใช่ว่ามีเงินเดินเข้ารพ.สวยๆแล้วจะสามารถตรวจได้เลยเหมือนเอกชนเมืองไทยนะ ชุดตรวจที่นี่ก็มีไม่เพียงพอต่อประชากรเหมือนที่อื่นๆนั่นแหละ เค้าก็เลือกคนที่มีความเสี่ยงสูงมาตรวจก่อนเหมือนกัน
และเมื่อคุณติดโควิดที่อเมริกา ไม่ต้องตกใจไปเพราะเขาก็ยังถือว่าคุณยังสามารถดูแลตัวเองได้เหมือนไข้หวัด ไม่มีหรอกนะให้มานอนโรงพยาบาลแล้วกักตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนที่เมืองไทยถ้าคุณไม่โคม่า หนักจริงๆ เค้าให้คุณอยู่บ้านแล้วไปดูแลตัวเองที่บ้าน อาจจะมีให้ยาตามอาการ คุณสามารถโทรหา 911 หรือเข้า emergency ได้ก็ต่อเมื่อคุณอาการหนักจริงๆหายใจไม่ออกหายใจไม่ทันเกือบตายแล้วเท่านั้นแหละ ซึ่งเผลอๆ อาจจะตายอยู่บ้านไปเลย ซึ่งก็มีไม่น้อย
เค้าให้กักตัวจนกว่าจะหาย อ้าวแล้วเราอยู่แต่ในบ้าน เราจะรู้ได้ยังไง คือเค้าให้สังเกตอาการตัวเอง ถ้ามี 3 อย่างนี้ก็หายแล้วนะ ออกไปลัลล้าได้เลย
1. ถ้าไม่มีไข้สูง 100.4 ขึ้น เป็นเวลา 72 ชม.
2. อาการอื่นๆดีขึ้น เช่น อาการไอดีขึ้น
3. 7 วันนับจากวันแรกที่มีอาการ
ถ้าคุณมี 3 ข้อนี้ ยินดีด้วยจ้า เค้าบอกว่าคุณหายแล้ว ไม่ต้องมาตรวจซ้ำหรอก
คนไทยที่นี่เค้าถึงอยากหนีตายกลับเมืองไทยหนักหนาไง เพราะโอกาสรอดในเมืองไทยดูสูงกว่า เดินเข้ารพ.เอกชนสวยๆเข้ารับการดูแลรักษา มีเงินอย่างเดียว โอกาสรอดสูงกว่า บริการระดับห้าดาวนะคุณ รพ.เอกชนเมืองไทยน่ะ
แล้วถ้าคุณไม่มีไข้ แค่รู้สึกปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ เหมือนที่แมทธิว กับแพรวาเป็น แล้วรู้สึกว่าอยากตรวจโควิด หาตรวจแบบเอกชนเมืองไทย เค้าก็ไม่ให้ตรวจโควิดให้นะ
ตอนนี้ห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด หาหมอยากมาก มีคำสั่งของ city เช่นห้ามหมอทำการผ่าตัดใดๆทั้งสิ้นยกเว้นจะเสี่ยงต่อชีวิต, ห้ามเปิดคลินิกทำฟันด้วย
เราไม่รู้หรอกว่าที่เดินๆกันอยู่ที่อเมริกาเนี่ยใครเป็น ใครไม่เป็น เพราะถึงเป็นบางทีก็ยังไม่ออกอาการ ก็ออกไปทั่วเหมือนกัน แล้วคนที่ติดอยู่บ้าน แล้วนึกว่าตัวเองหายแล้ว แล้วก็ออกไปทั่วเหมือนกันนะ เราไม่รู้หรอกใครเป็นไม่เป็น เพราะเค้ามี HIPPA ป้องกันข้อมูลของผู้ป่วยอยู่ จะไม่มีข่าวออก timeline เหมือนเมืองไทยนะว่าแต่ละคนที่ติดน่ะ ไปติดมาจากไหน แล้วไปไหน ต้องระวังตัวเองอยู่ตลอด จนนอยด์แล้วเนี่ย คนที่ใส่หน้ากากก็ยังมีเพียงแค่ส่วนน้อยเพราะหาซื้อไม่ได้ แล้วก็ยังมีคนส่วนเยอะที่คิดว่าหน้ากากจะไม่ช่วยกันเชื้อโรค
ที่ทรัมป์มาพูดว่ามีการตรวจวัดอุณหภูมิที่สนามบินน่ะ ไม่มีนะคุณ เข้าประเทศก็ไม่มีนะคัดกรองอุณหภูมิเหมือนที่อื่นๆน่ะ
สนามบินก็เปิด ไฟล์ทบินมีน้อยลงแค่นั้นเอง สกบ. อย่าง AA ลดกระฉูดเลยคุณ อย่างจาก Miami ไป LA $20 เอง สนามบินเมืองใหญ่ๆก็ยังเปิดบินเข้าบินออกเป็นปกติ เช่นที่นิวยอร์ค,ซีแอตเทิ่ล ต้องมีเที่ยวบินปกติคนก็ยังเดินทางกันอยู่นะไม่มีห้ามคนเข้าคนออกห้ามเดินทาง
ถ้าไม่มีการห้ามการเดินทางเข้าออกจากเมืองใหญ่ๆที่ติดกันเยอะเยอะไม่ว่าทั้งทางบกทางน้ำทางอากาศมันก็จะติดกันทั่วไป ไม่มีทางหมดหรอก คนก็จะตายเยอะขึ้นเพราะว่าเป็นโควิดแล้วให้กักตัวอยู่ที่บ้านนั่นแหละ แอร์กับนักบิน คนทำงานสนามบินที่นี่ติดกันเยอะนะ ตายก็เยอะนะคุณ แอร์ นักบินน่ะตัวแพร่เชื้อเลยนะ ถ้าเป็นแล้วไม่มีอาการ แล้วบินต่ออ่ะอย่างทริป 3 วันนะคุณ ไปนิวยอร์ค ต่อไมอามี่ ค้างดัลลัส ต่อพอร์ตแลนด์ ไปค้างแอลเอ วันต่อมา มาชิคาโก้ นี่แค่ในประเทศนะ พักวันนึง แล้วไปนาริตะ ต่อ หรือลอนดอน แค่นี้เชื้อก็ไปได้ทั่วประเทศ ทั่วโลกแล้ว ไม่เห็นมีใครคิดว่า ต้องยกเลิกบิน เลย เราคิดว่า ต้องยกเลิกการบินในประเทศด้วย อาจจะยกเว้นสำหรับ เที่ยวบินพิเศษสำหรับบุคลากรทางการแพทย์หรือทางทหาร อาจจะช่วยลดคนติดต่อได้บ้าง
นี่เรือสำราญก็เพิ่งขึ้นที่ไมอามี่เมื่อวาน แล้ววันนี้คนเป็นพันๆนะขึ้นเครื่องกลับบ้านกัน มีเช่าเหมาลำ แล้วกำลังกระจายไปทั่วประเทศเลย
สถานการณ์โควิดที่นี่กำลังจะแย่ลงเรื่อยเรื่อย ถ้าเค้าไม่ปิดเมืองอย่างจริงจัง
เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ดูที่จีนเค้าติดกันเป็นหมื่นคนตั้งแต่เดือนมกรากุมภาแล้วทำไมเราไม่มีมาตรการป้องกัน ตั้งแต่เค้าปิดเมืองอู่ฮั่นแล้วทำไมชะล่าใจไม่มีการเตรียมพร้อม ประชาชนก็ได้แต่ข้อมูลที่ไม่ตรงความจริงว่าเหมือนเป็นไข้หวัด โอกาสหายมันยังสูงเยอะ คนที่รอดก็จะเป็นคนที่ตื่นตระหนกไปก่อนนั่นแหละเพราะมีการป้องกันนะเตรียมตัวดีกว่า คนที่นี่เอะอะก็อิง CDC อิง WHO ไม่ดูชาวบ้านชาวช่องเค้าเลย เค้าใส่หน้ากากกันทั่วโลกคนที่นี่ยังว่า CDC ว่าไม่ต้องใส่ก็ยังเชื่อตามอยู่นั่นแหละ
เฮ้อพูดแล้วเครียด โควิดนี่ร้ายกว่าที่คิดเยอะนะ
ส่วนจม.อันนี้ เพื่อนที่ติดโควิด เค้าส่งต่อจากอีเมล์ที่ได้รับผลจากคลินิค
the clinic emailed me this :
Hi...,
My name is ... and I’m a registered nurse working with your provider team at ... Medical and I just tried reaching you by phone. We have attached your results from your recent lab work to this message.
Your test for coronavirus (COVID-19) came back positive. We realize this news might be stressful to learn, and we ar

to provide support for your recovery. If you need to speak with someone, you can reach a ... Medical clinician via phone or our app around the clock.
You may not be feeling very well right now: if you’re having mild symptoms, caring for yourself is similar to other viral colds and flu. I have posted links below to more information on how to care for yourself.
We recommend you continue self-isolation and stay home until the following three things have happened:
• You have had no fever (temperature stays less than 100.4 F) for at least 72 hours, i.e. three full days of no fever without the use of medicine that reduces fevers.
AND
• Other symptoms have improved (for example, when your cough or shortness of breath have improved)
AND
• At least 7 days have passed since your symptoms first appeared
If you need, we can easily provide any work or school letters of absence or work from home to help support your homestay while you are ill.
Results are required to be confidentially reported to the Department of Health, which we will do on your behalf. They may reach out to learn more about any recent travel or close contacts to assist in containing the spread of this virus. Additionally, please notify any family, friends, and acquaintances you've been in close contact with to self-isolate and self-monitor for 14 days if they are not having symptoms. If they are having symptoms, they should reach out to their healthcare provider for guidance. Your family members or close contacts who have been exposed may be interested in a study by the University of Minnesota investigating whether a medication called hydroxychloroquine can prevent the illness in close contacts who have been exposed. This is not a ....Medical study, but we have more information here should you choose to share.
I want to reassure you that despite the very real attention this outbreak is generating, the vast majority of people who test positive for the virus have mild or moderate symptoms and eventually recover. That said, please reach out to us immediately if you experience severe symptoms, including:
• New or worsening shortness of breath
• Mental confusion
• Chest pain or pressure that persists (not just with coughing)
• Palpitations or irregular heartbeat
• Fainting or almost fainting
แค่มาเล่าให้ฟังถึงอีกด้านของโลก
คนที่อเมริกา จะตายเพราะโควิดแล้วก็ติดกันมากกว่านี้อีกเยอะ
และเมื่อคุณติดโควิดที่อเมริกา ไม่ต้องตกใจไปเพราะเขาก็ยังถือว่าคุณยังสามารถดูแลตัวเองได้เหมือนไข้หวัด ไม่มีหรอกนะให้มานอนโรงพยาบาลแล้วกักตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนที่เมืองไทยถ้าคุณไม่โคม่า หนักจริงๆ เค้าให้คุณอยู่บ้านแล้วไปดูแลตัวเองที่บ้าน อาจจะมีให้ยาตามอาการ คุณสามารถโทรหา 911 หรือเข้า emergency ได้ก็ต่อเมื่อคุณอาการหนักจริงๆหายใจไม่ออกหายใจไม่ทันเกือบตายแล้วเท่านั้นแหละ ซึ่งเผลอๆ อาจจะตายอยู่บ้านไปเลย ซึ่งก็มีไม่น้อย
เค้าให้กักตัวจนกว่าจะหาย อ้าวแล้วเราอยู่แต่ในบ้าน เราจะรู้ได้ยังไง คือเค้าให้สังเกตอาการตัวเอง ถ้ามี 3 อย่างนี้ก็หายแล้วนะ ออกไปลัลล้าได้เลย
1. ถ้าไม่มีไข้สูง 100.4 ขึ้น เป็นเวลา 72 ชม.
2. อาการอื่นๆดีขึ้น เช่น อาการไอดีขึ้น
3. 7 วันนับจากวันแรกที่มีอาการ
ถ้าคุณมี 3 ข้อนี้ ยินดีด้วยจ้า เค้าบอกว่าคุณหายแล้ว ไม่ต้องมาตรวจซ้ำหรอก
คนไทยที่นี่เค้าถึงอยากหนีตายกลับเมืองไทยหนักหนาไง เพราะโอกาสรอดในเมืองไทยดูสูงกว่า เดินเข้ารพ.เอกชนสวยๆเข้ารับการดูแลรักษา มีเงินอย่างเดียว โอกาสรอดสูงกว่า บริการระดับห้าดาวนะคุณ รพ.เอกชนเมืองไทยน่ะ
แล้วถ้าคุณไม่มีไข้ แค่รู้สึกปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ เหมือนที่แมทธิว กับแพรวาเป็น แล้วรู้สึกว่าอยากตรวจโควิด หาตรวจแบบเอกชนเมืองไทย เค้าก็ไม่ให้ตรวจโควิดให้นะ
ตอนนี้ห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด หาหมอยากมาก มีคำสั่งของ city เช่นห้ามหมอทำการผ่าตัดใดๆทั้งสิ้นยกเว้นจะเสี่ยงต่อชีวิต, ห้ามเปิดคลินิกทำฟันด้วย
เราไม่รู้หรอกว่าที่เดินๆกันอยู่ที่อเมริกาเนี่ยใครเป็น ใครไม่เป็น เพราะถึงเป็นบางทีก็ยังไม่ออกอาการ ก็ออกไปทั่วเหมือนกัน แล้วคนที่ติดอยู่บ้าน แล้วนึกว่าตัวเองหายแล้ว แล้วก็ออกไปทั่วเหมือนกันนะ เราไม่รู้หรอกใครเป็นไม่เป็น เพราะเค้ามี HIPPA ป้องกันข้อมูลของผู้ป่วยอยู่ จะไม่มีข่าวออก timeline เหมือนเมืองไทยนะว่าแต่ละคนที่ติดน่ะ ไปติดมาจากไหน แล้วไปไหน ต้องระวังตัวเองอยู่ตลอด จนนอยด์แล้วเนี่ย คนที่ใส่หน้ากากก็ยังมีเพียงแค่ส่วนน้อยเพราะหาซื้อไม่ได้ แล้วก็ยังมีคนส่วนเยอะที่คิดว่าหน้ากากจะไม่ช่วยกันเชื้อโรค
ที่ทรัมป์มาพูดว่ามีการตรวจวัดอุณหภูมิที่สนามบินน่ะ ไม่มีนะคุณ เข้าประเทศก็ไม่มีนะคัดกรองอุณหภูมิเหมือนที่อื่นๆน่ะ
สนามบินก็เปิด ไฟล์ทบินมีน้อยลงแค่นั้นเอง สกบ. อย่าง AA ลดกระฉูดเลยคุณ อย่างจาก Miami ไป LA $20 เอง สนามบินเมืองใหญ่ๆก็ยังเปิดบินเข้าบินออกเป็นปกติ เช่นที่นิวยอร์ค,ซีแอตเทิ่ล ต้องมีเที่ยวบินปกติคนก็ยังเดินทางกันอยู่นะไม่มีห้ามคนเข้าคนออกห้ามเดินทาง
ถ้าไม่มีการห้ามการเดินทางเข้าออกจากเมืองใหญ่ๆที่ติดกันเยอะเยอะไม่ว่าทั้งทางบกทางน้ำทางอากาศมันก็จะติดกันทั่วไป ไม่มีทางหมดหรอก คนก็จะตายเยอะขึ้นเพราะว่าเป็นโควิดแล้วให้กักตัวอยู่ที่บ้านนั่นแหละ แอร์กับนักบิน คนทำงานสนามบินที่นี่ติดกันเยอะนะ ตายก็เยอะนะคุณ แอร์ นักบินน่ะตัวแพร่เชื้อเลยนะ ถ้าเป็นแล้วไม่มีอาการ แล้วบินต่ออ่ะอย่างทริป 3 วันนะคุณ ไปนิวยอร์ค ต่อไมอามี่ ค้างดัลลัส ต่อพอร์ตแลนด์ ไปค้างแอลเอ วันต่อมา มาชิคาโก้ นี่แค่ในประเทศนะ พักวันนึง แล้วไปนาริตะ ต่อ หรือลอนดอน แค่นี้เชื้อก็ไปได้ทั่วประเทศ ทั่วโลกแล้ว ไม่เห็นมีใครคิดว่า ต้องยกเลิกบิน เลย เราคิดว่า ต้องยกเลิกการบินในประเทศด้วย อาจจะยกเว้นสำหรับ เที่ยวบินพิเศษสำหรับบุคลากรทางการแพทย์หรือทางทหาร อาจจะช่วยลดคนติดต่อได้บ้าง
นี่เรือสำราญก็เพิ่งขึ้นที่ไมอามี่เมื่อวาน แล้ววันนี้คนเป็นพันๆนะขึ้นเครื่องกลับบ้านกัน มีเช่าเหมาลำ แล้วกำลังกระจายไปทั่วประเทศเลย
สถานการณ์โควิดที่นี่กำลังจะแย่ลงเรื่อยเรื่อย ถ้าเค้าไม่ปิดเมืองอย่างจริงจัง
เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ดูที่จีนเค้าติดกันเป็นหมื่นคนตั้งแต่เดือนมกรากุมภาแล้วทำไมเราไม่มีมาตรการป้องกัน ตั้งแต่เค้าปิดเมืองอู่ฮั่นแล้วทำไมชะล่าใจไม่มีการเตรียมพร้อม ประชาชนก็ได้แต่ข้อมูลที่ไม่ตรงความจริงว่าเหมือนเป็นไข้หวัด โอกาสหายมันยังสูงเยอะ คนที่รอดก็จะเป็นคนที่ตื่นตระหนกไปก่อนนั่นแหละเพราะมีการป้องกันนะเตรียมตัวดีกว่า คนที่นี่เอะอะก็อิง CDC อิง WHO ไม่ดูชาวบ้านชาวช่องเค้าเลย เค้าใส่หน้ากากกันทั่วโลกคนที่นี่ยังว่า CDC ว่าไม่ต้องใส่ก็ยังเชื่อตามอยู่นั่นแหละ
เฮ้อพูดแล้วเครียด โควิดนี่ร้ายกว่าที่คิดเยอะนะ
ส่วนจม.อันนี้ เพื่อนที่ติดโควิด เค้าส่งต่อจากอีเมล์ที่ได้รับผลจากคลินิค
the clinic emailed me this :
Hi...,
My name is ... and I’m a registered nurse working with your provider team at ... Medical and I just tried reaching you by phone. We have attached your results from your recent lab work to this message.
Your test for coronavirus (COVID-19) came back positive. We realize this news might be stressful to learn, and we ar
You may not be feeling very well right now: if you’re having mild symptoms, caring for yourself is similar to other viral colds and flu. I have posted links below to more information on how to care for yourself.
We recommend you continue self-isolation and stay home until the following three things have happened:
• You have had no fever (temperature stays less than 100.4 F) for at least 72 hours, i.e. three full days of no fever without the use of medicine that reduces fevers.
AND
• Other symptoms have improved (for example, when your cough or shortness of breath have improved)
AND
• At least 7 days have passed since your symptoms first appeared
If you need, we can easily provide any work or school letters of absence or work from home to help support your homestay while you are ill.
Results are required to be confidentially reported to the Department of Health, which we will do on your behalf. They may reach out to learn more about any recent travel or close contacts to assist in containing the spread of this virus. Additionally, please notify any family, friends, and acquaintances you've been in close contact with to self-isolate and self-monitor for 14 days if they are not having symptoms. If they are having symptoms, they should reach out to their healthcare provider for guidance. Your family members or close contacts who have been exposed may be interested in a study by the University of Minnesota investigating whether a medication called hydroxychloroquine can prevent the illness in close contacts who have been exposed. This is not a ....Medical study, but we have more information here should you choose to share.
I want to reassure you that despite the very real attention this outbreak is generating, the vast majority of people who test positive for the virus have mild or moderate symptoms and eventually recover. That said, please reach out to us immediately if you experience severe symptoms, including:
• New or worsening shortness of breath
• Mental confusion
• Chest pain or pressure that persists (not just with coughing)
• Palpitations or irregular heartbeat
• Fainting or almost fainting
แค่มาเล่าให้ฟังถึงอีกด้านของโลก