Covid19 เป็นไปได้มั้ยที่ติดแล้วหายเองโดยไม่รู้ตัว

โรคนี้ติดแล้วไม่มีอาการ เป็นไปได้มั้ยคะว่าติดแล้วหายเองโดยไม่มีอาการและไม่ได้ใช้ยารักษาอะไร

หรือถ้าติดแล้วต้องมีอาการโผล่มาในที่สุด
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ตอนนี้ แพทย์แบ่งกลุ่มอาการของผู้ติดเชื้อโควิด19 ออกเป็น 4กลุ่ม

1.กลุ่มไม่แสดงอาการ
2.กลุ่มอาการไม่รุนแรง
3.กลุ่มปอดอักเสบแต่ไม่รุนแรง
4.กลุ่มปอดอักเสบรุนแรง

ทีนี้ว่าด้วยกลุ่มไม่มีอาการที่ จขกท. ถาม   กลุ่มนี้คือพวกได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
แต่ร่างกายแข็งแรงมากพอที่จะกดเชื้อไม่ให้ก่อโรคได้ และสามารถกำจัดเชื้อ
ได้เองจนหมดโดยที่ไม่มีอาการป่วยใดๆเลย  ใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไป
ฟังดูชิลๆไม่น่ากลัวใช่มั้ยครับ  ติดเชื้อแล้วก็ไม่ป่วยไม่เป็นไรซะหน่อย

แต่กลุ่มนี้แหละครับที่สร้างปัญหาที่สุด และทีมสาธารณสุขกลัวที่สุด
เพราะคนกลุ่มนี้เป็นพาหะที่สามารถนำเชื้อไปแพร่ได้ทั่วเป็นวงกว้างมากๆ
เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ  หมอก็ไม่รู้  ไม่มีใครรู้เลย  และคนๆนั้นยังใช้ชีวิตปกติ
สุดท้ายคนกลุ่มนี้ก็จะเป็นมัจจุราชสำหรับคนกลุ่มเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว

ถ้าเราตัดวงจรกลุ่มผู้ไม่แสดงอาการไม่ได้  เราก็ไม่สามารถคุมการระบาดได้
แต่การคุมมันยากเพราะไม่รู้เลยว่าใครคนไหนบ้างที่ติดเชื้อหรือไม่ติด

มีสองทางคือ ต้องปูพรมตรวจคนไทยทุกคน เจอใครติดเชื้อแยกกักตัวทันที
ซึ่งมันทำไม่ได้และยังไม่มีประเทศไหนทำได้ด้วย
กับอีกวิธีคือ ให้คนอยู่บ้านให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แบบที่เรากำลังทำอยู่นี่แหละ
เพื่อป้องกันไม่ให้คนออกมาติดเชื้อเพิ่ม และกันพวกไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการน้อย
ออกมาแพร่เชื้อโดยที่เจ้าตัวไม่เจตนานั่นเอง
เมื่อเวลาผ่านไประยะนึงราวๆ1เดือน  พวกไม่แสดงอาการหรืออาการน้อยๆหมดเชื้อ
ก็จะเป็นการตัดวงจรคนที่คุณไม่รู้ว่าใครออกไปได้เกือบ90%
ทีนี้ก็ไปทุ่มป้องกันพวกที่แสดงอาการ หาที่มาที่ไปได้ และป้องกันจากต่างประเทศ
ความคิดเห็นที่ 15
จากความคิดเห็นที่ 8 : สงสัยเพิ่มอีกนิด ถ้าภูมิฯดีไม่มีปัญหา แต่ทำไมยังมีระดับนักกีฬาที่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ถึงติดเชื้อและมีอาการได้คะ

ตอบ ร่างกายของคนเราทำงานร่วมกันหลายระบบ และ การทำงานต่อต้านเชื้อโรคของร่างกายมันซับซ้อนกว่าที่คุณคิด ระบบภูมิต้านทาน (immune system) คือ นักรบคนสำคัญที่จะต่อต้านเชื้อโรค แต่ส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็มีส่วนช่วยป้องกัน ต่อต้าน และ ทำลายเชื้อโรคด้วยเช่นกัน

ยกตัวอย่าง ถ้าฝุ่น / เชื้อโรค / เชื้อ COVID-19 เข้าร่างกายของเราผ่านทางจมูก-->โพรงจมูก...ตรงบริเวณนี้ก็มีขนจมูกช่วยกั้น - กรองไว้เป็นด่านแรก , มีการสร้างเมือก(น้ำมูก) ออกมาเพื่อเกาะและขับไล่ฝุ่น-เชื้อออกไป หากขับไม่ได้เพราะอวัยวะบริเวณนี้ไม่แข็งแรง ทำงานได้ไม่ดี หรือเชื้อมีจำนวนมาก มีความร้ายแรงมาก เชื้อก็จะเข้าไปในระบบต่างๆ ของร่างกาย (เช่น ระบบหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิต) ได้โดยหลายวิธีการ (เยอะแยะมากมาย) ขอยกตัวอย่างว่าเชื้อเข้าไปในระบบทางเดินหายใจละกัน ---> ผ่านทางหลอดลม (trachea) ---> หลอดลมในปอด (Bronchi) ---> ปอด (Lung) ---> ถุงลมในปอด (alveoli) ...... ปกติอวัยวะเหล่านี้จะพยายามขับเอาเชื้อโรคออกมาด้วยวิธีการต่างๆ เช่น สร้างเมือก ซึ่งจะทำให้คนไข้ไอมีเสมหะ ....... ในคนไข้บางคนที่อวัยวะเหล่านี้อ่อนแอ หรือ ทำงานได้ไม่เต็มที่ จะขับเชื้อโรคได้ไม่ดีพอ

ทีนี้ไอ้เจ้า COVID-19 มันมีฤทธิ์มาก มันไปทำลายการทำงานของระบบหายใจ ทำให้ปอดทำงานได้แย่ลง ดังนั้น คนที่มีปัญหา / มีโรคประจำตัวเดิมอยู่แล้ว โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับ---- ทางเดินหายใจ ปอด และหลอดลม เช่น โรคหอบหืด / ภูมิต้านทาน เช่น ภูมิแพ้, SLE, AIDS / ฮอร์โมน&หลอดเลือด เช่น เบาหวาน / โรคมะเร็ง เป็นต้น ก็สามารถส่งผลให้การทำงานของระบบหายใจแย่ลงได้มากขึ้นอีก (ปล. โรคระบบอื่นก็รวมด้วยนะคะ) สังเกตไหมคะว่า คนที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ ทั่วโลกเลย คือผู้สูงอายุ (เพราะระบบต่างๆ ทำงานเสื่อมประสิทธิภาพหมดแล้ว) และ คนที่มีโรคประจำตัว

กลับมาที่ระบบภูมิต้านทาน (immune system) นักรบคนสำคัญ ระหว่างที่เชื้อโรคเคลื่อนที่ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ระบบภูมิต้านทานจะส่งทหารประเภทต่างๆ ออกมาต่อสู้กับเชื้อโรค นายแล้วนายเล่า .... แต่ถ้าเชื้อโรคมีจำนวนมากมายเหลือเกิน ประกอบกับ คนไข้มีโรคประจำตัวเดิมอยู่แล้ว ทหารของระบบภูมิต้านทานก็ต้านไม่ไหวหรอกค่ะ

กลับมาที่นักกีฬา ที่ดู (ภายนอก) เหมือนว่าร่างกายแข็งแรง เช่น นักมวย นักวิ่ง หรือ แม้แต่คุณแมททิว ดีน ทำไมถึงป่วย? คำตอบง่ายๆ เลยก็คือ "ก็เพราะเราไม่เห็นความบกพร่องภายในร่างกายของเขาไงคะ" เช่น ความเห็นที่ 5 บอกว่า คุณแมททิวเป็นโรคภูมิแพ้อยู่ก่อนแล้ว หรือ บางคนก็แข็งแรงดีนี่แหละ แต่โชคร้ายได้รับเชื้อโรคในปริมาณที่มากเกินไปจนระบบของร่างกายต่อต้านไม่ไหว เป็นต้น -----ก็เลยป่วยและแสดงอาการออกมา ด้วยประการฉะนี้แล ^^

สุดท้าย กำลังใจมีความสำคัญมาก หากกำลังใจไม่ดี จะส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะเครียดและส่งผลต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานแย่ลงได้มากขึ้นไปอีกค่ะ ดังนั้น พยายามดูแลสภาพจิตใจกันด้วยนะคะ



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่