เห็นชื่อเรื่องก็คล้ายว่ากลิ่นความน้ำเน่าโชยเข้าจมูกนิดๆ อย่างนั้นใช่ไหมคะ ก็ความน้ำเน่าในละครดราม่าแบบที่เราดูกันข้ามวันข้ามคืนหยุดดูไม่ได้จนกระทั่งฟ้าสางนี่ล่ะ ที่ฉันกำลังจะเล่าให้ฟัง ความดราม่าของผู้คนในแวดวงบันเทิงอันซ้อนทับอยู่กับชีวิตจริงของพวกเขา ที่จะทำให้เรา ตลก-เศร้า-เหงา-รัก อย่างสาหัสทีเดียว
สามสาวเพื่อนรักที่อาศัยอยู่ร่วมบ้าน, จินจู เป็นผู้ช่วยนักเขียนบทละคร ที่เพิ่งกลับมาใช้สถานะโสดหมาดๆ, ฮันจู หม้ายสาว ทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวและลูกชายตัวน้อยที่พ่อทอดทิ้งไป ในบ.ที่ลูกค้าของเธอคือสารพัดสินค้าโฆษณาแฝงในละคร, อึนจอง เป็นผู้กำกับหนังสารคดี ที่ติดอยู่กับความระทมใจและยังเดินหน้าต่อไม่ได้ หลังจากแฟนหนุ่มผู้แสนดีถูกพรากชีวิตไปด้วยโรคร้าย
มองไปแล้วชีวิตของพวกเธอคล้ายจะอับเฉาซึมเซา แต่ในความเป็นจริงของชีวิตที่ยังต้องดำเนินต่อไปนั้น มันก็ใช่จะเศร้าโศกตรมตลอดเวลา พวกเธอยังพอหาความรื่นรมย์ได้บ้าง อย่างน้อยก็ช่วงเวลา prime time ของละครดราม่ายามค่ำ ที่สามสาวในชุดพร้อมนอน จะมาสุมกันอยู่ที่โซฟากลางบ้านหน้าจอทีวี บางครั้งก็ตั้งใจดูละครและวิพากษ์ตัวละคร บางครั้งก็ปล่อยให้ละครดูพวกเธอที่ผลัดกันบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่กัน กับเรื่องราวมากมายในชีวิตที่ผ่านเข้ามาแต่ละวัน อ้อ ! ลืมไปค่ะ แกงค์ดราม่าของพวกเธอนั้นจะสมบูรณ์ไปไม่ได้ หากขาดชายหนุ่มผู้มีกีตาร์ติดตัว ที่คอยคลอเพลงไปตามสถานการณ์ชีวิตของพี่สาวทั้งสามอย่างได้อารมณ์สุดๆ
ฮโยบง น้องชายผู้น่ารักของอึนจอง หนุ่มเดียวของบ้าน (หากไม่นับอินกุ๊กเด็กแสบประจำบ้าน)
ฐานะผู้ช่วยนักเขียนบทละครของจินจู ที่เวลากิน-นอนไม่เคยแน่นอน เพราะเร่งเขียนบทกันอย่างหามรุ่งหามค่ำอยู่ที่สตูดิโอของนักเขียน ในวันที่เธอใช้งานสมองและร่างจนหมดสภาพ, ผกก.หนุ่มมือทอง
ซนบมซู ที่จะมาร่วมงานกับนักเขียนมือทองหัวหน้าของจินจู ก็ปรากฏตัวขึ้นที่สตูดิโอ เป็นการพบกันครั้งแรกที่อิหลักอิเหลื่อ น่าหงุดหงิดและน่ารำคาญเหลือเกินในความรู้สึกของจินจู
ไม่นานเท่าไหร่หลังจากนั้น ผกก.สุดอาร์ตขอถอนตัวที่จะกำกับงานของนักเขียนมากพาวเวอร์ ด้วยเหตุผลว่า บทละครเรื่องนี้มันไม่ใช่ตัวเขา อ่านแล้วมันไม่ทำให้ใจเขาเซ
ความจำเจของแกงค์ดราม่าหน้าทีวีถูกกระตุ้นให้ตื่นเต้นขึ้นมานิดหนึ่ง เมื่อจินจูกลับบ้านมาพร้อมข่าวที่ว่า เธอถูกนักเขียนใหญ่ไล่ออก
จินจูกลับมาจริงจังอีกครั้งกับงานเขียนบทละครที่เธอเขียนค้างไว้ และในวันหนึ่งเธอได้รับโทรศัพท์จากผกก.มือทองสุดอาร์ตคนนั้น เขาอยากทำงานร่วมกับเธอ ด้วยบทละครที่เพื่อนผกก.ส่งมาให้อ่านพร้อมข้อความ . . มันสะเปะสะปะและดิบๆ แต่อ่านไปอ่านมา มันก็สนุกดี . . ด้วยบทที่มีคนส่งมาประกวดและไม่ได้รับรางวัลด้วยซ้ำ บทละครที่ชื่อว่า
“เดี๋ยวพอ 30 ทุกอย่างจะดีเอง” โดย
อิมจินจู จากที่ไม่ค่อยอยากจะสนใจ อ่านวนไปมาหลายรอบเข้า กลายเป็นว่าบมซูทิ้งบทละครนี้ไปไม่ได้และบอกตัวเองว่า เขาต้องทำมัน
แม้ว่าจินจูจะรู้สึกถึงความน่ารำคาญของบมซู ที่คอยชอนไชหัวใจเธอ แต่กับข้อเสนอของเขา จินจูในฐานะนักเขียนบทละครที่ผลงานกำลังจะได้รับการถ่ายทอดสู่จอโทรทัศน์ ก็ทำให้เธอไม่อาจปฏิเสธมันได้จริงๆ ถ้าไม่ติดว่า ผู้ช่วยผกก.ของบมซูนั้นดันเป็นคนรัก(เก่า)ที่เพิ่งเลิกรากันไปจากที่รักกันมาเกือบ 10 ปีของจินจู สถานการณ์นี้ยังไม่หนักหนาเท่าในระหว่างที่บมซูพยายามเกลี้ยกล่อมจินจูไปเรื่อยๆ อุบัติเหตุในค่ำคืนหนึ่งระหว่างทั้งคู่ ยิ่งเพิ่มความกระอักกระอ่วนใจ แต่จะด้วยความงงๆ ในความสัมพันธ์ของทั้งคู่หรืออะไรก็ตามที พวกเขาตัดสินใจที่จะร่วมมือกันผลิตละครเรื่องนี้
สิ่งที่ตามมาจากนั้นคือการหาบ.โปรดักชั่น รวบรวมทีมงาน ติดต่อบ.จัดหาสินค้าที่จะมาเป็นสปอนเซอร์
ฮันจู ก้าวเข้ามาในจุดนี้ พร้อมกับได้รับการโปรโมทขึ้นเป็นหัวหน้าทีมในบ.ที่เธอตั้งอกตั้งใจทำงานมาถึง 8 ปีแล้ว ในฐานะหัวหน้าทีม เธอได้ลูกน้องหนุ่มมาหนึ่งคน ลูกน้องหนุ่มที่ขยันขันแข็งและใส่ใจไยดีในตัวลูกพี่อย่างดีเยี่ยม ชีวิตหม้ายสาวแสนสวยของเธอมาถึงทางแยกอีกครั้ง
บทละครที่น่าสนใจได้แล้ว ผกก.ก็มีแล้ว ทีมงานมา สปอนเซอร์พร้อม นักแสดงล่ะ
ค่ำหนึ่ง มีโทรศัพท์จากรุ่นพี่นักทำหนังที่อ้อนวอนให้
อึนจอง ช่วยไปเป็นตัวแทนในฐานะคอมเมนเตเตอร์ของรายการทีวี ทำให้อึนจองได้กลับมาพบกับเพื่อนเก่าวัยเรียนที่ ณ วันนี้เธอคือนักแสดงหญิงที่เคยรุ่งเรือง และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงที่เรียกว่าเกือบจะเป็นขาลง แถมก็ยังไม่ญาติดีกันมาแต่หนไหน เจ้าตัวยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันเรื่องอะไรกัน
แต่ช่างเถอะ เพราะมันทำให้อึนจองได้กลับมาสู่โลกความจริงอีกครั้ง เมื่อจับพลัดจับผลูเธอก็เริ่มต้นโปรเจ็คสารคดีใหม่ของเธอ โดยมีเพื่อนเก่านักแสดงเป็นจุดเริ่มต้น ที่นำไปสู่การเป็นหนึ่งในนักแสดงหลักของดราม่าที่มีชื่อว่า “เดี๋ยวพอ 30 ทุกอย่างจะดีเอง”
ที่เล่ามาข้างบนนั้น ไม่ใช่ตอนจบของเรื่องราวนี้ แต่มันคือจุดเริ่มต้นของความดราม่าทั้งปวง ที่ผูกโยงตัวละครนับสิบเข้ามาเกี่ยวพันกัน มีทั้งเข้ามาทำให้มันยุ่งเหยิงขึ้น และบ้างก็เข้ามาคลี่คลายเงื่อนปมของบางคน
ในขณะที่เรื่องราวดำเนินไปตามขนบของความละคร(melodrama)อย่างเข้มข้น แต่คาแรคเตอร์ของตัวละครกลับมีเลือดเนื้อ มีเสน่ห์ และเป็นธรรมชาติที่จับต้องได้อย่างคนที่เราอาจพบเจอได้ทั่วไปในชีวิตจริง
ถามว่าใครที่จะดูดราม่าเรื่องนี้ได้อย่างสนุกเข้าไส้ที่สุด ตอบได้ทันทีว่า ใครก็ตามที่บอกคนอื่นว่าตัวเองเป็นคอซีรีส์ เป็นแฟนตัวยงของดราม่าเกาหลี คือคนที่ไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้ที่สุดค่ะ เพราะไม่มีใครจะรับมุขที่ล้อเลียนความละครตามขนบของ melodrama ได้ดีไปกว่าพวกท่านอีกแล้ว
ความ melodrama ที่ซ้อนทับอยู่บน drama ในชีวิตของตัวละคร ผ่านบทสนทนาคมๆ ที่มีความละครน้อยมาก และล้อผู้คนในแวดวงของตัวเอง ที่เล่าเรื่องได้แสนจะน่าหยิก จิกกัด ชวนหัว แสบคันจนต้องเกาซ้ำให้เลือดซิบ ตลอดเส้นทางการเตรียมงานสร้างละครเรื่องหนึ่ง ขนานไปกับชีวิตรักของพวกเขาในหลากหลายรูปแบบ หลากหลายรสชาติ หลากหลายความสัมพันธ์
ฉันสัมผัสความล้อเลียนได้ตั้งแต่การแคสนักแสดงของเรื่องนี้ ด้วยรูปลักษณ์ของ
อันแจฮง ในบท
ซนบมซู ผกก.มือทองสุดอาร์ต เขาไมใช่พระเอกเกาหลีแบบพิมพ์นิยม แต่ใครที่เคยดูผลงานของเขามาก่อนหน้า ไม่ว่าจะซีรีส์ดังอย่าง
Reply 1988 และหนังหรือซีรีส์เรื่องอื่นๆ ก็คงพอจะนึกออกว่าฝีมือและความฮาของเขานั้นเด็ดขาดแค่ไหน ยังไม่นับความมีเสน่ห์ในแบบเฉพาะตัวที่ต้องใช้คำว่า ร้ายเหลือ ค่ะ
รวมทั้งนางเอกทั้งสามของเรา
ชอนอูฮี ในบท นักเขียน
อิมจินจู เธอคือนางเอกมากฝีมือจากสายหนัง ที่นานๆ จะมารับงานซีรีส์
ฮันจีอึน ในบท
ฮวังฮันจู หม้ายสาวลูกหนึ่ง หัวหน้าฝ่ายจัดหาสปอนเซอร์
จอนยอบิน ในบท ผกก.หนังสารคดี
อีอึนจอง
การแสดงของทั้งสามในฐานะตัวเดินเรื่องนั้นดีงามไม่แพ้หน้าสวยๆ ของพวกเธอ ตลก-เศร้า-เหงา-รัก ดีจนฉันจะละไว้ไม่ชื่นชมนั้น ทำไม่ได้จริงๆ
ตัวละครแวดล้อมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น หนุ่มรุ่นน้อง, นักเขียนมือทอง, ผอ.ค่ายละคร, นักแสดงสาวและผู้จัดการหนุ่ม, เพื่อนผกก.ทีมบี, สามีเก่า, แฟนเก่า, น้องชายนักดนตรี, คนรักที่จากไปแต่ไม่เคยจะจากไป เหล่านี้คือตัวละครที่ช่วยระบายสีสันให้กับเรื่องราวชีวิตของสามสาวเพื่อนรัก อย่างสนุกสนานเข้มข้น และที่จะพลาดไม่กล่าวถึงไม่ได้เด็ดขาดคือ
ตัวละครลับ ที่จะโผล่มาในตอนที่เรื่องราวดำเนินผ่านไปครึ่งค่อนเรื่องแล้ว ซึ่งฉันจะไม่บอกหรอกค่ะว่าเขาคือใคร ปล่อยให้คุณได้ไปสัมผัสเสน่ห์และทีเด็ดนั้นด้วยตัวคุณเอง
ขออนุญาตใส่สปอยล์ ใครยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ ข้ามสปอยล์ ไปนะคะ ๕๕๕ ><)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชอบเขามาก ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จักกันจาก Suits คือเซอร์ไพรส์มาก เพราะตอนที่เราเริ่มดูเรื่องนี้ เราไม่ได้ไปค้นหาดูข้อมูลนักแสดงแบบค้นลึก เห็นแค่หน้าโปสเตอร์ซึ่งโปสเตอร์ทั้งสองแบบที่ออกมา ก็ไม่มีเขาอยู่บนโปสเตอร์ด้วย และกว่าที่เขาจะโผล่ออกมา เรื่องราวก็ดำเนินไปไกลค่อนเรื่องแล้ว

ชอบความสัมพันธ์ของคู่นี้มาก เคมีดีเว่อร์ แม้ไม่ถูกเนื้อต้องตัวกันเลยสักนิด
ซีรีส์ที่จะพาคุณเข้าไปสัมผัสกับกระบวนการการทำงานของคนในวงการละครหรือซีรีส์ ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ความขัดแย้ง ปัญหา อุปสรรค ความเหนื่อยยาก กว่าที่ดราม่าเรื่องหนึ่งจะได้สร้างและออกฉายบนจอทีวี ให้เราได้ดูและตามติดกับแบบข้ามคืนข้ามวัน ขนานไปกับเรื่องราวชีวิตของพวกเขา
Be Melodramatic คือดราม่านอกกระแสที่เรตติ้งจุ๋มจิ๋ม แต่นั่นไม่ได้เป็นข้อสรุปของคุณภาพและความสนุกในตัวซีรีส์เรื่องนี้ คุณจะบอกได้ว่า ดีหรือไม่ดี อยู่ที่คุณชอบหรือไม่ชอบ ด้วยการรับชมซีรีส์เรื่องนี้ด้วยตัวคุณเอง
ข้อมูลสุดท้ายที่ฉันจะบอกเกี่ยวกับดราม่าเรื่องนี้คือ ผกก.
อีบยองฮัน ที่รับผิดชอบทั้งกำกับและเขียนบทดราม่าเรื่องนี้นั้น คือคนเดียวกับที่กำกับและเขียนบทหนัง
Extreme Job หนังปี 2019 ที่ ณ วันนี้ ครองอันดับ 2 อยู่บนตารางจัดอันดับหนังทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของเกาหลี ชนะหนังเกาหลีดังๆ ทุกเรื่องที่คอหนังทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี
Be Melodramatic ตลกเศร้าเหงารัก - ชีวิตจริงยิ่งกว่าดราม่า
[รีวิวซีรีส์] Be Melodramatic : ตลกเศร้าเหงารัก - ชีวิตจริงยิ่งกว่าดราม่า
เห็นชื่อเรื่องก็คล้ายว่ากลิ่นความน้ำเน่าโชยเข้าจมูกนิดๆ อย่างนั้นใช่ไหมคะ ก็ความน้ำเน่าในละครดราม่าแบบที่เราดูกันข้ามวันข้ามคืนหยุดดูไม่ได้จนกระทั่งฟ้าสางนี่ล่ะ ที่ฉันกำลังจะเล่าให้ฟัง ความดราม่าของผู้คนในแวดวงบันเทิงอันซ้อนทับอยู่กับชีวิตจริงของพวกเขา ที่จะทำให้เรา ตลก-เศร้า-เหงา-รัก อย่างสาหัสทีเดียว
สามสาวเพื่อนรักที่อาศัยอยู่ร่วมบ้าน, จินจู เป็นผู้ช่วยนักเขียนบทละคร ที่เพิ่งกลับมาใช้สถานะโสดหมาดๆ, ฮันจู หม้ายสาว ทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวและลูกชายตัวน้อยที่พ่อทอดทิ้งไป ในบ.ที่ลูกค้าของเธอคือสารพัดสินค้าโฆษณาแฝงในละคร, อึนจอง เป็นผู้กำกับหนังสารคดี ที่ติดอยู่กับความระทมใจและยังเดินหน้าต่อไม่ได้ หลังจากแฟนหนุ่มผู้แสนดีถูกพรากชีวิตไปด้วยโรคร้าย
มองไปแล้วชีวิตของพวกเธอคล้ายจะอับเฉาซึมเซา แต่ในความเป็นจริงของชีวิตที่ยังต้องดำเนินต่อไปนั้น มันก็ใช่จะเศร้าโศกตรมตลอดเวลา พวกเธอยังพอหาความรื่นรมย์ได้บ้าง อย่างน้อยก็ช่วงเวลา prime time ของละครดราม่ายามค่ำ ที่สามสาวในชุดพร้อมนอน จะมาสุมกันอยู่ที่โซฟากลางบ้านหน้าจอทีวี บางครั้งก็ตั้งใจดูละครและวิพากษ์ตัวละคร บางครั้งก็ปล่อยให้ละครดูพวกเธอที่ผลัดกันบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่กัน กับเรื่องราวมากมายในชีวิตที่ผ่านเข้ามาแต่ละวัน อ้อ ! ลืมไปค่ะ แกงค์ดราม่าของพวกเธอนั้นจะสมบูรณ์ไปไม่ได้ หากขาดชายหนุ่มผู้มีกีตาร์ติดตัว ที่คอยคลอเพลงไปตามสถานการณ์ชีวิตของพี่สาวทั้งสามอย่างได้อารมณ์สุดๆ ฮโยบง น้องชายผู้น่ารักของอึนจอง หนุ่มเดียวของบ้าน (หากไม่นับอินกุ๊กเด็กแสบประจำบ้าน)
ฐานะผู้ช่วยนักเขียนบทละครของจินจู ที่เวลากิน-นอนไม่เคยแน่นอน เพราะเร่งเขียนบทกันอย่างหามรุ่งหามค่ำอยู่ที่สตูดิโอของนักเขียน ในวันที่เธอใช้งานสมองและร่างจนหมดสภาพ, ผกก.หนุ่มมือทอง ซนบมซู ที่จะมาร่วมงานกับนักเขียนมือทองหัวหน้าของจินจู ก็ปรากฏตัวขึ้นที่สตูดิโอ เป็นการพบกันครั้งแรกที่อิหลักอิเหลื่อ น่าหงุดหงิดและน่ารำคาญเหลือเกินในความรู้สึกของจินจู
ไม่นานเท่าไหร่หลังจากนั้น ผกก.สุดอาร์ตขอถอนตัวที่จะกำกับงานของนักเขียนมากพาวเวอร์ ด้วยเหตุผลว่า บทละครเรื่องนี้มันไม่ใช่ตัวเขา อ่านแล้วมันไม่ทำให้ใจเขาเซ
ความจำเจของแกงค์ดราม่าหน้าทีวีถูกกระตุ้นให้ตื่นเต้นขึ้นมานิดหนึ่ง เมื่อจินจูกลับบ้านมาพร้อมข่าวที่ว่า เธอถูกนักเขียนใหญ่ไล่ออก
จินจูกลับมาจริงจังอีกครั้งกับงานเขียนบทละครที่เธอเขียนค้างไว้ และในวันหนึ่งเธอได้รับโทรศัพท์จากผกก.มือทองสุดอาร์ตคนนั้น เขาอยากทำงานร่วมกับเธอ ด้วยบทละครที่เพื่อนผกก.ส่งมาให้อ่านพร้อมข้อความ . . มันสะเปะสะปะและดิบๆ แต่อ่านไปอ่านมา มันก็สนุกดี . . ด้วยบทที่มีคนส่งมาประกวดและไม่ได้รับรางวัลด้วยซ้ำ บทละครที่ชื่อว่า “เดี๋ยวพอ 30 ทุกอย่างจะดีเอง” โดย อิมจินจู จากที่ไม่ค่อยอยากจะสนใจ อ่านวนไปมาหลายรอบเข้า กลายเป็นว่าบมซูทิ้งบทละครนี้ไปไม่ได้และบอกตัวเองว่า เขาต้องทำมัน
แม้ว่าจินจูจะรู้สึกถึงความน่ารำคาญของบมซู ที่คอยชอนไชหัวใจเธอ แต่กับข้อเสนอของเขา จินจูในฐานะนักเขียนบทละครที่ผลงานกำลังจะได้รับการถ่ายทอดสู่จอโทรทัศน์ ก็ทำให้เธอไม่อาจปฏิเสธมันได้จริงๆ ถ้าไม่ติดว่า ผู้ช่วยผกก.ของบมซูนั้นดันเป็นคนรัก(เก่า)ที่เพิ่งเลิกรากันไปจากที่รักกันมาเกือบ 10 ปีของจินจู สถานการณ์นี้ยังไม่หนักหนาเท่าในระหว่างที่บมซูพยายามเกลี้ยกล่อมจินจูไปเรื่อยๆ อุบัติเหตุในค่ำคืนหนึ่งระหว่างทั้งคู่ ยิ่งเพิ่มความกระอักกระอ่วนใจ แต่จะด้วยความงงๆ ในความสัมพันธ์ของทั้งคู่หรืออะไรก็ตามที พวกเขาตัดสินใจที่จะร่วมมือกันผลิตละครเรื่องนี้
สิ่งที่ตามมาจากนั้นคือการหาบ.โปรดักชั่น รวบรวมทีมงาน ติดต่อบ.จัดหาสินค้าที่จะมาเป็นสปอนเซอร์ ฮันจู ก้าวเข้ามาในจุดนี้ พร้อมกับได้รับการโปรโมทขึ้นเป็นหัวหน้าทีมในบ.ที่เธอตั้งอกตั้งใจทำงานมาถึง 8 ปีแล้ว ในฐานะหัวหน้าทีม เธอได้ลูกน้องหนุ่มมาหนึ่งคน ลูกน้องหนุ่มที่ขยันขันแข็งและใส่ใจไยดีในตัวลูกพี่อย่างดีเยี่ยม ชีวิตหม้ายสาวแสนสวยของเธอมาถึงทางแยกอีกครั้ง
บทละครที่น่าสนใจได้แล้ว ผกก.ก็มีแล้ว ทีมงานมา สปอนเซอร์พร้อม นักแสดงล่ะ
ค่ำหนึ่ง มีโทรศัพท์จากรุ่นพี่นักทำหนังที่อ้อนวอนให้ อึนจอง ช่วยไปเป็นตัวแทนในฐานะคอมเมนเตเตอร์ของรายการทีวี ทำให้อึนจองได้กลับมาพบกับเพื่อนเก่าวัยเรียนที่ ณ วันนี้เธอคือนักแสดงหญิงที่เคยรุ่งเรือง และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงที่เรียกว่าเกือบจะเป็นขาลง แถมก็ยังไม่ญาติดีกันมาแต่หนไหน เจ้าตัวยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันเรื่องอะไรกัน
แต่ช่างเถอะ เพราะมันทำให้อึนจองได้กลับมาสู่โลกความจริงอีกครั้ง เมื่อจับพลัดจับผลูเธอก็เริ่มต้นโปรเจ็คสารคดีใหม่ของเธอ โดยมีเพื่อนเก่านักแสดงเป็นจุดเริ่มต้น ที่นำไปสู่การเป็นหนึ่งในนักแสดงหลักของดราม่าที่มีชื่อว่า “เดี๋ยวพอ 30 ทุกอย่างจะดีเอง”
ที่เล่ามาข้างบนนั้น ไม่ใช่ตอนจบของเรื่องราวนี้ แต่มันคือจุดเริ่มต้นของความดราม่าทั้งปวง ที่ผูกโยงตัวละครนับสิบเข้ามาเกี่ยวพันกัน มีทั้งเข้ามาทำให้มันยุ่งเหยิงขึ้น และบ้างก็เข้ามาคลี่คลายเงื่อนปมของบางคน
ในขณะที่เรื่องราวดำเนินไปตามขนบของความละคร(melodrama)อย่างเข้มข้น แต่คาแรคเตอร์ของตัวละครกลับมีเลือดเนื้อ มีเสน่ห์ และเป็นธรรมชาติที่จับต้องได้อย่างคนที่เราอาจพบเจอได้ทั่วไปในชีวิตจริง
ถามว่าใครที่จะดูดราม่าเรื่องนี้ได้อย่างสนุกเข้าไส้ที่สุด ตอบได้ทันทีว่า ใครก็ตามที่บอกคนอื่นว่าตัวเองเป็นคอซีรีส์ เป็นแฟนตัวยงของดราม่าเกาหลี คือคนที่ไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้ที่สุดค่ะ เพราะไม่มีใครจะรับมุขที่ล้อเลียนความละครตามขนบของ melodrama ได้ดีไปกว่าพวกท่านอีกแล้ว
ความ melodrama ที่ซ้อนทับอยู่บน drama ในชีวิตของตัวละคร ผ่านบทสนทนาคมๆ ที่มีความละครน้อยมาก และล้อผู้คนในแวดวงของตัวเอง ที่เล่าเรื่องได้แสนจะน่าหยิก จิกกัด ชวนหัว แสบคันจนต้องเกาซ้ำให้เลือดซิบ ตลอดเส้นทางการเตรียมงานสร้างละครเรื่องหนึ่ง ขนานไปกับชีวิตรักของพวกเขาในหลากหลายรูปแบบ หลากหลายรสชาติ หลากหลายความสัมพันธ์
ฉันสัมผัสความล้อเลียนได้ตั้งแต่การแคสนักแสดงของเรื่องนี้ ด้วยรูปลักษณ์ของ อันแจฮง ในบท ซนบมซู ผกก.มือทองสุดอาร์ต เขาไมใช่พระเอกเกาหลีแบบพิมพ์นิยม แต่ใครที่เคยดูผลงานของเขามาก่อนหน้า ไม่ว่าจะซีรีส์ดังอย่าง Reply 1988 และหนังหรือซีรีส์เรื่องอื่นๆ ก็คงพอจะนึกออกว่าฝีมือและความฮาของเขานั้นเด็ดขาดแค่ไหน ยังไม่นับความมีเสน่ห์ในแบบเฉพาะตัวที่ต้องใช้คำว่า ร้ายเหลือ ค่ะ
รวมทั้งนางเอกทั้งสามของเรา ชอนอูฮี ในบท นักเขียน อิมจินจู เธอคือนางเอกมากฝีมือจากสายหนัง ที่นานๆ จะมารับงานซีรีส์
ฮันจีอึน ในบท ฮวังฮันจู หม้ายสาวลูกหนึ่ง หัวหน้าฝ่ายจัดหาสปอนเซอร์
จอนยอบิน ในบท ผกก.หนังสารคดี อีอึนจอง
การแสดงของทั้งสามในฐานะตัวเดินเรื่องนั้นดีงามไม่แพ้หน้าสวยๆ ของพวกเธอ ตลก-เศร้า-เหงา-รัก ดีจนฉันจะละไว้ไม่ชื่นชมนั้น ทำไม่ได้จริงๆ
ตัวละครแวดล้อมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น หนุ่มรุ่นน้อง, นักเขียนมือทอง, ผอ.ค่ายละคร, นักแสดงสาวและผู้จัดการหนุ่ม, เพื่อนผกก.ทีมบี, สามีเก่า, แฟนเก่า, น้องชายนักดนตรี, คนรักที่จากไปแต่ไม่เคยจะจากไป เหล่านี้คือตัวละครที่ช่วยระบายสีสันให้กับเรื่องราวชีวิตของสามสาวเพื่อนรัก อย่างสนุกสนานเข้มข้น และที่จะพลาดไม่กล่าวถึงไม่ได้เด็ดขาดคือ ตัวละครลับ ที่จะโผล่มาในตอนที่เรื่องราวดำเนินผ่านไปครึ่งค่อนเรื่องแล้ว ซึ่งฉันจะไม่บอกหรอกค่ะว่าเขาคือใคร ปล่อยให้คุณได้ไปสัมผัสเสน่ห์และทีเด็ดนั้นด้วยตัวคุณเอง
ขออนุญาตใส่สปอยล์ ใครยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ ข้ามสปอยล์ ไปนะคะ ๕๕๕ ><)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซีรีส์ที่จะพาคุณเข้าไปสัมผัสกับกระบวนการการทำงานของคนในวงการละครหรือซีรีส์ ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ความขัดแย้ง ปัญหา อุปสรรค ความเหนื่อยยาก กว่าที่ดราม่าเรื่องหนึ่งจะได้สร้างและออกฉายบนจอทีวี ให้เราได้ดูและตามติดกับแบบข้ามคืนข้ามวัน ขนานไปกับเรื่องราวชีวิตของพวกเขา
Be Melodramatic คือดราม่านอกกระแสที่เรตติ้งจุ๋มจิ๋ม แต่นั่นไม่ได้เป็นข้อสรุปของคุณภาพและความสนุกในตัวซีรีส์เรื่องนี้ คุณจะบอกได้ว่า ดีหรือไม่ดี อยู่ที่คุณชอบหรือไม่ชอบ ด้วยการรับชมซีรีส์เรื่องนี้ด้วยตัวคุณเอง
ข้อมูลสุดท้ายที่ฉันจะบอกเกี่ยวกับดราม่าเรื่องนี้คือ ผกก.อีบยองฮัน ที่รับผิดชอบทั้งกำกับและเขียนบทดราม่าเรื่องนี้นั้น คือคนเดียวกับที่กำกับและเขียนบทหนัง Extreme Job หนังปี 2019 ที่ ณ วันนี้ ครองอันดับ 2 อยู่บนตารางจัดอันดับหนังทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของเกาหลี ชนะหนังเกาหลีดังๆ ทุกเรื่องที่คอหนังทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี
Be Melodramatic ตลกเศร้าเหงารัก - ชีวิตจริงยิ่งกว่าดราม่า