ผมได้ตัดสินใจซื้อมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันแรก และเป็นมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์ในฝันของผม
SUZUKI KATANA
ก่อนจะไปซื้อคันนี้มา ผมขับขี่ HONDA ZOOMMER X ขี่มาหลายปีแล้วและยังคงใช้คันนี้มาถึงปัจจุบัน ขึ่ไปทำงานทุกวัน
พอดีได้เห็นข่าวเปิดตัว SUZUKI KATANA ตำนานไอ้เข้คืนชีพ ซึ่งหลาย 10 ปีก่อนมันเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ฮิตยอดนิยมและขายดีมาก
จนนักขี่มอเตอร์ไซค์ยกย่องให้เป็นมอเตอร์ไซค์ในตำนานคันหนึ่งเลยทีเดียว design ของ KATANA ใหม่ที่ออกมายังคงอนุรักษ์ของเดิมไว้ได้ดีทีเดียว
มันถูกใจคนรุ่น A, B อายุ 40+ แต่อาจไม่ถูกใจวัยรุ่นยุกใหม่ Gen X, Y เท่าไหร่นะ 5555
ก็คอยตามข่าวและศึกษาข้อมูลมาโดยตลอด จนในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อมา
ประเด็นที่อยากจะบอกเล่ามีดังนี้
1. การไม่มีพื้นฐานขับขี่บิ๊กไบค์มาก่อนทำให้การขับขี่เป็นเรื่องยากในทีแรกแต่ไม่มาก ( เคยขี่มอเตอร์ไซค์มีคลัช 10 กว่าปีที่แล้วคือ SUZUKI RAIDER 150 รุ่นแรก ขี่แค่ปีเดียว ทักษะก็ไม่ค่อยดี )
2. จากข้อ 1 ผมไม่ได้ขี่มีคลัชมา 10 กว่าปีแล้ว แต่มันไม่ยากมากเพราะระบบช่วยเหลือของ KATANA ดีมาก ( low rpm assist == > ปล่อยคลัชออกตัวเครื่องจะดับยากมากกว่ารถที่ไม่มีระบบนี้ ) ส่วนที่ยากและเป็นปัญหาจริง ๆ คือเรื่องน้ำหนักตัวของ KATANA มากกว่าซึ่งผมไม่คุ้นเคยมาก่อน เรียกได้ว่าครั้งแรกเลยดีกว่าที่ขี่มอเตอร์ไซค์หนัก 215 กิโลกรัม
3. การเปลี่ยนจากขี่ ZOOMMER X มาเป็นบิ๊กไบค์ 1000cc อย่าง KATANA ทำให้เกิดฟีลลิ่งกระชากอารมณ์มากมาย
4. จากข้อ 3 เครื่อง KATANA มันโคตรแรง บอกเลยว่าบิดทีกระชากแทบตกรถ ต้องมาปรับตัวเข้าหารถอยู่พักใหญ่ ค่อย ๆ เติมคันเร่งถึงจะเอาอยู่
5. หลังจากศึกษาและฝึกเรื่องการ balance รถแล้วก็ทำให้เริ่มจะชินกับน้ำหนักตัวที่มากมายระดับ 200 กว่ากิโลกรัม แต่ก็ยังเงอะๆงะๆ เพราะว่าขาไม่ค่อยจะถึง ได้แค่ปลาย ๆ เท้า ผมสูงแค่ 169 ลงได้ไม่เต็มเท้า กำลังฝึกเรื่องการสไลด์ก้นเพื่อเอาขาลงพื้นข้างเดียวโดยให้รถตั้งตรงเพื่ออาศัย CG รถทำให้รู้สึกว่ารถเบา
6. การขับขี่ช่วงแรกของผมยังเป็นแบบขี่เพื่อรันอินรถ 1000 กิโลเมตรแรก โดยพยายามใช้รอบเครื่องแค่ 35% ของรอบแรงบิดแรงม้าสูงสุดที่ 9500 และ 11500 รอบ ซึ่งก็คือผมพยายามไม่ขี่เกิน 3500 รอบนั่นเอง
7. แม้เป็นบิ๊กไบค์ขนาด 1000cc แต่รู้สึกว่าค่อนข้างเป็นมิตรกับมือใหม่ที่ไม่เคยขี่บิ๊กไบค์ซีซีสูง ๆ มาก่อน เห็นในบางรีวิวเค้าบอกว่าเป็นรถที่จุดศูนย์ถ่วงหรือ CG ของรถมันดีมาก ซึ่งมือใหม่อย่างผมพอมาเจอของจริงก็ยอมรับว่าดีมากจริง ๆ ใช้เวลาแค่ 2-3 วันก็ชินกับน้ำหนักรถ 215 กิโลกรัมได้ไม่ยาก
8. ช่วงล่างยังไม่ขอพูดถึงเพราะผมไม่ใช่นักขี่ที่มีประสบการณ์อะไรมากมาย เลยไม่สามารถจะวิจารณ์ได้ เอาเป็นว่าขี่แบบเดิม ๆ ไปก่อน แม้ว่ารถจะมีออฟชันให้ปรับแต่งช่วงล่างทั้งหน้าและหลังได้ค่อนข้างจะ Full Adjust
9. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบขี่รันอินรอบไม่เกิน 3500 และความเร็วไม่เกิน 80 km/h ตัวเลขที่หน้าจออยู่ราว ๆ 19.xx km/l
เดี๋ยวจะไปเรียนคอร์สขับขี่บิ๊กไบค์ปลอดภัยกับ SUZUKI เพื่อเพิ่มทักษะด้วยครับ
ช่วงนี้ขอทุกคนรักษาสุขภาพนะครับ และขอให้สถานการณ์โควิด-19 จบลงโดยเร็ว
เอาคร่าว ๆ เท่านี้ก่อนนะครับ
SUZUKI KATANA 2020 เพิ่งรับรถมาใหม่ รีวิวเบื้องต้น
SUZUKI KATANA
ก่อนจะไปซื้อคันนี้มา ผมขับขี่ HONDA ZOOMMER X ขี่มาหลายปีแล้วและยังคงใช้คันนี้มาถึงปัจจุบัน ขึ่ไปทำงานทุกวัน
พอดีได้เห็นข่าวเปิดตัว SUZUKI KATANA ตำนานไอ้เข้คืนชีพ ซึ่งหลาย 10 ปีก่อนมันเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ฮิตยอดนิยมและขายดีมาก
จนนักขี่มอเตอร์ไซค์ยกย่องให้เป็นมอเตอร์ไซค์ในตำนานคันหนึ่งเลยทีเดียว design ของ KATANA ใหม่ที่ออกมายังคงอนุรักษ์ของเดิมไว้ได้ดีทีเดียว
มันถูกใจคนรุ่น A, B อายุ 40+ แต่อาจไม่ถูกใจวัยรุ่นยุกใหม่ Gen X, Y เท่าไหร่นะ 5555
ก็คอยตามข่าวและศึกษาข้อมูลมาโดยตลอด จนในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อมา
ประเด็นที่อยากจะบอกเล่ามีดังนี้
1. การไม่มีพื้นฐานขับขี่บิ๊กไบค์มาก่อนทำให้การขับขี่เป็นเรื่องยากในทีแรกแต่ไม่มาก ( เคยขี่มอเตอร์ไซค์มีคลัช 10 กว่าปีที่แล้วคือ SUZUKI RAIDER 150 รุ่นแรก ขี่แค่ปีเดียว ทักษะก็ไม่ค่อยดี )
2. จากข้อ 1 ผมไม่ได้ขี่มีคลัชมา 10 กว่าปีแล้ว แต่มันไม่ยากมากเพราะระบบช่วยเหลือของ KATANA ดีมาก ( low rpm assist == > ปล่อยคลัชออกตัวเครื่องจะดับยากมากกว่ารถที่ไม่มีระบบนี้ ) ส่วนที่ยากและเป็นปัญหาจริง ๆ คือเรื่องน้ำหนักตัวของ KATANA มากกว่าซึ่งผมไม่คุ้นเคยมาก่อน เรียกได้ว่าครั้งแรกเลยดีกว่าที่ขี่มอเตอร์ไซค์หนัก 215 กิโลกรัม
3. การเปลี่ยนจากขี่ ZOOMMER X มาเป็นบิ๊กไบค์ 1000cc อย่าง KATANA ทำให้เกิดฟีลลิ่งกระชากอารมณ์มากมาย
4. จากข้อ 3 เครื่อง KATANA มันโคตรแรง บอกเลยว่าบิดทีกระชากแทบตกรถ ต้องมาปรับตัวเข้าหารถอยู่พักใหญ่ ค่อย ๆ เติมคันเร่งถึงจะเอาอยู่
5. หลังจากศึกษาและฝึกเรื่องการ balance รถแล้วก็ทำให้เริ่มจะชินกับน้ำหนักตัวที่มากมายระดับ 200 กว่ากิโลกรัม แต่ก็ยังเงอะๆงะๆ เพราะว่าขาไม่ค่อยจะถึง ได้แค่ปลาย ๆ เท้า ผมสูงแค่ 169 ลงได้ไม่เต็มเท้า กำลังฝึกเรื่องการสไลด์ก้นเพื่อเอาขาลงพื้นข้างเดียวโดยให้รถตั้งตรงเพื่ออาศัย CG รถทำให้รู้สึกว่ารถเบา
6. การขับขี่ช่วงแรกของผมยังเป็นแบบขี่เพื่อรันอินรถ 1000 กิโลเมตรแรก โดยพยายามใช้รอบเครื่องแค่ 35% ของรอบแรงบิดแรงม้าสูงสุดที่ 9500 และ 11500 รอบ ซึ่งก็คือผมพยายามไม่ขี่เกิน 3500 รอบนั่นเอง
7. แม้เป็นบิ๊กไบค์ขนาด 1000cc แต่รู้สึกว่าค่อนข้างเป็นมิตรกับมือใหม่ที่ไม่เคยขี่บิ๊กไบค์ซีซีสูง ๆ มาก่อน เห็นในบางรีวิวเค้าบอกว่าเป็นรถที่จุดศูนย์ถ่วงหรือ CG ของรถมันดีมาก ซึ่งมือใหม่อย่างผมพอมาเจอของจริงก็ยอมรับว่าดีมากจริง ๆ ใช้เวลาแค่ 2-3 วันก็ชินกับน้ำหนักรถ 215 กิโลกรัมได้ไม่ยาก
8. ช่วงล่างยังไม่ขอพูดถึงเพราะผมไม่ใช่นักขี่ที่มีประสบการณ์อะไรมากมาย เลยไม่สามารถจะวิจารณ์ได้ เอาเป็นว่าขี่แบบเดิม ๆ ไปก่อน แม้ว่ารถจะมีออฟชันให้ปรับแต่งช่วงล่างทั้งหน้าและหลังได้ค่อนข้างจะ Full Adjust
9. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบขี่รันอินรอบไม่เกิน 3500 และความเร็วไม่เกิน 80 km/h ตัวเลขที่หน้าจออยู่ราว ๆ 19.xx km/l
เดี๋ยวจะไปเรียนคอร์สขับขี่บิ๊กไบค์ปลอดภัยกับ SUZUKI เพื่อเพิ่มทักษะด้วยครับ
ช่วงนี้ขอทุกคนรักษาสุขภาพนะครับ และขอให้สถานการณ์โควิด-19 จบลงโดยเร็ว
เอาคร่าว ๆ เท่านี้ก่อนนะครับ