สวัสดีค่ะ นี่ก็เป็นกระทู้รีวิวท่องเที่ยวอันที่ 2 ของเรา จริงๆไปเกาหลีมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่ก็เพิ่งมีเวลาว่างมาเขียนรีวิว ครั้งนี้ไปกับเพื่อนด้วยกัน 2 คนค่ะ สองสาวเป็นติ่งเกาหลีทั้งคู่555 จะไม่พลาดไปตามศิลปินได้ไง มีแน่นอนค่ะ แต่จะอยู่พาร์ทหลังๆนะ ขอเรียงตามวันที่เดินทางเป็นพาร์ทๆไปละกันเนอะ สายการบินที่นั่งไปเป็นของ Air asia ค่ะ ไปกลับดอนเมือง-อินชอน 19 - 27 พฤศจิกายน ไปถึงสนบ.อินชอน 10:05น. เป็นการเข้าประเทศเกาหลีครั้งแรกเลยค่ะ ตื่นเต้นกับตม. กลัวไม่ผ่านมาก แต่ก็เตรียมข้อมูลทุกอย่างให้พร้อม แล้วก็มั่นใจๆเข้าไว้ค่ะ ตอนเข้าคิวตม.มีคนไทยไม่ผ่านหลายคนเลย แต่เราสองคนก็ผ่านไปได้แบบสบายๆ จนท.ไม่ได้ถามอะไรเลยค่ะ โล่งใจมากกก ออกมากรี๊ดกร๊าดดีใจกันใหญ่ > <

วันแรกลงจากเครื่องปุ๊บ เราเดินทางกันต่อไปปูซานค่ะ ไปพักที่ปูซาน 2 คืน แล้วค่อยกลับเข้ามาเที่ยวในโซล การเดินทางนั่งรถไฟความเร็วสูง KTX ไปค่ะ ซื้อ Korail Pass 2 day select pass จากไทยไป คือใช้ได้ 2 วันแบบไม่ต้องใช้ต่อเนื่องกันก็ได้ ซื้อผ่านตัวแทนแล้วเราจะได้ voucher มา ปริ้นท์แล้วเอาไปยื่นที่เคาท์เตอร์ตั๋วรถไฟเพื่อเอาไปออกตั๋ว โดยเราจะต้องนั่งรถไฟ AREX เข้าไปที่ seoul station ก่อน ซื้อบัตร T-money ที่สนบ. เติมเงินแล้วแสกนเดินขึ้นรถไฟได้เล้ยย เรานั่งแบบ All-stop train ไป เพราะว่าเวลาต่างกันกับ express train ไม่มาก แต่ราคาที่ถูกลงเกือบเท่านึงเลย ประหยัดไว้ก่อน อิอิ ถึง Seoul station ก็ไปออกตั๋วรถไฟ KTX ไป busan station กว่าจะไปถึงปูซานก็เย็นพอดีจ้า นั่งรถไฟไปยาวๆ ซื้ออาหารและเครื่องดื่มขึ้นไปทานได้


พอถึงสถานีปูซานก็เดินทางเข้าที่พักเลย วันแรกเราพักหรูอยู่สบายที่ Hotel1 อยู่ริมหาดควังอัลลีเลยค่ะ เป็นโรงแรมที่เห็นมาจากไอจีคนเกาหลี คือแบบสวย มินิมอลมาก เลยแบบไหนๆก็ไปปูซานละ ไปพักซักคืนนึงละกัน ว่าแล้วก็เดินทางต่อโดยรถไฟใต้ดินค่ะ ไปลงสถานี Gwangan ตอนแรกว่าจะเดินไปโรงแรม เห็นในแมปดูไม่ไกลมาก แต่สภาพทางคือเป็นเนินลงไปเข็นกระเป๋าลำบาก เลยตัดสินใจโบกแท็กซี่ไปดีกว่า ตอนแรกบอกชื่อโรงแรมไปลุงคนขับก็งงๆ ไม่รู้จักชื่อโรงแรมค่ะ เลยเอาที่อยู่โรงแรมให้ลุงดู ลุงก็จิ้มๆ GPS แล้วก็ซิ่งพาเราไปจอดหน้าโรงแรมจนได้ เป็นการนั่งแท็กซี่เกาหลีครั้งแรก ตื่นเต้นอยู่แล้ว ลุงคนขับก็ขับซิ่งมากค่ะ ตอนแรกนึกว่าเป็นแค่ลุงคนนี้คนเดียว ปรากฎว่าลองไปนั่งไปโซล ไม่ต่างกันเลยค่ะ O_O ไปดูในส่วนของโรงแรมกันต่อค่ะ โรงแรมอยู่ติดริมชายหาดเลย กระจกเกือบทั้งหมด เห็นวิวทะเลเต็มๆ

ถึงทางเข้าแล้วต้องถอดรองเท้าเลยนะคะ ที่นี่ห้ามใส่รองเท้าภายในตึกเลย มิน่าถึงสะอาดมากๆ พนง.จะเอาสลิปเปอร์มาให้ตรงทางเข้า แล้วพาเราเอารองเท้าไปเก็บในตู้ล็อกเกอร์ค่ะ ถ้ามาคนเดียวก็จะเป็นตู้เล็ก มา 2 คนตู้จะใหญ่หน่อย ใส่ได้ 2 คู่ เลขตู้ก็คือเลขห้องพักเราเลยค่ะ จำง่าย เปิดปิดง่ายด้วย ใช้คีย์การ์ดอันเดียวเปิดปิดทุกสิ่งอย่างในโรงแรม มา 2 คนก็ได้คีย์การ์ด 2 ใบเลยค่ะ
ในลิฟท์ก็ต้องใช้คีย์การ์ดค่ะ ถึงจะกดได้ สัญลักษณ์ของโรงแรมเป็นน้องเต่าสีฟ้าค่ะ น่ารักมากกก
ชั้นล่างสุดจะเป็นห้องอาหาร + คาเฟ่ กลางคืนมีคาราโอเกะด้วย เผื่อใครร้องเพลงเกาหลีได้ 555 ข้าวเช้า 8:00-10:00น. หลังจากนั้นทางโรงแรมจะเปิดเป็นคาเฟ่ มีเครื่องดื่มกับขนม ให้สั่งมานั่งชมวิวทะเลสวยๆ
ขึ้นลิฟท์ไปดูชั้นที่พักกันเลย เราพักกันที่ชั้น 5 เป็นชั้นแคปซูลหญิงล้วน หน้าลิฟท์จะมีจอทัชสกรีนให้เอาไว้ดูข้อมูลต่างๆ ในโรงแรมด้วย ไปกดจิ้มๆเล่นดูได้ เค้าก็จะมีล็อกเกอร์ให้เอาไว้เก็บกระเป๋าและของมีค่า ใช้คีย์การ์ดเปิดปิด ใส่กระเป๋า 24 นิ้วได้พอดีเลย ด้านในล็อกเกอร์จะมีชุดนอน ผ้าขนหนู และก็พวกอุปกรณ์อาบน้ำให้ ห้องอาบน้ำชั้นนี้เป็นแบบอยู่นอกห้องนอนนะ เพราะเป็นห้องนอนแบบแคปซูลเล็กๆ ซึ่งห้องน้ำเสียดายมากไม่ได้ถ่ายมา แต่ห้องน้ำก็คือดีมาก สะอาด มีแยกห้องอาบ กับห้องที่เอาไว้ปลดทุกข์ 55 มีโซนแต่งหน้า มีไดร์เป่าผมให้ กว้างด้วย คือดีอ่ะ

อ่ะเข้าไปดูในห้องนอนกัน โถงห้องนอนจะมีประตูต้องใช้คีย์การ์ดเปิดอีกทีถึงเข้าไปได้ ถ้าในก็เป็นทางยาวๆ ฟากนึงจะเห็นวิวทะเล แต่อีกฟากจะไม่เห็นวิวทะเล ต้องเลือกตั้งแต่ตอนจองนะ แถมรีเควสทางโรงแรมไปนิดนึงว่าขอห้องวิวสวยๆนะคะ : D ทางโรงแรมเค้าก็เลือกห้องให้ไม่ผิดหวังเลยคะ วิวสวย ตรงกับสะพานพอดี หน้าต่างแบบไม่มีรอยต่อด้วย ประทับใจเลย ห้องที่พักเป็น Premium Twin Capsule Type เป็นเตียง 2 ชั้นนะคะ ไม่มีประตู มีแต่ม่านปิดตามสไตล์แคปซูล ตอนเราไปจองได้ราคาประมาณ 2,300 บาท/คืนค่ะ สำหรับ 2 คนและรวมอาหารเช้าแล้ว ถือว่าคุ้มมากๆ อาจจะเพราะเป็นช่วง low season หน้าหนาวด้วยก็ได้ ราคาเลยไม่แพงมาก เข้าห้องไปวิวพระอาทิตย์กำลังตกดินเลยค่ะ สวยจับใจมาก
ข้างล่างนี้เป็นห้องอื่นที่ไม่มีคนพักนะ ชั้นที่เราพักมีคนเข้าพักแค่ 3-4 ห้องเอง เลยแอบแง้มม่านเข้าไปถ่ายรูป อยากรู้เหมือนกันว่าห้องอื่นเป็นไง เค้ามีหลายแบบมากเลยนะ นอนเดี่ยวก็มี นอนคู่ก็มี บางห้องหน้าต่างไม่ใหญ่ บางห้องมีรอยต่อ แต่รวมๆคือสวย ขาวสะอาดตา มินิมอลมากๆค่ะ
วิวตอนพระอาทิตย์ตกสวยจับใจมากค่ะ ถ่ายรูปจากในห้องนอนเลย ด้านนอกหนาวมาก ประมาณ 1 องศา ขอทำตัวให้อุ่นก่อนออกไปหาอะไรกิน
ค่ำแล้วก็ออกไปหาข้าวทานกัน นั่งรถไฟใต้ดินไปที่ชาดหาดแฮอุนแดค่ะ จะมีตลาดแฮอุนแดอยู่ใกล้ๆ ชาดหาด ขายของกินเยอะมากละลานตาไปหมด เลือกไม่ถูกเลย เลยรองท้องเบาๆ ก่อนด้วยเกี๊ยวนึ่งร้านโนฮงมันดู
ต่อไปก็เป็นมื้อหลัก เลือกอยู่นาน สรุปเข้าร้านอาหารทะเล เพื่อนอยากกินปลาไหล เราก็คิดว่าเออๆ มันน่าจะเหมือนปลาไหลญี่ปุ่น น่าจะดีนะ ปรากฎว่ามันไม่ใช่ค๊าาา เป็นปลาไหลที่เอามาย่างๆ แล้วคลุกกับซอสพริกเกาหลี แล้วก็กินกับใบงา มีก้างเยอะด้วย แต่เป็นก้างอ่อนๆนะ คาดว่าปกติเค้าคงกลืนไปเลย แต่เราไม่สามารถ ไม่ใช่ทางเลยสั่งข้าวผัดมากินอีกจาน เผื่อไม่อิ่ม555 ข้าวผัดอร่อยค่ะ หอมน้ำมันงากับสาหร่ายดี
อิ่มแล้วเราก็ไปเดินเล่นกันต่อที่ชาดหาดแฮอุนแดค่ะ มีงานแสดงไฟพอดี คนก็เลยคึกคัก บรรยากาศดี โรแมนติกมาก คนเกาหลีมากันเป็นคู่ๆ น่าอิจฉาจริงๆ
มีเหล่าโอปป้ามาร้องเพลงด้วย โรแมนติกมากๆค่ะ
ร้านออมุก Goreasa ชื่อดัง มาถึงที่แล้วต้องลอง ก็คือลูกชิ้นปลาทอดนะแหละ แต่มีหลายรสดี ซื้อมาชิมนิดๆหน่อยๆก่อนกลับที่พัก
ตอนแรกว่าจะเดินไป The bay 101 ต่อ แต่อากาศหนาวแบบไม่ไหวแล้วจริงๆ ค่ะ ลมทะเลก็เย็นไปอี๊กกก เลยตัดสินใจกลับที่พักไปนอนดูวิวในห้องแทนละกัน ตอนกลางคืนสะพานก็จะเปิดไฟ ไฟจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ปิดไฟตอนเที่ยงคืน
เช้าแล้ว พระอาทิตย์กำลังขึ้น ขอบฟ้าสีส้มสวยมากๆค่ะ
ชุดนอนโรงแรม ใส่เหมือนกันทุกคนเลย น่ารักมากๆ อ่ะ ในมือถือคีย์การ์ดโรงแรมนั่นเอง สีฟ้าเข้ากับสัญลักษณ์น้องเต่า
มาดูอาหารเช้าโรงแรมกันค่ะ จะเป็นสไตล์ง่ายๆ มีสลัดมันฝรั่ง ขนมปังปิ้ง ไข่ดาว ไก่ทอด ไส้กรอก ซีเรียลต่างๆ มาม่าก็มี เครื่องดื่มมีกาแฟ ใช้ของสตาร์บัคด้วย ดีจังงง น้ำส้มก็เป็นส้มที่คั้นสดๆ จากเครื่องให้เรากดคั้นได้เองเลย นี่ก็พยายามชิมหลายๆ อย่าง อย่างละนิดหน่อย มันน่ากินทุกอย่างจริงๆ
[CR] [CR] รีวิวเกาหลี Part1 : เที่ยวทะเลหน้าหนาว พักโรงแรมติดทะเลที่ปูซาน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้