ในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้วเราจะได้ยินคนบ่นว่าเงินบาทแข็งค่าและหากใครเทรดในฝั่งตรงข้ามกับสกุลเงินไทยก็มักจะสูญเสียเงิน ชาวต่างชาติแบกกระเป๋ากลับบ้านและบ่นเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดอัตราดอกเบี้ยสี่ครั้งตั้งแต่ 7 ส.ค. 2562

Covid-19 ได้เปลี่ยนสถานการณ์เงินบาทไทยจากหน้ามือเป็นหลังมือ หากเราเทียบเงินบาทไทยกับสกุลเงินตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ เช่นรูเปียอินโดนีเซียและบราซิลเรียล เงินบาทยังคงมีความยืดหยุ่นพอควร แต่จากการดูชาร์ต แสดงให้เห็นว่าเราอาจเห็นเงินบาทไทยในระดับเกิน 35 บาท/ดอลลาร์ หรือแม้กระทั่ง 40 บาท/ดอลลาร์ ในไม่ช้านี้
.
ไม่จําเป็นที่ไทยต้องได้รับผลกระทบจากการระบาดของ covid-19 หนักขึ้น ดังที่เราเห็นตัวอย่างแล้วในกรณีของบราซิลหรืออินโดนีเซียที่ความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์จากยุโรปและสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity) สินค้าอื่นๆ ที่ผลิต หรือ การท่องเที่ยว ปัจจัยเหล่านั้นเป็นตัวขับเคลื่อนที่ทรงพลังด้วยตนเอง
.
ไทยมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 5 พันล้านดอลลาร์ หากเทียบกับอินโดนีเซียที่ขาดดุล 8 พันล้านดอลลาร์ ไทยมีทองคำสำรองเป็นสองเท่าของอินโดนีเซีย สาเหตุนี้มักถูกนำมาใช้เป็นคำอธิบายความต้องการเงินบาทของนักลงทุนทั่วโลก
.
แต่ทว่า Covid19 ได้ฉีกกฎเหล่านี้ มันจะใช้เวลาเป็นเดือนกว่าที่เราจะได้เรียนรู้ อุปสงค์ หรือ ความต้องการที่ถูกทําลายจากการห้ามการเดินทางและการล็อคดาวน์ ในขณะที่บริษัทต่างๆ ล้มเหลวและตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมาก หุ้นในตลาดเกิดใหม่และผู้ถือพันธบัตรอาจไม่สามารถพึ่งพาข้อมูลในอดีตเกินไปได้อีกแล้ว
.
฿ เงินบาทระยะสั้น
เงินบาทได้พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ จากปีที่มีกำไรอย่างแข็งแกร่งเป็นอ่อนแอในเวลาเพียงสามเดือน

฿ เงินบาทระยะยาว
ในระยะยาวค่าเงินไทยยังคงมีแนวต้านแข็งแกร่งที่ 33.5 บาทต่อดอลลาร์ เมื่อเกินแล้ว 36 เป็นแนวต้านใหม่ต่อไป

เงินตราในตลาดเกิดใหม่
เงินรูเปียอินโดนีเซียและบราซิลเรียลได้อ่อนตัวจากระดับต่ำสุดก่อนหน้านี้เมื่อเทียบกับดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนได้คาดการณ์ถึง สินค้าโภคภัณฑ์ที่ประเทศเหล่านั้นผลิตจะทําราคาได้ลดลงและมีความต้องการกู้ยืมเงินดอลลาร์ที่มากขึ้น

ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊ค BarracudaStocks ด้วยครับ www.facebook.com/barracudastocks
คอมเมนต์ในนี้ หรือ พูดคุยในเฟสบุ๊คได้ครับ 🙏
#ค่าเงินบาท
#FX
#forex
#สกุลเงิน
#covid19
#EMForex
เงินบาทพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ
Covid-19 ได้เปลี่ยนสถานการณ์เงินบาทไทยจากหน้ามือเป็นหลังมือ หากเราเทียบเงินบาทไทยกับสกุลเงินตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ เช่นรูเปียอินโดนีเซียและบราซิลเรียล เงินบาทยังคงมีความยืดหยุ่นพอควร แต่จากการดูชาร์ต แสดงให้เห็นว่าเราอาจเห็นเงินบาทไทยในระดับเกิน 35 บาท/ดอลลาร์ หรือแม้กระทั่ง 40 บาท/ดอลลาร์ ในไม่ช้านี้
.
ไม่จําเป็นที่ไทยต้องได้รับผลกระทบจากการระบาดของ covid-19 หนักขึ้น ดังที่เราเห็นตัวอย่างแล้วในกรณีของบราซิลหรืออินโดนีเซียที่ความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์จากยุโรปและสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity) สินค้าอื่นๆ ที่ผลิต หรือ การท่องเที่ยว ปัจจัยเหล่านั้นเป็นตัวขับเคลื่อนที่ทรงพลังด้วยตนเอง
.
ไทยมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 5 พันล้านดอลลาร์ หากเทียบกับอินโดนีเซียที่ขาดดุล 8 พันล้านดอลลาร์ ไทยมีทองคำสำรองเป็นสองเท่าของอินโดนีเซีย สาเหตุนี้มักถูกนำมาใช้เป็นคำอธิบายความต้องการเงินบาทของนักลงทุนทั่วโลก
.
แต่ทว่า Covid19 ได้ฉีกกฎเหล่านี้ มันจะใช้เวลาเป็นเดือนกว่าที่เราจะได้เรียนรู้ อุปสงค์ หรือ ความต้องการที่ถูกทําลายจากการห้ามการเดินทางและการล็อคดาวน์ ในขณะที่บริษัทต่างๆ ล้มเหลวและตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมาก หุ้นในตลาดเกิดใหม่และผู้ถือพันธบัตรอาจไม่สามารถพึ่งพาข้อมูลในอดีตเกินไปได้อีกแล้ว
.
฿ เงินบาทระยะสั้น
เงินบาทได้พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ จากปีที่มีกำไรอย่างแข็งแกร่งเป็นอ่อนแอในเวลาเพียงสามเดือน
฿ เงินบาทระยะยาว
ในระยะยาวค่าเงินไทยยังคงมีแนวต้านแข็งแกร่งที่ 33.5 บาทต่อดอลลาร์ เมื่อเกินแล้ว 36 เป็นแนวต้านใหม่ต่อไป
เงินตราในตลาดเกิดใหม่
เงินรูเปียอินโดนีเซียและบราซิลเรียลได้อ่อนตัวจากระดับต่ำสุดก่อนหน้านี้เมื่อเทียบกับดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนได้คาดการณ์ถึง สินค้าโภคภัณฑ์ที่ประเทศเหล่านั้นผลิตจะทําราคาได้ลดลงและมีความต้องการกู้ยืมเงินดอลลาร์ที่มากขึ้น
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊ค BarracudaStocks ด้วยครับ www.facebook.com/barracudastocks
คอมเมนต์ในนี้ หรือ พูดคุยในเฟสบุ๊คได้ครับ 🙏
#ค่าเงินบาท
#FX
#forex
#สกุลเงิน
#covid19
#EMForex