ตามหาเพื่อนวัยเด็กครับ

กระทู้คำถาม
ตามหัวข้อกระทู้เลยครับ ผมมาตามหาเพื่อนครับ ตอนผมเป็นเด็ก เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับผมเลย แต่ตอนนี้เราไม่ได้เจอกันหรือติดต่อกันมาสิบกว่าปี แล้ว ผมไม่รู้ว่าเขาจะลืมผมไปหรือยัง แต่ที่แน่ๆ ผมมั่นใจเลยว่า ต่อให้เราบังเอิญเดินสวนกัน เราก็จำกันไม่ได้หรอกครับ 5555 ก็ตั้งเกือบสิบปีแล้วอ่ะเนอะ คงเปลี่ยนไปเยอะมากๆจนจำกันไม่ได้ ผมไม่ค่อยรู้ข้อมูอะไรเกี่ยวกับเขามากหรอกครับ ถึงตอนนี้พวกคุณที่มาอ่านกระทู้คงจะงงว่า เป็นเพื่อนกันภาษาอะไรถึงไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเพื่อน เดี๋ยวผมจะค่อยๆเล่าให้ฟังนะครับ เเล้วคุณจะเข้าใจ ^_^
    ผมชื่ออาร์มครับ บ้านอยู่ใกล้ๆวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอยุธยา (ไม่ได้หมายถึงในตัวเมืองอยุธยานะครับ แค่อยู่จังหวัดอยุธยา) ส่วนเพื่อนผมชื่อจิ๋วครับ จริงๆจิ๋วจะอายุเยอะกว่าผมประมาณปีนึงครับถ้าจำไม่ผิด เพราะจิ๋วเรียนนำผมปีนึง จิ๋วเป็นเด็กกรุงเทพครับ เราได้มารู้จักกันเพราะว่า ตาของจิ๋วมาบวชเป็นพระอยู่ที่วัดใกล้ๆบ้านผม ท่านชื่อหลวงตาสุเทพ เเล้วทุกๆครั้งที่โรงเรียนปิดเทอม ที่บ้านจิ๋วก็จะส่งจิ๋วใ้หมาอยู่กับหลวงตาที่วัด เราเลยได้รู้จักกันครับ ณ ตอนนั้น ในบริเวณนั้น น่าจะมีแค่ผมกับจิ๋วที่เป็นเด็กอายุไล่เลี่ยกัน พอจะเป็นเพื่อนกันเล่นด้วยกันได้ เพราะที่วัดก็มีแต่พระ ส่วนบ้านผม ผมก็เป็นลูกชายคนเดียว เราใช้เวลาไม่นานในการทำความรู้จักกัน ทุกๆวัน ประมาณบ่ายสี่โมง มันคือเวลาทองสำหรับพวกเราสองคนเลยครับ เเดดล่มลมตก พวกเรามักจะไปเล่นกันที่วัด หลักๆก็ปั่นจักรยานครับ จักรยานคนละคัน ปั่นเเม่มรอบวัดเลย วันดีคืนดีศาลาวัดเปิด ก็เข้าไปปั่นในศาลาวัดเลยครับ พื้นเป็นกระเบื้องหินอ่อนลื่นๆ แข่งกันดริ๊ฟสนุกเลย เรียกได้ว่า รู้ทุกซอกทุกมุมของวัด วันไหนเบื่อปั่นจักรยานหรือจักรยานของผมชำรุด เราก็หาอย่างอื่นเล่น ต้นมะม่วงหลังเมรุนี่ แหล่งเสบียงเราสองคนเลยครับ วิถีคนป่า ปีนต้นไม้ไปเก็บมะม่วง ไม่มีมีดก็ใช้เล็บนี่แหละครับ ไม่ก็หิน จิกเเเล้วปลอกกินกัน ต้นตาลสูงๆ เราก็แข่งกันปีนมาแล้ว งงกับตัวเองตอนนั้นว่ากล้าปีนได้ยังไง ลูกหมาวัดเราก็จับอาบน้ำดูแลอย่างดี บางทีนึกพิเรนหน่อยก็ เล่นมังกรพ่นไฟใต้กุฏิเจ้าอาวาส (กุฏิสูงครับ อากาศเย็นด้วย) บาปสุดที่เคยทำก็คงเป็นการงัดตู้เย็นร้านขายก๊วยเตี๋ยวในวัดครับ เล่นกันเหนื่อย งัดตู้เย็นเอาแป๊ปซี่มากิน แต่ไม่โลภนะครับ ขวดเดียวเเบ่งกัน สงสารแม่ค้าเขา เวลาทำบุญวันสารทหรือวันออกพรรษา ชาวบ้านก็จะเอาข้าวสารกับของแห้งมาถวายพระ เเล้วลูกศิษย์พระก็จะเข้าเเถว ถือถังกับบาตร เดินรับของจากพระ ผมกับจิ๋วตัวเล็กครับ ถือคนเดียวไม่ไหว ก็ทีมเวิร์ก จิ๋วถือบาตร ผมถือถัง แพ็คคู่ ใครเห็นก็เอ็นดูครับ ตอนนั้นเด็กเล็ก น่ารักแหละ คิดว่านะ 5555 เสร็จแล้วก็ไปนั่งกินกันที่กุฏิ กินไปดูการ์ตูนไป หมดครับ  พอใกล้ๆเปิดเทอม ที่บ้านจิ๋วก็จะมารับจิ๋วกลับไปกรุงเทพ ทุกอย่างก็กลับสู่สถานการณ์ปกติ ผมไปเรียน เย็นกลับมาทำการบ้าน ไม่ได้ออกไปเล่นไหนเพราะไม่มีเพื่อน อย่างสนุกสุดที่ผมทำก็คือ วิ่งเล่นกับหมาสองสามตัวที่บ้าน 5555 พอปิดเทอม บ้านจิ๋วก็จะมาส่งจิ๋วไว้ที่วัดเหมือนเดิม ช่วงสงกรานต์ก็ขันคนละใบครับ ใครไม่สาดเรา เราก็สาดกันเอง สนุกกันเองสองคน เวลาถึงช่วงฤดูน้ำหลาก น้ำในคูข้างวัดก็จะสูงขึ้นมากครับ กิจวัตรปะจำวันของเราก็จะเพิ่มขึ้นมาครับ ทุกๆเที่ยง ห่วงยางคนละอัน เราจะเจี๊ยวจ้าวกันอยู่ในคูน้ำข้างวัดประมาณยี่สิบถึงสามสิบนาที แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ก่อนจะมาเจอกันอีกทีตอนเย็น จะมีอยู่ช่วงนึงครับ ต้นไม้ใหญ่ๆตรงคูวัดมันล้มครับ พาดคูวัดพอให้เราสองคนปีนข้ามไปมาได้เลย ก็ถือเป็นทางลัดของพวกเราอีกทางนึง บางทีจิ๋วก็ปีนมาเล่นบ้านผม บางทีผมก็ปีนไปเล่นที่กุฏิจิ๋ว ผมบอกตามตรงเลยครับว่า เป็นช่วงเวลาที่โคตรสนุกเลยครับสำหรับผม เป็นโชคดีของผมด้วย ที่ได้มีเพื่อนดีๆแบบจิ๋ว แต่พอเวลาเปลี่ยน เราสองคนต่างก็โตขึ้น เวลาว่างที่จะไปวิ่งเล่นกันก็น้อยลง ปิดเทอมบางครั้งจิ๋วก็ไม่ได้มาอยู่วัดหรอกครับ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะงานเยอะ อย่างที่ผมบอก จิ๋วเรานำผมอยู่ประมาณปีหรือสองปีนี่แหละครับ ก็คงจะงานเยอะตามประสานักเรียนโต ส่วนผมพอขึ้นป.6ก็สมัครเข้าวงโยทวาธิตของโรงเรียนครับ ทุกวันอาทิตย์ก็จะต้องไปซ้อมดนตรีที่โรงเรียน ส่วนช่วงปิดเทอมก็มีเก็บตัวซ้อมบ้าง นัดซ้อมแยกบ้าง ไม่ค่อยมีเวลาจะมาเล่นอะไรเหมือนเมื่อก่อนหรอกครับ เราสองคนก็ค่อยๆแยกห่างกันไปเป็นธรรมดา จิ๋วเองก็นานๆจะกลับมาที แต่ส่วนใหญ่เวลาที่จิ๋วกลับมา ผมก็ไม่ว่างหรอกครับ ไม่ได้อยู่บ้านด้วยซ้ำ จะรู้ก็คือตอนเย็นกลับมาถึงบ้านเเล้ว พ่อกับแม่มาเล่าให้ฟังว่า วันนี้บ้านจิ๋วมา มีขนมนั้นนี่มาฝาก หรือถ้าเจอกัน ก็แค่ทักทายกันนิดๆหน่อยๆเเล้วก็แยกย้าย เพราะผมก็ทำงาน ก็ไม่ได้ไปเล่นด้วยกันเเบบเเต่ก่อน จุดพีคจริงๆมันอยู่ที่ ตอนที่หลวงตาท่านเสีย ผมจำไม่ได้เเล้วว่าตอนนั้นครอบครับของจิ๋วนำศพกลับไปทำพิธีที่กรุงเทพหรือทำพิธีที่วัดนี้ เเต่ที่ผมจำได้เเน่ๆคือ ช่วงนั้นผมมีแข่งขันวงโยทวาธิตครับ ผมไม่ได้กลับบ้านเลย ไม่ได้รับรู้ข่าวคราวอะไรเลยด้วย เพราะเก็บตัวซ้อมที่โรงเรียนเกือบเดือนอ่ะครับ กว่าจะรู้เรื่องก็คือวันที่เก็บตัวเสร็จกลับมาบ้าน เเล้วพ่อกับเเม่เล่าให้ฟัง ผมลืมบอกไปครับว่า ตอนนั้นผมยังไม่ได้มีโทรศัพท์ใ้ช้ ยังไม่ได้เล่นเฟสบุ๊คหรืออะไรเลย ช่วงเก็บตัวเวลาพ่อแม่จะติดต่อก็จะโทรหาครูที่คุมวงครับ เขาจะรู้เวลากันเองอ่ะครับ 555 ผมก็จะไม่ค่อยรับรู้ข่าวสารอะไรมากนัก หลังจากที่หลวงตาเสีย ที่บ้านจิ๋วก็ไม่ได้พาจิ๋วมาที่วัดเลยครับ เราไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าจำไม่ผิดน่าจะช่วงที่ผมอยู่ ม.1 มั้งครับ แล้วตอนนี้ผมเรียนอยู่ปี4เเล้วอ่ะครับ ลองนับดูสิครับว่ากี่ปี จนถึงทุกวันนี้ผมก็ไม่เคยได้ข่าวเกี่ยวกับจิ๋วหรือครอบครัวของจิ๋วเลยครับ คือกระทู้นี้ผมตั้งขึ้นมาเพราะผมคิดถึงเพื่อนครับ อยากรู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม จะจำกันได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เเต่คิดว่า ถ้าได้คุยกันก็น่าจะจำกันได้แหละครับ ผมยังไม่ลืมเลย จิ๋วก็คงจะไม่ลืมหรอกครับ ยังไงถ้าใครมีเพื่อนชื่อจิ๋ว ที่มีเรื่องราวใกล้เคียงกับเรื่องทีผมเล่า รบกวนติดต่อผมกลับมาทางอินสตราเเกรมหน่อยนะครับ IG : armtnpk ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่