“ชลน่าน”จี้รัฐเอาผิดกลุ่มคนหาประโยชน์กับวิกฤตประเทศ
https://www.innnews.co.th/politics/news_638257/
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ศบค.) ประกาศมาตรการห้ามประชาชนออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 22:00 น.-04:00 น.ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน เป็นต้นไป ว่าการประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศของรัฐบาลได้ผลน้อยมาก เพราะพบว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เกิดขึ้นภายในบ้านแล้วการห้ามออกจากบ้านก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ที่น่าตำหนิคือการประกาศเคอร์ฟิวโดยขาดข้อมูลสนับสนุน ยิ่งมาตรการนี้จะส่งผลให้คนทำงานต้องรีบกลับเกิดการรวมตัวกันของคนหมู่มาก เพราะคนทำงานจะแย่งกันขึ้นรถสาธารณะ เห็นชัดว่ารัฐบาลก้าวตามปัญหามาตลอด หลายมาตรการ จึงไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เพราะเชื้อไปกับคน หากมีการเดินทางร่วมกันของคนจำนวนมากก็ไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดได้
ดังนั้นหากรัฐบาลอยากจะหยุดการแพร่ระบาด รัฐบาลต้องลดเงื่อนไขให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ เข้ารับการตรวจ โดยค่าตรวจต้องเป็นศูนย์ เพื่อให้สามารถคัดแยกผู้ติดเชื้อออกจากประชาชนทั่วไป ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้จากปัญหาเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลนพบว่า มีคนกลุ่มหนึ่งหาผลประโยชน์จากเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นเรื่องที่น่าละอายมากที่มีคนกำลังหาประโยชน์กับวิกฤติชาติ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องดำเนินการอย่างจริงจังในการดำเนินการกับผู้หาประโยชน์กับวิกฤติประเทศในยามยากลำบากเช่นนี้
เมื่อวันที่ 4 เมษายน นาย
สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย รองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่าการที่พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรับมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศห้ามออกจากเคหสถานตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. โดยมีเป้าหมายเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตนในฐานะของผู้แทนประชาชน สนับสนุนมาตรการดังกล่าว อยากให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อที่จะได้หยุดการแพร่ระบาด แม้มาตรการดังกล่าวอาจจะไม่ได้ผลเท่าที่ควรก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลเริ่มตรวจหาเชื้อในประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด จะมีจำนวนเท่าไหร่ก็ต้องตรวจ ที่ผ่านมาการประกาศของรัฐบาลมีแต่ผู้ที่ติดเชื้อ แต่ไม่เห็นตัวเลขของผู้ที่ได้รับการตรวจเลย เท่าที่ทราบมีประชาชนไปตรวจหาเชื้อเพียงแค่ 50,000 คนเท่านั้น ถือว่าน้อยมากหากเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศไทย ในสหรัฐอเมริกาที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากนั้น เพราะประชาชนเข้ารับการตรวจหลายล้านคน ดังนั้นหากมีคนเข้าตรวจ รัฐบาลสามารถที่จะแยกหรือคัดกรองคนเพื่อทำการรักษาได้ทันท่วงทีเพราะชีวิตของประชาชนสำคัญที่สุด
นายสมคิด กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะทำอะไรต้องรีบทำ จะเกลี่ยงบประมาณ หรือจะกู้เงิน เพื่อนำมาแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือเต็มที่ อยากให้รัฐบาลทำงานเชิงรุกอย่าช้าให้รีบทำเลย ทั้งการตั้งจุดตรวจคัดกรองทั้งประเทศ จังหวัดละแห่งก็ได้ รัฐบาลอย่ากังวลเรื่องตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ยิ่งตรวจมากแล้วมีผู้ติดเชื้อมากประชาชนยิ่งระวังตัวมาก รัฐบาลต้องทำงานเชิงรุกอย่าทำงานแบบตั้งรับอย่างที่กำลังทำกันอยู่
“
ในการตรวจหาเชื้อรัฐบาลต้องทุ่มงบประมาณลงไปเลย จะเท่าไหร่ก็ต้องทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ฝ่ายค้านสนับสนุนหากนำงบประมาณมาปกป้องประชาชน เพราะงบประมาณเป็นภาษีของประชาชน ดังนั้นการนำงบมาสนับสนุนการตรวจหาเชื้อให้ประชาชนจะเป็นการป้องกันมากกว่า การตั้งรับหลังตรวจพบเชื้อแล้วอย่างที่รัฐบาลทำอยู่ไม่เกิดประโยชน์อะไร” นาย
สมคิด กล่าว
JJNY : ชลน่านจี้เอาผิดกลุ่มหาประโยชน์กับวิกฤต/สมคิดแนะตู่ปูพรม/งามไส้ ศูนย์ต้านข่าวปลอมเสนอเฟกนิวส์เอง/ฝุ่นเหนือยังพุ่ง
https://www.innnews.co.th/politics/news_638257/
ดังนั้นหากรัฐบาลอยากจะหยุดการแพร่ระบาด รัฐบาลต้องลดเงื่อนไขให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ เข้ารับการตรวจ โดยค่าตรวจต้องเป็นศูนย์ เพื่อให้สามารถคัดแยกผู้ติดเชื้อออกจากประชาชนทั่วไป ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้จากปัญหาเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลนพบว่า มีคนกลุ่มหนึ่งหาผลประโยชน์จากเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นเรื่องที่น่าละอายมากที่มีคนกำลังหาประโยชน์กับวิกฤติชาติ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องดำเนินการอย่างจริงจังในการดำเนินการกับผู้หาประโยชน์กับวิกฤติประเทศในยามยากลำบากเช่นนี้
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2122901
ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลเริ่มตรวจหาเชื้อในประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด จะมีจำนวนเท่าไหร่ก็ต้องตรวจ ที่ผ่านมาการประกาศของรัฐบาลมีแต่ผู้ที่ติดเชื้อ แต่ไม่เห็นตัวเลขของผู้ที่ได้รับการตรวจเลย เท่าที่ทราบมีประชาชนไปตรวจหาเชื้อเพียงแค่ 50,000 คนเท่านั้น ถือว่าน้อยมากหากเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศไทย ในสหรัฐอเมริกาที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากนั้น เพราะประชาชนเข้ารับการตรวจหลายล้านคน ดังนั้นหากมีคนเข้าตรวจ รัฐบาลสามารถที่จะแยกหรือคัดกรองคนเพื่อทำการรักษาได้ทันท่วงทีเพราะชีวิตของประชาชนสำคัญที่สุด
นายสมคิด กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะทำอะไรต้องรีบทำ จะเกลี่ยงบประมาณ หรือจะกู้เงิน เพื่อนำมาแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือเต็มที่ อยากให้รัฐบาลทำงานเชิงรุกอย่าช้าให้รีบทำเลย ทั้งการตั้งจุดตรวจคัดกรองทั้งประเทศ จังหวัดละแห่งก็ได้ รัฐบาลอย่ากังวลเรื่องตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ยิ่งตรวจมากแล้วมีผู้ติดเชื้อมากประชาชนยิ่งระวังตัวมาก รัฐบาลต้องทำงานเชิงรุกอย่าทำงานแบบตั้งรับอย่างที่กำลังทำกันอยู่
“ในการตรวจหาเชื้อรัฐบาลต้องทุ่มงบประมาณลงไปเลย จะเท่าไหร่ก็ต้องทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ฝ่ายค้านสนับสนุนหากนำงบประมาณมาปกป้องประชาชน เพราะงบประมาณเป็นภาษีของประชาชน ดังนั้นการนำงบมาสนับสนุนการตรวจหาเชื้อให้ประชาชนจะเป็นการป้องกันมากกว่า การตั้งรับหลังตรวจพบเชื้อแล้วอย่างที่รัฐบาลทำอยู่ไม่เกิดประโยชน์อะไร” นายสมคิด กล่าว