เครดิตภาพจากเน็ต
ในยามที่ท้อแท้ ขอเพียงแค่คนหนึ่ง
จะคิดถึง และคอยห่วงใย
ในยามที่ชีวิต หม่นหมองร้องไห้
ขอเพียงมีใคร ปลอบใจสักคน
กระจกใสถูกติดไปด้วยป้ายโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมาย ดวงตาเหม่อลอยคู่หนึ่งกำลังมองออกไปด้านนอก ไกลสุดลูกหูลูกตา ม่านฟ้ากำลังก่อตัวขึ้นสีดำทมิฬเป็นกลุ่มก้อน เหมือนฝนกำลังจะตก ฟากฟ้าทางโน้นฝนคงจะตกแล้ว รถราวิ่งสวนกันไปมา หลังคารถที่วิ่งมาจากทางโน้นเปียก ใช่แล้ว! ฝั่งทางโน้นฝนคงจะตกจริง ๆ ขิงนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งด้วยท่าไขว่ห้าง กอดอกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้มองผ่านกระจกใสออกไป เธอไม่ได้จับจ้องว่าฝนจะตกหรือเปล่า หรือ รถคันไหนจะเปียก แต่เธอเหม่อมองออกไปแบบไม่มีจุดหมายปลายทาง ภายในใจสับสนไปด้วยปัญหารอบตัว ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องคนอื่น เรื่องสินค้าลดราคาขึ้นราคา เรื่องโรคระบาด แต่ถ้าเป็นโรคสองบาทเธอคงเครียดไปมากกว่านี้
ขิงนั่งถอนหายใจแล้วหายใจอีก วันนี้ช่างเงียบเหงาเหลือเกิน สายตายังทอดมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา เธอรู้สึกเบื่อเพราะนั่งนานเกินไปจึงเปลี่ยนที่นั่งจากเก้าอี้ตัวเดิม เป็นเก้าอี้ตัวใหม่ มุมใหม่ แต่ท่าเดิม ทว่าบนโต๊ะทำงานมีเครื่องคิดเลขวางอยู่ ขิงไม่รู้จะทำอะไรจึงหยิบเครื่องคิดเลขมาคำนวณรายได้ คำนวณเงินเดือนเล่น ๆ หักลบกลบหนี้สินแล้วเหลือเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เครียดไปอีก ทำไม! ขิงได้แต่ด่าตัวเองไม่น่ามาคำนวณเล่น ๆ เลย!
เธอวางเครื่องคิดเลขลงแอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อ ซ่อนเข้าไปใต้โต๊ะเธอแอบเล่นโทรศัพท์ในเวลางาน สายตาจ้องไปที่กล้องซีซีทีวีตัวนั้นตัวที่ขิงชอบมองมันทุกวัน และคิดว่ามันชอบมองเธอด้วย ไม่ว่าเธอจะเดินไปตรงไหนเหมือนมันเคลื่อนที่ได้หมุนไปตามเธอทุกที ขิงยิ้มให้กล้องและก้มดูโทรศัพท์แบบไม่เกรงกลัว เห็นข่าวโรคระบาดเต็มโซเชี่ยลยิ่งทำให้หดหู่เพิ่มขึ้นอีก ดีนะเป็นโรคละบาดถ้าเป็นโรคละสิบบาทล่ะจะทำยังไง! อ้าวเล่นไปแล้ว!!!! เครียดขนาดนี้ยังมาเล่นอีก
ขิงเลื่อนดูเรื่อย ๆ จนเบื่อ แต่ต้องพบกับความหายนะ เมื่อสายตาคู่นี้ของเธอมันไปเจอกับข้อความบั่นทอนจิตใจของเธอมาก จากเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง เอ๊ะไม่ใช่! ต้องเรียกว่าเจ้ากรรมนายเวรถึงจะถูก นี่เธอต้องรบรากับสภาวะเศรษฐกิจยังไม่พอต้องมาอดทนกับเจ้ากรรมนายเวรอีกเหรอ ขิงเจอข้อความนั่นเธอเลื่อนผ่านอย่างเร็ว ทำใจให้สบาย หายใจเข้าลึก ๆ นับเลขไปเรื่อย ๆ อย่างน้อยก็ยังอยู่ที่นี่อีกหลายเดือน!
พอเอาทุกอย่างมารวมกันมันยิ่งเหนื่อยท้อใจเพิ่มขึ้นไปอีก เพิ่มขึ้นทวีคูณเป็นสองเท่า ภายในใจมีแต่คำถามและคำถามไม่มีคำตอบ ทำไมโรคละบาดต้องมา ทำไมไม่มาห้าสิบ โอ้ยแน่! ยังไม่หยุดเล่นอีก เห็นว่าก็เล่นได้เล่นไป ขิงโมโหตัวเอง ทำไมต้องได้ร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานคนนั้นแต่แรก เราไม่น่ามารู้จักกันเลย งอแงกับแฟนหลายรอบก็ได้รับแต่ความไม่เข้าใจ สิ่งที่เขาพูดมาก็มีเหตุผล หนีก็ต้องหนีตลอด! เจออีกก็หนีอีกแบบนี้เหรอ! ที่ไหนก็ต้องมีคนประเภทนี้ทุกที่ งั้นก็ไม่ต้องทำงาน! ขิงก็นั่งถอนหายใจแล้วหายใจอีก เงินเดือนที่เคยได้รับก็หายไปหลายบาท ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ จุกจิกจู้จี้ก็มีเข้ามาเรื่อย ๆ
ในขณะที่เธอนั่งเหม่อลอยถอนหายใจเล่น ๆ ถ้าเป็นเงินก็คงหมดบัญชีไปแล้วเพราะถอนบ่อยเหลือเกิน ฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมา ตามด้วยเสียงฟ้าร้อง แต่ผู้คนรถราก็ยังคงวิ่งบนท้องถนนเหมือนเดิม ไม่เกรงกลัวเสียงฟ้าและสายฝนที่โปรยปรายลงมาราวกับฟ้ารั่วเลยสักนิด ขณะนั่นมีผู้ชายคนหนึ่งเดินตากฝนมา เดินผ่านหน้าของเธอไป ขิงมองผู้ชายคนนั้นเดินตากฝนผ่านกระจกใส ๆ ที่มีไรน้ำเกาะอยู่จากไอฝน
ชายคนนั้นตัวเตี้ย เดินเอียงข้างหนึ่ง หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยวนิดหน่อย แถมยังมีอาการชักกระตุกด้วย ที่แน่ ๆ ไม่ใช่คนเร่ร่อนเพราะดูจากการแต่งตัว แต่ก็อีกนั่นแหละไม่แน่อาจเป็นคนเร่ร่อน ความรู้สึกของเธอบอกไม่ใช่ เขาเดินฝ่าสายฝนหาที่หลบ เขายืนหลบใต้ชายคาที่ทำงานของเธอ ขิงมองแบบไม่ละสายตา พร้อมยิ้มให้เมื่อชายคนนั้นหันมองเข้ามา เขาไม่กล้าเข้ามาและเธอก็ไม่อยากจะอนุญาตให้เข้ามาด้วย เขายืนหลบฝนอยู่ตรงนั้น ผู้ชายคนนั้นทำให้ขิงคิดอะไรได้หลายอย่าง
ขนาดเขาพิการร่างกายไม่สมประกอบ เขายังไม่ท้อ ทำไมเธอต้องท้อ ทำไมเธอต้องมานั่งเก็บเอาทุกอย่างมาคิด ทำไมต้องมองในด้านลบ ด้านดี ๆ ก็มี งดโอทีก็ดีไม่เหนื่อย มีเวลาทำอะไรหลาย ๆ อย่างให้แฟน มีเวลาจับผิดแฟนมากขึ้น เอ้าไม่ใช่และ! ไม่ใช่! ทำไมเธอชอบพาตัวเองนอกเรื่องตลอด! จะได้ไม่เหนื่อยเซ้! เงินน้อยก็ดีกว่าตกงาน บริษัทห้างร้านโรงงานปิดตัวกันเยอะแยะ บริษัทของเธอก็ไม่ปิด เพื่อนร่วมงานร้ายแค่คนเดียว คนที่รักเธอมีตั้งมากมายหลายคน ทำไมต้องเอาใจไปยึดติดกับคนที่ทำให้ตนเองรู้สึกแย่ด้วย ความสุขอยู่กับใครเราควรใส่ใจคนนั้น
ขิงนั่งมองชายที่อยู่ด้านนอกด้วยรอยยิ้ม ด้วยความนับถือ สู้สิขิงเธอต้องสู้ ๆ ๆ ๆ จะท้อไม่ได้คนที่เขาลำบากกว่าเธอก็มี ขิงได้แต่นั่งมองยิ้มคนเดียวและคิดในใจเรื่อยเปื่อย
“น้องขิงยิ้มทำไม มองผู้ชายแล้วก็ยิ้ม ชอบเหรอ”
“ค่ะชอบ เอ้ย! ป่าวนะคะพี่ป่าวชอบ ป่าว ๆ “
“นึกว่าชอบว่าจะออกไปขอไลน์ให้”
แล้วหัวหน้าก็มานั่งแทนที่เธอ ส่วนเธอก็ลุกแอบไปเล่นโทรศัพท์ในห้องน้ำ
จบ...
เรื่องสั้น : กำลังใจ
เครดิตภาพจากเน็ต
ในยามที่ท้อแท้ ขอเพียงแค่คนหนึ่ง
จะคิดถึง และคอยห่วงใย
ในยามที่ชีวิต หม่นหมองร้องไห้
ขอเพียงมีใคร ปลอบใจสักคน
กระจกใสถูกติดไปด้วยป้ายโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมาย ดวงตาเหม่อลอยคู่หนึ่งกำลังมองออกไปด้านนอก ไกลสุดลูกหูลูกตา ม่านฟ้ากำลังก่อตัวขึ้นสีดำทมิฬเป็นกลุ่มก้อน เหมือนฝนกำลังจะตก ฟากฟ้าทางโน้นฝนคงจะตกแล้ว รถราวิ่งสวนกันไปมา หลังคารถที่วิ่งมาจากทางโน้นเปียก ใช่แล้ว! ฝั่งทางโน้นฝนคงจะตกจริง ๆ ขิงนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งด้วยท่าไขว่ห้าง กอดอกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้มองผ่านกระจกใสออกไป เธอไม่ได้จับจ้องว่าฝนจะตกหรือเปล่า หรือ รถคันไหนจะเปียก แต่เธอเหม่อมองออกไปแบบไม่มีจุดหมายปลายทาง ภายในใจสับสนไปด้วยปัญหารอบตัว ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องคนอื่น เรื่องสินค้าลดราคาขึ้นราคา เรื่องโรคระบาด แต่ถ้าเป็นโรคสองบาทเธอคงเครียดไปมากกว่านี้
ขิงนั่งถอนหายใจแล้วหายใจอีก วันนี้ช่างเงียบเหงาเหลือเกิน สายตายังทอดมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา เธอรู้สึกเบื่อเพราะนั่งนานเกินไปจึงเปลี่ยนที่นั่งจากเก้าอี้ตัวเดิม เป็นเก้าอี้ตัวใหม่ มุมใหม่ แต่ท่าเดิม ทว่าบนโต๊ะทำงานมีเครื่องคิดเลขวางอยู่ ขิงไม่รู้จะทำอะไรจึงหยิบเครื่องคิดเลขมาคำนวณรายได้ คำนวณเงินเดือนเล่น ๆ หักลบกลบหนี้สินแล้วเหลือเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เครียดไปอีก ทำไม! ขิงได้แต่ด่าตัวเองไม่น่ามาคำนวณเล่น ๆ เลย!
เธอวางเครื่องคิดเลขลงแอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อ ซ่อนเข้าไปใต้โต๊ะเธอแอบเล่นโทรศัพท์ในเวลางาน สายตาจ้องไปที่กล้องซีซีทีวีตัวนั้นตัวที่ขิงชอบมองมันทุกวัน และคิดว่ามันชอบมองเธอด้วย ไม่ว่าเธอจะเดินไปตรงไหนเหมือนมันเคลื่อนที่ได้หมุนไปตามเธอทุกที ขิงยิ้มให้กล้องและก้มดูโทรศัพท์แบบไม่เกรงกลัว เห็นข่าวโรคระบาดเต็มโซเชี่ยลยิ่งทำให้หดหู่เพิ่มขึ้นอีก ดีนะเป็นโรคละบาดถ้าเป็นโรคละสิบบาทล่ะจะทำยังไง! อ้าวเล่นไปแล้ว!!!! เครียดขนาดนี้ยังมาเล่นอีก
ขิงเลื่อนดูเรื่อย ๆ จนเบื่อ แต่ต้องพบกับความหายนะ เมื่อสายตาคู่นี้ของเธอมันไปเจอกับข้อความบั่นทอนจิตใจของเธอมาก จากเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง เอ๊ะไม่ใช่! ต้องเรียกว่าเจ้ากรรมนายเวรถึงจะถูก นี่เธอต้องรบรากับสภาวะเศรษฐกิจยังไม่พอต้องมาอดทนกับเจ้ากรรมนายเวรอีกเหรอ ขิงเจอข้อความนั่นเธอเลื่อนผ่านอย่างเร็ว ทำใจให้สบาย หายใจเข้าลึก ๆ นับเลขไปเรื่อย ๆ อย่างน้อยก็ยังอยู่ที่นี่อีกหลายเดือน!
พอเอาทุกอย่างมารวมกันมันยิ่งเหนื่อยท้อใจเพิ่มขึ้นไปอีก เพิ่มขึ้นทวีคูณเป็นสองเท่า ภายในใจมีแต่คำถามและคำถามไม่มีคำตอบ ทำไมโรคละบาดต้องมา ทำไมไม่มาห้าสิบ โอ้ยแน่! ยังไม่หยุดเล่นอีก เห็นว่าก็เล่นได้เล่นไป ขิงโมโหตัวเอง ทำไมต้องได้ร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานคนนั้นแต่แรก เราไม่น่ามารู้จักกันเลย งอแงกับแฟนหลายรอบก็ได้รับแต่ความไม่เข้าใจ สิ่งที่เขาพูดมาก็มีเหตุผล หนีก็ต้องหนีตลอด! เจออีกก็หนีอีกแบบนี้เหรอ! ที่ไหนก็ต้องมีคนประเภทนี้ทุกที่ งั้นก็ไม่ต้องทำงาน! ขิงก็นั่งถอนหายใจแล้วหายใจอีก เงินเดือนที่เคยได้รับก็หายไปหลายบาท ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ จุกจิกจู้จี้ก็มีเข้ามาเรื่อย ๆ
ในขณะที่เธอนั่งเหม่อลอยถอนหายใจเล่น ๆ ถ้าเป็นเงินก็คงหมดบัญชีไปแล้วเพราะถอนบ่อยเหลือเกิน ฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมา ตามด้วยเสียงฟ้าร้อง แต่ผู้คนรถราก็ยังคงวิ่งบนท้องถนนเหมือนเดิม ไม่เกรงกลัวเสียงฟ้าและสายฝนที่โปรยปรายลงมาราวกับฟ้ารั่วเลยสักนิด ขณะนั่นมีผู้ชายคนหนึ่งเดินตากฝนมา เดินผ่านหน้าของเธอไป ขิงมองผู้ชายคนนั้นเดินตากฝนผ่านกระจกใส ๆ ที่มีไรน้ำเกาะอยู่จากไอฝน
ชายคนนั้นตัวเตี้ย เดินเอียงข้างหนึ่ง หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยวนิดหน่อย แถมยังมีอาการชักกระตุกด้วย ที่แน่ ๆ ไม่ใช่คนเร่ร่อนเพราะดูจากการแต่งตัว แต่ก็อีกนั่นแหละไม่แน่อาจเป็นคนเร่ร่อน ความรู้สึกของเธอบอกไม่ใช่ เขาเดินฝ่าสายฝนหาที่หลบ เขายืนหลบใต้ชายคาที่ทำงานของเธอ ขิงมองแบบไม่ละสายตา พร้อมยิ้มให้เมื่อชายคนนั้นหันมองเข้ามา เขาไม่กล้าเข้ามาและเธอก็ไม่อยากจะอนุญาตให้เข้ามาด้วย เขายืนหลบฝนอยู่ตรงนั้น ผู้ชายคนนั้นทำให้ขิงคิดอะไรได้หลายอย่าง
ขนาดเขาพิการร่างกายไม่สมประกอบ เขายังไม่ท้อ ทำไมเธอต้องท้อ ทำไมเธอต้องมานั่งเก็บเอาทุกอย่างมาคิด ทำไมต้องมองในด้านลบ ด้านดี ๆ ก็มี งดโอทีก็ดีไม่เหนื่อย มีเวลาทำอะไรหลาย ๆ อย่างให้แฟน มีเวลาจับผิดแฟนมากขึ้น เอ้าไม่ใช่และ! ไม่ใช่! ทำไมเธอชอบพาตัวเองนอกเรื่องตลอด! จะได้ไม่เหนื่อยเซ้! เงินน้อยก็ดีกว่าตกงาน บริษัทห้างร้านโรงงานปิดตัวกันเยอะแยะ บริษัทของเธอก็ไม่ปิด เพื่อนร่วมงานร้ายแค่คนเดียว คนที่รักเธอมีตั้งมากมายหลายคน ทำไมต้องเอาใจไปยึดติดกับคนที่ทำให้ตนเองรู้สึกแย่ด้วย ความสุขอยู่กับใครเราควรใส่ใจคนนั้น
ขิงนั่งมองชายที่อยู่ด้านนอกด้วยรอยยิ้ม ด้วยความนับถือ สู้สิขิงเธอต้องสู้ ๆ ๆ ๆ จะท้อไม่ได้คนที่เขาลำบากกว่าเธอก็มี ขิงได้แต่นั่งมองยิ้มคนเดียวและคิดในใจเรื่อยเปื่อย
“น้องขิงยิ้มทำไม มองผู้ชายแล้วก็ยิ้ม ชอบเหรอ”
“ค่ะชอบ เอ้ย! ป่าวนะคะพี่ป่าวชอบ ป่าว ๆ “
“นึกว่าชอบว่าจะออกไปขอไลน์ให้”
แล้วหัวหน้าก็มานั่งแทนที่เธอ ส่วนเธอก็ลุกแอบไปเล่นโทรศัพท์ในห้องน้ำ
จบ...