การที่เราเริ่มนำ น้องหมา เข้าบ้านสักตัวก็เหมือนบ้านมีสมาชิกใหม่
คนที่ไม่เคยเลี้ยงหมาอาจวาดฝันว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันแบบในหนังที่มีน้องหมาฉลาด เชื่อฟัง ว่าง่าย น่ารักและเป็นเพื่อนแท้แต่ที่ไหนได้เมื่อความจริงปรากฏขึ้นว่า...สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าหมานั้นเห่าเสียงดัง ขับถ่ายเรี่ยราด กัดแทะสิ่งของ ดื้อไม่เชื่อฟัง สร้างความปวดหัวให้เราแทนซะงั้น...

ดังนั้นจุดประสงค์ของ puppy lifeskill คือ
เป็นการปูพื้นฐานชีวิตให้ลูกหมาเรียนรู้ว่าเราคาดหวังอะไรจากพวกเขาบ้าง...?
เช่น การไม่ตะกุยเวลาเราทำอาหาร ไม่เห่ามั่วซั่ว ไม่กระโจนใส่คนแปลกหน้า การอยู่ร่วมกันแบบเราและลูกหมาชองเรามีความสุขทั้งคู่...การมี “Behave” หรือ การมี “ความประพฤติ” ที่เหมาะสมไม่ใช่การ “obedience” หรือการฟังคำสั่งเพียงอย่างเดียว...

เมื่อโตขึ้น หมา ของเราจะสามารถ “เลือก” ได้ว่า...
ช้อยส์ไหนที่ถูกต้องและควรจะทำด้วยตัวเขาเอง เช่น การนั่งรออย่างสงบเมื่อต้องการอาหารในมือ การนั่งเพื่อทักทายมากกว่าการกระโจนเมื่อทักทาย เมื่อตกใจเดินหนีมากกว่าจะเห่าโหวกเหวกเสียงดัง หรือ การทำความรู้จักเพื่อนหมาด้วยกันเอง...

คีย์ของหนังสือเล่มนี้ คือ การสร้างความสัมพันธ์และความเชื่อใจระหว่างตัวเจ้าของกับน้องหมาชองเรา
ในคลาสมีทั้งหมด 10 บทเรียนเราจะยกตัวอย่างมาสัก 3 บทที่เราชอบละกันนะ

1 ฉันชอบถูกสัมผัส
ในที่นี้รวมไปถึงสามารถแปรงฟัน ตัดเล็บ สัมผัสทุกจุดของร่างกายได้แบบที่หมาไม่ดิ้นเลย ( หรือดื้นน้อยมาก )

2 ฉันรู้ว่ามารยาทที่ดีเป็นอย่างไรและฉัน “ขอร้อง” เป็น
เช่น การมีมารยาทดีกับคน เมื่อลูกหมาของเราอยากได้บางอย่างแทนที่เขาจะกระโจนใส่เขานั่งมองเราแทน
เหมือนเด็กที่อยากได้อะไรไม่วิ่งมาฉวยเอาไปเลยแต่บอกว่า ผมขออันนี้ได้ไหมคับ? โอ้ยยย น่ารักอ่ะ

3 ฉันมี “สิทธิ์” ในความเป็นหมาและมีสิทธิ์แสดงออกแบบหมา
เราว่าข้อนี้สำคัญมากๆอย่างต่างประเทศหลายๆบ้านจะมีการสอนลูกว่า ห้ามปลุกหมา เวลาหลับก็มี
หรือเข้าใจธรรมชาติการดม การเคี้ยว แทะ ขุด รวมถึงการมีพื้นที่ส่วนตัวชองเขาเราว่าเรื่องนี้ยังมีคนจำนวนมากคิดว่าเราเป็นเจ้าของชีวิตของหมาที่เราเลี้ยงทุกอย่างอยู่มาก ( ทำให้หมาโตขึ้นมีความเก็บกด )

ซึ่งตอนแรกเราเกทไอเดียแต่เรายังไม่ค่อยเห็นภาพ
แต่พอจะนึกออกว่าถ้าหมาทำตัวดีเพราะคิดได้เองน่าจะดีกว่าหมาที่ถ้าไม่สั่งก็ไม่ทำ

ต้องบอกว่าหมาของเราเป็นหมาพันทาง ( ไทยผสม )
ค่อนข้างดื้อ ไฮเปอร์ เป็นตัวของตัวเองสูง ตอนแรกที่พยายามสร้างความสัมพันธ์ด้วยก็บอกเลยว่า
แทบจะหมดความอดทนหลายครั้งมากๆ... ( อีกคีย์ในคลาสนี้ที่สำคัญ คือ เราจะไม่บังคับ ไม่ลงโทษ และ ไม่บังคับลูกหมา ) ก็เรียกได้ว่า ทุกครั้งที่หมาเรากัดเราทำได้แค่เดินหนี หรือ ทุกครั้งที่ลูกหมาเราคาบของเรามาแทะเราจะไปดึงออกมาจากปากเลยไม่ได้แต่เราจะต้องล่อ เปลี่ยนความสนใจ และแอบเก็บของเราออกไป
เราให้คะแนนตัวเอง 85% นะสำหรับการ follow direction เหล่านั้น....

จนสัปดาห์ที่ 3 เราเริ่มมองเห็นบางสิ่งบางอย่าง ( จริงๆเราต้องสังเกตเองมากๆนะ )
คือ ส่วนตัวเราจะฝึก obedience กับลูกหมาของเราอยู่แล้วทุกวัน นั่ง หมอบ มอง ขอมือ คอย...
แต่...

วันนี้เราเริ่มสังเกตสัญญาณบางอย่าที่ดีเกิดขึ้นนั่นคือ
บุญล้น ( ชื่อหมาของเรา ) เมื่อก่อนทุกเช้าเวลาที่เราลงจากเตียง คือ สงคราม !!
ล้นจะตื่นเต้นดีใจตะกุย กระโจน แบบไร้สติขาเราเป็นแผลข่วนเยอะมากๆ
แต่ตอนนี้บุญล้นดูพยายามห้ามใจตัวเองที่จะไม่กระโจน...เขาพยายามหมอบ พยายามนั่ง มองหน้าเรา
แต่เราเห็นเลยว่าหางเขาจะกระดิกแรงมากๆแต่เขาเริ่มรู้ว่า ถ้าเขาต้องการให้เราลูบหัวเขา เขาต้องนั่งเรียบร้อยรอ
อีกหนึ่งอย่างที่เริ่มเห็นชัด คือ เมื่อก่อนเวลาที่เราวางจานข้าวลงเราจะต้องสั่งว่า “นั่ง” และ “คอย”
แต่ตอนนี้เราแค่ยืนมองหน้าเขา บุญล้นจะนั่งและ “ไม่กิน” เมื่อเราวางจานข้าวลง ... แต่เขาจะมองตาเราเพื่อขออนุญาติเราก่อนกิน “ด้วยตัวอง”

อันนี้คือเราทำครัวเขามานั่งทับเท้าแล้วมอง ( beg ) โหห ใครจะไม่ให้ลงเนียะ

( ก่อนหน้ากระโจนแหลก )

มารยาทการพบเพื่อนตัวใหม่

มารยาทการเล่นกับเพื่อน

และผลลัพธ์ที่ชัดเจนอันนี้ก็บอกเลยว่าเราเข้าใจมากขึ้นละว่า “lifeskill” หรือ “ทักษะชีวิต”
ที่เราต้องปูให้ลูกหมาเพื่อให้โตขึ้นอยู่กับเราอย่างมีความสุขมันเป็นยังไง
มันก็เหมือนกฏการอยู่ร่วมกันในบ้านนั่นแหละ...ซึ่งมันสำคัญมากกว่าการสั่งงนั่ง ขอมือ คาบตะกร้า ( แต่เราก็ฝึกควบคู่กันไปได้นะ )

เราคิดว่าศาสตร์ positive นี้ในประเทศไทยมีไม่เยอะ ( แบบถูกต้อง ) นะ
เอาเป็นว่าถ้าใครอยากเลี้ยงหมาให้ออกมามี good Behave แบบหมาฝรั่ง ( ถ้าใครเคยไปต่างประเทศ หรือ เห็นคลิปหมาต่างประเทศทางยุโรปต้องเรียกได้ว่าหมาที่ประเทศเหล่านั้นมีคุณภาพชีวิตและการศึกษาค่อนข้างดีมากๆกว่าที่คนๆนึงจะได้เลี้ยงหมาในบางประเทศต้องผ่านขั้นตอนเยอะมากรวมถึงการเสียภาษีอีกด้วยดังนั้น การฝึกหมา เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานหรือเรื่องธรรมดาที่บ้านเขาเลย... แต่บ้านเราก็เรียกได้ว่ายังใหม่มากๆอยู่ )

จริงๆเราสามารถซื้อหนังสือมาอ่านเองได้เลย
( มีแค่ภาษาอังกฤษนะ ) ชื่อ Life Skill For Puppy by Helen Zulch&Danials Mills เราสั่งอเมซอนเป็นไฟล์ pdf มา
ซึ่งพอเรียนไป 3 ครั้งเราต้องกักตัวพอดีมีเวลามากขึ้นเลย
ซื้อหนังสือมาอ่านด้วยเลยก็ต้องบอกว่ามีความเข้าใจลึกซึ้งขึ้นพอสมควรเลย

ใครที่เลี้ยงลูกหมาอยากฝึกสอนก็เป็นหนังสือแนะนำเลยทีเดียวแต่ส่วนตัวเราว่าถ้าไม่ไปเรียนนี่กว่าจะอ่านจบบุญล้นอาจโตก่อนมันเป็นการจ่ายเงินเพื่อซื้อเวลานั่นแหละ มีคนคิดให้ คนเตรียมบทเรียนให้เราหน้าที่เราคือไปเรียน กลับมาทำ และถามซึ่งมันดีกว่า

ตอนนี้เพราะมีโควิท
คอร์สนี้เหมือนมีการปรับราคาลงเพราะอาจต้องปรับมาเรียนออนไลน์ใครสนใจก็ลองไปดูนะ Happy Howl - Dog Behaviour and Boarding Servicesที่เราแชร์มาทั้งหมด
ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียนะจ้ะหาข้อมูลเอง จ่ายเงินเต็มเรียนเอง เลยมาเล่าให้ฟัง no spon

ใครอยากเห็นพัฒนาการหมาเรา

ขอฝากเพจ : https://www.facebook.com/boonlonthaidog/ ตามไปได้เลยนะ