
สิ้นสุดการรอคอย สำหรับกองทุนรวมเพื่อการออม ( Super Saving Fund : SFF) ที่กระทรวงการคลังส่งออกมาเพื่อเป็นตัวตายตัวแทน กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่หมดประโยชน์เรื่องสิทธิลดหย่อนภาษีภาษีไปเมื่อสิ้นปี 2562 ที่ผ่านมา
โดยสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ออกมาเปิดเผยอย่างเป็นทางการแล้วว่า ตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจะทยอยขาย SSF ออกมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมี SSF พิเศษ (SSFX) ออกมาขายคู่กัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดัน SSFX เข้ามาในระยะสั้นเพื่อหวังระดมทุนมากระตุ้นตลาดทุนในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
ทาง "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ได้รวบรวมข้อมูล ของ SSF และ SSFX ทั้งการเปรียบเทียบความแตกต่าง จำนวนบลจ.ที่ออก SSFX และแผนที่บลจ.จะออก SSF ในปีนี้

สำหรับ กองทุนรวมเพื่อการออมกองพิเศษ (SFFX) ขณะนี้มี บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 13 แห่ง ได้เริ่มนำกอง SSF ออกขายมาตั้งแต่ 1 เม.ย.63 เป็นต้นไป โดย บลจ.ไทยพาณิชย์ เป็นบลจ.ที่ออกกอง SSFX มามากที่สุดถึง 3 กอง ตามมาด้วย บลจ.กรุงไทย และบลจ.เอ็มเอฟซีที่ออกมาบริษัทละ 2 กอง ส่วนบลจ.อื่นๆ ออกมาเพียงบริษัทละ 1 กองทุน ขณะที่ บลจ.วรรณ จะออกมาช้ากว่าที่อื่นคือวันที่ 7 เมย.63
ขณะที่แผนการลงทุนของแต่ละกอง SSFX นั้น ทุกกองจะลงทุนในหุ้นไทยตั้งแต่ 65% ขึ้นไปตามนโยบาย โดยจะกระจายไปลงทุนทั้งหุ้นพื้นฐานแกร่ง หุ้นใน SET50 - SET100 รวมถึงกอง REIT - IFF และ หุ้นในกลุ่มขนาดกลาง - เล็ก ขณะที่สัดส่วนที่เหลือส่วนใหญ่จะลงทุนในตราสารหนี้ ตราสาร เงินฝากเป็นส่วนใหญ่
ขณะที่เงินลงทุนขั้นต่ำ ก็ดูจะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์จูงใจของแต่ละบลจ. โดยมีหลายกองที่ไม่กำหนดขั้นต่ำในการลงทุน หรืออาจจะใช้กลยุทธ์ทางจิตวิทยาโดยกำหนดขั้นต่ำที่ 1 บาท หรือจะเป็นแบบมาตรฐานทั่วไป เริ่มที่ 500 และใช้เงินต้นมากที่สุด 5,000 บาท

สำหรับแผนการออก SSF ปกติของแต่ละ บลจ.นั้น ในปีนี้ แต่ละบลจ.มีแผนจะออกกอง SSF ออกมารวมกันถึง 52 กอง ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด หรือ ASPS ประมินว่า ในไตรมาส 2/2563 ที่ SSF เริ่มซื้อขาย จะมีเม็ดเงินเข้ามาในหุ้นไทยถึง 2.6 หมื่นลบ.
ขณะที่หุ้นกลุ่มเป้าหมายของ SSF นั้น บล.ทรีนีตี้ ประเมินไว้ว่า จะมีอยู่ 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มโรงไฟฟ้า อย่าง BGRIM - GPSC- GULF - EGCO - RATCH 2. กลุ่มสื่อสาร ADVANC - INTUCH 3. กลุ่ม Consumer staple MAKRO - BJC 4. กลุ่มบริหารสินทรัพย์ BAM 5. กลุ่มอาหาร CPF - TU
อ่านบทความต้นฉบับได้ที่==>>
http://www.efinancethai.com/efinReview/efinReviewMain.aspx?release=y&name=er_202004021438
--------------------------
สำนักข่าว efinanceThai ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นได้ที่นี่
Website :
https://www.efinancethai.com
Facebook :
https://www.facebook.com/efinanceThaiTV/
Facebook :
https://www.facebook.com/efinanceThai/
lTwitter : @eFinanceThai
IG : @efinancethai_official
line : @efin
13 บลจ.ประเดิมขาย SSFX
สิ้นสุดการรอคอย สำหรับกองทุนรวมเพื่อการออม ( Super Saving Fund : SFF) ที่กระทรวงการคลังส่งออกมาเพื่อเป็นตัวตายตัวแทน กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่หมดประโยชน์เรื่องสิทธิลดหย่อนภาษีภาษีไปเมื่อสิ้นปี 2562 ที่ผ่านมา
โดยสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ออกมาเปิดเผยอย่างเป็นทางการแล้วว่า ตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจะทยอยขาย SSF ออกมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมี SSF พิเศษ (SSFX) ออกมาขายคู่กัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดัน SSFX เข้ามาในระยะสั้นเพื่อหวังระดมทุนมากระตุ้นตลาดทุนในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
ทาง "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ได้รวบรวมข้อมูล ของ SSF และ SSFX ทั้งการเปรียบเทียบความแตกต่าง จำนวนบลจ.ที่ออก SSFX และแผนที่บลจ.จะออก SSF ในปีนี้
สำหรับ กองทุนรวมเพื่อการออมกองพิเศษ (SFFX) ขณะนี้มี บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 13 แห่ง ได้เริ่มนำกอง SSF ออกขายมาตั้งแต่ 1 เม.ย.63 เป็นต้นไป โดย บลจ.ไทยพาณิชย์ เป็นบลจ.ที่ออกกอง SSFX มามากที่สุดถึง 3 กอง ตามมาด้วย บลจ.กรุงไทย และบลจ.เอ็มเอฟซีที่ออกมาบริษัทละ 2 กอง ส่วนบลจ.อื่นๆ ออกมาเพียงบริษัทละ 1 กองทุน ขณะที่ บลจ.วรรณ จะออกมาช้ากว่าที่อื่นคือวันที่ 7 เมย.63
ขณะที่แผนการลงทุนของแต่ละกอง SSFX นั้น ทุกกองจะลงทุนในหุ้นไทยตั้งแต่ 65% ขึ้นไปตามนโยบาย โดยจะกระจายไปลงทุนทั้งหุ้นพื้นฐานแกร่ง หุ้นใน SET50 - SET100 รวมถึงกอง REIT - IFF และ หุ้นในกลุ่มขนาดกลาง - เล็ก ขณะที่สัดส่วนที่เหลือส่วนใหญ่จะลงทุนในตราสารหนี้ ตราสาร เงินฝากเป็นส่วนใหญ่
ขณะที่เงินลงทุนขั้นต่ำ ก็ดูจะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์จูงใจของแต่ละบลจ. โดยมีหลายกองที่ไม่กำหนดขั้นต่ำในการลงทุน หรืออาจจะใช้กลยุทธ์ทางจิตวิทยาโดยกำหนดขั้นต่ำที่ 1 บาท หรือจะเป็นแบบมาตรฐานทั่วไป เริ่มที่ 500 และใช้เงินต้นมากที่สุด 5,000 บาท
สำหรับแผนการออก SSF ปกติของแต่ละ บลจ.นั้น ในปีนี้ แต่ละบลจ.มีแผนจะออกกอง SSF ออกมารวมกันถึง 52 กอง ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด หรือ ASPS ประมินว่า ในไตรมาส 2/2563 ที่ SSF เริ่มซื้อขาย จะมีเม็ดเงินเข้ามาในหุ้นไทยถึง 2.6 หมื่นลบ.
ขณะที่หุ้นกลุ่มเป้าหมายของ SSF นั้น บล.ทรีนีตี้ ประเมินไว้ว่า จะมีอยู่ 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มโรงไฟฟ้า อย่าง BGRIM - GPSC- GULF - EGCO - RATCH 2. กลุ่มสื่อสาร ADVANC - INTUCH 3. กลุ่ม Consumer staple MAKRO - BJC 4. กลุ่มบริหารสินทรัพย์ BAM 5. กลุ่มอาหาร CPF - TU
อ่านบทความต้นฉบับได้ที่==>> http://www.efinancethai.com/efinReview/efinReviewMain.aspx?release=y&name=er_202004021438
--------------------------
สำนักข่าว efinanceThai ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นได้ที่นี่
Website : https://www.efinancethai.com
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThaiTV/
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThai/
lTwitter : @eFinanceThai
IG : @efinancethai_official
line : @efin