ได้เวลาจัดทำนโยบาย กลยุทธ์ สำหรับการเลือกตั้งสมัยหน้าได้แล้วนะ พรรคการเมืองทั้งหลาย

MOU ก็เซ็นต์ มาแล้ว MOA ก็เพิ่งลงนามกันไป ตอนนี้สถานการณ์การเมืองที่ไม่ควรมาอยู่จุดตรงนี้ ไม่ใช่เงื่อนไขแค่ ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ อาจจะไม่ทันได้แก้ด้วยซ้ำ เพราะพรรคการเมืองอื่นๆ ​เขาไม่เห็นความจำเป็

ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาก้าวไกลชนะการเลือกตั้งแต่ถือทิฐิว่า นโยบายแก้ไข ม.112 อย่างไรก็ต้องแม้ทุกพรรคการเมืองขอร้อง หากยอมข้อนี้จะยินยอมให้เป็นรัฐบาลเข้ารวมจัดด้วย แต่เขาดื้อไม่ยอมเลยตกเป็นฝ่ายค้านไป ร

เพื่อไทย ไม่เปิดตัวแคนดิเดตนายก เพราะ ดีลไม่ลงตัว คลองเปรมกลัวไม่ได้ออกจากคุก พาน ไม่รับ เขยชินวัตร เตรียมปฏิเสธ กำลังลงต่อรองกันอยู่ ไม่กล้าให้ อัศวเหม เป็นแคนดิเดต ต้องรอก่อนเลือกตั้ง เพื่อนๆ คิด

เปลี่ยนจากหัวหน้ามาเป็นลูกน้องและปรับแผนการเลือกตั้ง นอกจากจะให้ได้ฐานเสียงและจำนวนส.ส.เพิ่มมากขึ้น มันมีประโยชน์อะไรเพิ่มเติมอีกไหมครับ? ขอบคุณทุกความคิดเห็นล่วงหน้าครับ

1. ด้านโกงกินใครมากกว่ากัน 2. ด้านขายชาติใครมากกว่ากัน 3. แนวคิดใครเป็นภัยต่อประเทศมากกว่า 4. ภาพรวมอันไหนแย่มากกว่า

ฝ่ายค้าน ก็จะตบจูบ ฝ่ายรัฐบาลก็เพียงแต่ อ้าแขนโอบกอดหา ส.ส ดพิ่ม เราจะเป็นผู้มีสิทธิ์ให้ไปเลือกตั้ง และก็รอความหวังว่า จะได้รับแจกเงินหมื่น จะได้รับสิทธิ์ใช้จ่ายคนละครึ่ง สานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แ

กลยุทธ์การหาเสียงเลือกตั้ง  ระหว่างนำเสนอนโยบาย vs โจมตีนโยบายคู่แข่ง อย่างไหนได้คะแนนเสียงมากกว่ากัน  เพราะช่วงใกล้โค้งสุดท้าย เห็นบางพรรคโจมตีนโยบายคู่แข่งอย่างเดียว  หรือว่าการโจมต

ปัญหาความแตกแยกของพรรคการเมืองใหญ่ การแย่งชิงการครองอำนาจรัฐ คือการชนะการเลือกตั้งเพื่อจะได้จัดตั้งรัฐบาล การไม่ยอมแพ้การเลือกตั้ง การไม่อยากเป็นฝ่ายค้านอยากจะเป็นแต่รัฐบาล ผมอยากจะเสนอทางออกให้ลองพิจ