เที่ยววิถีชุมชนปากพูน นครศรีธรรมราช ตามสไตล์นักศึกษา !!!
........สวัสดีครับ ... สมาชิกชาวพันทิปทุกคน วันนี้จะขอมารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวนิดนึง เห็นว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ 
ที่มีกิจกรรมน่าสนใจเยอะดี บวกกับท่องเที่ยววิถีชุมชนกำลังมาแรงด้วย เลยอยากจะเอามาเล่าสู่กันฟัง
เผื่อสถานการณ์ Covid-19 มันจะดีแล้ว เพื่อนๆจะได้มีข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้ออกไปเที่ยวไปสนุกกัน
เหมือนๆกับพวกผม ที่ไปกันมาแล้ว สนุกมากๆ
...... ขอออกตัวก่อนเลยนะ พวกผมเป็นนักศึกษาครับ ฮันแน.... ใช่ครับนักศึกษา ยังขอเงินพ่อแม่อยู่เลย 
แต่ก็ใจมันอยากท่องเที่ยวอ่ะเนอะ ก่อนไปเที่ยวพวกเราก็วางแผนกันครับ ว่าจะพยายามเอาให้กระทบการเงินที่บ้าน
ให้หน่อยนิดที่สุด เลยไปหางานทำเล็กๆ ตามกำลังที่นักศึกษาอย่างเราๆจะได้ ก็พาร์ทไทม์ทั่วไปแหละครับ จากนั้นพอมีเงิน
พวกเราก็รวมตัวกัน ได้ทั้งหมด 12 คนครับ โดยแรกเริ่มเราก็มาวางแผนกันว่าจะไปที่ไหนดี 
ที่งบประมาณต่อคน ห้ามเกิน 1,500 บาท เอาแบบ ไปค้างคืน 1 คืน แล้วเที่ยวได้ 2 วัน นี่แหละ เพราะผมกะว่า
จะเดินทางวันศุกร์ แล้ววันอาทิตย์ก็ต้องกลับมาเรียนกันที่มหาวิทยาลัยกันต่อครับ
อ้อ !!! ลืมบอกไปครับ พวกผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ครับ ดังนั้นไปไหนไกลไม่ได้หรอก
ไม่งั้นจะกระทบการเรียนอ่ะนะ 
.... เมื่อได้เงินกันมาคนละ 1,500 บาท จนครบ ก็พยายามหาสถานที่ท่องเที่ยวมานำเสนอกันครับ เลยเลือกที่หนึ่ง
ซึ่งยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงชุมชนที่พึ่งเปิดใหม่เมื่อปี 2562 นี้เอง ที่นี่ครับ " ท่องเที่ยวชุมชนปากพูน"
 ตั้งอยู่ที่ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ครับผม
... พวกเราทั้ง 12 คน ออกเดินทางจากหาดใหญ่ ประมาณเที่ยงๆของวันศุกร์ (ช่วง 09.00 เรียนก่อน ช่วงบ่ายไม่มีเรียนค่อยเดินทาง)
เมื่อเรียนเสร็จปุ๊บ พวกเราก็ออกเดินทางกัน สะดวกหน่อยที่เพื่อนในกลุ่มของเรา มีรถยนต์ 2 คน ครับ ก็เลยหารค่าน้ำมันกัน 
เฉลี่ยๆ ค่าน้ำไป-กลับก็คนละ 200 บาท ครับ (ถ้านั่งรถตู้ไปจากหาดใหญ่ ไปกลับก็ 360 บาท) พวกเราออกเดินทางจาก อ.หาดใหญ่
จ.สงขลา ผ่าน จ.พัทลุง เวลาดื่มกาแฟ แวะปั๊มน้ำมันนิดหน่อย จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ จ.นครศรีธรรมราช โดยด่วน เพราะกลัวจะมืด
สงสารเพื่อนคนที่ขับรถครับ ไม่อยากให้ขับรถในยามวิกาล กลัวอันตรายด้วย เราไปถึงที่เมืองนคร ราว 15.40 น. รวมแล้ว
ใช้เวลาในการเดินทาง จาก หาดใหญ่ ไป นคร ก็ราวๆ 3 ชั่วโมงนิดๆ ไปถึงพวกเราก็เข้าพักที่โรงแรมที่พวกเราได้ทำการจองไว้ครับ
ช่วงนั้นมีโปรโมชั่นพอดีเลย เฉลี่ยนค่าที่พัก 1คืน ของพวกเราราวๆ คนละ 280 บาท / คน / คืน เมื่อนำของใช้เข้าที่พักกันแล้ว 
พวกเราก็ออกเดินเที่ยวกันเลย จะไปหาของกินด้วย หิวครับ
... สถานที่ท่องเที่ยวที่แรกเลยที่เราไป คือ อนุสาวรีย์วีรไทย หรือ ที่คนนครเขาเรียกกันว่า พ่อจ่าดำ 
สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ใน ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 ครับ พวกเราเดินทางเข้าไปทางฝั่งประตูทิศเหนือ (ฝั่งท่าแพ)
ต้องทำการแลกบัตรเข้ากองทัพภาคที่ 4 นิดนึง เพื่อความปลอดภัยครับ  ที่นี่มีเรื่องราวของนักรบไทย และ นักรบของญี่ปุ่น
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้ชมเยอะเลย ที่ต.ปากพูนแห่งนี้ เคยเป็นสมรภูมิรบมาก่อนครับ ได้ความรู้เยอะเลย 
แต่เดินดูแล้วแอบขนลุกเบาๆ เพราะว่าคิดว่าสมัยก่อนสงครามนี่จะฆ่าฟันกันเยอะขนาดนี้ ที่นี่มีรายชื่อของผู้เสียชีวิตแสดงให้เห็นอยู่เยอะเลย
สงครามนี่มันไม่ดีเลยเนอะ รักกัน ปรองดองกันดีกว่าเยอะ 


คนนี้สวยไม่ไหวแล้วววววววววว 5555+

หลังจากนั้น ช่วงกลางคืน แอบหิวครับ ทุกคนแอบบ่นว่าหิวกันเพราะตั้งแต่ออกมาจากหาดใหญ่ กินแค่ข้าวมื้อเที่ยงที่โรงอาหาร
ที่มหาวิทยาลัยกันนิดๆหน่อยๆเท่านั้นแหละ ... เลยตั้งเป้าหมายกันว่าจะหาอะไรกินเสียหน่อย ... สมาชิกในกลุ่มเลยปิ๊งไอเดียว่า
หาอะไรที่มีที่นคร แต่หาดใหญ่ไม่มีกันดีกว่า ก็เลยนึกถึงร้านโรตีครับ ซึ่งที่ปากพูนเนี๊ยะ ก็มีร้านโรตีป้าหนอมด้วย ไม่รอช้าจ้า .. จัดกันเลย
อร่อยหลายเมนู มีโรตีหลากรูปแบบเลยครับ แปลกๆ ประหลาดๆ แล้วก็ไม่เหมือนกับที่หาดใหญ่เลย ฟินเลย 55555+

โรตีแผ่นใหญ่กว่าหน้าเพื่อนผมอีก .... ดูดิ นมเยิ้มๆ อร่อยมากกกกกกกกกกกกกก มีโรตีโดนัทด้วย น่ารักตะมุตะมิ ไม่เคยกินมาก่อนเลย

เครื่องดื่มที่นี่รสชาติไม่แย่นะ ราคาก็ราว 15- 40 ราคาประมาณนี้ นักศึกษาแบบเราๆทานได้ เอิ้อมถึงครับ 

อันนี้ภาพบางส่วนนะ ... เพราะว่าเอาจริงเต็มโต๊ะ !!! 5555



ทานเสร็จเราก็เข้าที่พักกันครับ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางตั้งแต่ 05.30 น. พวกเราจะไปดูแสงแรกของพระอาทิตย์ ที่บนสะพานท่าแพ กันครับ
เค้าเล่ากันว่า สะพานที่นั่นถ่ายภาพสวยมากกกกกกกกกกกก .. และเคยเป็นสมรภูมิรบในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยครับ 
.
.
.
เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ