เราเป็นคนนิสัยกระด้างมากค่ะ พูดจาขวานผ่าซาก ขวางโลก ชอบมองเห็นข้อเสียของคนอื่น
แล้วที่สำคัญเราชอบแก้แค้นทางคำพูดมาก เราคิดก่อนพูดทุกครั้งว่าเราต้องพูดแบบไหน ใช้คำว่าอะไรคนฟังถึงจะเจ็บใจมากที่สุดซึ่งวันนี้เราก็ทำแบบเดิม
เนื่องจากสถานการ Covid-19 ในปัจจุบันทำให้เราได้มีโอกาส Work at home
ซึ่งปกติเราอยู่หอแต่สัญญาณเน็ตมันแย่ แล้วเราจำเป็นต้องต่อสายแลนเพื่อเชื่อต่อ vpn กับ network บริษัท
ทำให้เราตัดสินใจไปอยู่ที่บ้านป้าเนื่องจากสะดวกทั้งเรื่องงาน แล้วก็อาหารการกินพร้อมเพราะป้ากักตุนไว้แล้ว
เนื่องจากบริษัทเราเป็นบริษัทใหญ่ทำให้ขั้นตอนการใช้งาน vpn ขอ firewall มันมีปัญหามากอีกทั้งยังต้อง setup หลาย ๆ อย่าง
ทำให้เราต้องประชุม conference บ่อย แล้วเวลาที่เราประชุมป้าเราก็จะชอบถามคำถามแบบไม่ค่อยมีสาระกับเรา interrupt เราบ่อยมาก
วันนี้เราเลยตัดสินใจย้ายไปห้องเงียบ ๆ ตอนประชุมก็ยังโดนป้าเคาะประตูเรียก แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร
จนตอนเย็นนั่งกินข้าวเสร็จก็คุยกันขิงข่า แล้วป้าก็พูดเรื่องว่าเราใช้น้ำเสียงไม่ค่อยดีเวลาเค้าคุยด้วย
เราเริ่มหงุดหงิดหน่อย ๆ เพราะเค้าเองก็ใช้น้ำเสียงไม่ดีกับเราเหมือนกัน เราเลยพูดไปว่า "ที่หนูไม่ค่อยตอบ หรือตอบเสียงไม่ค่อยดี เพราะเรื่องที่ป้าพูด มันไร้สาระ"
ใช่ค่ะคิดแล้วว่าคำนี้มันแรง และเราก็ยังตั้งใจพูดออกไป ป้าเราชะงักไปแล้วพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะว่า งั้นก็กลับไปทำห้องตัวเองสิ และลุกไปเก็บจาน
แต่เราเห็นสีหน้าและแววตาของป้าเราก็รู้เลยค่ะว่าท่านร้องไห้ เราเดินตามไปล้างจานท่านก็หันหลังให้ เราจึงเข้าไปขอโทษแล้วก็กอด
ป้าก็ไม่พูดอะไรแล้วเข้าไปร้องไห้ในห้องน้ำ
ตอนนั้นเรารู้สึกแย่มากและก็เกลียดตัวเองมากเราเลยพิมพ์ไลน์ไปขอโทษแล้วก็ลากลับหอเพราะเรารู้สึกผิดมากจริง ๆ แต่ป้าไม่ได้อ่านไลน์
พอเก็บของเสร็จก็เจอป้านั่งอยู่หน้าบ้าน เราไหว้แล้วก็จะออกจากบ้าน ป้าก็บอกว่าไม่ต้องไปหรอกป้าหายโกรธแล้ว และป้าก็ร้องไห้อีก
ป้าบอกว่าแค่มาขอโทษก็หายโกรธแล้ว เค้าแค่น้อยใจว่าทำไมเราถึงพูดแรงขนาดนั้น ที่เค้าคอยถามเพราะเค้าแค่อยากชวนคุย
เห็นเรานั่งทำงานคนเดียวเครียด ๆ วันนี้ที่เคาะห้องเพราะเห็นยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าเค้าแค่หวังดี
เค้ารู้ว่าเราอาจชินเวลาคุยกับเพื่อน เลยอาจเผลอพูดไม่ดีกับเค้า แล้วเค้าก็บอกว่าทำไมมีอะไรไม่ชอบบอกถ้าประชุมอยู่ก็บอกสิชอบเก็บอะไรไว้คนเดียวเสมอตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว(สมัยเรียนเราก็อยู่กับป้าเพราะบ้านใกล้มอ)
แล้วก็บอกให้เราเอาของเข้าบ้าน เราตัวแข็งอ่ะมันรู้สึกผิดยิ่งไปใหญ่ เราเลยพูดว่าเราไม่ต้องใช้เน็ตที่บ้านแล้วเราหาวิธีทำงานได้แล้ว
ป้าก็บอกว่ารู้ว่าทำงานได้ดูแลตัวเองได้ แล้วก็ภูมิใจมาก แต่อย่าไปเลยอยู่หอมันลำบากกว่าเสี่ยงกว่า อยู่นี่เถอะ
สุดท้ายเราก็กลับเข้าบ้านค่ะแต่รู้สึกผิดไม่หายในใจมันหนักอึ้งมากร้องไห้ตั้งแต่หกโมงจนตอนที่พิมพ์อยู่นี้ก็ยังไม่หยุด
เราเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นคนแย่ ๆ แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เราเกลียดตัวเอง เลยอยากทำให้คนอื่นรู้สึกแบบเราโดยใช้คำพูดที่ร้ายกาจ
แต่สุดท้ายก็เป็นตัวเราเองที่เสียใจกับการกระทำเหล่านี้ เรารู้ทุกอย่างว่าเราเห็นแก่ตัวเองมากไป ชอบเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่และทิฐิสูง
เราเห็นข้อเสียของตัวเองมากมายแต่ไม่รู้จะแก้สิ่งเหล่านี้ยังไง วันนี้เราพูดแรง ๆ กับคนที่เราแคร์เราเลยมาย้อนเสียใจ แต่ถ้าเราพูดกับคนที่ไม่แคร์เราคงไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว แต่คนเหล่านั้นยังต้องติดอยู่กับคำพูดของเราต่อไป
เพื่อน ๆ คิดว่าเราควรแก้นิสัยเลวร้ายแบบนี้ยังไงดีคะ หรือควรพบจิตแพทย์ไหม?
แล้วเพื่อน ๆ เคยทำสิ่งที่คิกว่าเลวร้ายไหมคะ?
มีใครเคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเลวร้ายมั่งไหมคะ?
แล้วที่สำคัญเราชอบแก้แค้นทางคำพูดมาก เราคิดก่อนพูดทุกครั้งว่าเราต้องพูดแบบไหน ใช้คำว่าอะไรคนฟังถึงจะเจ็บใจมากที่สุดซึ่งวันนี้เราก็ทำแบบเดิม
เนื่องจากสถานการ Covid-19 ในปัจจุบันทำให้เราได้มีโอกาส Work at home
ซึ่งปกติเราอยู่หอแต่สัญญาณเน็ตมันแย่ แล้วเราจำเป็นต้องต่อสายแลนเพื่อเชื่อต่อ vpn กับ network บริษัท
ทำให้เราตัดสินใจไปอยู่ที่บ้านป้าเนื่องจากสะดวกทั้งเรื่องงาน แล้วก็อาหารการกินพร้อมเพราะป้ากักตุนไว้แล้ว
เนื่องจากบริษัทเราเป็นบริษัทใหญ่ทำให้ขั้นตอนการใช้งาน vpn ขอ firewall มันมีปัญหามากอีกทั้งยังต้อง setup หลาย ๆ อย่าง
ทำให้เราต้องประชุม conference บ่อย แล้วเวลาที่เราประชุมป้าเราก็จะชอบถามคำถามแบบไม่ค่อยมีสาระกับเรา interrupt เราบ่อยมาก
วันนี้เราเลยตัดสินใจย้ายไปห้องเงียบ ๆ ตอนประชุมก็ยังโดนป้าเคาะประตูเรียก แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร
จนตอนเย็นนั่งกินข้าวเสร็จก็คุยกันขิงข่า แล้วป้าก็พูดเรื่องว่าเราใช้น้ำเสียงไม่ค่อยดีเวลาเค้าคุยด้วย
เราเริ่มหงุดหงิดหน่อย ๆ เพราะเค้าเองก็ใช้น้ำเสียงไม่ดีกับเราเหมือนกัน เราเลยพูดไปว่า "ที่หนูไม่ค่อยตอบ หรือตอบเสียงไม่ค่อยดี เพราะเรื่องที่ป้าพูด มันไร้สาระ"
ใช่ค่ะคิดแล้วว่าคำนี้มันแรง และเราก็ยังตั้งใจพูดออกไป ป้าเราชะงักไปแล้วพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะว่า งั้นก็กลับไปทำห้องตัวเองสิ และลุกไปเก็บจาน
แต่เราเห็นสีหน้าและแววตาของป้าเราก็รู้เลยค่ะว่าท่านร้องไห้ เราเดินตามไปล้างจานท่านก็หันหลังให้ เราจึงเข้าไปขอโทษแล้วก็กอด
ป้าก็ไม่พูดอะไรแล้วเข้าไปร้องไห้ในห้องน้ำ
ตอนนั้นเรารู้สึกแย่มากและก็เกลียดตัวเองมากเราเลยพิมพ์ไลน์ไปขอโทษแล้วก็ลากลับหอเพราะเรารู้สึกผิดมากจริง ๆ แต่ป้าไม่ได้อ่านไลน์
พอเก็บของเสร็จก็เจอป้านั่งอยู่หน้าบ้าน เราไหว้แล้วก็จะออกจากบ้าน ป้าก็บอกว่าไม่ต้องไปหรอกป้าหายโกรธแล้ว และป้าก็ร้องไห้อีก
ป้าบอกว่าแค่มาขอโทษก็หายโกรธแล้ว เค้าแค่น้อยใจว่าทำไมเราถึงพูดแรงขนาดนั้น ที่เค้าคอยถามเพราะเค้าแค่อยากชวนคุย
เห็นเรานั่งทำงานคนเดียวเครียด ๆ วันนี้ที่เคาะห้องเพราะเห็นยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าเค้าแค่หวังดี
เค้ารู้ว่าเราอาจชินเวลาคุยกับเพื่อน เลยอาจเผลอพูดไม่ดีกับเค้า แล้วเค้าก็บอกว่าทำไมมีอะไรไม่ชอบบอกถ้าประชุมอยู่ก็บอกสิชอบเก็บอะไรไว้คนเดียวเสมอตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว(สมัยเรียนเราก็อยู่กับป้าเพราะบ้านใกล้มอ)
แล้วก็บอกให้เราเอาของเข้าบ้าน เราตัวแข็งอ่ะมันรู้สึกผิดยิ่งไปใหญ่ เราเลยพูดว่าเราไม่ต้องใช้เน็ตที่บ้านแล้วเราหาวิธีทำงานได้แล้ว
ป้าก็บอกว่ารู้ว่าทำงานได้ดูแลตัวเองได้ แล้วก็ภูมิใจมาก แต่อย่าไปเลยอยู่หอมันลำบากกว่าเสี่ยงกว่า อยู่นี่เถอะ
สุดท้ายเราก็กลับเข้าบ้านค่ะแต่รู้สึกผิดไม่หายในใจมันหนักอึ้งมากร้องไห้ตั้งแต่หกโมงจนตอนที่พิมพ์อยู่นี้ก็ยังไม่หยุด
เราเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นคนแย่ ๆ แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เราเกลียดตัวเอง เลยอยากทำให้คนอื่นรู้สึกแบบเราโดยใช้คำพูดที่ร้ายกาจ
แต่สุดท้ายก็เป็นตัวเราเองที่เสียใจกับการกระทำเหล่านี้ เรารู้ทุกอย่างว่าเราเห็นแก่ตัวเองมากไป ชอบเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่และทิฐิสูง
เราเห็นข้อเสียของตัวเองมากมายแต่ไม่รู้จะแก้สิ่งเหล่านี้ยังไง วันนี้เราพูดแรง ๆ กับคนที่เราแคร์เราเลยมาย้อนเสียใจ แต่ถ้าเราพูดกับคนที่ไม่แคร์เราคงไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว แต่คนเหล่านั้นยังต้องติดอยู่กับคำพูดของเราต่อไป
เพื่อน ๆ คิดว่าเราควรแก้นิสัยเลวร้ายแบบนี้ยังไงดีคะ หรือควรพบจิตแพทย์ไหม?
แล้วเพื่อน ๆ เคยทำสิ่งที่คิกว่าเลวร้ายไหมคะ?