[SR] รีวิว SkullCandy Push หูฟัง TWS เบสแน่น ใส่กระชับ พร้อมกันน้ำ IPX4


 
SkullCandy จริงๆตัวแบรนด์นี้นั้นค่อนข้างเป็นแบรนด์ ยอดนิยมจากสหรัฐอเมริกาก่อตั้งกันตอน 2003 ครับแนวคิดจากหูฟังที่ต้องเข้ากับ Lifestyle ด้วย ทั้งดีไซน์ และการใช้งานเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างเติบโตเรื่อยๆและมีขายทั่วโลกกันแล้วแน่นอนว่า แบรนด์รูปหัวกะโหลกนั้นหลายๆคนรู้จักกันดีครับ หูฟังที่ทางค่ายนี้ทำออกมานั้นมีมากมายหลากหลายเยอะมาก ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้าก็ว่าได้ทั้ง หูฟังทั่วไป หูแบบ TrueWireless มีหลากหลายเรทราคาเลยนะตั้งแต่ 2 พันกว่าบาทไปจนถึง 5พันกว่าแน่นอนว่าการรองรับฟีเจอร์อะไรนั้นย่อมแตกต่างกันครับ และในครั้งนี้เรามาอยู่กับ TWS รุ่นเทพของค่ายที่มาพร้อมดีไซน์ สีสันแปลกใหม่คือเจ้า Skullcandy Push นั้นเองที่มาพร้อมกับ การกันน้ำ กันเหงื่อรองรับ IPX4 และเสียงเน้นๆด้วย ด้วยไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 9.2 มม รวมถึง ใช้ได้ต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมงเลย
 

 

 
ทางด้านหูฟัง TrueWireless SKULLCANDY PUSH นั้นเป็น หูฟังที่ต้องบอกว่าน่าสนใจครับมาพร้อมกับ ฟีเจอร์เสียงอะไรที่ดีในงบไม่แรงมากนัก รองรับการกันน้ำ กันเหงื่อได้ IPX4  รวมถึงมาพร้อมกับ ไดรเวอร์ขนาด 9.2 มม  รองรับคลื่นความถี่ที่ 20Hz – 20KHz Sound Pressure Level ที่ 100 +/-3dB (1mW/500Hz) THD ที่ <3% at 1KHz ความต้านทานที่ 16 Ohms  พร้อมกับการใช้งานยาวนาน 6 ชั่วโมงและชาร์จได้สูงสุด 12 ชั่วโมง และที่สำคัญคือ น้ำหนักรวมที่เบาเพียง 54.2 กรัม ใส่ออกกำลังสบาย และแนวเสียงของค่ายนี้ที่ต้องบอกว่าเบสแน่นสะใจครับ และ ใช้งาน USB TYPE C ด้วย รวมถึงมีจุกยางแบบ Secure FitFin™ Gels ใส่แน่นมากและไม่อึดอัด
 

 

 
SKULLCANDY PUSH นั้นเปิดราคามาที่ 5,500 บาท มาพร้อม 4 สีมาตรฐาน Psycho Tropical Teal, Dark Gray, Indigo Blue และ Gray Day รับประกัน 1 ปี
 

 

 
UNBOX
 
ตัวกล่องในรุ่นนี้ไม่ค่อยมีอะไรมากครับแต่การออกแบบนั้นยังแอบไม่ชอบตรงที่เมื่อเปิดแล้วมันจะเป็นรายฉีกตามรอยปรุเลย คือไม่สามารถเก็บได้แบบเดิมครับจริงๆทำแบบพับหรืออะไรไปแบบปกติจะดีกว่า ส่วนอุปกรณ์ในกล่องนั้นต้องบอกว่ามีให้เพียงพอ ทั้งตัวสาย ตัวคู่มือ และ จุกหูฟังอีก 2 ขนาดครับ ส่วนตัวเคสตัวหูฟังก็ใส่มาให้เรียบร้อย
 

 
DESIGN
 
งานออกแบบค่ายนี้ก็ถือว่ายังคงเป็นแนวทางของตัวเองอยู่ทั้งเรื่องของการออกแบบดีไซน์ การเลือกใช้สีสันครับแต่ที่ยังขอบ่นนิดนึงคงเป็นเรื่องการเลือกใช้วัสดุที่มันดูไม่พรีเมี่ยมไม่แพงเท่าไร เป็นรอยได้ง่ายพวกนี้และรู้สึกถึงความเป็นพลาสติกมากเกินไปในหลายๆรุ่นของแบรนด์นี้ครับ อันนี้อาจจะต้องปรับกันไปสำหรับแบรนด์นี้ ส่วนงานออกแบบภาพรวมก็เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองไม่ค่อยเหมือนใครเท่าไรนัก และแน่นอนว่า โทนสีเขียวในภาพนั้นก็แปลกตาพอสมควร
 

 

 
มากันที่ตัวหูฟังกันก่อนเลยครับหูฟังนั้นมาพร้อมกับ รูปทรงวงรีปกติเลยมีขนาดกลางๆไม่เล็กไม่ใหญ่เป็นวัสดุแบบพลาสติกทั้งหมดรวมถึง ตัวปุ่มต่างๆก็เห็นได้ชัดเจนไม่ใช่ระบบสัมผัสอะไรครับ และมีโลโก้แบรนด์รวมถึงไฟสถานะมาให้เรียบร้อย ทางด้านสีก็มีพื้นผิวเล่นสีอะไรสวยงามเป็นพลาสติกทั้งหมด ส่วนด้านในนั้นจะเป็นจุกหูฟังและแถบแม่เหล็กทั้งหมดที่จะชาร์จและ จะเห็นว่าตัวแง่งSecure FitFin™ Gels ก็จะล็อคให้มีความแน่นหนามากขึ้นกว่าเดิม
 

 

 
ตัวไฟสถานะจะอยู่ข้างล่างของตัวหูฟังพร้อมกับกระพริบตามการเชื่อมต่อครับว่าได้หรือไม่ได้ แต่รูไมค์นั้นจะมีแค่ฝั่งเดียวนะครับสำหรับการคุยต่างๆ ส่วนขนาดความหนาอะไรของมันทำออกมาได้กำลังดีไม่หนาไม่หนักเกินไป ใส่ออกกำลังได้สบายครับ และยังคงล็อคได้แน่นหนามากๆรวมถึงไม่ได้อึดอัดเท่าไรเลย ถือว่าเป็นการออกแบบที่ทำได้ดีเลย
 

 

 
ตัวเคสเป็นรูปทรงแคปซูมครับแต่มีความสูงพอสมควรในการพกพานั้นอาจจะไม่ได้เล็กมากครับแต่ก็เน้นเรื่องของความเบามาแทน เป็นวัสดุพลาสติกทั้งหมด ด้านบนจะเป็นฝาพร้อมโลโก้ เล่นสีเดียวกับตัวหูฟังแต่ตรงตัวฐานนั้นจะเป็นพลาสติกดำด้านพร้อมเล่นสีดำเงาตรง ไฟสถานะ และปุ่มเช็คสถานะเป็นแถบนิดหน่อยครับ ความรู้สึกโดยรวมนั้นไม่ได้พรีเมี่ยมเท่าที่ควรและอาจจะเป็นรอยได้ง่ายเวลาใช้งานต้องระวังกันนิดหน่อยสำหรับตัวฐานสีดำทั้งหมดครับ ตัวฝานั้นเมื่อเปิดจะต้องกดปุ่มตรงข้างหน้าก่อนถึงจะเปิดฝาได้ครับ และ ตัวเคสมีแม่เหล็กดูดหูฟัง ใส่ได้ง่ายสะดวกครับ
 

 

 
ตัวเคสทางด้านหลังไม่มีอะไรมากครับบอกชื่อรุ่น และรหัสเลขปกติ ส่วนพอร์ตชาร์จนั้นจะให้มาที่ด้านขวาของตัวเคสพร้อมกับใช้งาน USB-C แต่ก็น่าเสียว่ายังไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย และตัวเคสนั้นชาร์จได้แค่ 1 รอบเท่านั้น และไม่มีระบบชาร์จไวอะไรใส่เข้ามาแม้จะใช้งาน USB-C เป็นจุดหลักๆที่น่าเสียดายสำหรับตัวเคสอันนี้เลยครับ
 

 
SPEC
 
    - Weight: 54.2g
    - Connection Type: Bluetooth® 4.2
    - Impedance: 16 Ohms
    - Driver Diameter: 9.2mm
    - THD: <3% at 1KHz
    - Sound Pressure Level: 100 +/-3dB (1mW/500Hz)
    - Frequency Response: 20Hz – 20KHz
    - Headphone Type: True Wireless In-Ear
    - อายุการใช้งาน 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
    - เคสชาร์จได้สูงสุด 1 ครั้ง ใช้งานได้ 12 ชั่วโมง
    - USB-C
    - รองรับการกันน้ำ กันเหงื่อ IPX4
    - รองรับ Google Assistant
 

 
FEATURE
 
ในการควบคุมสั่งงานต่างๆแน่นอนว่าในรุ่นนี้นั้นจะไม่ได้มีแอปอะไรมาให้ครับจะเป็นการใช้งานทั่วไปสั่งงานผ่านตัวหูฟังทั้งหมดเลยนั้นเองแน่นอนว่ารองรับทั้งเพิ่มลดเสียงได้ หรือจะเป็นคำสั่งเสียงก็รองรับครับถือว่าครอบคลุมการใช้งานทั้งหมดเพราะหลายๆรุ่นจะเพิ่ม ลดเสียงไม่ได้แล้วทางเราก็บ่นกันไปหลากหลายตัว แต่รุ่นนี้ทำได้ถือว่าน่าพอใจ การควบคุมทั้งหมดจะรองรับการใช้งาน ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาครับ เป็นปุ่มกดทั้งหมดนะไม่ใช่ระบบสัมผัสครับ
 
    - หูฟังข้างซ้าย กดค้าง 2 วิ ย้อนกลับเพลง
    - หูฟังข้างซ้าย กด 2 ครั้ง ลดเสียง
    - หูฟังข้างซ้าย กด 3 ครั้ง Google Assistant
    - หูฟังข้างขวา กดค้าง 2 วิ เพลงถัดไป
    - หูฟังข้างขวา กด 2 ครั้ง เพิ่มเสียง
    - ได้ทั้ง 2 ข้าง 1 ครั้ง รับสาย วางสาย
    - ได้ทั้ง 2 ข้าง 1 ครั้ง เล่น หรือ หยุดเพลง
    - ได้ทั้ง 2 ข้าง กดค้าง 3-4 วิ ปิดหูฟัง
    - เปิดหูฟัง กดค้างไว้ 2 ข้าง จนได้ยิน Power On
 
    เข้า Pairing mode โดยไม่เก็บเข้ากล่อง สามารถทำได้โดย กดปิด 1 ครั้ง จากนั้น กดปุ่มบนหูฟังพร้อมกันค้างจนได้ยินเสียง Power On จากหูทั้งสองข้าง ปล่อยมือจากปุ่มที่หูขวา แต่ยังคงกดค้างที่หูซ้ายเอาไว้สักครู่จะได้ยินเสียง”บิ๊บ” จึงปล่อยมือ แล้วเปิดบลูทูธที่มือถือ เพื่อเชื่อมต่อหูฟัง Push
 

 
SOUND
 
เรื่องของเสียงนั้นต้องบอกว่าทำออกมายังคงแนวเสียงเอกลักษณ์ของ Skullcandy ได้ดีมากๆ คือเบสเด่นสะใจและฟังสนุกเป็นแนวเสียงที่เราเจอได้ในหลายๆรุ่นของแบรนด์นี้เลยนั้นเองครับและมีความหนักกระแทกได้ดีเหมาะสำหรับฟังเพลงแนว Workout ออกกำลังได้ดีเลยแหละหรือจะฟังพวก POP ROCK EDM ได้แบบสบายๆ ส่วนเรื่องของเสียงเวลาเล่นเกมนั้นเสียงยิงอะไรสะใจแน่นอนแต่ ขอบอกก่อนว่ามันมีความหน่วงพอสมควรทั้งในแง่ของการเล่นเกมต่างๆเพราะด้วย BT 4.2 และการส่งสัญญาณมันไม่ได้ทำออกมาสำหรับสายเกมเท่าไรเลยมีความหน่วงแบบชัดเจนครับ สายเกมเลยไม่เหมาะเลย แต่ถ้าเอามาฟังเพลงอะไรแน่นอนไม่มีปัญหาครับ ส่วนดูหนังก็ยังไม่เจอหน่วงอะไรมาก ส่วนเรื่องของสัญญาณเวลาเดินห้างนั้นถ้าเก็บมือถือในกระเป๋าก็เจอขัดๆอยู่ครับแต่เป็นปกติของ TWS ในหลายๆตัว
 

 
แนวเสียงในรุ่นนี้กันบ้างเมื่อได้ลองฟัง หลากหลายแนวเพลงรวมถึงดูหนังต่างๆก็พอจะสรุปได้ครับอย่างที่แจ้งไปคือแนวเสียงยังเหมือนกับรุ่นอื่นๆของแบรนด์คือฟังแล้วรู้เลยว่า Skullcandy เบสแน่นมีขนาดใหญ่พอสมควรครับ และอิมแพคเต็มๆดี แน่นอนว่าเน้นฟังเพลงสนุกๆ ได้ดีมาก และเก็บตัวเร็วไม่บวมครับ เสียงร้องค่อนข้างชัดและฟังได้ยินเสียงชัดเจนไม่แหลมจัดไปและไม่โดนกลบครับ ส่วนทางเสียงแหลมนั้นไม่ได้ใสเคลียร์อะไรมากครับ แน่นอนว่ามันเซ็ทมาเหมาะพอดีสำหรับแนวๆเพลงพวก Pop Rock Hip hop ครับแต่ถ้าจะเอาไปฟังแนวคลาสสิคหรือเน้นเรื่องเสียงรายละเอียดชิ้นดนตรีอาจจะไม่เหมาะมากนัก แต่เสียงกีตาร์ก็พอฟังได้ไม่ได้แย่ครับ แต่จะเน้นไปแนวที่กล่าวไปมากกว่า เวทีเสียงนั้นกลางๆ เสียงดนตรีชัด และน้ำหนักเสียงดนตรีแน่นดีครับ เสียงร้องกำลังดี แต่ไม่ได้เคลียร์ใสจัดมาก
 

 
FEELING
 
การใส่ใช้งานนั้นต้องบอกว่ามันเป็นรุ่นที่ทำออกมาตอบโจทย์สำหรับสายออกกำลังแต่เน้นเสียงเบสแน่นๆครับและแน่นอนว่าความแน่นในการใช้งานต่างๆเวลาเคลื่อนไหว ถือว่าพอดีมากๆการออกแบบที่มีที่เกี่ยวแบบ Fin ทำให้ใส่ได้ถนัดขึ้นแต่รูปทรงเมื่อใส่ก็อาจจะแปลกๆไปหน่อยทั้งนี้ต้องดูว่าแต่ละคนนั้นเหมาะไหมกับทรงแบบนี้ครับแต่ไม่ได้หนาหรืออ้วนเกินไปไม่เจ็บใบหูครับ เพราะบางรุ่นที่ทำออกมาหนาๆมันจะดันเกินไปหน่อยแต่ในตัวนี้เท่าที่ลองยังไม่เจอ ส่วนตัวจุกเองนั้นก็ตอบโจทย์ได้ดีมีความลึกกำลังดีและเก็บเสียงได้ระดับนึงครับในการใช้งานทั่วไป ฟังเพลงไม่อึดอัดมากและออกกำลังกายก็ยังระบายได้ดีพอสมควรไม่ได้อึดอัดจนเกินไป ถือว่าในแง่ของการใส่นั้นใส่สบายไม่มีปัญหาอะไรเลย ทั้งในการใช้งานทั่วไปหรือใส่ออกกำลังครับ
 

 
ชื่อสินค้า:   SkullCandy Push
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่