เราเป็นคุณครูสอนเด็กนักเรียนระดับชั้นประถมตอนต้นและตอนปลายค่ะ เราสอนได้ระยะเวลา เกือบ 1 ปีแล้ว
เรื่องมันมีอยู่ว่า ในช่วงภาคเรียนเทอมที่2 ที่เพิ่งผ่านมา เราอยากจะลองดูไม่ลงโทษเด็กด้วยการตีเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บ้าง สุดท้ายผลลัพธ์ของการทำแบบนี้ เรากลับพบว่า เด็กนักเรียนชั้นระดับประถมศึกษาปีที่ 1ที่เราเป็นคนดูแลอยู่ นักเรียนเหล่านั้นกลับรู้สึกมีความสุข รู้สึกสนุกสนาน กับการเรียนมากขึ้น ดูผ่อนคลาย มีความกล้าแสดงออกที่จะพูดโต้ตอบกับคำถามที่เราได้ถามไปมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย และพวกเขาก็ดูเหมือนจะใส่ใจ สนใจ ในสิ่งที่ครูทำด้วย เวลาพวกเขามีปัญหาอะไร พวกเขาก็กล้าที่จะบอกเล่ากับครูมากขึ้น
เด็กเหล่านั้นจะเข้าหาครูมากกว่าปกติ และเด็กบางคนถึงขั้นมีความกระตือรือร้นอยากจะมาโรงเรียนทุกๆวันเลย ถึงแม้บางวันป่วยไม่สบาย ก็จะไปโรงเรียนให้ได้ ผู้ปกครองของเด็กคนนี้เป็นคนบอกเราเองค่ะ เด็กๆเริ่มมีความกล้าที่จะทำ กล้าที่จะคิด และตัดสินใจสิ่งต่างๆด้วยตัวเองมากขึ้นด้วย และมีความมั่นใจในตัวเองในการทำสิ่งต่างๆมากขึ้น
สุดท่ายแล้วเราก็พบว่า นักเรียนเหล่านั้นมีพัฒนาการการเรียนรู้ที่ดีขึ้นด้วยค่ะ
เด็กบางคนดื้อรั้น ก็เพราะไม่ค่อยได้ความรักจากพ่อแม่ เด็กบางคนถูกทำโทษด้วยการตีอยู่บ่อยครั้ง วิธีจัดการกับเด็กลักษณะนี้คือการไม่ตีค่ะ แต่คือการโอบกอดเขา ให้ความรักด้วยการเอาใจใส่เขาค่ะ และพอเขาสัมผัสได้ว่า ครูรักเขาจริง เขาสำคัญต่อครูน่ะ เขาก็จะเชื่อฟังเรามากขึ้นเองค่ะ
การไม่ตีให้เขารู้สึกเจ็บ หรือการไม่ข่มขู่ให้พวกเขารู้สึกกลัว คือคำตอบที่ดี่ที่สุดแล้วค่ะ
มันเป็นวิธีที่สร้างความรักระหว่างครูและลูกศิษย์ได้ และเพิ่มใกล้ชิด ความอบอุ่นด้วยค่ะ
เรามักจะถามนักเรียนว่า หนูชอบครูใจดีหรือครูใจร้ายคะ? "นักเรียนเหล่านั้นมักจะตอบเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า หนู/ผม ชอบครูใจดีค่ะ/ครับ"
หลังจากที่เราลาออกจากการเป็นครูสอนที่ รร นั้น มีแม่ของเด็กคนหนึ่งมาบอกเราว่า หลังจากที่ลูกของเขาได้รับรู้ข่าวว่า เราจะลาออกสอนที่นี้แล้ว ลูกเขาร้องไห้หนักมาก และบอกกับแม่ว่า เพราะครูไม่เคยตีเขาเลย
เมื่อคุณทำให้เด็กรักคุณได้ เรื่องอื่นๆก็คงไม่น่าจะยากมากแล้วล่ะค่ะ
ขอบคุณนะคะที่อ่านจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ ใครที่มีประสบการณ์ในลักษณะแบบนี้ หรือมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร สามารถมาแลกเปลี่ยนไอเดียกันได้นะคะ
ใครบ้างคิดว่า การทำโทษเด็กหรือนักเรียนด้วยการตีให้เจ็บหรือข่มขู่ให้เกิดความกลัวไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดบ้างคะ? เพราะอะไร?
เรื่องมันมีอยู่ว่า ในช่วงภาคเรียนเทอมที่2 ที่เพิ่งผ่านมา เราอยากจะลองดูไม่ลงโทษเด็กด้วยการตีเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บ้าง สุดท้ายผลลัพธ์ของการทำแบบนี้ เรากลับพบว่า เด็กนักเรียนชั้นระดับประถมศึกษาปีที่ 1ที่เราเป็นคนดูแลอยู่ นักเรียนเหล่านั้นกลับรู้สึกมีความสุข รู้สึกสนุกสนาน กับการเรียนมากขึ้น ดูผ่อนคลาย มีความกล้าแสดงออกที่จะพูดโต้ตอบกับคำถามที่เราได้ถามไปมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย และพวกเขาก็ดูเหมือนจะใส่ใจ สนใจ ในสิ่งที่ครูทำด้วย เวลาพวกเขามีปัญหาอะไร พวกเขาก็กล้าที่จะบอกเล่ากับครูมากขึ้น
เด็กเหล่านั้นจะเข้าหาครูมากกว่าปกติ และเด็กบางคนถึงขั้นมีความกระตือรือร้นอยากจะมาโรงเรียนทุกๆวันเลย ถึงแม้บางวันป่วยไม่สบาย ก็จะไปโรงเรียนให้ได้ ผู้ปกครองของเด็กคนนี้เป็นคนบอกเราเองค่ะ เด็กๆเริ่มมีความกล้าที่จะทำ กล้าที่จะคิด และตัดสินใจสิ่งต่างๆด้วยตัวเองมากขึ้นด้วย และมีความมั่นใจในตัวเองในการทำสิ่งต่างๆมากขึ้น
สุดท่ายแล้วเราก็พบว่า นักเรียนเหล่านั้นมีพัฒนาการการเรียนรู้ที่ดีขึ้นด้วยค่ะ
เด็กบางคนดื้อรั้น ก็เพราะไม่ค่อยได้ความรักจากพ่อแม่ เด็กบางคนถูกทำโทษด้วยการตีอยู่บ่อยครั้ง วิธีจัดการกับเด็กลักษณะนี้คือการไม่ตีค่ะ แต่คือการโอบกอดเขา ให้ความรักด้วยการเอาใจใส่เขาค่ะ และพอเขาสัมผัสได้ว่า ครูรักเขาจริง เขาสำคัญต่อครูน่ะ เขาก็จะเชื่อฟังเรามากขึ้นเองค่ะ
การไม่ตีให้เขารู้สึกเจ็บ หรือการไม่ข่มขู่ให้พวกเขารู้สึกกลัว คือคำตอบที่ดี่ที่สุดแล้วค่ะ
มันเป็นวิธีที่สร้างความรักระหว่างครูและลูกศิษย์ได้ และเพิ่มใกล้ชิด ความอบอุ่นด้วยค่ะ
เรามักจะถามนักเรียนว่า หนูชอบครูใจดีหรือครูใจร้ายคะ? "นักเรียนเหล่านั้นมักจะตอบเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า หนู/ผม ชอบครูใจดีค่ะ/ครับ"
หลังจากที่เราลาออกจากการเป็นครูสอนที่ รร นั้น มีแม่ของเด็กคนหนึ่งมาบอกเราว่า หลังจากที่ลูกของเขาได้รับรู้ข่าวว่า เราจะลาออกสอนที่นี้แล้ว ลูกเขาร้องไห้หนักมาก และบอกกับแม่ว่า เพราะครูไม่เคยตีเขาเลย
เมื่อคุณทำให้เด็กรักคุณได้ เรื่องอื่นๆก็คงไม่น่าจะยากมากแล้วล่ะค่ะ
ขอบคุณนะคะที่อ่านจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ ใครที่มีประสบการณ์ในลักษณะแบบนี้ หรือมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร สามารถมาแลกเปลี่ยนไอเดียกันได้นะคะ