ในโอกาสที่กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอย่างฟุตบอลได้ยกเลิกการแข่งขันไปทั่วโลก ผมจึงอยากทราบความทรงทรงจำที่ดีที่สุดของคุณในโลกฟุตบอล ผมหมายถึงปีทำให้คุณสนุกกับฟุตบอลที่สุด ปีที่คุณเชียร์ฟุตบอลมันส์ที่สุด ปีที่คุณคิดว่ามีสีสันที่สุด ไม่ว่าคุณจะเชียร์ทีมไหน ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับทีมของคุณหรือทีมอื่นที่คุณคิดว่า โดยรวมแล้วฤดูกาลนั้นคือฤดูกาลที่พีคที่สุด คือฤดูกาลที่บ้าที่สุดของฟุตบอลในชีวิตของคุณ
สำหรับผม ต้องออกตัวก่อนว่าผมเป็นแฟนเชลซี ผมให้ฤดูกาล 2012/2013 เป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของฟุตบอลในชีวิตของผม ซึ่งคำตอบของคำถามนี้มันต้องมีเยอะมากๆอะ มันถึงจะเป็นที่สุดในชีวิตได้ ผมจะขอไล่เหตุผลเป็นข้อๆดังนี้
ข้อ 1. เนื่องจากฤดูกาลที่แล้วทีมผมคว้าแชมป์ UCL และ FA cup มาได้อย่างฟลุ๊คๆ (ส่วนตัวผมก็ไม่เชื่อมือดิมัตเตโอ้อยู่แล้ว) จนทำให้เอเด็น อาซาร์, ออสการ์ และมาร์โก มาริน สามดาวรุ่งเทพในเวลานั้นตัดสินใจย้ายมาอยู่กับทีม (ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยมั่นใจอาซาร์กับมารินเท่าไหร่ เพราะอาซาร์ราคาตั้ง 32 ลป. แล้วไอ้มารินก็ดูตัวเล็กไปมากๆอะ แต่ผมกลับมั่นใจออสการ์มากกว่าเนื่องจากความเป็นบราซิลเลี่ยนของเค้า) มันทำให้ผมมีความเชื่อว่า “เออ ถึงดิมัตเตโอ้มันจะห่วยยังไง มีสามดาวรุ่งเทพบวกกับพ่อมดน้อยของเราอย่างมาต้าในตอนนั้นมันคงต้องดีขึ้นแหละ” ผลปรากฏว่า ไปแพ้แอตมาดริดในซูเปอร์คัพ (อันนี้ผมเตรียมใจไว้อยู่แล้ว ไม่หวังอะไรมากจากดิมัตเตโอ้อยู่แล้ว) แค่นั้นยังไม่พอ เตะไปเตะมา ตกรอบแบ่งกลุ่ม UCL! โอ้โห! โคตรอายบอกเลย เป็นทีมแรกด้วยมั้งถ้าจำไม่ผิด ที่ได้แชมป์ UCL แล้วฤดูกาลต่อมาไม่ได้ถ้วยยูฟ่าซูเปอร์คัพและตกรอบแบ่งกลุ่ม
ข้อ 2. แฟรงค์ แลมพาร์ดสร้างสถิติยิงประตูมากสุดของสโมสรแซงบ๊อบบี้ แทมบลิ้งเป็นอันดับหนึ่งของสโมสร
ข้อ 3. เชลซีแต่งตั้งราฟาเอล เบนิเตสเป็นกุนซือผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยพูดว่าจะไม่มีวันคุมเชลซี แต่สุดท้ายผมก็รักเค้านะ แล้วก็ยอมรับว่าเป็นคนที่มีฝีมือจริง
ข้อ 4. อาซาร์ประกาศให้โลกรู้ว่าเค้าจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ผมยอมรับว่าผมไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวนักเตะคนนี้เท่าไหร่ กลัวว่าจะตามรอยตอเรสซื้อมาแพงแต่เล่นไม่ออก แต่ผิดคาดในฤดูกาลนี้เองในฐานะหนึ่งในสามประสาน Mazacar ได้แสดงให้โลกเห็นว่าพวกเค้าทำอะไรได้บ้าง แต่คนที่ผมคาดหวังมากที่สุดอย่างออสการ์กลับด้อยที่สุดในทริโอ้ชุดนั้น เป็นบราซิลเลี่ยนที่ไม่มีลีลาแซมบ้าเลยจริงๆ 555 แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดี ส่วนมาริน..ตามคาด
ข้อ 5. เดอะคิง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา อำลาทีม พร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่างฟอล็อง มาลูด้า, แบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรอย่างแอชลี่ย์ โคล์, จอมทัพตัวสำคัญจากฤดูกาลที่แล้วอย่างราอูล เมเรเลส เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากมากๆสำหรับแฟนบอลเชลซี
ข้อ 6. แมนเชสเตอร์ซิตี้แพ้ให้กับวีแกน แอตเลติก ในรอบชิง FA cup ทำให้วีแกนได้แชมป์ไป แต่ดันตกชั้นในฤดูกาลเดียวกัน ทั้งที่พึ่งคว้าแชมป์มาแท้ๆ
ข้อ 7. เป็นฤดูกาลสุดท้ายของหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกฟุตบอลเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่แม้จะเป็นปีสุดท้ายแกก็ยังฝากผลงานคว้าแชมป์ Premier league มาได้อย่างสง่าผ่าเผย
ข้อ 8. เป็นฤดูกาลที่ลิเวอร์พูลคว้าตัวผู้จัดการทีมไฟแรงมาจากสวอนซี ซิตี้ ซึ่งทำผลงานพาสวอนซีเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นใน Premier league ภายในฤดูกาลเดียวและฤดูกาลต่อมายังพาทีมจบได้สูงถึงอับดับ 11 ทั้งที่เป็นทีมที่พึ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาด้วยสไตล์การเล่นที่ได้รับการขนานนามว่าบาร์ซ่าแห่งเกาะอังกฤษอย่างแบรนเดน ร็อดเจอร์ส ทำให้เค้าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ถูกจับตามองมากที่สุดในฤดูกาลนั้น ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง ด้วยการสร้างสามประสานทรงประสิทธิภาพ Luis Suarez, Daniel Sturridge และดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง Raheem Sterling ขึ้นมาให้โลกเห็นกัน พร้อมกับสไตล์การเล่นแบบ Pass&Move ในแผน 4-1-2-1-2 ที่เคยใช้ในยุค Bob Paisley พิสูจน์ให้เห็นว่าเค้าไม่ได้มาเล่นๆ
ข้อ 9. เป็นฤดูกาลสุดท้ายเช่นกัน(แต่ไม่ท้ายสุด)ของหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดของบาเยิร์น มิวนิค จุ๊ปป ไฮน์เกส แต่ถึงจะเป็นปีที่(ทุกคนคิดว่า)เป็นปีสุดท้ายของแกแล้ว แกก็ยังฝากผลงานที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในอาชีพของแกเลย คือการพาทีมคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียวได้แก่ Bundesliga, DFB-Pokal, DFB-Supercup และ ถ้วยที่ทีมผมขโมยจากพวกเค้ามาเมื่อฤดูกาลที่แล้วอย่าง UCL จัดว่าเสื้อใต้ฤดูกาลนั้นคือโหดเหี้ยมมากๆ ด้วยขุมกำลังปีกคู่ Robery กองหน้าตัวเก๋า Mario Gomez และดาวรุ่งอนาคตของชาติอย่าง Thomas Muller แสดงความเกรี้ยวกราดให้โลกเห็นด้วยการตบทีมอย่างบาร์เซโลน่าในรอบ semi-Final ของถ้วย UCL ไป-กลับ สกอร์รวมถึง 7-0 ทำเอาบาร์ซ่ากลายเป็นทีมเด็กๆไปเลย
ข้อ 10. เป็นฤดูกาลที่แคมป์ฝึกซ้อมของรีล มาดริดเดือดมาก หลังจากที่แย่งแชมป์ลาลีก้ามาจากบาร์เซโลน่าได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว กุนซือของทีมในขณะนั้นอย่างโชเซ่ มูรินโญ่ ได้ผิดใจกับลูกทีมรุ่นใหญ่อย่างอิเกร์ กาซิยาส, เปเป้ หรือแม้กระทั่งโรนัลโด้ เกิดเป็นกองไฟที่ร้อนที่สุดในฤดูกาลนั้นเลยก็ว่าได้
ข้อ 11. เป็นฤดูกาลที่ลีกที่ไม่น่าสนใจอย่างลีกเอิงในฝรั่งเศสถูกจับตามองเพราะการมาของพระเจ้าลูกหนังสลาตัน อิบราฮิโมวิชย้ายมาวาดลวดลายในสนามปาร์ค เดอ แป็ง ซึ่งก็ไม่เป็นที่ผิดหวังสำหรับผู้ติดตาม เพราะฤดูกาลแรกที่พระเจ้าของเราย้ายไปล่าตาข่ายที่ฝรั่งเศส เค้าพาทีมคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี เท่านั้นยังไม่พอ เค้ายังทำผลงานยิงไปถึง 30 ประตู นับเฉพาะบอลลีก แถมในฤดูกาลเดียวกันพี่แกทำเรื่องช็อคโลกด้วยการโอเวอร์เฮ้ดคิกจากนอกเขตโทษเข้าประตูไปอย่างหมดจดใส่อังกฤษในเกมกระชับมิตรและสุดท้ายก็เป็นทีมชาติสวีเดนของเค้าชนะไป 4-2 เป็นฤดูกาลที่สลาตันโดดเด่นมากๆฤดูกาลหนึ่ง
ข้อ 12. หลังจากฤดูกาลที่แล้วพาทีมคว้าแชมป์ลีก Busdesliga และถ้วย DFB-Pokal เจอร์เก็น คล็อปป หมายมั่นปั้นมือที่จะคว้าแชมป์ UCL มาให้ได้ เนื่องจากขุมกำลังภายในทีมตอนนั้นต่อให้เป็นบาร์เซโลน่า พวกเราดอร์ทมุนก็ไม่กลัว ที่มีแกนนำมาโดย Macro Reus, Robert Lewandawski, Mario Gotze, Blaszczykowski, Ilkay Gundogan และ Mats Hummels พวกเค้าเล่นอย่างไม่กลัวใครจริงๆในฤดูกาลนี้ พิสูจน์ให้เห็นด้วยการชนะรีล มาดริด 4-1 ในรอบ semi-Final ถ้วย UCL แต่น่าเสียดายมากๆ ที่ต้องมาเจอกับเสืออีกตัวที่มีประสบการณ์และความกระหายมากกว่าและแพ้ไปในรอบชิง
ข้อ 13. ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่ลีกอิตาลี่ค่อนข้างเงียบเหงานะหรืออาจจะเป็นเพราะปมไม่ค่อยได้ติดตาม แต่ก็มีดาวรุ่งของทีมชาติอิตาลี่ที่มีข่าวกับทีมใหญ่อยู่หลายคน อย่างเช่น El Shaarawy, Insigne, Verratti และ Immobile แล้วก็เป็นฤดูกาลแจ้งเกิดของ Pogba ด้วย
ข้อ 14. บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ Thai Premier league แบบไร้พ่าย
ข้อ 15. ทีมชาติไทยคว้าแชมป์ SEA Games U-23 ภายใต้การคุมทีมของโค้ชซิโก้
แค่ 15 ข้อนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่บ้าคลั่งที่สุดในใจผม แม้ฤดูกาลนี้จะไม่มีบอลยูโรหรือบอลโลก แม้ทีมที่ผมรักมันจะทำผลงานได้ไม่ดี แต่ด้วยเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในวงการมันบ้ามากๆ จริงๆแล้วยังมีอีกหลายเหตุผลเลยที่ผมยังพูดไม่หมดที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ แต่ผมขอพูดแค่นี้ดีกว่า แต่อาจจะมีฤดูกาลอื่นๆที่มันก็บ้าบอไม่แพ้กันเหมือนกัน แต่ส่วนตัวผมเลือกไปที่ฤดูกาลนี้ครับ
แล้วคุณล่ะครับคิดว่าการแข่งขันฟุตบอลฤดูกาลไหนคือฤดูกาลที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
ทั้งนี้หากมีข้อมูลใดผิดพลาดผมขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ฟุตบอลฤดูกาลไหนคือฤดูกาลที่ดีที่สุดในความทรงจำของคุณ
สำหรับผม ต้องออกตัวก่อนว่าผมเป็นแฟนเชลซี ผมให้ฤดูกาล 2012/2013 เป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของฟุตบอลในชีวิตของผม ซึ่งคำตอบของคำถามนี้มันต้องมีเยอะมากๆอะ มันถึงจะเป็นที่สุดในชีวิตได้ ผมจะขอไล่เหตุผลเป็นข้อๆดังนี้
ข้อ 1. เนื่องจากฤดูกาลที่แล้วทีมผมคว้าแชมป์ UCL และ FA cup มาได้อย่างฟลุ๊คๆ (ส่วนตัวผมก็ไม่เชื่อมือดิมัตเตโอ้อยู่แล้ว) จนทำให้เอเด็น อาซาร์, ออสการ์ และมาร์โก มาริน สามดาวรุ่งเทพในเวลานั้นตัดสินใจย้ายมาอยู่กับทีม (ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยมั่นใจอาซาร์กับมารินเท่าไหร่ เพราะอาซาร์ราคาตั้ง 32 ลป. แล้วไอ้มารินก็ดูตัวเล็กไปมากๆอะ แต่ผมกลับมั่นใจออสการ์มากกว่าเนื่องจากความเป็นบราซิลเลี่ยนของเค้า) มันทำให้ผมมีความเชื่อว่า “เออ ถึงดิมัตเตโอ้มันจะห่วยยังไง มีสามดาวรุ่งเทพบวกกับพ่อมดน้อยของเราอย่างมาต้าในตอนนั้นมันคงต้องดีขึ้นแหละ” ผลปรากฏว่า ไปแพ้แอตมาดริดในซูเปอร์คัพ (อันนี้ผมเตรียมใจไว้อยู่แล้ว ไม่หวังอะไรมากจากดิมัตเตโอ้อยู่แล้ว) แค่นั้นยังไม่พอ เตะไปเตะมา ตกรอบแบ่งกลุ่ม UCL! โอ้โห! โคตรอายบอกเลย เป็นทีมแรกด้วยมั้งถ้าจำไม่ผิด ที่ได้แชมป์ UCL แล้วฤดูกาลต่อมาไม่ได้ถ้วยยูฟ่าซูเปอร์คัพและตกรอบแบ่งกลุ่ม
ข้อ 2. แฟรงค์ แลมพาร์ดสร้างสถิติยิงประตูมากสุดของสโมสรแซงบ๊อบบี้ แทมบลิ้งเป็นอันดับหนึ่งของสโมสร
ข้อ 3. เชลซีแต่งตั้งราฟาเอล เบนิเตสเป็นกุนซือผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยพูดว่าจะไม่มีวันคุมเชลซี แต่สุดท้ายผมก็รักเค้านะ แล้วก็ยอมรับว่าเป็นคนที่มีฝีมือจริง
ข้อ 4. อาซาร์ประกาศให้โลกรู้ว่าเค้าจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ผมยอมรับว่าผมไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวนักเตะคนนี้เท่าไหร่ กลัวว่าจะตามรอยตอเรสซื้อมาแพงแต่เล่นไม่ออก แต่ผิดคาดในฤดูกาลนี้เองในฐานะหนึ่งในสามประสาน Mazacar ได้แสดงให้โลกเห็นว่าพวกเค้าทำอะไรได้บ้าง แต่คนที่ผมคาดหวังมากที่สุดอย่างออสการ์กลับด้อยที่สุดในทริโอ้ชุดนั้น เป็นบราซิลเลี่ยนที่ไม่มีลีลาแซมบ้าเลยจริงๆ 555 แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดี ส่วนมาริน..ตามคาด
ข้อ 5. เดอะคิง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา อำลาทีม พร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่างฟอล็อง มาลูด้า, แบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรอย่างแอชลี่ย์ โคล์, จอมทัพตัวสำคัญจากฤดูกาลที่แล้วอย่างราอูล เมเรเลส เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากมากๆสำหรับแฟนบอลเชลซี
ข้อ 6. แมนเชสเตอร์ซิตี้แพ้ให้กับวีแกน แอตเลติก ในรอบชิง FA cup ทำให้วีแกนได้แชมป์ไป แต่ดันตกชั้นในฤดูกาลเดียวกัน ทั้งที่พึ่งคว้าแชมป์มาแท้ๆ
ข้อ 7. เป็นฤดูกาลสุดท้ายของหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกฟุตบอลเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่แม้จะเป็นปีสุดท้ายแกก็ยังฝากผลงานคว้าแชมป์ Premier league มาได้อย่างสง่าผ่าเผย
ข้อ 8. เป็นฤดูกาลที่ลิเวอร์พูลคว้าตัวผู้จัดการทีมไฟแรงมาจากสวอนซี ซิตี้ ซึ่งทำผลงานพาสวอนซีเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นใน Premier league ภายในฤดูกาลเดียวและฤดูกาลต่อมายังพาทีมจบได้สูงถึงอับดับ 11 ทั้งที่เป็นทีมที่พึ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาด้วยสไตล์การเล่นที่ได้รับการขนานนามว่าบาร์ซ่าแห่งเกาะอังกฤษอย่างแบรนเดน ร็อดเจอร์ส ทำให้เค้าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ถูกจับตามองมากที่สุดในฤดูกาลนั้น ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง ด้วยการสร้างสามประสานทรงประสิทธิภาพ Luis Suarez, Daniel Sturridge และดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง Raheem Sterling ขึ้นมาให้โลกเห็นกัน พร้อมกับสไตล์การเล่นแบบ Pass&Move ในแผน 4-1-2-1-2 ที่เคยใช้ในยุค Bob Paisley พิสูจน์ให้เห็นว่าเค้าไม่ได้มาเล่นๆ
ข้อ 9. เป็นฤดูกาลสุดท้ายเช่นกัน(แต่ไม่ท้ายสุด)ของหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดของบาเยิร์น มิวนิค จุ๊ปป ไฮน์เกส แต่ถึงจะเป็นปีที่(ทุกคนคิดว่า)เป็นปีสุดท้ายของแกแล้ว แกก็ยังฝากผลงานที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในอาชีพของแกเลย คือการพาทีมคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียวได้แก่ Bundesliga, DFB-Pokal, DFB-Supercup และ ถ้วยที่ทีมผมขโมยจากพวกเค้ามาเมื่อฤดูกาลที่แล้วอย่าง UCL จัดว่าเสื้อใต้ฤดูกาลนั้นคือโหดเหี้ยมมากๆ ด้วยขุมกำลังปีกคู่ Robery กองหน้าตัวเก๋า Mario Gomez และดาวรุ่งอนาคตของชาติอย่าง Thomas Muller แสดงความเกรี้ยวกราดให้โลกเห็นด้วยการตบทีมอย่างบาร์เซโลน่าในรอบ semi-Final ของถ้วย UCL ไป-กลับ สกอร์รวมถึง 7-0 ทำเอาบาร์ซ่ากลายเป็นทีมเด็กๆไปเลย
ข้อ 10. เป็นฤดูกาลที่แคมป์ฝึกซ้อมของรีล มาดริดเดือดมาก หลังจากที่แย่งแชมป์ลาลีก้ามาจากบาร์เซโลน่าได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว กุนซือของทีมในขณะนั้นอย่างโชเซ่ มูรินโญ่ ได้ผิดใจกับลูกทีมรุ่นใหญ่อย่างอิเกร์ กาซิยาส, เปเป้ หรือแม้กระทั่งโรนัลโด้ เกิดเป็นกองไฟที่ร้อนที่สุดในฤดูกาลนั้นเลยก็ว่าได้
ข้อ 11. เป็นฤดูกาลที่ลีกที่ไม่น่าสนใจอย่างลีกเอิงในฝรั่งเศสถูกจับตามองเพราะการมาของพระเจ้าลูกหนังสลาตัน อิบราฮิโมวิชย้ายมาวาดลวดลายในสนามปาร์ค เดอ แป็ง ซึ่งก็ไม่เป็นที่ผิดหวังสำหรับผู้ติดตาม เพราะฤดูกาลแรกที่พระเจ้าของเราย้ายไปล่าตาข่ายที่ฝรั่งเศส เค้าพาทีมคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี เท่านั้นยังไม่พอ เค้ายังทำผลงานยิงไปถึง 30 ประตู นับเฉพาะบอลลีก แถมในฤดูกาลเดียวกันพี่แกทำเรื่องช็อคโลกด้วยการโอเวอร์เฮ้ดคิกจากนอกเขตโทษเข้าประตูไปอย่างหมดจดใส่อังกฤษในเกมกระชับมิตรและสุดท้ายก็เป็นทีมชาติสวีเดนของเค้าชนะไป 4-2 เป็นฤดูกาลที่สลาตันโดดเด่นมากๆฤดูกาลหนึ่ง
ข้อ 12. หลังจากฤดูกาลที่แล้วพาทีมคว้าแชมป์ลีก Busdesliga และถ้วย DFB-Pokal เจอร์เก็น คล็อปป หมายมั่นปั้นมือที่จะคว้าแชมป์ UCL มาให้ได้ เนื่องจากขุมกำลังภายในทีมตอนนั้นต่อให้เป็นบาร์เซโลน่า พวกเราดอร์ทมุนก็ไม่กลัว ที่มีแกนนำมาโดย Macro Reus, Robert Lewandawski, Mario Gotze, Blaszczykowski, Ilkay Gundogan และ Mats Hummels พวกเค้าเล่นอย่างไม่กลัวใครจริงๆในฤดูกาลนี้ พิสูจน์ให้เห็นด้วยการชนะรีล มาดริด 4-1 ในรอบ semi-Final ถ้วย UCL แต่น่าเสียดายมากๆ ที่ต้องมาเจอกับเสืออีกตัวที่มีประสบการณ์และความกระหายมากกว่าและแพ้ไปในรอบชิง
ข้อ 13. ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่ลีกอิตาลี่ค่อนข้างเงียบเหงานะหรืออาจจะเป็นเพราะปมไม่ค่อยได้ติดตาม แต่ก็มีดาวรุ่งของทีมชาติอิตาลี่ที่มีข่าวกับทีมใหญ่อยู่หลายคน อย่างเช่น El Shaarawy, Insigne, Verratti และ Immobile แล้วก็เป็นฤดูกาลแจ้งเกิดของ Pogba ด้วย
ข้อ 14. บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ Thai Premier league แบบไร้พ่าย
ข้อ 15. ทีมชาติไทยคว้าแชมป์ SEA Games U-23 ภายใต้การคุมทีมของโค้ชซิโก้
แค่ 15 ข้อนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่บ้าคลั่งที่สุดในใจผม แม้ฤดูกาลนี้จะไม่มีบอลยูโรหรือบอลโลก แม้ทีมที่ผมรักมันจะทำผลงานได้ไม่ดี แต่ด้วยเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในวงการมันบ้ามากๆ จริงๆแล้วยังมีอีกหลายเหตุผลเลยที่ผมยังพูดไม่หมดที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ แต่ผมขอพูดแค่นี้ดีกว่า แต่อาจจะมีฤดูกาลอื่นๆที่มันก็บ้าบอไม่แพ้กันเหมือนกัน แต่ส่วนตัวผมเลือกไปที่ฤดูกาลนี้ครับ
แล้วคุณล่ะครับคิดว่าการแข่งขันฟุตบอลฤดูกาลไหนคือฤดูกาลที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
ทั้งนี้หากมีข้อมูลใดผิดพลาดผมขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย