ต้องเกริ่นเรื่องก่อนว่าเราเป็นลูกคนเดียว ซึ่งแม่เราท้องตอนสมัยยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ทีนี้พอคลอด พ่อก็ไม่รับผิดชอบแล้วตัดขาดแยกกันไปเลย แม่จึงฝากไว้ที่ยาย แม่ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับพ่อเลี้ยงที่เป็นฝรั่ง ก็มีความสุขดี คนในครอบครัวก็ดูแลเราอย่างดีค่ะ
แต่พอมาช่วงประมาณ5ขวบถ้าจำไม่ผิด ยายเริ่มตะคอกใส่เรา โยนขวดน้ำใส่บ้าง ด่าทอด้วยคำหยาบคายบ้าง ครอบครัวเราเป็นคนอีสาน ฉะนั้นคำหยาบจึงหยาบมากเป็นพิเศษ เราก็ทำท่าลืมไป คือเหมือนกับว่าเค้าคิดว่าด่าเราแล้วก็มาทำดีใส่แล้วเราจะให้อภัยเค้า แล้วเค้าก็ทำไปอีกเรื่อยๆ ไม่มีสำนึกผิด เพราะนั่นคือสิ่งที่เค้าคิดว่าถูกสำหรับเค้านะ
มันหนักข้อมากขึ้นเมื่อเราเริ่มเข้าร.ร. จากที่มีปัญหาจากที่บ้าน กลับมามีปัญหาที่ร.ร.อีก การโดนบูลลี่ช่วงนั้นคิดสั้นจะฆ่าตัวตายเลยค่ะ โดนบูลลี่เรื่องหน้าตาหนักมาก เพื่อนไม่คบ เคยโดนพูดใส่ว่าเป็นเด็กออทิสติก เป็นลูกคุณหนู หน้าตาไม่ดียังมากระแดะอีก อะไรแบบนี้ค่ะ คือซึมไปเลย ดิ่งจนคิดแบบนั้นไป แต่ไม่ได้เล่าให้ใครฟังค่ะเพราะครอบครัวไม่รับฟังพร้อมกับบอกว่าไร้สาระแน่55555
มันเป็นปัญหาที่เราเจอมาหลายปีแล้ว ซึ่งก็เข้าใจในตรรกะแปลกๆ เช่นรักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี แต่ในกรณีเรา เราไม่คิดเช่นนั้นนะ หลายครั้งแล้วที่เค้ามองเราเป็นสิ่งของ คิดจะพูดยังไงกับเราก็ได้ คำบางคำที่เค้าได้พูดออกมา มันเจ็บกว่าการบูลลี่ทวีคูณ จนมันกลายเป็นปมไปแล้ว
ยกตัวอย่างการละเลยความรู้สึกเรานะคะ
-ยายเรียกกินข้าว เรียกหลายครั้งมากค่ะ จนคร้านจะตอบ ช้าก็ไม่ได้ค่ะ โดนตะคอกใส่ อ้างว่าห่วงเรา กลัวเราเป็นโรคกระเพาะ แต่ไม่กลัวเราเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ ตลกดี5555
-ยายจำกัดเวลานอน อะอันนี้เข้าใจค่ะ แต่ก็โดนตะคอกเหมือนเดิมงง แต่ละคำที่เค้าพูดคือ เล่นไปหาพ่อหาแม่เหรอ อีสันดาน เผลอๆด่าเรา

อีก งงมั้ย ทางเราไม่งง แต่เจ็บมากค่ะ แถมเค้าให้เหตุผลว่าถ้าเราไม่นอนเค้านอนไม่หลับ
-เวลาทะเลาะกัน เวลาเราอย่างอยู่คนเดียว เวลาเราคอลกับเพื่อน เวลาเราเล่นคอม เคเาจะมาอยู่ใกล้ๆ เพื่ออะไรก็ไม่รู้ คือมันอึดอัดค่ะ ยิ่งเวลาทะเลาะกันทีคือตามติดเป็นตังเม ยิ่งเราเห็นหน้าเค้าคือเราอึดอัดมาก มันมีครั้งหนึ่งที่เรานอนดึก เค้าก็ถามว่าทำไมถึงนอนดึก เราก็บอกว่าเพื่อนจะสอนการบ้านให้ เค้าก็ไม่ยอมค่ะ ดึงดันที่จะอยู่ เวลาเพื่อนสอนคือไม่เข้าใจเลย เพราะเค้าล่วงล้ำขอบเขตเรา จ้องแต่เรามันทำให้เราไม่มีสมาธิ สรุปคือสอนเสร็จก็ไล่ไปนอน แถมโดนด่าอีกครั้ง
-อะ อันนี้เหตุการณ์วันนี้นะคะ เรานอนเล่นอยู่บนชั้นสองของบ้าน แล้วโดนเรียกให้ไปกินข้าว ตะคอกใส่เลยค่ะ ลงมากินเดี๋ยวนี้ จะลงมาไม่ลงมา กินให้มันเสร็จๆ เรื่องยุ่งยากเพราะไม่กินนี่แหละ ช่วงนี้ยิ่งไปยากอยู่ ยิ่งไม่มีพ่อไม่มีแม่ด้วย
เป็นคุณจะเจ็บมั้ย?
เราเจ็บมาก
เราโดนมาหลายปี แล้วโดนรุนแรงกว่านี้
บางทีโดนถีบยังมีเลยค่ะ แต่เราไม่กล้าพอที่จะบอกแม่ เพราะแม่เราตามใจยาย มันมีหลายครั้งแล้วค่ะที่เราไม่ไหว คอลกับเพื่อน เพื่อนก็ช่วยอะไรไม่ได้
เราอยากตายหลายครั้งนะคะ แต่สิ่งมีชีวิตเล็กๆที่ดึงเราออกจากความคิดแบบนั้นออกมาได้คือแมวค่ะ มีครั้งหนึ่งน้องเห็นเราร้องไห้ต่อหน้า คือร้องไห้หนักมาก เค้าเข้ามานั่งตักเรา แล้วเลียขา จิตใจที่จมดิ่งก็กลับมาค่ะ เรากอดน้องไว้ กลัวน้องลุกหนี กอดไปร้องไห้ไปฟีลนางเอกซีรี่ย์เกาหลี เพราะอย่างน้อย น้องก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ละเลยความรู้สึกของเรา บางทีก็จะเป็นความฝันอันริบหรี่ของเราอย่างได้ไปเที่ยวรอบโลก เป็นตัวฉุดขึ้นมา
แต่ถ้ายังเจอแบบนี้ทุกวันเราไม่ไหวแน่ๆค่ะ
ช่วยหาวิธีทีนะคะ คือตอนนี้ไม่ไหวจริงๆ
โดนละเลยความรู้สึกและกระทำเหมือนสิ่งของ แต่ก็เข้าใจเจตนาของผู้ใหญ่
แต่พอมาช่วงประมาณ5ขวบถ้าจำไม่ผิด ยายเริ่มตะคอกใส่เรา โยนขวดน้ำใส่บ้าง ด่าทอด้วยคำหยาบคายบ้าง ครอบครัวเราเป็นคนอีสาน ฉะนั้นคำหยาบจึงหยาบมากเป็นพิเศษ เราก็ทำท่าลืมไป คือเหมือนกับว่าเค้าคิดว่าด่าเราแล้วก็มาทำดีใส่แล้วเราจะให้อภัยเค้า แล้วเค้าก็ทำไปอีกเรื่อยๆ ไม่มีสำนึกผิด เพราะนั่นคือสิ่งที่เค้าคิดว่าถูกสำหรับเค้านะ
มันหนักข้อมากขึ้นเมื่อเราเริ่มเข้าร.ร. จากที่มีปัญหาจากที่บ้าน กลับมามีปัญหาที่ร.ร.อีก การโดนบูลลี่ช่วงนั้นคิดสั้นจะฆ่าตัวตายเลยค่ะ โดนบูลลี่เรื่องหน้าตาหนักมาก เพื่อนไม่คบ เคยโดนพูดใส่ว่าเป็นเด็กออทิสติก เป็นลูกคุณหนู หน้าตาไม่ดียังมากระแดะอีก อะไรแบบนี้ค่ะ คือซึมไปเลย ดิ่งจนคิดแบบนั้นไป แต่ไม่ได้เล่าให้ใครฟังค่ะเพราะครอบครัวไม่รับฟังพร้อมกับบอกว่าไร้สาระแน่55555
มันเป็นปัญหาที่เราเจอมาหลายปีแล้ว ซึ่งก็เข้าใจในตรรกะแปลกๆ เช่นรักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี แต่ในกรณีเรา เราไม่คิดเช่นนั้นนะ หลายครั้งแล้วที่เค้ามองเราเป็นสิ่งของ คิดจะพูดยังไงกับเราก็ได้ คำบางคำที่เค้าได้พูดออกมา มันเจ็บกว่าการบูลลี่ทวีคูณ จนมันกลายเป็นปมไปแล้ว
ยกตัวอย่างการละเลยความรู้สึกเรานะคะ
-ยายเรียกกินข้าว เรียกหลายครั้งมากค่ะ จนคร้านจะตอบ ช้าก็ไม่ได้ค่ะ โดนตะคอกใส่ อ้างว่าห่วงเรา กลัวเราเป็นโรคกระเพาะ แต่ไม่กลัวเราเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ ตลกดี5555
-ยายจำกัดเวลานอน อะอันนี้เข้าใจค่ะ แต่ก็โดนตะคอกเหมือนเดิมงง แต่ละคำที่เค้าพูดคือ เล่นไปหาพ่อหาแม่เหรอ อีสันดาน เผลอๆด่าเรา
-เวลาทะเลาะกัน เวลาเราอย่างอยู่คนเดียว เวลาเราคอลกับเพื่อน เวลาเราเล่นคอม เคเาจะมาอยู่ใกล้ๆ เพื่ออะไรก็ไม่รู้ คือมันอึดอัดค่ะ ยิ่งเวลาทะเลาะกันทีคือตามติดเป็นตังเม ยิ่งเราเห็นหน้าเค้าคือเราอึดอัดมาก มันมีครั้งหนึ่งที่เรานอนดึก เค้าก็ถามว่าทำไมถึงนอนดึก เราก็บอกว่าเพื่อนจะสอนการบ้านให้ เค้าก็ไม่ยอมค่ะ ดึงดันที่จะอยู่ เวลาเพื่อนสอนคือไม่เข้าใจเลย เพราะเค้าล่วงล้ำขอบเขตเรา จ้องแต่เรามันทำให้เราไม่มีสมาธิ สรุปคือสอนเสร็จก็ไล่ไปนอน แถมโดนด่าอีกครั้ง
-อะ อันนี้เหตุการณ์วันนี้นะคะ เรานอนเล่นอยู่บนชั้นสองของบ้าน แล้วโดนเรียกให้ไปกินข้าว ตะคอกใส่เลยค่ะ ลงมากินเดี๋ยวนี้ จะลงมาไม่ลงมา กินให้มันเสร็จๆ เรื่องยุ่งยากเพราะไม่กินนี่แหละ ช่วงนี้ยิ่งไปยากอยู่ ยิ่งไม่มีพ่อไม่มีแม่ด้วย
เป็นคุณจะเจ็บมั้ย?
เราเจ็บมาก
เราโดนมาหลายปี แล้วโดนรุนแรงกว่านี้
บางทีโดนถีบยังมีเลยค่ะ แต่เราไม่กล้าพอที่จะบอกแม่ เพราะแม่เราตามใจยาย มันมีหลายครั้งแล้วค่ะที่เราไม่ไหว คอลกับเพื่อน เพื่อนก็ช่วยอะไรไม่ได้
เราอยากตายหลายครั้งนะคะ แต่สิ่งมีชีวิตเล็กๆที่ดึงเราออกจากความคิดแบบนั้นออกมาได้คือแมวค่ะ มีครั้งหนึ่งน้องเห็นเราร้องไห้ต่อหน้า คือร้องไห้หนักมาก เค้าเข้ามานั่งตักเรา แล้วเลียขา จิตใจที่จมดิ่งก็กลับมาค่ะ เรากอดน้องไว้ กลัวน้องลุกหนี กอดไปร้องไห้ไปฟีลนางเอกซีรี่ย์เกาหลี เพราะอย่างน้อย น้องก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ละเลยความรู้สึกของเรา บางทีก็จะเป็นความฝันอันริบหรี่ของเราอย่างได้ไปเที่ยวรอบโลก เป็นตัวฉุดขึ้นมา
แต่ถ้ายังเจอแบบนี้ทุกวันเราไม่ไหวแน่ๆค่ะ
ช่วยหาวิธีทีนะคะ คือตอนนี้ไม่ไหวจริงๆ