ปัจจัยที่ควรจับตากับธุรกิจอสังหาฯไทยปี 63 จะมีอะไรบ้าง?

เผลอแป๊บเดียวก็หมดไตรมาสแรกปี 2563 กันแล้ว บรรยากาศตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมยังไม่แสดงวี่แววว่าจะมีความคึกคักใดๆ เพิ่มขึ้น ด้วยทั้งปัจจัยกระทบทั้งภายในประเทศและต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นด้านภาวะเศรษฐกิจซบเซา ปัญหาการเมือง รวมถึงการระบาดของโรค COVID-19 ที่ทำให้หลายๆประเทศต้อง Lockdown ตัวเองกันอยู่ขณะนี้ ก็ส่งผลกับภาคธุรกิจเล็กใหญ่ต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่ภาคอสังหาฯ สำหรับปีใหม่ พ.ศ.2563 นี้ที่เศรษฐกิจยังออกตัวช้า ปัจจัยอะไรบ้างในธุรกิจอสังหาฯที่เรายังควรจับตามองกันครับ

ปัจจัยภายในประเทศ
ด้านเศรษฐกิจและการเมือง : นโยบายทางการเงิน
เริ่มกันที่เรื่องใกล้ตัวอย่างปัจจัยภายในประเทศกันก่อนเลยครับ อย่างด้านเศรษฐกิจและการเมือง มองดูแล้วก็มีส่วนกระทบภาคธุรกิจอสังหาฯโดยตรง ทั้งมาตรการ LTV การประกาศใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ รวมถึงการเข้มงวดของธนาคารในการปล่อยกู้ เพื่อชะลอการเกินหนี้เสีย ลดการลงทุนเชิงเก็งกำไรเกินจำเป็น และกดดัน Developer ต้องเร่งขายโครงการเดิมที่มีอยู่ เพื่อลดสภาวะ Oversupply ชะลอการเปิดโครงการใหม่ๆ ทำให้ตั้งแต่เริ่มปีใหม่มานี้มีโครงการเปิดตัวใหม่ๆ น้อยมาก แม้จะมีหลายโครงการที่ตั้งชื่อเตรียมเปิดตัวอยู่หลายแห่ง แต่ก็ยังไม่มีกำหนดเปิดขายอย่างเป็นทางการออกมาเท่าไหร่
นอกจากนี้ท่ามกลางภาวะวิกฤต COVID-19 ยังไม่หยุดระบาด มีการออกนโยบายช่วยเหลือด้านการเงินของผู้ที่ได้รับผลกระทบต่างๆ ของหลายๆ ธนาคาร ทั้งการลดอัตราเงินผ่อน งดและพักการชำระหนี้หรือให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ย ซึ่งรายละเอียดของแต่ละแบงค์ก็จะแตกต่างออกไปครับ

ภาคธุรกิจอสังหาฯ : ชะลอโครงการใหม่ ระบายสต็อคเก่า
จากการกดดันทั้งของรัฐและแบงค์ ทำให้ Dev ต้องเร่งระบายคอนโดในสต็อกด้วยโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมต่างๆ ทั้งการลดราคาหรือฟรีโอน ฟรีค่าส่วนกลางต่างๆ มาแข่งขันกันดึงดูดผู้ซื้อ หรือการปรับรูปแบบโครงการใหม่ที่เคยเน้น Segment ตลาดบนบนทำเลที่ Real Demand เป็น Main Class ทำให้บางโครงการเมื่อยอดขายไม่ได้ตามเป้า ก็ต้องปรับลดสเปคหรือพับไปในที่สุด
รวมถึงหลายๆ โครงการที่สร้างยอดขายจากนักลงทุนระยะสั้น พอเกิดภาวะเก็งกำไรเกินควร ปล่อยใบจองต่อไม่ทันกำหนดโอน ก็ต้องดึงห้องหลุดโอนเหล่านี้กลับมาขายใหม่ แต่ละ Dev จึงเริ่มปรับราคาและรูปแบบโครงการที่จะเปิดใหม่หรือที่เพิ่งเปิดตัวไปให้อยู่ในระดับที่ผู้อยู่เอง Real Demand จะเข้าถึงได้ให้มากที่สุด

พฤติกรรมของผู้ซื้อ : ผู้ซื้ออยู่เองเจ็บน้อยกว่าหากราคาคอนโดร่วง
โครงการที่มีรูปแบบห้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริงๆ และราคาตั้งขายที่สมเหตุสมผลก็จะเป็นที่สนใจมากกว่าโครงการที่ตั้งราคาสูงแบบสร้างกำไรด่วนจากการอ้างอิงแนวโน้มราคาอนาคตมากกว่าราคาปัจจุบันของทำเลนั้นๆ ทำให้เก็งกำไรหรือขายต่อระยะสั้นได้ยาก เพราะมีทางเลือกจากการซื้อตรงมือหนึ่งกับ Dev คุ้มค่ากว่านั่นเอง

ปัจจัยจากต่างประเทศ
Demand ต่างชาติหดหาย : COVID-19 พิษเศรษฐกิจโลก
ต้นปีนี้คงไม่พ้นเรื่องการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่กระทบกับทุกภาคส่วนที่เพิ่งพา Demand ต่างประเทศ รวมทั้งภาคธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งที่ผ่านมาเน้นทำยอดขายจากจีนอยู่ไม่น้อย ด้วยสถานการณ์ที่บานปลายจนหลายๆ ประเทศทั่วโลกได้ Lockdown ตัวเองส่งผลให้กำลังซื้อจากประเทศจีนรวมถึงจากชาติตะวันตกเองก็ลดหายไปจากตลาดอสังหาฯ จำนวนมาก ทำให้บางโครงการหลุดโอนและเหลือห้องค้างสต็อกในที่สุด

ทิศทางการระบาดของ COVID-19 : ความกังวลเรื่องการระบาดรอบใหม่ช่วงปลายปี 63
แม้หลายๆ ฝ่ายจะเชื้อมั่นว่าการระบาดของ COVID-19 อาจจะสิ้นสุดลงได้ในช่วงกลาง 2Q/63 และธุรกิจต่างๆ จะทยอยกลับมาฟื้นตัวขึ้น รวมถึงคาดการณ์ถึงการกลับมาของ Demand การซื้ออสังหาฯจากจีนไว้เป็นที่ลี้ภัยเพื่อหนีโรคระบาด https://www.thansettakij.com/content/property/421641 แต่ผู้เชี่ยวชาญยังกังวลว่า COVID-19 อาจจะไม่ยุติง่ายขนาดนั้นครับ ตราบใดที่การคิดค้นวัคซีนยังไม่สำเร็จ แม้การระบาดจะชะลอตัวลงได้ในช่วงกลางปี หากสภาวะเหมาะสม ช่วง 4Q/63 ก็มีโอกาสที่จะกลับมาระบาดรอบใหม่ https://www.bbc.com/thai/international-52071358 สร้างความเสียหายให้ทุกภาคส่วนได้อีก

ท้ายที่สุดเหมือนสถานกาณ์ขณะนี้ COVID-19 จะได้ Spotlight ไปทั้งหมด ในเมื่อสถานการณ์ต่างๆ ยังไม่คลี่คลายและลากยาวมาถึง 2Q/63 ก็มีเพียงความหวังริบหรี่ว่าหลังการระบาดสิ้นสุดก่อนกลางปีเศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีขึ้น และภาวนาให้ไม่เกิดการระบาดรอบใหม่ตามที่หลายฝ่ายกังวล นับเป็นปัจจัยตัวใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยส่วนอื่นๆ เป็นลูกโซ่เลยทีเดียวที่ควรจับตาในปี 63 นี้เลยครับ แล้วมาพบกับเรื่องราวข่าวสารคอนโดดีดีได้ใหม่ที่ Condonewb นะครับ

ที่มา : Condonewb
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่