แท็กซีไปสนามมวยติดโควิด ยังรับผู้โดยสาร แถมไปหาหมอฟันแล้วไม่บอก หมอ ผู้ช่วย เจ้าหน้าที่โดนกักตัว

เสียบุคลากรทางการแพทย์ไปอีกหลายคนด้วยคนเห็นแก่ตัวคนเดียว

สนามมวยอีกแล้ว 

อย่างว่าล่ะนะ ถ้าคนรับผิดชอบสังคมคงไม่ไปสนามมวยแต่แรกละ

......

หมอฟันเจอคนขับแท็กซี่โกหก บอกไม่ได้ไป "สนามมวยลุมพินี" แต่พอถอนเสร็จบอกความจริง ส่งตรวจเชื้อพบติด "โควิด-19" ทำหมอโดนพักงาน กักตัว เสี่ยงติดเชื้อไปด้วย

หมอฟันเจอคนขับแท็กซี่โกหก บอกไม่ได้ไป "สนามมวยลุมพินี" แต่พอถอนเสร็จบอกความจริง ส่งตรวจเชื้อพบติด "โควิด-19" ทำหมอโดนพักงาน กักตัว เสี่ยงติดเชื้อไปด้วย
 
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวอุทาหรณ์เรื่อง "โควิด-19" โดยระบุว่า มีคนไข้เพศชายมาด้วยอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ไปพบแพทย์ ผ่านการคัดกรองวัดอุณหภูมิได้ 36.6 องศาฯ ปฏิเสธภาวะเสี่ยงทุกอย่าง แพทย์ตรวจร่างกาย จ่ายยา และส่งให้พบทันตแพทย์เพื่อถอนฟัน เพราะฟันโยกเป็นหนอง อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่สบาย ปวดศีรษะ

ขณะที่ทันตแพทย์ที่ถอนฟัน ซักประวัติอีกครั้งเรื่องความเสี่ยง คนไข้ก็ปฏิเสธ และแอบเห็นคนไข้แต่งตัวเหมือนคนขับแท็กซี่ เลยถามว่า มีรับส่งผู้โดยสารไปกลับสนามมวยบ้างมั้ย คนไข้บอกเคยไปสนามมวยมาเมื่อ 2-3 เดือนก่อน ถามย้ำอีกครั้ง ว่าไปมาเมื่อไหร่ คนไข้บอกก็ตอบแบบเดิม ทันตแพทย์ตัดสินใจถอนฟันให้ เพราะฉุกเฉินและถอนไม่ยาก

พอถอนเสร็จให้กัดก๊อซ คนไข้บอกว่า จริงๆ เพิ่งไปสนามมวยลุมพินี เมื่อ 6 มี.ค. เพื่อนที่ไปด้วยกันถูกตำรวจตามมากักตัวหมดแล้ว แต่เค้าไม่โดนเลยขับแท็กซี่รับส่งผู้โดยสารเรื่อยๆ 2-3 วันที่แล้ว มีไข้ไม่หาย กินยาพาราไข้ลด แล้วมาหาหมอ

จากนั้น ทันตแพทย์ตั้งสติขั้นสูงสุด ติดต่อเจ้าหน้าที่ให้นำตัวไปตรวจเชื้อโควิด รอผลวันรุ่งขึ้น วันต่อมาผลเพาะเชื้อเป็น positve ทันตแพทย์กลายเป็นเคส PUI เพราะสัมผัสผู้ติดเชื้อโดยตรง พักงาน กักตัวอยู่บ้าน นี่คือเรื่องที่เกิดจริง

https://www.thairath.co.th/news/society/1808673
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่