สวัสีครับผม ผมขอยกคำแนะนำตัวจากกระทู้ที่แล้วที่ผมตั้งเรื่อง “แนะนำวิธีตรวจสอบผ้าเบรค Brembo แท้” มาต้นกระทู้ก็แล้วกันนะครับ จะได้พอรู้จักกันคร่าวๆว่าผมเป็นใครและที่มาโพส ก็ไม่ได้ต้องการจะขายอะไร พยายามทำตัวให้เป็นกลาง เสนอข้อมูลให้ไปตัดสินใจกันนะครับ

“เนื่องจากผมเองเป็นร้านที่จำหน่าย เปลี่ยนและเจียรจานเบรคในจังหวัดเล็กๆจังหวัดนึง ลูกค้าก็ไม่ได้มากมายอะไร เน้นทำให้คนรู้จักและบอกต่อๆกันซะมากกว่า แต่ผ้าเบรคที่ร้านผมเลือกมาใช้ จะใช้ตัวที่คุณภาพดีที่สุดในราคาที่ยอมรับได้ เน้นนะครับ ของที่ดีในราคาที่เหมาะสม เพราะฉะนั้นผมจะไม่บอกว่าผ้าเบรคอันนี้ถูกหรืออันนี้แพง เพราะความถูกแพงต้องอิงกับคุณภาพที่ได้ด้วย ถ้าถามผม ผมก็จะบอกได้แค่ว่าตัวนี้ราคาสูง หรือตัวนี้ราคาต่ำกว่า แล้วข้อดีข้อเสียที่ได้จากราคานี้คืออะไรบ้าง

ทีนี้ เรื่องของเรื่องคือสองสามวันก่อนครับ มีลูกค้าท่านนึงเอารถมาให้ทำ เนื่องจากในจังหวัดเล็กๆนี้ มีร้านผมร้านเดียวที่มีเครื่องเจียรจาน Ammco ที่ได้มาตรฐานที่สุดแล้วในตลาด แม้แต่ศูนย์รถต่างๆในจังหวัดก็เอาจานเบรคมาเจียรที่ผม (ขอไม่บอกก็แล้วกันนะครับว่าร้านชื่ออะไร เพื่อความเป็นกลางและไม่ถือเป็นการโฆษณาด้วย) ส่วนเรื่องเปลี่ยนผ้าเบรคควรเจียรจานมั้ย เดี๋ยวไว้ผมค่อยมาเล่าให้ฟังอีกทีก็แล้วกันครับ”

ใครอยากกลับไปอ่านก็เชิญตามไปทีลิ้งค์นี้ได้เลยครับ

- แนะนำวิธีตรวจสอบผ้าเบรค Brembo แท้
https://pantip.com/topic/39682742

จากกระทู้นั้น ผมสัญญาว่าจะมาเล่าข้อมูลการเปลี่ยนผ้าเบรคว่าควรเจียรจานด้วยหรือไม่ ด้วยความที่กลัวว่าเนื้อหาจะยาว เลยขอแยกมาเป็นกระทู้นี้แทนละกันนะครับ เริ่มกันเลยดีกว่า

……………………….

“เปลี่ยนผ้าเบรค ควรเจียรจานเบรคหรือไม่เจียรจานเบรค?”

คำถามคลาสสิคมากกกก และเจอบ่อยมากกก สำหรับลูกค้าประจำที่ทำที่ร้านผมอยู่แล้วผมจะไม่เจอคำถามนี้นะครับ เพราะผมจะอธิบายทุกท่านให้ทราบอยู่แล้วว่าควรเจียรหรือไม่ แต่สำหรับลูกค้าใหม่ๆที่แวะมาทำ หรือไปทำมาจากที่อื่นแล้วมีปัญหา ก็มักจะถามอยู่เสมอๆนะครับ ว่าเปลี่ยนผ้าเบรคแล้วควรเจียรจานด้วยรึเปล่า ผมลองเซิร์ชหาในกูเกิ้ลก็เจอกระทู้พันทิปที่มีคนเข้าไปถาม ลองเข้าไปดูก็เห็นมีแต่คำตอบที่ใช้ความเห็นซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่อธิบายว่าทำไมถึงควรจะเจียรจานเบรค ต้องเก็บไปคิดกันเองอีกว่าช่างจะหลอกให้เจียรจานเบรครึเปล่าหว่า ทำไมช่างถึงเชียร์จังเลย โดนต้มอีกมั้ย



สำหรับผม ผมบอกตรงนี้ไว้เลยครับ ว่าหลังจากการเปลี่ยนผ้าเบรค

ควรจะเจียรจานเบรคด้วยครับ

เพราะอะไร เดี๋ยวจะแจกแจงให้ฟังกันเป็นข้อๆนะครับ แต่ก่อนอื่นต้องอธิบายลักษณะของผ้าเบรคและจานเบรคคร่าวๆสำหรับท่านที่ไม่ทราบก่อนนะครับ ตัวผ้าเบรคเองสำหรับรถทั่วไป ข้างหนึ่งจะมีสองชิ้นนะครับ ใช้แรงกดจากกระบอกสูบดันให้ผ้าเบรคหนีบเข้ากับจานเบรคซึ่งติดอยู่กับล้อให้เกิดความฝืดและหยุดการหมุนของล้อ ซึ่งจะทำให้รถหยุด

ผ้าเบรคเองประกอบด้วยเนื้อผ้าเบรคและแผ่นเหล็กสำหรับเป็นโครงยึดผ้าเบรค อาจจะด้วยกาวหรือกรรมวิธีอื่นๆแล้วแต่เทคโนโลยีของแต่ละบริษัทนะครับ

ตัวเนื้อผ้าเบรคเองก็มีหลายเกรดหลายเทคโนโลยีการผสม เพื่อให้ได้คุณสมบัติต่างๆ ทั้งเรื่องความฝืด การทนความร้อน การทนแรงอัด บลาๆๆ แต่อย่างหนึ่งที่เราควรรู้คือผ้าเบรคจะต้องเสียดสีกับจานเบรคทุกครั้งที่เราต้องการหยุดหรือชะลอรถ ดังนั้นวัตถุสองชนิดเสียดสีกันย่อมต้องเกิดการสึกหรอ ไม่ว่าจะทั้งตัวผ้าเบรคเองหรือจานเบรคก็ตาม แต่ส่วนที่จะสึกหรอมากกว่าก็คือผ้าเบรค (สำหรับรถใช้งานทั่วไปนะครับ ไม่รวมถึงพวกรถแข่ง) ดังนั้นการเลือกผ้าเบรคที่เนื้อนิ่มหรือแข็ง ก็จะมีส่วนทำให้จานเบรคของรถเราสึกหรอมากหรือน้อยแตกต่างกันไปครับ 

ทีนี้ผมขอยกเหตุผลถึงความสำคัญของการเจียรจานเบรคออกมาเป็นเป็นข้อๆดังนี้

1. จานเบรคเป็นรอยเพราะผ้าเบรคหมดถึงเหล็กยึดผ้าเบรค ทีนี้จานเบรคก็ชิหัยนะครับ


ถ้าปล่อยให้ผ้าเบรคหมดขนาดถึงเหล็ก ก็จะกลายเป็นเหล็กกับเหล็กเสียดสีกันนะครับ ยังไงร่องรอยที่เกิดมันก็จำเป็นต้องเจียรอยู่แล้ว ผมไม่ลงรายละเอียดมาก ขอผ่านไปเร็วๆเลยนะครับ แค่อยากบอกว่าถ้าเมื่อไหร่ที่เหยียบเบรคแล้วรู้สึกครึดๆที่แป้นเบรค ก็ควรจะรีบพุ่งไปร้านซ่อมอย่างด่วนนะครับ อย่ารอให้เหมือนคันนี้ ผ้าเบรคหลุดหายไปชิ้นนึงละ
-----------------------------------------

2. ผิวจานเบรคด้านและลื่น

เนื่องด้วยผ้าเบรคและจานเบรคเกิดการเสียดสีกันทุกครั้งที่เราแตะเบรค นั่นหมายถึงความร้อนสะสมที่จะตามมา ตัวผ้าเบรคเองถึงได้มีหลายเกรดหลายราคาตามคุณสมบัติการทนความร้อนที่แตกต่างกันไปนะครับ ถ้าลองสังเกตจากรถของเรา จะเห็นว่าจานเบรคจะมีลัษณะค่อนข้างมัน เงา และเรียบลื่น ทั้งนี้อาจเกิดจากการเสียดสีและเศษฝุ่นผ้าเบรคเกาะอยู่บนหน้าจานเบรค และจานเบรคเมื่อหน้าสัมผัสโดนความร้อนสะสมนานๆ จะเกิดอาการกระด้าง แข็งและลื่นกว่าเนื้อในนะครับ การเจียรจารล้างหน้ามันออก เป็นการช่วยให้จานเบรคกับตัวผ้าเบรคสัมผัสกันได้เต็มที่ หลังจากการเจียรแล้ว ภาพเปรียบเทียบด้านล่าง ทางขวามือคือจานเบรคที่เจียรแล้วจะออกผิวเงาด้าน เทียบกับอันที่ยังไม่ได้เจียรซ้ายมือที่เห็นได้แม้แต่คราบรอยผ้าเบรคอยู่บนผิวจานเลยนะครับ



การเจียรผิวหน้าออกบางๆก็เป็นการช่วยเจียรคราบที่เกาะอยู่บนผิวหน้าจานเบรค เพิ่มประสิทธิภาพในการจับกับหน้าผ้าเบรคใหม่ให้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดระยะเวลาการ Bedding ให้สั้นลงครับ
-----------------------------------------

3. ผิวจานเบรคไหม้ขึ้นเป็นสะเก็ด

ความร้อนสะสมที่สูงขึ้น สามารถทำให้คุณสมบัติของเนื้อเหล็กของจานเบรคเกิดการแปรสภาพได้นะครับ สำหรับผู้อ่านที่เรียนเกี่ยวกับวัสดุศาสตร์มาคงเข้าใจได้ไม่ยาก แต่สำหรับท่านที่อาจจะยังงง ให้ลองนึกถึงการตีดาบ ที่ช่างตีเหล็กแล้วเอาไปจุ่มน้ำ แล้วตีใหม่จุ่มน้ำซ้ำๆกันไปมา เพื่อให้ดาบแข็งขึ้น ตัวจานเบรคเองก็คือเหล็กชนิดหนึ่งซึ่งมีโอกาสเกิดการแปรสภาพได้เหมือนกัน




หากลองดูในภาพนะครับ จานเบรคจะเกิดเป็นจุดด่างๆขึ้นรอบตัวจานเบรค รอยเหล่านี้คือเนื้อเหล็กที่แปรสภาพหลังจากโดนความร้อนสะสมเป็นเวลานาน ไม่ว่าจากทั้งการใช้ผ้าเบรคที่เนื้อแข็ง หรืออาการเบรคติดจนผ้าเบรคเกิดการเสียดสีกับจานเบรคอยู่ตลอดเวลา รอยเหล่านี้มักจะเกิดบนผิวหน้าจานเบรค ซึ่งสามารถเจียรออกได้ในระดับหนึ่งครับ จุดเหล่านี้มักจะมีเนื้อแข็งกว่าเนื้อจานเบรคปกติ ซึ่งจะทำให้เวลาผ้าเบรคสัมผัสกับจานแล้วเกิดอาการสะดุดจนบางครั้งสะเทือนขึ้นไปที่แป้นเบรคได้
-----------------------------------------

4. จานเบรคก็สึกตามผ้าเบรคนะครับ

อย่างที่เกริ่นไว้นะครับ ทั้งผ้าเบรคและจานเบรค ต่างสึกหรอจากการเสียดสีทั้งคู่ แต่ผ้าเบรคมักจะสึกหรอมากกว่า ทั้งนี้ในบางกรณี จานเบรคก็อาจจะสึกหรอมากอย่างที่เห็นในภาพได้ กรณีอย่างที่เห็น ควรจะเจียรเอาขอบออกนะครับ เพราะผ้าเบรคที่ใส่เข้าไปใหม่ จะมีหน้าผ้าเบรคแตกต่างกันไปตามยี่ห้อผู้ผลิต ความกว้างที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยอาจทำให้เกิดอาการดิ้นของผ้าเบรคได้ครับ


-----------------------------------------

4.1 จานเบรคสึกแบบเรียบเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง

ขออยู่ภายใต้หัวข้อของจานเบรคสึกก็แล้วกันนะครับ เคสอย่างนี้คือการที่ผ้าเบรคกัดจานเบรคเต็มหน้าแต่เอียง เพราะฉะนั้นเราจะไม่ทราบได้เลยว่าที่เห็นหน้าจานเบรคเรียบๆอยู่เนี่ย มันเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งหรือไม่ จนกว่าเราจะถอดออกไปขึ้นแท่นตั้งศูนย์จานเบรคแล้วเดินเครื่องดู

จากรูปจะเห็นว่าผ้าเบรคทั้งสองชิ้นจะจับกับหน้าจานเบรคทั้งสองด้าน ซึ่งควรจะมีความเรียบขนานกัน เพื่อให้หน้าผ้าเบรคทั้งสองประกบกันสนิท ทีนี้ลองเทียบภาพนี้กับภาพด้านล่างดูนะครับ ว่าภาพด้านล่างตัวจานเบรคมีอะไรผิดปกติไปรึเปล่า


เฉลยคือ หน้าจานเบรคที่มันเอียงสอบเข้าหากันทางด้านตัวอักษณ A นะครับ ปัญหาของจานเบรคลักษณะนี้ คือการที่หน้าจานเบรคกับหน้าผ้าเบรคไม่ขนานกัน ทำให้เวลาผ้าเบรคบีบตัวจับกับหน้าจาน จะเกิดอาการสะบัดของผ้าเบรค ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการสะท้านและสั่นเวลาที่เหยียบเบรคครับ


-----------------------------------------

4.2 จานเบรคสึกแบบไม่สม่ำเสมอเป็นคลื่น

อันนีเกิดจากการใส่ผ้าเบรคที่ไม่มีคุณภาพนะครับ เนื้อผ้าเบรคนอกจากจะแข็งแล้วยังมีความไม่สม่ำเสมอของวัตถุดิบในเนื้อผ้าเบรคเอง ทำให้จานเบรคถูกกัดลึกเป็นคลื่น หน้าไม่เรียบเสมอกัน


จากรูปที่เห็น เป็นตัวอย่างของเคสนี้ที่มองด้วยตาเปล่าเห็นนะครับ ยังมีอีกหลายเคสที่เป็นลักษณะนี้เพียงแต่ไม่มาก ทำให้สังเกตุด้วยตาเปล่าไม่ออก เอานิ้วลูบไปก็เท่านั้น เพราะนิ้วมันแยกแยะได้ไม่ออกหรอกครับว่าพื้นผิวมันได้ระนาบรึเปล่า
-----------------------------------------

4.3 จานเบรคทั้งสึกแบบไม่สม่ำเสมอและเอียง

อันนี้อาการหนักเลยครับ เพราะทั้งเอียงด้วย เป็นลอนด้วย เจ้าได้เข้าประทับทันทีหลังจากออกจากร้านเลยครับ นึกภาพจานเบรคข้อ 4.1 รวมกับข้อ 4.2 เอาละกันนะครับ
-----------------------------------------

4.4 จานเบรคสึกเป็นร่องเล็กทั้งวง

ลักษณะคือการที่จานเบรคสึกเป็นรองเล็กๆไปรอบวงจาน เกิดจากผ้าเบรคที่เนื้อไม่สม่ำเสมอ และมีโลหะเป็นส่วนผสมเยอะ พอเนื้อโลหะไม่ได้ถูกบดละเอียดพอ ก็จะกัดจานเบรคเป็นร่องลึกเฉพาะจุดที่เนื้อโลหะนั้นเสียดสี อาการแบบนี้ไม่ได้ทำให้จานคดหรือสั่น แต่จะหอนเป็นรถเมล์สาย 8 ทุกครั้งที่แตะเบรคแน่นอน


-----------------------------------------

5. ปล่อยให้เกิดสนิมบนหน้าจานเบรค

สนิมพอเกิดบนเนื้อเหล็กแล้ว มันไม่หายไปเองนะครับ แถมมันจะกัดผ้าเบรคให้เป็นรอยตามเนื้อสนิมนี้อีกต่างหาก ถ้ารถที่จอดทิ้งไว้นานๆ หรือท่านที่รักรถมากกก ล้างรถเสร็จแล้วจอดอยู่ในบ้านตลอดกลัวฝุ่นจับ รับรองไม่นานน้องหนิได้ไปเยือนแน่นอน ทีนี้ปัญหาคือ สนิมพอเจอกับผ้าเบรคแล้วมันจะลื่นนะครับ ยิ่งทำให้เบรคไม่มีประสิทธิภาพกันเข้าไปอีก


เดี๋ยวมาต่อนะครับผม กระทู้ยาวเกินละ