ในสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นที่ทราบกันดีว่าเราต้องเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล จะเห็นได้จากการปิดสถานบริการ ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ หรือสถานที่ที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก เพื่อลดการกระจายและสัมผัสเชื้อไวรัสโคโรนา (SARS-CoV-2) ที่เป็นสาเหตุของโรค COVID-19
ปัจจุบันเราจะใช้คำว่า "social distancing" กันเยอะ หรือแปลเป็นภาษาไทยเป็น "ระยะห่างทางสังคม" แต่คำว่า "social distancing" นี้อาจเป็นคำที่ไม่เหมาะสมนัก เพราะในการปฏิบัติจริง เราแต่เว้นระยะห่างทางกายภาพ (physical distance) เท่านั้น แต่ว่าเรายังคงรักษาความสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างกันเหมือนเดิม
องค์กรอนามัยโลก (WHO) ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา (
ลิงก์ข่าว) มีการใช้คำว่า "social distancing" น้อยลงมาก ซึ่งทาง Dr. Maria Kerkhove (นักระบาดวิทยาขององค์กรอนามัยโลก) ได้กล่าวว่า ทางองค์กรอนามัยโลกกำลังจะเปลี่ยนเป็นคำว่า "
physical distancing" (การเว้นระยะห่างทางกายภาพ) เพื่อจะได้ตรงกับวัตถุประสงค์ ประชาชนยังคงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเหมือนเดิม โดยให้มองว่าสุขภาพจิตก็สำคัญไม่แพ้สุขภาพกาย
นอกจากนั้นหลายหน่วยงานในต่างประเทศก็เริ่มเปลี่ยนเป็นคำว่า "physical distancing" กันแล้ว
ดังนั้นเราก็ควรเปลี่ยนเช่นกัน เพราะถึงแม้กายจะไกลกัน แต่ใจเรายังใกล้กันเสมอ
มาใช้คำว่า "physical distancing" แทน "social distancing" กัน
ปัจจุบันเราจะใช้คำว่า "social distancing" กันเยอะ หรือแปลเป็นภาษาไทยเป็น "ระยะห่างทางสังคม" แต่คำว่า "social distancing" นี้อาจเป็นคำที่ไม่เหมาะสมนัก เพราะในการปฏิบัติจริง เราแต่เว้นระยะห่างทางกายภาพ (physical distance) เท่านั้น แต่ว่าเรายังคงรักษาความสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างกันเหมือนเดิม
องค์กรอนามัยโลก (WHO) ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา (ลิงก์ข่าว) มีการใช้คำว่า "social distancing" น้อยลงมาก ซึ่งทาง Dr. Maria Kerkhove (นักระบาดวิทยาขององค์กรอนามัยโลก) ได้กล่าวว่า ทางองค์กรอนามัยโลกกำลังจะเปลี่ยนเป็นคำว่า "physical distancing" (การเว้นระยะห่างทางกายภาพ) เพื่อจะได้ตรงกับวัตถุประสงค์ ประชาชนยังคงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเหมือนเดิม โดยให้มองว่าสุขภาพจิตก็สำคัญไม่แพ้สุขภาพกาย
นอกจากนั้นหลายหน่วยงานในต่างประเทศก็เริ่มเปลี่ยนเป็นคำว่า "physical distancing" กันแล้ว
ดังนั้นเราก็ควรเปลี่ยนเช่นกัน เพราะถึงแม้กายจะไกลกัน แต่ใจเรายังใกล้กันเสมอ