สถานการณ์โควิดแบบนี้ เชื่อว่าทุกคนคงเครียด กังวล และต้อง cancel ทริปต่างๆออกไป รวมทั้งต้อง work from home และ Travel from home กันเป็นแถบๆ
วันนี้เลยขออาสา พาไปเที่ยวเกาะกูด มาดูกันนะคะว่ามันจะกู๊ดขนาดไหน เพื่อหาแรงบันดาลใจไปเที่ยว ตอนที่สถานการณ์ดีขึ้น
ดูเป็นคลิปเลยแล้วกัน ♥️

สำหรับทริปนี้ จริงๆเราใช้เวลาทั้งหมด 4 วัน 3 คืน เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ แล้วไปนอนค้างที่จันทบุรีก่อน จากนั้นจึงไปค้างบนเกาะกูดต่ออีก 2 คืน ทริปนี้เราเดินทางช่วง 14-17 มีนาคม ถ้าพร้อมแล้วเกาะล้อตามมาเล้ยย
ปล.รูปช่วงแรกอาจมีการแต่งภาพ แต่ช่วงเกาะกูดจะเป็นภาพเรียลๆจากกล้อง Gopro 7 และ Sony ทั้งหมดไม่ผ่านแอพ เพื่อความชัดเจนของรูปและบรรยากาศนะคะ
วันแรก : 14 มีนาคม
เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ช่วงแปดโมงเช้ามุ่งตรงไปสู่ระยอง ระหว่างทางแวะปั๊ม ซื้อขนมไปเรื่อยเปื่อย จนประมาณ 11 โมงเริ่มหิวค่ะ เลยแวะร้านเด็ดเอร็ดคั่วไก่ไฟมังกร จ.ระยอง ทางร้านขายแค่ 2 เมนูคือก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่กับเล้งแซ่บ แต่คือรสชาติดี และคนเยอะมาก
ร้านจะเปิดเฉพาะวันพฤ-อา. เวลา 09.00-14.00 น.เรียกว่า เปิด 4 วัน 5 ชั่วโมง/วันก็ว่าได้
แต่ราคาคือไม่แพง แถมรสชาติคือดีมาก จานนี้คือคั่วไก่+หมึกกรอบ
ส่วนเล้งทางร้านจะใช้เป็นพริกแห้ง คือแซ่บ ซู้ดด~~
ส่วนที่ชอบสุดน่าจะเป็นเบคอน ไข่อบ เพราะกลิ่นเบคอนหอมมากเข้ากับก๋วยเตี๋ยวคั่วเป็นอย่างดี ตัดเลี่ยนด้วยเล้งแซ่บ พิมไปหิวไปอีกแล้ว 😋
พอกินเสร็จ เราก็ออกเดินทางกันต่อเพื่อไปจันทบุรี จุดหมายต่อไปของเราคือ วัดปากน้ำแขมหนู หรือโบสถ์สีน้ำเงินนั่นเอง
ขนาดไปวันเสาร์ แต่ก็รู้สึกได้ว่าคนน่าจะน้อยกว่าปกติ ขนาดยังไม่มีนโยบายปิดสถานที่ใดๆแต่บรรยากาศดูไม่คึกคักเท่าไหร่
จากนั้นช่วงบ่ายสามเราเลยแวะไปหาของกินกันต่อที่ชุมชนริมน้ำจันทบูร
ไม่แน่ใจว่าเพราะโควิด-19 รึเพราะเรามาช้าบรรยากาศในตลาดเลยเงียบเหงา เราได้มีโอกาสชิม น้ำมะปี๊ด , ขนมปังสังขยาจากร้านจันทบุรีเบเกอรี่ แล้วก็ไอติมจรวด ขอบอกว่าอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ
ดูจากเวลาจะห้าโมงเย็นแล้ว ได้เวลาเข้าที่พักกันเถอะ แต่ระหว่างทางผ่านอ่างเก็บน้ำห้วยตาโบหรือปางอุ๋งจันทบุรีมีเหรอที่เราจะพลาด
บรรยากาศดี เงียบสงบ คือถ้ามากางเต็นท์ช่วงหน้าหนาวต้องฟินมากแน่ๆ
ไม่มี คชจ.นะคะ ค่าจอดรถก็ไม่มี เต็นท์ต้องเอามาเอง ไม่มีค่าเช่าพื้นที่ ทุกอย่างคือฟรี แถมมีห้องน้ำไว้ให้บริการ ตอนเย็นๆถ้านั่งกินหมูกะทะต้องฟินมากแน่ๆ
ดื่มด่ำมาพอสมควร เราขับรถต่ออีก 15 นาทีก็มาถึงที่พักของเราคืนนี้ค่ะ ชื่อว่า Licuala-ลิคูล่า
คือชอบมากๆ ตอนแรกที่จองก็กลัวๆนะคะว่า 990/คืน/2คน รวมอาหารเช้าจะออกมาเป็นยังไง แต่ดูจากบรรยากาศสิคะ
เห็นป่าๆแบบนี้ที่จริงติดถนน จากถนนใหญ่เข้ามาประมาณ 700 เมตรก็ถึงที่พักแล้ว
มันดีมาก ธรรมชาติ และคุ้มมากๆ ย้ำนะคะ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับที่พักแต่มันถูกและดีจนอยากบอกต่อ
ที่นอนกว้างมาก ด้านข้างเป็นกระจกบานใหญ่ อีกด้านมีโซฟาปรับนอนได้ด้วย นอน 3 คนยังสบายๆเลย
ตอนเย็นมีบริการหมูกะทะด้วย ชุดละ 250.-/2 คนกำลังพอดี กับชุดละ 350.- คือแบบอยู่แค่ที่พักก็ฟินแล้ว
ส่วนตอนเช้ามีข้าวต้มกุ้งให้อีกคนละชาม แถมอร่อยด้วย
วันที่สอง : 15 มีนาคม
เช้านี้เราออกจากที่พักประมาณ 9 โมงเช้าค่ะ เพื่อไปท่าเรือแหลมศอกต่อ ระหว่างทางเราทำการบ้านมาแล้วว่าต้องแวะกิน ก๋วยเตี๋ยวปูสุขุมวิท
บรรยากาศร้านดูเปิดมานาน ดูขลังและรับรู้ได้ว่าอร่อย 555 มีรูปดาราติดเต็มผนัง แถมได้รางวัลจากวงในด้วย ส่วนเมนูแนะนำทางร้านคือข้าวผัดพริกเกลือ เราเลยสั่งข้าวผัดพริกเกลือกั้ง บอกเลยว่าเด็ด
ส่วนอีกชามคือ เส้นปลาทะเลน้ำใส ยกมาให้ทั้งทะเลเล้ยย~
กินอิ่มเราก็ไปต่อกันที่ท่าเรือแหลมศอก การไปเกาะกูดครั้งนี้เราใช้บริการของ SuperJet Ferry ซึ่งการันตีว่าใช้เวลาน้อยที่สุดเพียง 45 นาทีเท่านั้น ราคาเที่ยวละ 500 บาท รวมบริการรถรับ-ส่ง ถึงรีสอร์ท เรือจะมีไป-กลับวันละเที่ยว ขาไปจากแหลมศอก-เกาะกูด เวลา 12.45-13.30 น.
เรือลำใหญ่เป็นแบบ 2 ชั้น จุคนได้ถึง 300 กว่าคน
บรรยากาศที่นั่งเหมือนอยู่ในโรงหนัง แล้ววันนี้คือคนก็น้อยมากๆ จนน่าตกใจ
วันนี้เรือออกช้าไปครึ่งชั่วโมง ทำให้เรามาถึงเกาะกูดตอนบ่ายสอง จากนั้นจะมีรถสองแถวรอเรียกเราให้ขึ้นไป พร้อมไปส่งถึงหน้า Cham’s house resort เลยคร่าาาา
[CR] เกาะกูด 3 วัน 2 คืน@Cham's house
วันนี้เลยขออาสา พาไปเที่ยวเกาะกูด มาดูกันนะคะว่ามันจะกู๊ดขนาดไหน เพื่อหาแรงบันดาลใจไปเที่ยว ตอนที่สถานการณ์ดีขึ้น
ดูเป็นคลิปเลยแล้วกัน ♥️
สำหรับทริปนี้ จริงๆเราใช้เวลาทั้งหมด 4 วัน 3 คืน เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ แล้วไปนอนค้างที่จันทบุรีก่อน จากนั้นจึงไปค้างบนเกาะกูดต่ออีก 2 คืน ทริปนี้เราเดินทางช่วง 14-17 มีนาคม ถ้าพร้อมแล้วเกาะล้อตามมาเล้ยย
ปล.รูปช่วงแรกอาจมีการแต่งภาพ แต่ช่วงเกาะกูดจะเป็นภาพเรียลๆจากกล้อง Gopro 7 และ Sony ทั้งหมดไม่ผ่านแอพ เพื่อความชัดเจนของรูปและบรรยากาศนะคะ
วันแรก : 14 มีนาคม
เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ช่วงแปดโมงเช้ามุ่งตรงไปสู่ระยอง ระหว่างทางแวะปั๊ม ซื้อขนมไปเรื่อยเปื่อย จนประมาณ 11 โมงเริ่มหิวค่ะ เลยแวะร้านเด็ดเอร็ดคั่วไก่ไฟมังกร จ.ระยอง ทางร้านขายแค่ 2 เมนูคือก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่กับเล้งแซ่บ แต่คือรสชาติดี และคนเยอะมาก
ร้านจะเปิดเฉพาะวันพฤ-อา. เวลา 09.00-14.00 น.เรียกว่า เปิด 4 วัน 5 ชั่วโมง/วันก็ว่าได้
แต่ราคาคือไม่แพง แถมรสชาติคือดีมาก จานนี้คือคั่วไก่+หมึกกรอบ
ส่วนเล้งทางร้านจะใช้เป็นพริกแห้ง คือแซ่บ ซู้ดด~~
ส่วนที่ชอบสุดน่าจะเป็นเบคอน ไข่อบ เพราะกลิ่นเบคอนหอมมากเข้ากับก๋วยเตี๋ยวคั่วเป็นอย่างดี ตัดเลี่ยนด้วยเล้งแซ่บ พิมไปหิวไปอีกแล้ว 😋
พอกินเสร็จ เราก็ออกเดินทางกันต่อเพื่อไปจันทบุรี จุดหมายต่อไปของเราคือ วัดปากน้ำแขมหนู หรือโบสถ์สีน้ำเงินนั่นเอง
ขนาดไปวันเสาร์ แต่ก็รู้สึกได้ว่าคนน่าจะน้อยกว่าปกติ ขนาดยังไม่มีนโยบายปิดสถานที่ใดๆแต่บรรยากาศดูไม่คึกคักเท่าไหร่
จากนั้นช่วงบ่ายสามเราเลยแวะไปหาของกินกันต่อที่ชุมชนริมน้ำจันทบูร
ไม่แน่ใจว่าเพราะโควิด-19 รึเพราะเรามาช้าบรรยากาศในตลาดเลยเงียบเหงา เราได้มีโอกาสชิม น้ำมะปี๊ด , ขนมปังสังขยาจากร้านจันทบุรีเบเกอรี่ แล้วก็ไอติมจรวด ขอบอกว่าอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ
ดูจากเวลาจะห้าโมงเย็นแล้ว ได้เวลาเข้าที่พักกันเถอะ แต่ระหว่างทางผ่านอ่างเก็บน้ำห้วยตาโบหรือปางอุ๋งจันทบุรีมีเหรอที่เราจะพลาด
บรรยากาศดี เงียบสงบ คือถ้ามากางเต็นท์ช่วงหน้าหนาวต้องฟินมากแน่ๆ
ไม่มี คชจ.นะคะ ค่าจอดรถก็ไม่มี เต็นท์ต้องเอามาเอง ไม่มีค่าเช่าพื้นที่ ทุกอย่างคือฟรี แถมมีห้องน้ำไว้ให้บริการ ตอนเย็นๆถ้านั่งกินหมูกะทะต้องฟินมากแน่ๆ
ดื่มด่ำมาพอสมควร เราขับรถต่ออีก 15 นาทีก็มาถึงที่พักของเราคืนนี้ค่ะ ชื่อว่า Licuala-ลิคูล่า
คือชอบมากๆ ตอนแรกที่จองก็กลัวๆนะคะว่า 990/คืน/2คน รวมอาหารเช้าจะออกมาเป็นยังไง แต่ดูจากบรรยากาศสิคะ
เห็นป่าๆแบบนี้ที่จริงติดถนน จากถนนใหญ่เข้ามาประมาณ 700 เมตรก็ถึงที่พักแล้ว
มันดีมาก ธรรมชาติ และคุ้มมากๆ ย้ำนะคะ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับที่พักแต่มันถูกและดีจนอยากบอกต่อ
ที่นอนกว้างมาก ด้านข้างเป็นกระจกบานใหญ่ อีกด้านมีโซฟาปรับนอนได้ด้วย นอน 3 คนยังสบายๆเลย
ตอนเย็นมีบริการหมูกะทะด้วย ชุดละ 250.-/2 คนกำลังพอดี กับชุดละ 350.- คือแบบอยู่แค่ที่พักก็ฟินแล้ว
ส่วนตอนเช้ามีข้าวต้มกุ้งให้อีกคนละชาม แถมอร่อยด้วย
วันที่สอง : 15 มีนาคม
เช้านี้เราออกจากที่พักประมาณ 9 โมงเช้าค่ะ เพื่อไปท่าเรือแหลมศอกต่อ ระหว่างทางเราทำการบ้านมาแล้วว่าต้องแวะกิน ก๋วยเตี๋ยวปูสุขุมวิท
บรรยากาศร้านดูเปิดมานาน ดูขลังและรับรู้ได้ว่าอร่อย 555 มีรูปดาราติดเต็มผนัง แถมได้รางวัลจากวงในด้วย ส่วนเมนูแนะนำทางร้านคือข้าวผัดพริกเกลือ เราเลยสั่งข้าวผัดพริกเกลือกั้ง บอกเลยว่าเด็ด
ส่วนอีกชามคือ เส้นปลาทะเลน้ำใส ยกมาให้ทั้งทะเลเล้ยย~
กินอิ่มเราก็ไปต่อกันที่ท่าเรือแหลมศอก การไปเกาะกูดครั้งนี้เราใช้บริการของ SuperJet Ferry ซึ่งการันตีว่าใช้เวลาน้อยที่สุดเพียง 45 นาทีเท่านั้น ราคาเที่ยวละ 500 บาท รวมบริการรถรับ-ส่ง ถึงรีสอร์ท เรือจะมีไป-กลับวันละเที่ยว ขาไปจากแหลมศอก-เกาะกูด เวลา 12.45-13.30 น.
เรือลำใหญ่เป็นแบบ 2 ชั้น จุคนได้ถึง 300 กว่าคน
บรรยากาศที่นั่งเหมือนอยู่ในโรงหนัง แล้ววันนี้คือคนก็น้อยมากๆ จนน่าตกใจ
วันนี้เรือออกช้าไปครึ่งชั่วโมง ทำให้เรามาถึงเกาะกูดตอนบ่ายสอง จากนั้นจะมีรถสองแถวรอเรียกเราให้ขึ้นไป พร้อมไปส่งถึงหน้า Cham’s house resort เลยคร่าาาา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้