รีวิว ผ่าคลอด รพ.เอกชน สิ่งที่คุณแม่ต้องเจอ

สวัสดีค่ะ แม่ๆห้องชานเรือนทุกท่าน หลังจากที่ จขกท. ตั้งครรภ์และสิงอยู่ห้องชานเรือนมาสักพักใหญ่ๆ วันนี้ถือเป็นโอกาสเหมาะ (เพราะลูกหลับ) เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ผ่าคลอด เพื่อไว้เป็นข้อมูลให้แม่ๆมือใหม่ ไว้เก็บข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการคลอดค่ะ
     แรกเริ่มเลยที่จริง จขกท.มีความตั้งใจว่าอยากจะคลอดเองแบบธรรมชาติ อยากได้อารมเบ่งลูกด้วยตัวเอง แต่ปรากฏว่าคุณลูกเป็นเด็กสมบูรณ์ตั้งแต่อายุครรภ์ได้ 37 สัปดาห์ น้ำหนักตอนนั้นประมาณ 3.3กก. จนคุณหมอเป็นห่วงว่าถ้าคลอดเองน่าจะยากอยู่ เพราะน้องตัวใหญ่ เลยตกลงว่า ตอน 38 สัปดามาดู นำ้หนักน้องอีกที
     พอถึงวันนัดคุณหมออัลตร้าซาว พบว่า น้องตัวใหญ่ขึ้นน้ำหนักอยู่ประมาณ 3.5 กก. ถ้าคลอดเองเสี่ยงตกเลือด จขกท.เลยตัดสินใจคลอดแบบผ่าคลอด หลังจากนั้น คุณสามีก็รีบไปหาฤกษ์คลอด จนได้วันผ่าคลอด คือที่ 39 สัปดาห์ (5 มี.ค 63) เมื่อได้วันที่ต้องการก็แจ้งทาง คุณหมอ เพื่อทำการจองห้องผ่า ห้องพัก ตามกระบวนการของรพ.
     ทีนี้ก็มาถึงเรื่องของการเตรียมตัวสำหรับคุณแม่ที่จะผ่าคลอด มีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ
   1. งดน้ำ อาหาร หลังเที่ยงคืน เคสของ จขกท. ไม่ได้ไปนอน รพ.ก่อน เพราะว่ากำหนดผ่าช่วง 11 โมง ดังนั้น นอนอยู่บ้านค่ะ เช้าก็ไป รพ.จะได้ไม่ต้องเสียค่าห้องเพิ่ม
  2.ของที่ต้องเตรียมไป รพ. ได้แก่
     - เสื้อผ้าเราวันกลับ
     - เสื้อผ้าลูก
     - ผ้าอนามัย อันนี้แนะนำแบบกางเกงค่ะ มันทำให้ชีวิตง่ายขึ้น
     - เครื่องปั๊มนม
     - ผ้าขนหนู หรือ ผ้าห่อตัวลูก
   3. เอกสารแจ้งเกิด สำเนาบัตรประชาชน พ่อ,แม่ ทะเบียนบ้านที่จะให้น้องย้ายเข้า
   4. วันผ่าไม่ต้องแต่หน้ามานะคะ เชื่อเถอะคะ ตอนลบออกมันยาก

     เมื่อเตรียมของพร้อม กายพร้อม ใจพร้อม เงินพร้อม เช้าก็มาที่ รพ. ค่ะ
       เมื่อมาถึงพยาบาลก็จะพาเราไปยังห้อฝคลอด เพื่อให้เราเปลี่ยนชุด ทำการเสียบสายน้ำเกลือ ฟังเสียหัวใจน้อง และทำความสะอาดน้องสาวเรา !!
      ใช่ค่ะ คุณอ่านไม่ผิด เราต้องนอนเปิดเปลือย ให้เค้ามาโกนขนและเช็ดทำความสะอาดให้น้องเราเตียนโลงวิวๆวับๆ เลย เพื่อที่เค้าจะทำการสวนสายปัสสาวะ ความรู้สึกตอนสวนคือ แสบๆขัดๆ ถ้าเจอพยาบาลชำนาญงานหน่อยก็เสียบพรวดเดียวจบ แต่ จขกท น่าจะโชคไม่ดีเท่าไหร่ โดนเสียบ 2 ที แสบเลยหลังจากสวนสายปัสสาวะ เค้าจะให้เราลองฉี่คือปวดฉี่ให้ฉี่เลย

    หลังจากสวนสายปัสสาวะก็ถึงเวลาเข็นเราไปที่ห้องผ่าตัด และทำการบล็อคหลัง วิธีการคือ เค้าจะจับเรานอนตะแคง แล้วให้เราก้มตัวให้มากที่สุด คือตอนนั้นท้องก็ใหญ่มาก พยาบาลก็จับเรากดจนคิดว่าตัวน่าจะงอเป็นกุ้งได้ที่ หมอวิสัญญี ก็จะเอายาชา มาจิ้มที่หลังเราแถวๆเอว บอกเลยว่าบล็อคหลังไม่น่ากลัวเลยค่ะ กดสิวเจ็บกว่าเยอะ

    เมื่อยาชาออกฤิทธิ์ขาเราจะชา คือจะชาตั้งแต่ช่วงอกลงไป หลังจากนั้นคุณหมอก็จะทำการผ่าเอาน้องออกมา ซึ่งตลอดการผ่าเราจะรู้สึกตัวตลอด แต่ระหว่างผ่า จขกท. มีความรู้สึกอยากอาเจียรด้วย สักพักพยาบาลจะมากดๆแถวเหนือท้องเราตอนนั้นคือรู้สึกจุกๆ จากนั้นเสียงร้องจ้าของเด็กน้อยก็ร้องลั่นห้อง พยาบาลก็จะขานเวลา และเพศ ของน้องค่ะ

   หลังจากน้องออกมาจากท้องเราคุณหมอก็จะทำการเย็บแผล ซึ่งเวลาตั้งแต่ผ่าจนถึงเย็บแผลใช่เวลาแค่ 30 นาที เมื่อเสร็จเรียบร้อยเค้าก็เอาน้องมาให้เราดู ถึงขั้นนี้ ก่อนหน้าที่จะผ่าให้ถาม นโยบายของ รพ.ก่อนนะคะว่าสามารถถ่ายภาพได้ไหม ให้สามีเข้ามาได้หรือเปล่า แต่ของ จขกท.ถ่ายภาพไม่ได้นะคะ
  
   เมื่อออกจากห้องผ่าตัด เจ้าหน้าที่จะพาเรามาพักไว้ที่ห้องสังเกตุอาการ ตอนนั้นคือ รู้สึกหนาวสั่น สั่นไปทั้งตัวเลย พยาบาลใช้ผ้าที่อบอุ่นๆมาห่มให้ 3 ชั้นก็ยังไม่หาย อีขาก็ยังชา รู้สึกเหมือนเรานอนขาถ่างตลอด เมื่อยขามาก แต่ที่จริงคือขาเรามันก็ชิดกันปกติ ถามว่าขาชาเป็นยังไง ก็เหมือนเราเป็นเหน็บชา อะไรแบบนั้นกระดิกขาไม่ได้ ไม่รู้สึกอะไรเลย เราพักอยู่ห้องนี้ประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ เจ้าหน้าที่ ก็ส่งเราไปยังห้องพักฟื้น....จากนี้แหละของจริงกำลังจะมา

   เมื่อมาถึงห้องพักฟื้น ด้วยความที่ยาชายังไม่หมดฤิทธิ์ (มีฤิทธิ์ประมาณ 4-5 ชม.)ก็ยังมีแรงคุย ตอบไลน์ เช็คเฟส ได้ แต่พอยาชาเริ่มหมดฤิทธิ์ เท่านั้นแหละคุณเอ้ยยย คือมดลูกมันบีบรัดตัวเอง เหมือนปวดท้องเมนส์ แต่คือมันปวดตรงแผลไง แผลก็เจ็บมดลูกก็บีบตัว ทุกๆ 10 นาที ซึ่งตรงนี้ ขอยาแก้ปวดไม่ได้นะจ๊ะ เพราะเค้าจะฉีดให้เราทุกๆ 6 ชม และห้ามกินน้ำ จนกว่าจะครบ 8 ชม. (ของจขกท.ครบ 8 ชม.คือ ตอน 2 ทุ่ม) โอ้โห้ว นอนมองแต่นาฬิกา พอครบ 6 ชม.รีบเรียกพยาบาล ขอยาฉีด แต่ แต่ แต่ มันทุเลาได้ไม่ถึง ชม. ปวดใหม่ คือ นอนร้องไห้ ตั้งแต่ บ่าย 2 จนถึง 2 ทุ่ม จึงจะได้ทั้งยากิน และ ยาฉีด (ยากินทุกๆ 3 ชม., ยาฉีดทุกๆ4 ชม.)
      คืนแรกผ่านไปอย่างทรมาน เช้าวันที่ 2 เริ่มดีขึ้น ช่วงสายๆเริ่มปรับเตียงให้เอนๆได้แต่ก็ต้อง ฉีดยาและกินยาแก้ปวด พอคุณหมอมาตรวจ สิ่งที่หมอทำคือจับอิแม่นั่งค่ะ คือหมอขา อิแม่ยังไม่พร้อม แต่หมอพร้อมค่ะ จับแม่ลุกนั่งหลังตรงให้ค้างอยู่อย่างนั้น จนกว่าพยาบาลจะมาถอดสายสวนปัสสาวะออก เพื่อให้เราได้ไปฉี่เอง ตอนนี้บอกเลยทุลักทุเลมาก ช่วงนี้ยังต้องใส่ผ้าอนามัยแบบห่วงของ รพ.อยู่ จะเปลี่ยนทีก็ต้องเรียกพยาบาลมาเปลี่ยนให้
     ความบันเทิงคือ คืนวันที่ 2 เพราะนมเริ่มคัดเต้าค่ะ แต่ด้วยความที่ไม่รู้ ว่าต้องทำยังไง ก็ได้แต่นวด บีบ เค้น ประคบน้ำร้อน และ เริ่มใช้เครื่องปั๊ม ซึ่งก็ใช้ไม่เป็น อิแม่ก็จัดเลเวลสูงสุด กะดูดให้น้ำนมไหล แต่เปล่าเลย ยิ่งทำยิ่งนวด ยิ่งเจ็บ นมก็ยังแข็ง เป็นไต บวมเป่ง สรุป คืนนั้น เจ็บแผล เจ็บนม ไม่ได้นอน
       ที่จริงเมื่อเราเริ่มนั่งได้ควรให้ลูกมาเข้าเต้าให้ไวที่สุด ของ จขกท น้องไ้ด้เข้าเต้าก็วันที่ 3
       เช้าวันที่ 3 วันนี้แผลเริ่มไม่เจ็บเท่าวันแรก ต้องกัดฟันลุกเดิน เดินวนรอบห้อง เดินเข้าห้องน้ำ วันที่ 3 จขกท เปลี่ยนมาใช้ ผ้าอนามัยแบบกางเกง เพราะใส่สบาย ไม่โป๊ และ ไม่เลอะด้วย วันนี้ก็เริ่มปั๊มนมไป และเริ่มให้ลูกเข้าเต้า แต่ด้วยความที่น้องกินนมขวดเลยดูดเต้าไม่เป็น บังคับกันอยู่นาน แถมนมก็ออกน้อย และ นมก็ยังคัด บวมเป่ง เช่นเดิม เจ็บเหมือนเดิม
   วันที่ 4 วันนี้ต้องกลับบ้านและ เริ่มเดินได้คล่อง ไม่เจ็บแผลมาก คุณหมอมาตรวจ และตกใจกับความนมคัดเต้าที่ เป่งจนจะแตก คุณหมอเลยแนะนำ ให้ลองนวดเปิดท่อน้ำนม กับ ลองเปลี่ยนเครื่องปั๊มนม เพราะเครื่องปั๊มนมที่ดี ปั๊มแล้วจะต้องไม่รู้สึกเจ็บหรือทรมาน

และทั้งหมดนี้ก็คือรีวิวประสบการณ์ผ่าคลอดครั้งแรกในชีวิต ไว้ เดี๋ยวถ้ามีโอกาสจะมารีวิวนวดเปิดท่อน้ำนมในครั้งหน้านะคะ และขอปิดท้ายด้วยภาพของผลงาน น้ำหนัก 3.485 กก ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่