
สวัสดีค่า สาวๆ วันนี้ก็กลับมาเจอกันอีกแล้วน้าและก็เช่นเคย แน่นอนว่าเราต้องมีเรื่องราวน่าสนใจมาเขียนอีก วันนี้อิฉันก็จะมาพูดถึงเรื่องรองพื้น ซึ่งรองพื้นเป็นสิ่งที่สำคัญกับสาวๆ มาก ไม่ว่าจะใครก็ควรมีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ อย่างน้อยซักตัวถ้าเป็นเมื่อก่อนรองพื้นส่วนมากจะเป็นขวดแบบขนาดใหญ่เลยหรือไม่ก็หลอด แต่ ในเมื่อยุคนี้เป็นยุคที่อะไรก็สะดวกสบายไปหมด เค้าก็ได้ทำรองพื้นแบบซองออกมา มากมายหลายยี่ห้อให้บรรดาสาวๆ ทั้งหลายได้เลือกใช้กัน แบบเยอะจนไม่รู้จะเยอะยังไงทำมาแข่งกันเวอร์ เราจึงเป็นตัวแทนของสาวๆ หลายคน อาสารีวิวรองพื้นในเซเว่นอย่างละเอียดกันไปเลยค่ะ จะไม่มีการเข้าข้างแบรนด์ไหนใดๆ เอาหล่ะงั้นเราไปเริ่มกันเลยดีกว่า
ขออนุญาตเกริ่นก่อนว่าโมนาผิวกลางๆ ไม่ขาวไม่เข้มจนเกินไปนะคะ เป็นคนผิวผสมมันเป็นบางจุดแห้งเป็นบางจุด มีรอยสิวนิดๆ และก็มีหลุมสิวนิดหน่อยค่ะ

ตัวแรกเลยค่ะ เป็นของ Ver88 ซึ่งหลายคนอาจจะรู้จัก เพราะน้องก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่เหมือนกัน ตัวนี้จะเป็น BB MATTE LOOK SPF30 PA++ จะพูดถึงเรื่องกลิ่นก่อนเลยนะคะ บนซองเค้าบอกว่าเป็นกลิ่นลูกพีช ลองดมๆดูแล้วก็จริงค่ะ แต่ดมมากๆ เราเวียนหัวค่ะ อันนี้เราหมายถึงแค่เราคนเดียวนะคะ เพราะบางคนอาจจะชอบเพราะเราให้เพื่อนเราดมนางก็ว่าหอมดี แล้วแต่คนชอบค่ะ
- ส่วนเรื่องสี : ไปทางโทนชมพูค่ะ (ในความคิดเห็นส่วนตัวจะไม่ค่อยเหมาะกับสาวผิวโทนเหลืองเท่าไหร่ แอบเทาอาจจะเป็นเพราะผิวเราเองด้วยส่วนนึงที่ไม่เข้ากับสีของเค้าค่ะ)
- เนื้อครีม : ไม่เหลว ไม่ข้น จนเกินไป เกลี่ยง่ายเลยค่ะ แห้งค่อนข้างเร็วแห้งแล้วแมทไปเลย แต่แอบตกร่อง ตามร่องจมูก ร่องหลุมสิวนิดหน่อยต้องคอยเกลี่ยดีๆ
- ความปกปิด : ปกปิดเยอะอยู่ค่ะถ้าเต็ม5ให้4เลย
- คุมมัน : คุมมันค่อนข้างดีค่ะ แต่เราให้ไม่เกิน7ชม.เพราะหลังจากนั้นน้องจะเริ่มลอยออกมากับความมันบนใบหน้า
ผลสรุปคือ ver.88 ปกปิดดีค่ะ คุมมันถือว่าผ่าน สำหรับคนหน้ามันแบบกลางๆ นะคะเพราะถ้ามันลอยออกมาแล้วมันจะเห็นได้ชัดว่าตกร่องเยอะอยู่ เหมาะกับคนผิวโทนชมพู เพราะโทนเหลืองเราว่าไม่รอด แต่ถ้าจะให้รอดคงต้องคนที่ผิวขาวกว่าโมนาหน่อยค่ะ
ไปกันต่อกับตัวที่สองเลยค่ะ

มาต่อกันที่ตัวนี่เลยค่ะเป็นรองพื้นของ Sistar Watermelon Matte หรือที่หลายๆคนเรียกว่ารองพื้นแตงโม นั่นแหล่ะค่ะ เป็นน้องใหม่มาได้ไม่นาน เห็นหลายคนพูดถึงแต่เราก็ยังไม่เคยลองซักที ตัวนี้มี SPF50 กลิ่นจะเป็นกลิ่นหอมผลไม้อ่อนๆ ค่ะ ไม่ฉุนเรื่องกลิ่นถือว่าโอเค
- เรื่องสี : เป็นสีแบบออกเหลืองค่ะ ถือว่าโอเคเลยสำหรับผิวสาวเอเชีย สีค่อนข้างเข้มอยู่นะคะ เราไม่รู้ว่าเค้ามีกี่เบอร์ แต่ไปเซเว่นก็เห็นมีให้เลือกแค่นี้ กับผิวเราค่อนข้างโอเคค่ะ แต่ไม่รู้ว่าถ้าเป็นคนที่ขาวเลยจะใช้ได้รึเปล่าอาจจะดรอปไหมอันนี้ไม่แน่ใจ
- เนื้อครีม : เป็นเนื้อแบบครีมน้ำๆ เหมือนจะเหลวแต่ก็ไม่เหลว มีความหนึดๆนิดนึงแต่ก็ถือว่าทาง่ายอยู่ แต่อาจจะต้องเกลี่ยดีๆหน่อย เพราะรู้สึกน้องจะเป็นเส้นนิดๆ แต่ถ้าค่อยๆทาๆแท็บๆไปก็ไม่มีปัญหาค่ะ
- ความปกปิด : ปกปิดดีเลยทีเดียวค่ะ เต็ม5ให้ประมาณ4เหมือนกับตัวข้างบนเลย
- คุมมัน : ให้ประมาณปานกลางค่ะ เพราะประมาณบ่ายก็คือจมูกเริ่มใสแล้ว5555 แต่ดีหน่อยที่ไม่ลอยออกมาบนผิว
สรุปรองพื้นแตงโมคือ โดยรวมแล้วดีค่ะ เหมาะกับเด็กมอปลายมหาลัย แบบใสๆ ราคาเบาๆสบายกระเป๋า ปกปิดดี คุมมันปานกลาง เหมาะกับผิวเอเชียอย่างเราๆ ชอบตรงไม่เทาไม่ดรอประหว่างวันค่ะ
อ่ะไปต่อไม่รอแล้วนะ ไปต่อกันที่ตัวที่สามกันเลยจ้ะ

ต่อไปค่ะแบรนด์ยอดฮิตของ Maybelline รุ่น Fit me
ผิวโมนาจะใช้ประมาณเบอร์ 228 เป็นสี soft tan เป็นเบอร์สำหรับผิวสองสีค่ะ เป็นรองพื้นแบบแมตต์ กลิ่นเค้าเป็นกลิ่นแบบไม่หอมค่ะกลิ่นค่อนข้างแรงอยู่
- เนื้อครีม : เป็นเนื้อค่อนข้างไปทางน้ำๆหน่อย แต่ก็ไม่ได้เหลวขนาดแบบน้ำเลย เกลี่ยค่อนข้างง่ายค่ะเพราะเนื้อเค้าเหลว ทาแล้วเรียบดีค่ะ
- ความปกปิด : ปกปิดดีค่ะ เต็ม5ให้4.5เลย ค่อนข้างแน่น
- คุมมัน : ให้ปานกลางค่ะ ต่อให้สูตรเค้าจะบอกว่าคุมมาก แต่พอเราใช้มันก็มันอยู่ดีค่ะ ลอยออกมาบนผิวนิดหน่อยใช้ทิชชูซับมาคือติดออกมาเลย5555
สรุปรองพื้น fit me นะคะ ทาง่ายปกปิดดี ไม่ตกร่องค่ะ คุมมันได้โอเค แต่ก็ต้องคอยซับระหว่างวันอยู่ค่ะ เหมาะกับผิวเอเชีย และคือมีให้เลือกหลายเบอร์มาก

ต่อมาเป็นของ inn beauty ค่ะอันนี้ยังไม่เคยลองเหมือนกัน ไม่เคยเห็นด้วย อาจจะเป็นแบรนด์น้องใหม่ หรือออกมานานแล้วแต่เราไม่รู้อันนี้ก็คอมเมนต์บอกกันได้นะคะ ไม่รู้จริงๆ5555 ค่ะเหมือนตัวนี้เค้าจะไม่มีกันแดดให้แบบตัวอื่นๆ แต่เค้าบอกว่าเค้าเป็นแบบบำรุงด้วย กลิ่นหอมค่ะ ถือว่าโอเคเลย เหมือนจะมีให้เลือกสีเดียว
- เนื้อครีม เป็นแบบครีมข้นเลยค่ะ ตอนลงบนผิวหน้า รู้สึกว่ามันลื่นๆแบบไม่ได้ทาลื่นนะคะ เหมือนครีมเค้าลื่นเกิน แบบเหมือนจะมีน้ำมันอยู่ในนั้นด้วยทาไปคือตกร่องอ่ะค่ะ หรือหน้าเรามันหยาบเกิน55555 แมตต์ แต่ตกร่องอ่ะค่ะ ความรู้สึกส่วนตัวนะคะ ส่วนสีตอนบีบออกมาจากซองดูเข้ม แต่พอปาดเกลี่ยๆแล้ว ดันขาวขึ้นมาอีกเฉดนึงเลย
- ความปกปิด : ระดับความปกปิด เราว่าไม่มากค่ะคงจะต้องบิ้วเพิ่มย้ำๆ หน่อย คะแนนเต็ม5 เราให้3ค่ะ จากความรู้สึกส่วนตัวนะคะ เนื้อแบบนี้อาจจะไม่เข้ากับผิวแบบเรา
- คุมมัน : คุมมันจะบอกว่าผ่านไปประมาณ 3 ชม.จะเริ่มมันเลยค่ะ แล้วก็จะเห็นตกร่องชัดเจนอยู่
สรุปของ inn beauty นะคะ เนื้อครีมลื่น เกลี่ยง่าย แต่พอเริ่มหน้ามันจะเริ่มตกร่องชัด และก็หน้าลอยในตอนแรกๆ แต่พอนานไปจะพอดีค่ะ ไม่ดรอประหว่างวัน เพราะทาแล้วสว่างเลยค่ะ ผิวเข้มอาจจะต้องระวัง เพราะหน้าจะแอบเทาในตอนแรก

มาค่ะไปกันแบบต่อเนื่องไม่ต้องพัก ต่อมาเป็นแบรนด์ merrezca สกินอัพ ลิควิด ฟาวเดชั่น spf50 pa+++ ค่ะ หลายคนคงเคยเห็นหรือเคยใช้เพราะว่าแบรนด์นี้ก็ค่อนข้างอยู่มานานเหมือนกัน คือจะบอกก่อนว่าตัวนี้มี 3 สีคือไลท์นู้ด ไลท์เบจ ซอฟต์เบจ ในเซเว่นเป็นสีไลท์เบจสำหรับผิวขาวเหลือง ซึ่งเราเป็นคนผิวสองสีเราเลยไปหาซื้อสีที่เหมาะกับผิวเรา สีซอฟต์เบจกลิ่นจะเป็นกลิ่นเฉพาะค่ะหอมจางๆ เรามีความรู้สึกว่ามันคล้ายๆกับ ดอกไม้แห้งๆนิดหน่อยกลิ่นมันให้ถึงความคลาสสิคๆ ดูดีๆ
- เนื้อครีม : ไม่ข้นไม่เหลวเกินไปค่ะ ทาง่ายเลยทีเดียวลื่นนิดหน่อย แต่ทาง่ายค่ะแป๊ปเดียวทั่วหน้าเลย ไม่ตกร่องมันให้ความรู้สึกเหมือนทาครีมบำรุงค่ะ ทาแบบไม่ดูกระจกได้เลย แค่ทาๆให้รู้สึกว่ามันทั่วๆ ไม่หนักหน้าด้วยค่ะ
- ความปกปิด : ปกปิดเราว่าโอเคค่ะ สำหรับผิวหน้าเรา ช่วยปิดพวกรอยดำจากสิวเล็กๆ กับใต้ตาได้แต่ใต้ตาอาจจะลงสองรอบค่ะ
- คุมมัน : คุมมันนี่ถือว่าผ่านค่ะ เต็ม5เราให้4.5เลย เพราะระหว่างวันเราซับหน้าไปแค่รอบเดียวเอง อ่ะ
สรุปนะคะของแบรนด์ merrezca ดีแบบ งงๆค่ะ เพราะแบบไม่ได้คาดหวังมากบอกตรงๆ เพราะตอนทาแรกๆ ความรู้สึกเหมือนทาครีมรู้สึกบางๆ นึกว่าจะแป๊ปๆหลุด สรุปไม่เลยค่อนข้างประทับใจ ประทับใจแบบงงๆ 555555 ใครสายเกาจะบอกว่าตอบโจทย์มาก เพราะงานผิวคือโกลว์แต่ไม่มัน เพิ่งเคยใช้ครั้งแรกเหมือนกันค่ะอันนี้บอกตามตรง เพราะที่เห็นตามรีวิวภาพลักษณ์เค้าค่อนข้างแบบงานผิว งานเกา งานใสๆ เลยคิดว่ามันคงไม่เหมาะกับอากาศประเทศไทย555555 สรุปคือผิดคาด หรือใครเห็นต่างก็คอมเมนต์มาบอกกันได้เลยค่ะ

ต่อมาเป็นแบรนด์สุดท้ายที่ได้รับเลือกมารีวิวในครั้งนี้นะคะ เป็นของ Sola spf 50 pa+++ uva1/uva2/uva/uvb หลายu มากเลยค่ะเป็น งงไม่หมดแล้ว55555 ตัวนี้มันมีความแปลกคือทาตัวนี้จบเลยไม่ต้องทาแป้งค่ะ เหมือนเค้าบอกว่า ทาปุ้บแห้งปั๊บ กลิ่นเหมือนแชมพูค่ะ55555555 พูดจริงค่ะรู้สึกอยากสระผม
- เนื้อครีม : ข้นค่ะ เข้าขั้นข้นเลย แล้วก็แห้งไวมาก แห้งแบบเป็นแป้งเลย ต้องใช้วิชาการเกลี่ยขั้นสุดยอด เพราะถ้าเกลี่ยไม่ทันคือคราบเลยค่ะ ส่วนเรื่องสี บีบออกมาตกใจเลยค่ะเพราะค่อนข้างขาว ไปทางขาวเหลือง รู้เลยว่าไม่รอด
- ความปกปิด : ปกปิดดีค่ะใครเคยใช้แป้งดินน้ำมันไหมคะ อารมณ์ประมาณเดียวกันค่ะ เต็ม5เราให้4.5เลย เพราะหนาแล้วรู้สึกหนักหน้า
- คุมมัน : คุมมันดีค่ะ แต่พอผ่านพ้นช่วงคุมมันมาแล้วค่อนข้างแรงมาก เพราะลอยมาเต็มหน้าเลย หน้าหนาเลยค่ะ ตกร่องด้วย
สรุปนะคะของแบรนด์ Sola ในเรื่องความปกปิดต้องยกให้ค่ะ แมตต์มากแต่ว่าแมตต์จนหน้าแห้งค่ะ แห้งไม่เท่าไหร่ยังสวยอยู่ แต่พอผ่านจุดคุมมันมาเท่านั้นคือ ทั้งแห้งทั้งมัน งงไหมคะ มันดูแห้งแต่หน้ามันอ่ะค่ะ เวลาซับต้องคอยแตะๆเกลี่ยๆ เป็นระแวงกลัวหน้าเป็นคราบ
ค่ะก็จบกันไปแล้ว คงจะถูกใจสาวๆ หลายคนเลยเพราะเป็นการรีวิวที่ตรงมากจริงๆ จากความรู้สึกจริง แต่ว่าทุกคนอย่าลืมนะคะ ว่าผิวหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน หน้าเราอาจจะเหมาะกับตัวนั้นตัวนี้ บางคนใช้แล้วผลลัพธ์อาจจะไม่เหมือนเรา อาจจะดีกว่าเราหรือ ตัวที่เราว่าดี บางคนใช้แล้วอาจจะไม่ใช่ ไม่ดราม่ากันนะคะ แล้วก็ใครอยากให้รีวิวอะไรตัวไหนอยากให้ทำอะไรเปรียบเทียบอะไรคอมเมนต์ บอกกันได้เลยในกระทู้นะคะ เผื่อมีคอมเมนต์ไหนน่าสนใจเราจะหยิบมาทำค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามกระทู้หน้ากันต่อไปนะคะ ว่าจะมีอะไรเด็ดๆ ดีๆ หรือมีอะไรมาเปรียบเทียบกันอีก สำหรับวันนี้ก็ขออำลาไปก่อนนะคะ บ๊ายบายยย
[SR] รีวิวรองพื้นเซเว่น ตัวไหนรุ่ง ตัวไหนร่วง!!
สวัสดีค่า สาวๆ วันนี้ก็กลับมาเจอกันอีกแล้วน้าและก็เช่นเคย แน่นอนว่าเราต้องมีเรื่องราวน่าสนใจมาเขียนอีก วันนี้อิฉันก็จะมาพูดถึงเรื่องรองพื้น ซึ่งรองพื้นเป็นสิ่งที่สำคัญกับสาวๆ มาก ไม่ว่าจะใครก็ควรมีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ อย่างน้อยซักตัวถ้าเป็นเมื่อก่อนรองพื้นส่วนมากจะเป็นขวดแบบขนาดใหญ่เลยหรือไม่ก็หลอด แต่ ในเมื่อยุคนี้เป็นยุคที่อะไรก็สะดวกสบายไปหมด เค้าก็ได้ทำรองพื้นแบบซองออกมา มากมายหลายยี่ห้อให้บรรดาสาวๆ ทั้งหลายได้เลือกใช้กัน แบบเยอะจนไม่รู้จะเยอะยังไงทำมาแข่งกันเวอร์ เราจึงเป็นตัวแทนของสาวๆ หลายคน อาสารีวิวรองพื้นในเซเว่นอย่างละเอียดกันไปเลยค่ะ จะไม่มีการเข้าข้างแบรนด์ไหนใดๆ เอาหล่ะงั้นเราไปเริ่มกันเลยดีกว่า
ขออนุญาตเกริ่นก่อนว่าโมนาผิวกลางๆ ไม่ขาวไม่เข้มจนเกินไปนะคะ เป็นคนผิวผสมมันเป็นบางจุดแห้งเป็นบางจุด มีรอยสิวนิดๆ และก็มีหลุมสิวนิดหน่อยค่ะ
ตัวแรกเลยค่ะ เป็นของ Ver88 ซึ่งหลายคนอาจจะรู้จัก เพราะน้องก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่เหมือนกัน ตัวนี้จะเป็น BB MATTE LOOK SPF30 PA++ จะพูดถึงเรื่องกลิ่นก่อนเลยนะคะ บนซองเค้าบอกว่าเป็นกลิ่นลูกพีช ลองดมๆดูแล้วก็จริงค่ะ แต่ดมมากๆ เราเวียนหัวค่ะ อันนี้เราหมายถึงแค่เราคนเดียวนะคะ เพราะบางคนอาจจะชอบเพราะเราให้เพื่อนเราดมนางก็ว่าหอมดี แล้วแต่คนชอบค่ะ
- ส่วนเรื่องสี : ไปทางโทนชมพูค่ะ (ในความคิดเห็นส่วนตัวจะไม่ค่อยเหมาะกับสาวผิวโทนเหลืองเท่าไหร่ แอบเทาอาจจะเป็นเพราะผิวเราเองด้วยส่วนนึงที่ไม่เข้ากับสีของเค้าค่ะ)
- เนื้อครีม : ไม่เหลว ไม่ข้น จนเกินไป เกลี่ยง่ายเลยค่ะ แห้งค่อนข้างเร็วแห้งแล้วแมทไปเลย แต่แอบตกร่อง ตามร่องจมูก ร่องหลุมสิวนิดหน่อยต้องคอยเกลี่ยดีๆ
- ความปกปิด : ปกปิดเยอะอยู่ค่ะถ้าเต็ม5ให้4เลย
- คุมมัน : คุมมันค่อนข้างดีค่ะ แต่เราให้ไม่เกิน7ชม.เพราะหลังจากนั้นน้องจะเริ่มลอยออกมากับความมันบนใบหน้า
ผลสรุปคือ ver.88 ปกปิดดีค่ะ คุมมันถือว่าผ่าน สำหรับคนหน้ามันแบบกลางๆ นะคะเพราะถ้ามันลอยออกมาแล้วมันจะเห็นได้ชัดว่าตกร่องเยอะอยู่ เหมาะกับคนผิวโทนชมพู เพราะโทนเหลืองเราว่าไม่รอด แต่ถ้าจะให้รอดคงต้องคนที่ผิวขาวกว่าโมนาหน่อยค่ะ
ไปกันต่อกับตัวที่สองเลยค่ะ
มาต่อกันที่ตัวนี่เลยค่ะเป็นรองพื้นของ Sistar Watermelon Matte หรือที่หลายๆคนเรียกว่ารองพื้นแตงโม นั่นแหล่ะค่ะ เป็นน้องใหม่มาได้ไม่นาน เห็นหลายคนพูดถึงแต่เราก็ยังไม่เคยลองซักที ตัวนี้มี SPF50 กลิ่นจะเป็นกลิ่นหอมผลไม้อ่อนๆ ค่ะ ไม่ฉุนเรื่องกลิ่นถือว่าโอเค
- เรื่องสี : เป็นสีแบบออกเหลืองค่ะ ถือว่าโอเคเลยสำหรับผิวสาวเอเชีย สีค่อนข้างเข้มอยู่นะคะ เราไม่รู้ว่าเค้ามีกี่เบอร์ แต่ไปเซเว่นก็เห็นมีให้เลือกแค่นี้ กับผิวเราค่อนข้างโอเคค่ะ แต่ไม่รู้ว่าถ้าเป็นคนที่ขาวเลยจะใช้ได้รึเปล่าอาจจะดรอปไหมอันนี้ไม่แน่ใจ
- เนื้อครีม : เป็นเนื้อแบบครีมน้ำๆ เหมือนจะเหลวแต่ก็ไม่เหลว มีความหนึดๆนิดนึงแต่ก็ถือว่าทาง่ายอยู่ แต่อาจจะต้องเกลี่ยดีๆหน่อย เพราะรู้สึกน้องจะเป็นเส้นนิดๆ แต่ถ้าค่อยๆทาๆแท็บๆไปก็ไม่มีปัญหาค่ะ
- ความปกปิด : ปกปิดดีเลยทีเดียวค่ะ เต็ม5ให้ประมาณ4เหมือนกับตัวข้างบนเลย
- คุมมัน : ให้ประมาณปานกลางค่ะ เพราะประมาณบ่ายก็คือจมูกเริ่มใสแล้ว5555 แต่ดีหน่อยที่ไม่ลอยออกมาบนผิว
สรุปรองพื้นแตงโมคือ โดยรวมแล้วดีค่ะ เหมาะกับเด็กมอปลายมหาลัย แบบใสๆ ราคาเบาๆสบายกระเป๋า ปกปิดดี คุมมันปานกลาง เหมาะกับผิวเอเชียอย่างเราๆ ชอบตรงไม่เทาไม่ดรอประหว่างวันค่ะ
อ่ะไปต่อไม่รอแล้วนะ ไปต่อกันที่ตัวที่สามกันเลยจ้ะ
ต่อไปค่ะแบรนด์ยอดฮิตของ Maybelline รุ่น Fit me
ผิวโมนาจะใช้ประมาณเบอร์ 228 เป็นสี soft tan เป็นเบอร์สำหรับผิวสองสีค่ะ เป็นรองพื้นแบบแมตต์ กลิ่นเค้าเป็นกลิ่นแบบไม่หอมค่ะกลิ่นค่อนข้างแรงอยู่
- เนื้อครีม : เป็นเนื้อค่อนข้างไปทางน้ำๆหน่อย แต่ก็ไม่ได้เหลวขนาดแบบน้ำเลย เกลี่ยค่อนข้างง่ายค่ะเพราะเนื้อเค้าเหลว ทาแล้วเรียบดีค่ะ
- ความปกปิด : ปกปิดดีค่ะ เต็ม5ให้4.5เลย ค่อนข้างแน่น
- คุมมัน : ให้ปานกลางค่ะ ต่อให้สูตรเค้าจะบอกว่าคุมมาก แต่พอเราใช้มันก็มันอยู่ดีค่ะ ลอยออกมาบนผิวนิดหน่อยใช้ทิชชูซับมาคือติดออกมาเลย5555
สรุปรองพื้น fit me นะคะ ทาง่ายปกปิดดี ไม่ตกร่องค่ะ คุมมันได้โอเค แต่ก็ต้องคอยซับระหว่างวันอยู่ค่ะ เหมาะกับผิวเอเชีย และคือมีให้เลือกหลายเบอร์มาก
ต่อมาเป็นของ inn beauty ค่ะอันนี้ยังไม่เคยลองเหมือนกัน ไม่เคยเห็นด้วย อาจจะเป็นแบรนด์น้องใหม่ หรือออกมานานแล้วแต่เราไม่รู้อันนี้ก็คอมเมนต์บอกกันได้นะคะ ไม่รู้จริงๆ5555 ค่ะเหมือนตัวนี้เค้าจะไม่มีกันแดดให้แบบตัวอื่นๆ แต่เค้าบอกว่าเค้าเป็นแบบบำรุงด้วย กลิ่นหอมค่ะ ถือว่าโอเคเลย เหมือนจะมีให้เลือกสีเดียว
- เนื้อครีม เป็นแบบครีมข้นเลยค่ะ ตอนลงบนผิวหน้า รู้สึกว่ามันลื่นๆแบบไม่ได้ทาลื่นนะคะ เหมือนครีมเค้าลื่นเกิน แบบเหมือนจะมีน้ำมันอยู่ในนั้นด้วยทาไปคือตกร่องอ่ะค่ะ หรือหน้าเรามันหยาบเกิน55555 แมตต์ แต่ตกร่องอ่ะค่ะ ความรู้สึกส่วนตัวนะคะ ส่วนสีตอนบีบออกมาจากซองดูเข้ม แต่พอปาดเกลี่ยๆแล้ว ดันขาวขึ้นมาอีกเฉดนึงเลย
- ความปกปิด : ระดับความปกปิด เราว่าไม่มากค่ะคงจะต้องบิ้วเพิ่มย้ำๆ หน่อย คะแนนเต็ม5 เราให้3ค่ะ จากความรู้สึกส่วนตัวนะคะ เนื้อแบบนี้อาจจะไม่เข้ากับผิวแบบเรา
- คุมมัน : คุมมันจะบอกว่าผ่านไปประมาณ 3 ชม.จะเริ่มมันเลยค่ะ แล้วก็จะเห็นตกร่องชัดเจนอยู่
สรุปของ inn beauty นะคะ เนื้อครีมลื่น เกลี่ยง่าย แต่พอเริ่มหน้ามันจะเริ่มตกร่องชัด และก็หน้าลอยในตอนแรกๆ แต่พอนานไปจะพอดีค่ะ ไม่ดรอประหว่างวัน เพราะทาแล้วสว่างเลยค่ะ ผิวเข้มอาจจะต้องระวัง เพราะหน้าจะแอบเทาในตอนแรก
มาค่ะไปกันแบบต่อเนื่องไม่ต้องพัก ต่อมาเป็นแบรนด์ merrezca สกินอัพ ลิควิด ฟาวเดชั่น spf50 pa+++ ค่ะ หลายคนคงเคยเห็นหรือเคยใช้เพราะว่าแบรนด์นี้ก็ค่อนข้างอยู่มานานเหมือนกัน คือจะบอกก่อนว่าตัวนี้มี 3 สีคือไลท์นู้ด ไลท์เบจ ซอฟต์เบจ ในเซเว่นเป็นสีไลท์เบจสำหรับผิวขาวเหลือง ซึ่งเราเป็นคนผิวสองสีเราเลยไปหาซื้อสีที่เหมาะกับผิวเรา สีซอฟต์เบจกลิ่นจะเป็นกลิ่นเฉพาะค่ะหอมจางๆ เรามีความรู้สึกว่ามันคล้ายๆกับ ดอกไม้แห้งๆนิดหน่อยกลิ่นมันให้ถึงความคลาสสิคๆ ดูดีๆ
- เนื้อครีม : ไม่ข้นไม่เหลวเกินไปค่ะ ทาง่ายเลยทีเดียวลื่นนิดหน่อย แต่ทาง่ายค่ะแป๊ปเดียวทั่วหน้าเลย ไม่ตกร่องมันให้ความรู้สึกเหมือนทาครีมบำรุงค่ะ ทาแบบไม่ดูกระจกได้เลย แค่ทาๆให้รู้สึกว่ามันทั่วๆ ไม่หนักหน้าด้วยค่ะ
- ความปกปิด : ปกปิดเราว่าโอเคค่ะ สำหรับผิวหน้าเรา ช่วยปิดพวกรอยดำจากสิวเล็กๆ กับใต้ตาได้แต่ใต้ตาอาจจะลงสองรอบค่ะ
- คุมมัน : คุมมันนี่ถือว่าผ่านค่ะ เต็ม5เราให้4.5เลย เพราะระหว่างวันเราซับหน้าไปแค่รอบเดียวเอง อ่ะ
สรุปนะคะของแบรนด์ merrezca ดีแบบ งงๆค่ะ เพราะแบบไม่ได้คาดหวังมากบอกตรงๆ เพราะตอนทาแรกๆ ความรู้สึกเหมือนทาครีมรู้สึกบางๆ นึกว่าจะแป๊ปๆหลุด สรุปไม่เลยค่อนข้างประทับใจ ประทับใจแบบงงๆ 555555 ใครสายเกาจะบอกว่าตอบโจทย์มาก เพราะงานผิวคือโกลว์แต่ไม่มัน เพิ่งเคยใช้ครั้งแรกเหมือนกันค่ะอันนี้บอกตามตรง เพราะที่เห็นตามรีวิวภาพลักษณ์เค้าค่อนข้างแบบงานผิว งานเกา งานใสๆ เลยคิดว่ามันคงไม่เหมาะกับอากาศประเทศไทย555555 สรุปคือผิดคาด หรือใครเห็นต่างก็คอมเมนต์มาบอกกันได้เลยค่ะ
ต่อมาเป็นแบรนด์สุดท้ายที่ได้รับเลือกมารีวิวในครั้งนี้นะคะ เป็นของ Sola spf 50 pa+++ uva1/uva2/uva/uvb หลายu มากเลยค่ะเป็น งงไม่หมดแล้ว55555 ตัวนี้มันมีความแปลกคือทาตัวนี้จบเลยไม่ต้องทาแป้งค่ะ เหมือนเค้าบอกว่า ทาปุ้บแห้งปั๊บ กลิ่นเหมือนแชมพูค่ะ55555555 พูดจริงค่ะรู้สึกอยากสระผม
- เนื้อครีม : ข้นค่ะ เข้าขั้นข้นเลย แล้วก็แห้งไวมาก แห้งแบบเป็นแป้งเลย ต้องใช้วิชาการเกลี่ยขั้นสุดยอด เพราะถ้าเกลี่ยไม่ทันคือคราบเลยค่ะ ส่วนเรื่องสี บีบออกมาตกใจเลยค่ะเพราะค่อนข้างขาว ไปทางขาวเหลือง รู้เลยว่าไม่รอด
- ความปกปิด : ปกปิดดีค่ะใครเคยใช้แป้งดินน้ำมันไหมคะ อารมณ์ประมาณเดียวกันค่ะ เต็ม5เราให้4.5เลย เพราะหนาแล้วรู้สึกหนักหน้า
- คุมมัน : คุมมันดีค่ะ แต่พอผ่านพ้นช่วงคุมมันมาแล้วค่อนข้างแรงมาก เพราะลอยมาเต็มหน้าเลย หน้าหนาเลยค่ะ ตกร่องด้วย
สรุปนะคะของแบรนด์ Sola ในเรื่องความปกปิดต้องยกให้ค่ะ แมตต์มากแต่ว่าแมตต์จนหน้าแห้งค่ะ แห้งไม่เท่าไหร่ยังสวยอยู่ แต่พอผ่านจุดคุมมันมาเท่านั้นคือ ทั้งแห้งทั้งมัน งงไหมคะ มันดูแห้งแต่หน้ามันอ่ะค่ะ เวลาซับต้องคอยแตะๆเกลี่ยๆ เป็นระแวงกลัวหน้าเป็นคราบ
ค่ะก็จบกันไปแล้ว คงจะถูกใจสาวๆ หลายคนเลยเพราะเป็นการรีวิวที่ตรงมากจริงๆ จากความรู้สึกจริง แต่ว่าทุกคนอย่าลืมนะคะ ว่าผิวหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน หน้าเราอาจจะเหมาะกับตัวนั้นตัวนี้ บางคนใช้แล้วผลลัพธ์อาจจะไม่เหมือนเรา อาจจะดีกว่าเราหรือ ตัวที่เราว่าดี บางคนใช้แล้วอาจจะไม่ใช่ ไม่ดราม่ากันนะคะ แล้วก็ใครอยากให้รีวิวอะไรตัวไหนอยากให้ทำอะไรเปรียบเทียบอะไรคอมเมนต์ บอกกันได้เลยในกระทู้นะคะ เผื่อมีคอมเมนต์ไหนน่าสนใจเราจะหยิบมาทำค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามกระทู้หน้ากันต่อไปนะคะ ว่าจะมีอะไรเด็ดๆ ดีๆ หรือมีอะไรมาเปรียบเทียบกันอีก สำหรับวันนี้ก็ขออำลาไปก่อนนะคะ บ๊ายบายยย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้