สวัสดีทุกคนค่ะ มีเรื่องหนักใจมาปรึกษาค่ะ ก่อนอื่นขอเท้าความก่อน ด้วยความที่ตอนเราเด็กๆพ่อแม่มีฐานะไม่ค่อยดี จึงมีญาติพี่น้องคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ในหลายๆด้าน แต่คนที่ช่วยเหลือมากสุดจะเป็นป้า ตั้งแต่ตอนเด็กๆประมาณช่วงประถมถึงม.ต้น ช่วงม.ต้นเป็นช่วงที่พ่อแม่แยกทางกัน เราอาศัยอยู่ที่บ้านป้า เพราะพ่อกลับไปอยู่ต่างจังหวัด ส่วนแม่ไปแต่งงานใหม่ แต่อยู่ไม่ห่างจากป้าเท่าไหร่ หลังจากนั้นแม่เป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเรา พอช่วงม.ปลาย ป้าย้ายออกจากบ้านหลังที่เราอยู่ แล้วไปซื้อบ้านใหม่ที่ต่างจังหวัดเพราะป้าทำธุกิจร้านขายของให้นักท่องเที่ยวอยู่ที่ต่างจังหวัด ทำให้เราต้องย้ายมาอยู่บ้านญาติแต่อยู่ระแวกเดียวกันกับบ้านเดิม ตลอดเวลาที่เราอยู่บ้านเดียวกับป้า ป้าก็ช่วยเหลือเราทั้งค่าเทอมค่าใช้จ่ายบ้างบางส่วนและให้แม่เรากู้ยืมเงินไปทำธุรกิจมาโดยตลอด ระหว่างที่เรียนมหาลัย ก็จะมีช่วยงานป้าบางอย่างบ้าง เช่น ไปหาซื้อของให้ ไปส่งของให้ ไปเป็นผู้ช่วยเวลาป้าไปเดินซื้อของระหว่างใกล้เรียนจบ ป้าก็กล่อมเรามาเรื่อยว่าให้ไปช่วยดูแลกิจการ หว่านล้อมว่าถ้ามันเวิร์คจะยกนู่นนี่ให้ ป้าเริ่มแก่แล้ว เริ่มทำงานไม่ไหว ป้ามีลูก1คน แต่ยังเด็กมาก ยังช่วยอะไรไม่ได้นอกจากป้ามีธุรกิจร้านขายของหลายร้าน ยังมีธุรกิจห้องเช่าด้วย พอเราเรียนจบมหาวิทยาลัย เราก็หางานทำปกติ หลังเรียนจบประมาณปีนึง เป็นช่วงที่เรากำลังย้ายงาน ป้าก็เรียกตัวมาตลอด เลยตัดสินใจมาช่วยธุรกิจ เพราะคิดว่าอยากตอบแทนบุญคุณที่ป้าช่วยเหลือในตอนเด็ก เราได้ดูแล1สาขาก่อน ยังไม่ใช่ทั้งหมด ในช่วง2-3เดือนที่เข้ามาช่วย เป็นช่วงปีใหม่ยอดขายดี เงินเดือนที่เราได้คือฐานเงินเดือนกับค่าคอม ป้าบอกเราว่าให้เก็บเงินไว้ด้วย สิ้นปีจะได้ซื้อรถ ด้วยความที่เราไม่ได้อยากได้และยังไม่เห็นความจำเป็นจะต้องใช้รถ ไม่อยากเพิ่มภาระให้ตัวเอง เคยพูดๆกับป้าแล้วว่ายังไม่ได้จำเป็นต้องใช้ แต่เขาก็ไม่ค่อยสนใจที่เราพูด ตั้งใจจะให้เราซื้อรถอย่างจริงจังแต่ตอนนี้โดนพิษเศรษฐกิจบวกกับโรคระบาดหนัก ทำให้ยอดขายตกเยอะ ยอดขายลดลงจากเดือนก่อน 80% บางวันขายไม่ได้เลยก็มี ยังไม่รู้ว่าเดือนต่อไปจะเป็นยังไง สารภาพเลยว่าใจเราจริงๆแล้วไม่ได้อยากมาทำตั้งแต่แรก เราไม่ได้อยากได้อะไรจากเขาเลย เราอยากสร้างอนาคตด้วยตัวของเราเอง ที่มาเพราะเพียงคิดว่ามาช่วยตอบแทนบุญคุณ เราอยากกลับไปอยู่บ้านเดิม ได้มีเวลาเจอเพื่อน เจอแม่ เจอแฟน คำถามคือ
1.ระหว่างที่มาช่วยที่ร้าน ป้าก็เคยพูดว่า ถ้าไม่ได้ญาติพี่น้องช่วยตอนเด็ก จะเป็นยังไง จะได้โตมาแบบไหน ด้วยคำพูดนี้ ทำให้เราสงสัยว่า เราต้องช่วยงานขนาดไหนถึงจะถือว่าได้ทดแทนบุญคุณหมด
2.รู้สึกอึดอัดประมาณนึงเมื่อได้มาทำงานกับป้า จากการที่ก่อนหน้าเราเคยทำงานออฟฟิศที่เป็นบริษัทมาก่อน มีหยุดเสาร์อาทิตย์ ทำให้ตอนนั้นเรารู้ฟรีมากๆ วันหยุดอยากไปไหนก็ไป ไม่มีใครว่า เราหาเงินเองจะใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีใครว่ากะเกณฑ์ พอมาทำงานกับป้าที่ต่างจังหวัด เพื่อนก็ไม่มี ตื่นมาก็คือออกมาทำงาน 10 ชม. เสร็จก็กลับบ้าน ด้วยความที่ร้านที่เราทำไม่มีลูกน้อง เลยต้องมาทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด พอจะขอหยุด ป้าก็จะถามว่าหยุดไปทำอะไร เราเลยรู้สึกอึดอัด เราควรทำยังไงกับจุดนี้
3.เราไม่อยากสร้างหนี้เลยตอนนี้ ล่าสุดป้าพาซื้อประกันชีวิตแบบจ่ายเป็นรายปี เพิ่งซื้อไปหมาดๆเลยแต่ป้าจ่ายให้ก่อน คือยังไงเราก็ต้องจ่ายคืนเขาอยู่ดี ค่าเบี้ยประกัน1ปีที่ป้าจ่าย เ่ทากับเงินเก็บของเราทั้งหมดตอนนี้นับตั้งแต่มาทำงานกับป้า ทำให้ตอนนี้เราต้องเริ่มเก็บเงินจากศูนย์ใหม่ รถที่ป้าอยากให้ซื้อตอนสิ้นปี เราก็ไม่อยากได้ อีกอย่าง ยอดขายร้านตอนนี้ไม่ดีเลย เราคงเก็บตังได้ไม่มากเราจะมีวิธีพูดกับป้ายังไงเมื่อวันนั้นมาถึงคะ
4.ถ้ามันไม่เวิร์ค แล้วธุรกิจมันไปไม่รอด เราก็อยากกลับบ้านไปหางานทำแบบเดิม เราจะใช้เหตุผลอะไรอ้างกับป้าได้บ้าง ที่เป็นเหตุเป็นผลสุดๆ
ขอบคุณทุกคนล่วงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ
อยากแนะนำเสริมเพิ่มเติมได้นะ พร้อมรับฟังค่ะ
อึดอัดใจกับสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้
1.ระหว่างที่มาช่วยที่ร้าน ป้าก็เคยพูดว่า ถ้าไม่ได้ญาติพี่น้องช่วยตอนเด็ก จะเป็นยังไง จะได้โตมาแบบไหน ด้วยคำพูดนี้ ทำให้เราสงสัยว่า เราต้องช่วยงานขนาดไหนถึงจะถือว่าได้ทดแทนบุญคุณหมด
2.รู้สึกอึดอัดประมาณนึงเมื่อได้มาทำงานกับป้า จากการที่ก่อนหน้าเราเคยทำงานออฟฟิศที่เป็นบริษัทมาก่อน มีหยุดเสาร์อาทิตย์ ทำให้ตอนนั้นเรารู้ฟรีมากๆ วันหยุดอยากไปไหนก็ไป ไม่มีใครว่า เราหาเงินเองจะใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีใครว่ากะเกณฑ์ พอมาทำงานกับป้าที่ต่างจังหวัด เพื่อนก็ไม่มี ตื่นมาก็คือออกมาทำงาน 10 ชม. เสร็จก็กลับบ้าน ด้วยความที่ร้านที่เราทำไม่มีลูกน้อง เลยต้องมาทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด พอจะขอหยุด ป้าก็จะถามว่าหยุดไปทำอะไร เราเลยรู้สึกอึดอัด เราควรทำยังไงกับจุดนี้
3.เราไม่อยากสร้างหนี้เลยตอนนี้ ล่าสุดป้าพาซื้อประกันชีวิตแบบจ่ายเป็นรายปี เพิ่งซื้อไปหมาดๆเลยแต่ป้าจ่ายให้ก่อน คือยังไงเราก็ต้องจ่ายคืนเขาอยู่ดี ค่าเบี้ยประกัน1ปีที่ป้าจ่าย เ่ทากับเงินเก็บของเราทั้งหมดตอนนี้นับตั้งแต่มาทำงานกับป้า ทำให้ตอนนี้เราต้องเริ่มเก็บเงินจากศูนย์ใหม่ รถที่ป้าอยากให้ซื้อตอนสิ้นปี เราก็ไม่อยากได้ อีกอย่าง ยอดขายร้านตอนนี้ไม่ดีเลย เราคงเก็บตังได้ไม่มากเราจะมีวิธีพูดกับป้ายังไงเมื่อวันนั้นมาถึงคะ
4.ถ้ามันไม่เวิร์ค แล้วธุรกิจมันไปไม่รอด เราก็อยากกลับบ้านไปหางานทำแบบเดิม เราจะใช้เหตุผลอะไรอ้างกับป้าได้บ้าง ที่เป็นเหตุเป็นผลสุดๆ
ขอบคุณทุกคนล่วงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ
อยากแนะนำเสริมเพิ่มเติมได้นะ พร้อมรับฟังค่ะ