เครียดกับครอบครัว ขอคำปรึกษาหน่อยคะ

อาจยาวหน่อยนะคะ คืองี้ ตอนเด็กโดนแกล้งบ่อย จนย้ายเข้ามาเรียนในตัวเมืองตอน ประถม (น่าจะประมาณ ป.5) แต่ก็โดนแกล้งอีกอดทนตั้งแต่ย้ายเข้าไปใหม่ๆผ่านไปซักอาทิตย์นึงโดนแกล้ง,ล้อ จนถึงจบ ม.3 เข้าวิทยาลัยไม่ค่อยโดนล้อเท่าไหร่ (อ่อ ลืมพิมพ์ เราโดนบูลลี่แบบล้อเลียนเป็นส่วนใหญ่ แกล้งจะมีถีบเก้าอี้ เอากระดาษมาติดหลังจะไม่ค่อยมี ตัดมาที่ ปวช. ตอนมาใหม่ไม่รู้จะเข้าแผนกไร เลยว่าจะไปการขาย การตลาด แต่แม่บอกเราพูดไม่เก่งให้คอมแทน เราเลยตัดสินใจเข้าแผนกคอม จบ ปวช. จะไปตามฝันตัวเอง แต่แม่ก็บ่ายเบี่ยงไม่ให้ไป ให้เรียน ปวส.ต่ออีก เหนื่อยใจมาก ทำได้แค่ทนเรียนไป 2 ปี เรียนจบปวส. ดีใจมากจะได้ไปตามฝันซักที จะได้ไปทำอาชีพที่ชอบสักที แต่ความฝันดับสลาย พ่อพาไปสอบราชการ ซึ่งเราบอกไปแล้ว ว่าไม่ชอบ พ่อก็ชอบพูด "ใครก็อยากทำงานราชการทั้งนั้น" พ่อไปพูดกับเพื่อนพ่อ ว่าจะให้เราทำราชการ รอไปอีกอายุ 60 ปีค่อยว่ากัน เราอยากจะร้องไห้ตรงนั้นแต่ร้องไม่ได้เพราะ อยู่ร้านเพื่อนพ่อ ต้องส่งใบสมัครราชการทางเน็ต กลับบ้านมาร้องไห้หนักมาก เอากำปั้นทุบหัวตัวเอง ดึงผมตัวเอง เคยชกกำแพงมีแผลนิดๆก็มี ตอนเด็กมากๆ อายุประมาณ 3-4 ขวบ เราฝึกภาษาด้วยตัวเอง พอโตขึ้นมาเราก็กลับมาฝึกภาษาใหม่ (เราขาดการฝึกภาษา เพราะ เครียดที่โดนแกล้งไม่อยากไปเรียน พ่อแม่ก็เอาใจพี่ชายมากกว่า แล้วต้องจัดการโครงการ ขาดฝึกไปหลายปีอยู่ ตอนเด็กเราคิดไว้อยู่แล้ว ถ้าพูดได้หลายภาษาจะเป็นผลดีต่อตัวเองในอนาคตแน่ๆ ตอนโตแล้ว แม่พูด "เป็นคนไทย ก็ควรพูดภาษาไทย" ในทุกเรื่อง เริ่มตั้งแต่ ปวช. เราคิดอะไรเอง ไตร่ตรองอย่างดีถี่ถ้วน นึกถึงผลกระทบ แต่พอบอกพ่อแม่ มันต้องประมาณแบบ ไม่ได้ๆๆ อะไรก็ไม่ได้ ทั้งที่มันเป็นเรื่องดีอ่ะ ต้องรอให้อนุญาตสิ่งที่เราคิดถึงจะผ่าน แต่ไม่เคยผ่านเลย แม้กระทั่งซื้อของเกี่ยวกับ ซิ่วหมิน exo ถามว่ามีประโยชน์อะไร เราก็บอกไป ว่าอยากซื้อมันมีผลทางใจ มันเป็นความสุข และเงินเราเราสะดวกจะซื้อ พ่อแม่ก็ปฎิเสธไม่ให้ซื้อ อะไรที่เราคิดมักถูกพ่อแม่ปฎิเสธความคิดหมดเลย หลายๆเรื่อง เวลาเราคิดอะไรเราจะแอบทำ ไม่ให้รู้ เรื่องงาน เรื่องเรียน เรื่องส่วนตัวที่เราอยากเก็บไว้คนเดียว พ่อแม่ก็เคยบอก "เป็นลูกกู กูต้องรู้ทุกเรื่อง" ล่าสุด เราอยากก้าวหน้า ทำงานต่างประเทศ เราเลยกลับมาฝึกภาษาใหม่ แต่แม่ก็มีท่าทีบ่ายเบี่ยง ใช้คำพูดกดเรา เช่น "เจียมตัวบ้าง" "เขาไม่ส่งไปทำงานต่างประเทศหรอก" "เดี๋ยวเขาก็เอาไปทิ้งไว้บนเรือ (อันนี้เรารู้ว่าเป็นห่วง)" พ่อแม่จะปฎิเสธสิ่งที่เราคิดตลอด ปฎิเสธตลอดเลย ไม่ให้ออกจากบ้านไปเที่ยว ต้องอ้างว่าทำรายงาน แต่ต้องกำหนดเวลา จะได้ไปรับ เราไม่เคยมีรถส่วนตัวเลย แม่เอาแต่พูดว่า เรามองไม่เห็น เราแค่สายตาสั้นใส่แว่นขับก็ได้ ไม่คิดจะสอนขับ พอบอกสอนให้หน่อยก็หัวเราะเราแล้วพูดว่าเรามองไม่เห็น ตอนเรียนจบ ปวส. มีงานเลี้ยงรุ่นตอนแรกแม่ไม่ให้ไป เราบอกจำเป็นต้องไป อาจาร์ยให้ไปทุกคนแม่เลยให้ไป ตามเดิม ไปเดินตลาดใกล้ๆที่เราไปกินเลี้ยง เราก็ไม่มีความสุขเพราะ แม่ก็รออ่ะ และแม่ก็โทรตาม และ หลายวันผ่านไปเพื่อนนัดอีกเลี้ยงจบกับแก๊งเพื่อน ผญ. ไม่มี ผช. ถ้ามีผช. เราไม่ไปอยู่แล้ว กินเลี้ยงกับเพื่อนผญ. จะนอนบ้านเพื่อนที่จัดเลี้ยงซึ่งเป็นผญ. แม่ก็ร้องไห้ไม่ให้เราไป บอกว่าเราไม่เข้าใจ เราก็บอกให้แม่สบายใจว่าเป็น ผญ.ทั้งหมด ไปไหนกับเพื่อนก็ไม่ได้ รู้ว่ากินเหล้า ก็หาว่าเป็น ผญ. ไม่ดี เราต้องเดินตามเส้นที่พ่อแม่ขีดไว้ พ่อแม่บังคับทั้งคำพูดและท่าทาง ท่าทางในที่นี้ คือ ทำท่าทางไม่ชอบสิ่งที่เราคิดที่เราขอ เราต้องทำเป็นยอมรับสิ่งที่พ่อแม่ยื่นให้เพื่อให้ตัวเองถูกในสายตาพ่อแม่ เรายอมรับเราใจแตกบางเรื่องในนั่นก็มีเรื่องเหล้าด้วยเนี่ยแหละ บางครั้งคิด ไตร่ตรองอย่างดีจะไม่บอกพ่อแม่ เพราะ รู้ยังไงก็โดนปฎิเสธ เรื่องสายตาเหมือนกัน แม่ใส่ร้ายเราว่าเราไม่บอก "ว่ามองไม่ชัด มันลางๆ" ทั้งที่เราบอกเราจำได้ บอกตั้ง 2 ครั้ง แต่แม่นิ่งใส่ เราเลยเงียบไม่พูดเรื่องนี้ เราประสบปัญหาตาเข่ข้างนึงโดนล้อเรื่องนี้บอกแม่ แม่ก็บอก ก็อย่าให้ตามันเข่สิ โตขึ้นอายุประมาณ 18-19 ต้องตรวจตาบอดสีเพื่อส่งให้สถานที่ฝึกงาน(ปวส.) หมอบอกว่า "เป็นโรคตาขี้เกียจ" มันรักษาไม่หาย แล้วเราพูดเรื่องนี้กับแม่และพูดถึงเรื่องตอนเด็กที่เคยบอกว่ามองไม่เห็นไปแล้ว แม่ตอบกลับมา "ก็กูไม่มีเงิน" เราเลยงง ตอนนเด็กใส่ร้ายเราทำไม เราเหนื่อยใจมากๆ เบื่อที่ต้องถูกตีกรอบที่พ่อแม่ตีไว้ให้ เอาแต่พูด "หางานสบายๆให้มันดีแล้ว" เราเปิดใจแล้วแต่มันไม่ใช่ เราร้องไห้คนเดียวตั้งแต่เด็กมาโดยตลอด ร้องไห้คนเดียว กอดตัวเอง ชอบทุบหัวบ่อย ตอนนั้นเครียดเถียงกับแม่เรื่องงานราชการเราเผลอเอากำปั้นทุบหัวตัวเอง แม่ว่าเรา บ้าคะ เราโดนคำนี้ตั้งแต่เด็กจนโต "บ้า ไม่เต็มบาท ติ๊งต๊อง ปัญญาอ่อน" เราอยากฆ่าตัวตายตั้งแต่เด็กๆแล้ว โชคดีที่มีซิ่วหมิน และสัตว์เลี้ยง ตอนเราเด็กๆ พ่อแม่ทำให้เรามีความสุขตอนกลับมาบ้านมีความสุขมาก โรงเรียนเปิดเทอมก็ไม่ไป 1 อาทิตย์ เพราะ ไม่อยากโดนแกล้ง,ล้อ โดนแกล้งตั้งแต่เด็ก พอโตก็มีล้อเลียนบ้างแต่ส่วนใหญ่จะโดนจากครอบครัวที่บังคับ เหนื่อยใจ 😢😢 เมื่อไหร่เราจะมีความสุข? อยากมีความสุขจริงๆ ไม่ใช่แปปเดียว อยากเป็นอิสระทั้งร่างกายและความคิด เราเข้าใจทุกคน แต่ทำไมไม่มีใครเข้าใจเรา!!!
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก
เจ้าของข้อความแจ้งลบค่ะ

ความคิดเห็นนี้ได้ถูก Pantip.com ลบออกไปจากระบบแล้ว หากเนื้อหาที่ถูกลบยังคงถูกนำไปแสดงใน application หรือเว็บไซต์ใดๆ
ทาง Pantip.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆด้วย การดำเนินการทางกฎหมายกรุณาติดต่อผู้พัฒนา application หรือเว็บไซต์นั้นๆโดยตรงค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่