
เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ไปแล้วเสพติด อยากไปอีกตลอดเลย (ความเห็นนี้ไม่นับเป็นข้อเท็จจริง เพราะมีคนคัดค้านอยู่บ่อยๆ ชวนไปด้วยก็ไม่ค่อยอิน) ชอบที่ไหนพาตัวเองไปที่นั่น จองตั๋วเลยหนึ่งใบ ไปคนเดียว (น่าจะ) สนุกดี
นั่งสายการบินอาเซียน่าเจ้าถิ่น (THB13,353) เดินทางช่วงคริสต์มาสครับ บินตรง สะดวกสบาย ฟังเพลงบ้าง กินบ้าง งีบบ้าง แพ็บเดียวถึงแล้ว

ลงเครื่องที่สนามบินอินชอนช่วงเช้า ตามจุดต่างๆมีประดับไฟและสัญลักษณ์ต่างๆของเทศกาล

ได้นั่งรถบัสเข้าเมืองเป็นครั้งแรก ครั้งก่อนหน้าที่เคยมาเป็นเที่ยวบินดึก ไม่ทันรถบัส ที่พักที่จองไว้อยู่แถว Sungshin Women’s University โลเคชั่นดีเลยครับ มีขายของกินเยอะ มีที่ชอปปิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รร. H Avenue Dongdaemun Sungshin
ราคา KRW106,474 (2 คืน)

ฝากสัมภาระกับทางโรงแรมเสร็จ ได้เวลามื้อกลางวันพอดี เดินออกไปก่อนถึงรถไฟใต้ดินเจอร้านนี้ น่ากิน
ที่เกาหลีใต้ ร้านอาหารหลายๆร้านติดตั้งตู้อัตโนมัติให้ลูกค้าสั่งอาหาร ไปวันแรกยังไม่ชิน เดินบุกไปที่สเตชั่นพ่อครัวเลย จิ้มๆเมนูที่อยากกิน พ่อครัวงง แต่ก็จดรับออร์เดอร์ให้ ข้าวหน้าแฮมกิมจิชามนี้อร่อยมากเลยครับ แต่ก่อนออกจากร้านสังเกตว่าทุกโต๊ะมีแต่ผู้หญิง แปลกจัง
ด้วยความที่เพิ่งมาเที่ยวโซลก่อนหน้านี้ไม่นาน เลยไม่ได้เลือกไปที่เที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวนะครับ เน้นสถานที่ที่ยังไม่เคยไป มีไปซ้ำแค่บางที่เท่านั้น
22 ธันวาคม 2019

วันแรกเป็นวันอาทิตย์พอดี ไปโบสถ์กัน

โบสถ์ Yoido Full Gospel Church เป็นคริสตจักรขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกมากที่สุดในโลก นั่งรถเมล์ไปได้ บนรถเมล์ได้ถามทางจากอาจุมม่าท่าทางใจดีท่านหนึ่ง อาจุมม่าก็กำลังไปโบสถ์เหมือนกันพอดี

จากป้ายรถเมล์แค่ข้ามถนนก็เป็นประตูทางเข้าเลย เจ้าหน้าที่คงไม่ค่อยคุ้นที่คนไทยมา อยากจัดหาหูฟังแปลภาษาให้ แต่ไม่มี ผมเลยบอกว่าไม่เป็นไร ภาษาเกาหลีก็ได้ ถนัด (ซะเมื่อไหร่) เลยได้หูฟังภาษาอังกฤษมา แต่ขอสารภาพว่าไม่มีสมาธิฟังเทศนาเลยครับ เพิ่งมาถึงวันแรก ตื่นเต้นกับทุกอย่างไปหมด

พอจบ Service (เมืองไทยเรียกว่ารอบนมัสการ) ได้เดินทัวร์รอบโบสถ์ค่อยคลายความดีดลงได้บ้าง ได้ถ่ายรูปสักหน่อย (ในช่วงพิธีการต่างๆ ทุกคนสำรวม จดจ่อกับคำเทศนา ไม่มีใครหยิบมือถือมาชักภาพอะไรเลย ข้าพเจ้าจำเป็นต้องลดบทบาทในโหมดนักท่องเที่ยวลงระหว่างนั้น)

จากนั้นเข้า Service อีกรอบที่เป็นครึ่งแรก รอบที่แล้วที่เข้าเป็นช่วงครึ่งหลัง มาไม่ทันช่วงร้องเพลงสรรเสริญ ถือว่าภารกิจคริสต์มาสซันเดย์เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ บทเพลงต่างๆในบรรยากาศวันนั้นอบอุ่นและน่าประทับใจมาก ถือเป็นคริสต์มาสที่มีความสุขและน่าจดจำอีกครั้งหนึ่งในชีวิต (สำหรับคริสเตียนที่มาเที่ยวโซล ลองจัดวันอาทิตย์มาที่นี่ดูนะครับ)

ปรับจากโหมดซาบซึ้งจรรโลงใจ มาเป็นโหมดตื่นตาตื่นใจสไตล์ทัวริสต์อีกครั้ง ย่าน Yoido มีแลนด์มาร์กเป็นตึกสูงชื่อว่า 63 Building ในนั้นมีกิจกรรมสนุกๆสำหรับคู่รัก ครอบครัว รวมทั้งคนเหงา 2020 อย่างเราด้วย อ่อ ไม่สิ ยัง 2019 อยู่เลย

ส่วนตัวเป็นคนเฉยๆกับอแควเรียมและบรรดากุ้งหอยปูปลา แต่ไปเที่ยวทีไรได้แวะทุกที รอบที่แล้วไปที่ห้าง COEX Mall ย่านคังนัม ใครเคยไปที่นั่นแล้วชอบ มาที่ 63 Building อีกทีก็ได้นะ ไม่ผิดหวังรับรอง

สิ่งที่ชอบดูมากกว่าสัตวน้ำคือคู่รักมาเดทกัน น่าร้าก

ที่ชอบอีกอย่างคือเสียงเด็กๆอธิบายพ่อแม่ของพวกเขาอย่างกระตือรือร้นถึงบรรพบุรุษที่บรรดาสัตว์เหล่านี่สืบสายพันธุ์มา

เดินเล่นเพลินๆ เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง จัดว่าสนุกดีสำหรับกิจกรรมที่ไม่คาดหวังอะไร

ในส่วนที่คาดหวังคือ งานจัดแสดงศิลปะบนจุดชมวิวที่ยอดตึก สามารถซื้อบัตรเหมาคู่กับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำได้ แพคเกจนี้ผมซื้อมาราคาหกร้อยกว่าบาทครับ

แต่ในส่วนจัดแสดงศิลปะกลับไม่มีอะไรว้าวแฮะ ผิดหวังนิดหน่อย ลงลิฟท์จากชั้น 60 ด้วยอารมณ์แบบอิหยังเนี่ย

น้อยครั้งที่ผมได้มาเมืองหนาวในช่วงหน้าหนาว ครั้งนี้มีโอกาสทำฝันให้เป็นจริงหนึ่งอย่าง นั่นคือ แถ่มแท้ม ... เที่ยวตลาดคริสต์มาส (แม้จะไม่ใช่ในแคว้นบาวาเรียอย่างที่จินตนาการไว้ก็ตาม)

อีเวนท์ตลาดคริสต์มาสในกรุงโซล จัดที่สวนสาธารณะยออิโด ในเรื่องของบรรยากาศคงเทียบกับในยุโรปไม่ได้ แต่ก็คึกคักน่าเดินอยู่เหมือนกัน อากาศหนาวๆ ควันหอมๆจากรถขายอาหาร ประกายไฟประดับสีเหลืองอ่อนตัดกับท้องฟ้าสีดำ พร้อมด้วยเพลงเพราะๆช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับที่นี่ได้มากทีเดียว

มีของแฮนด์เมดขายเพียบเลย ผมเข้าไม่ค่อยถึงสินค้าแนวๆนี้ แต่เดินเล่นสนุกดีนะ ได้หลบหนาวระหว่างสำรวจสินค้า เพราะโซนขายของจัดข้างในอาคาร

เดินไปสักพักเริ่มหิว ต้องฝ่าลมหนาวออกไปหาอะไรกินข้างนอก มีรถขายอาหารน่ากินหลายอย่างเลย เช่น บาร์บีคิว เสต็ก ไก่ทอด เคบับ ซีฟู๊ด ฯลฯ

ได้นี่มา โซบะร้อนๆ ราคาเจ็ดพันวอน แต่กินข้างนอกไม่ไหว หนาวเกิน ต้องถือกลับไปกินข้างในอาคาร และประลองไหวพริบแย่งชิงเก้าอี้ว่างกับบรรดาเจ้าถิ่นเล็กน้อย

มีเล่นดนตรีสดในนั้นด้วยนะครับ กินไป ฟังเพลงไป ฟินมาก ไม่อยากมาคนเดียวเลย

และค่ำคืนแรกผ่านพ้นไป ...
จากกรุงโซล ไปเที่ยวแทกู เดินดูไฟคริสต์มาส ยังอยากไปซ้ำอีกหลายๆครั้ง
เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ไปแล้วเสพติด อยากไปอีกตลอดเลย (ความเห็นนี้ไม่นับเป็นข้อเท็จจริง เพราะมีคนคัดค้านอยู่บ่อยๆ ชวนไปด้วยก็ไม่ค่อยอิน) ชอบที่ไหนพาตัวเองไปที่นั่น จองตั๋วเลยหนึ่งใบ ไปคนเดียว (น่าจะ) สนุกดี
นั่งสายการบินอาเซียน่าเจ้าถิ่น (THB13,353) เดินทางช่วงคริสต์มาสครับ บินตรง สะดวกสบาย ฟังเพลงบ้าง กินบ้าง งีบบ้าง แพ็บเดียวถึงแล้ว
ลงเครื่องที่สนามบินอินชอนช่วงเช้า ตามจุดต่างๆมีประดับไฟและสัญลักษณ์ต่างๆของเทศกาล
ได้นั่งรถบัสเข้าเมืองเป็นครั้งแรก ครั้งก่อนหน้าที่เคยมาเป็นเที่ยวบินดึก ไม่ทันรถบัส ที่พักที่จองไว้อยู่แถว Sungshin Women’s University โลเคชั่นดีเลยครับ มีขายของกินเยอะ มีที่ชอปปิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฝากสัมภาระกับทางโรงแรมเสร็จ ได้เวลามื้อกลางวันพอดี เดินออกไปก่อนถึงรถไฟใต้ดินเจอร้านนี้ น่ากิน
ที่เกาหลีใต้ ร้านอาหารหลายๆร้านติดตั้งตู้อัตโนมัติให้ลูกค้าสั่งอาหาร ไปวันแรกยังไม่ชิน เดินบุกไปที่สเตชั่นพ่อครัวเลย จิ้มๆเมนูที่อยากกิน พ่อครัวงง แต่ก็จดรับออร์เดอร์ให้ ข้าวหน้าแฮมกิมจิชามนี้อร่อยมากเลยครับ แต่ก่อนออกจากร้านสังเกตว่าทุกโต๊ะมีแต่ผู้หญิง แปลกจัง
ด้วยความที่เพิ่งมาเที่ยวโซลก่อนหน้านี้ไม่นาน เลยไม่ได้เลือกไปที่เที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวนะครับ เน้นสถานที่ที่ยังไม่เคยไป มีไปซ้ำแค่บางที่เท่านั้น
22 ธันวาคม 2019
วันแรกเป็นวันอาทิตย์พอดี ไปโบสถ์กัน
โบสถ์ Yoido Full Gospel Church เป็นคริสตจักรขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกมากที่สุดในโลก นั่งรถเมล์ไปได้ บนรถเมล์ได้ถามทางจากอาจุมม่าท่าทางใจดีท่านหนึ่ง อาจุมม่าก็กำลังไปโบสถ์เหมือนกันพอดี
จากป้ายรถเมล์แค่ข้ามถนนก็เป็นประตูทางเข้าเลย เจ้าหน้าที่คงไม่ค่อยคุ้นที่คนไทยมา อยากจัดหาหูฟังแปลภาษาให้ แต่ไม่มี ผมเลยบอกว่าไม่เป็นไร ภาษาเกาหลีก็ได้ ถนัด (ซะเมื่อไหร่) เลยได้หูฟังภาษาอังกฤษมา แต่ขอสารภาพว่าไม่มีสมาธิฟังเทศนาเลยครับ เพิ่งมาถึงวันแรก ตื่นเต้นกับทุกอย่างไปหมด
จากนั้นเข้า Service อีกรอบที่เป็นครึ่งแรก รอบที่แล้วที่เข้าเป็นช่วงครึ่งหลัง มาไม่ทันช่วงร้องเพลงสรรเสริญ ถือว่าภารกิจคริสต์มาสซันเดย์เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ บทเพลงต่างๆในบรรยากาศวันนั้นอบอุ่นและน่าประทับใจมาก ถือเป็นคริสต์มาสที่มีความสุขและน่าจดจำอีกครั้งหนึ่งในชีวิต (สำหรับคริสเตียนที่มาเที่ยวโซล ลองจัดวันอาทิตย์มาที่นี่ดูนะครับ)
ปรับจากโหมดซาบซึ้งจรรโลงใจ มาเป็นโหมดตื่นตาตื่นใจสไตล์ทัวริสต์อีกครั้ง ย่าน Yoido มีแลนด์มาร์กเป็นตึกสูงชื่อว่า 63 Building ในนั้นมีกิจกรรมสนุกๆสำหรับคู่รัก ครอบครัว รวมทั้งคนเหงา 2020 อย่างเราด้วย อ่อ ไม่สิ ยัง 2019 อยู่เลย
ส่วนตัวเป็นคนเฉยๆกับอแควเรียมและบรรดากุ้งหอยปูปลา แต่ไปเที่ยวทีไรได้แวะทุกที รอบที่แล้วไปที่ห้าง COEX Mall ย่านคังนัม ใครเคยไปที่นั่นแล้วชอบ มาที่ 63 Building อีกทีก็ได้นะ ไม่ผิดหวังรับรอง
สิ่งที่ชอบดูมากกว่าสัตวน้ำคือคู่รักมาเดทกัน น่าร้าก
ที่ชอบอีกอย่างคือเสียงเด็กๆอธิบายพ่อแม่ของพวกเขาอย่างกระตือรือร้นถึงบรรพบุรุษที่บรรดาสัตว์เหล่านี่สืบสายพันธุ์มา
เดินเล่นเพลินๆ เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง จัดว่าสนุกดีสำหรับกิจกรรมที่ไม่คาดหวังอะไร
ในส่วนที่คาดหวังคือ งานจัดแสดงศิลปะบนจุดชมวิวที่ยอดตึก สามารถซื้อบัตรเหมาคู่กับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำได้ แพคเกจนี้ผมซื้อมาราคาหกร้อยกว่าบาทครับ
แต่ในส่วนจัดแสดงศิลปะกลับไม่มีอะไรว้าวแฮะ ผิดหวังนิดหน่อย ลงลิฟท์จากชั้น 60 ด้วยอารมณ์แบบอิหยังเนี่ย
น้อยครั้งที่ผมได้มาเมืองหนาวในช่วงหน้าหนาว ครั้งนี้มีโอกาสทำฝันให้เป็นจริงหนึ่งอย่าง นั่นคือ แถ่มแท้ม ... เที่ยวตลาดคริสต์มาส (แม้จะไม่ใช่ในแคว้นบาวาเรียอย่างที่จินตนาการไว้ก็ตาม)
อีเวนท์ตลาดคริสต์มาสในกรุงโซล จัดที่สวนสาธารณะยออิโด ในเรื่องของบรรยากาศคงเทียบกับในยุโรปไม่ได้ แต่ก็คึกคักน่าเดินอยู่เหมือนกัน อากาศหนาวๆ ควันหอมๆจากรถขายอาหาร ประกายไฟประดับสีเหลืองอ่อนตัดกับท้องฟ้าสีดำ พร้อมด้วยเพลงเพราะๆช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับที่นี่ได้มากทีเดียว
มีของแฮนด์เมดขายเพียบเลย ผมเข้าไม่ค่อยถึงสินค้าแนวๆนี้ แต่เดินเล่นสนุกดีนะ ได้หลบหนาวระหว่างสำรวจสินค้า เพราะโซนขายของจัดข้างในอาคาร
เดินไปสักพักเริ่มหิว ต้องฝ่าลมหนาวออกไปหาอะไรกินข้างนอก มีรถขายอาหารน่ากินหลายอย่างเลย เช่น บาร์บีคิว เสต็ก ไก่ทอด เคบับ ซีฟู๊ด ฯลฯ
ได้นี่มา โซบะร้อนๆ ราคาเจ็ดพันวอน แต่กินข้างนอกไม่ไหว หนาวเกิน ต้องถือกลับไปกินข้างในอาคาร และประลองไหวพริบแย่งชิงเก้าอี้ว่างกับบรรดาเจ้าถิ่นเล็กน้อย
มีเล่นดนตรีสดในนั้นด้วยนะครับ กินไป ฟังเพลงไป ฟินมาก ไม่อยากมาคนเดียวเลย
และค่ำคืนแรกผ่านพ้นไป ...