เราเคยแชร์เรื่องโรงเรียนในนิวยอร์คไปแล้ว วันนี้จะมาแชร์สถานการณ์ในนิวยอร์คบ้างค่ะ บอกก่อนเลยว่าเป็นการแชร์จากประสบการส่วนตัว อาจมีบางส่วนที่แตกต่างจากคนอื่นไปบ้าง เราเองนั้นทำงานโรงพยาบาลก็ยังคงต้องมาทำงานทุกวัน ขอไม่เล่าเนื่องภายในโรงบาลล่ะกันนะค่ะ
สถานการณ์โดยรวมแล้วก็เงียบมากๆ ร้านอาหารที่มีระบบ delivery ยังคงเปิดให้บริการค่ะ แต่จะนั่งกินที่ร้านไม่ได้ ต้องสั่ง delivery เท่านั้นค่ะ ส่วนร้านที่ไม่มีระบบนี้ก็ต้องปิดร้านกันไปตามกฎ บาร์ พิพิตพัน โรงหนัง ที่รวมชุมชนทั้งหลายปิดหมดแล้วค่ะ ร้านค้าคนเงียบลงค่ะ ไม่ค่อยมีคนสั่งอาหารนอกบ้านกันเท่าไหร่ ร้านค้าทั่วๆไปส่วนใหญ่จะบังคับให้ซื้อของชนิดเดียวกันได้แค่สองชิ้นต่อคน คนส่วนใหญ่ยังคงออกนอกบ้านได้ค่ะ แต่ไม่ค่อยมีคนออกเท่าไหร่ มีมาตรการให้ work from home ให้มาที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนอาชีพหรือธุรกิจไหนที่สามารถปิดได้ก็ต้องปิดกันไปกระดาษทิชชู่ กระดาษเช็ดมือมีน้อย หายาก แต่ยังไม่ถึงขนาดตลาด เจลล้างมือ กับแอลกอฮอนี่ขาดตลาดแล้ว สั่งทีต้องรอกันนานกว่าจะได้ ช่วงเช้าระหว่าง 8ถึง9 โมงเช้าจะเป็นช่วงเปิดให้เฉพาะผู้สูงอายุมาซื้อของค่ะเพราะพวกนี้ป่วยง่าย ธนาคารปิดเร็วขึ้น แถวบ้านเราตามร้านค้าจะมีเทปแปะที่พื้นให้ยืนเว้นระยะห่างเวลาต่อคิวซื้อของ ส่วนยาสามันประจำบ้านทั้งของเด็กของผู้ใหญ่เกลี้ยงเคยค่ะ และมีการสั่งห้ามปาร์ตี้ ห้ามจัดงานต่างๆที่มีการชุมนุมคน ห้ามอยู่รวมกลุ่มเกิน 10 คนต่อกลุ่ม ใครมีงานแต่งก็โดนเลื่อนกันหมดค่ะ งานจบการศึกษาต่างๆก็เลื่อนไปก่อน จากที่เห็นรถ taxi มีการปิดพลาสติดกั้นที่นั่งผู้โดยสาร อันนี้ทุกคันหรือเปล่าไม่ทราบนะค่ะ ส่วนรถเมล์กับรถไฟฟ้าไม่ขอพูดถึงเนื่องจากไม่มีข้อมูลตรงนี้ค่ะเพราะเราไม่ได้ใช้บริการส่วนนี้ แต่เท่าที่รู้มาคือมีคนใช้น้อยมากถึงมากที่สุด สถานเลี้ยงเด็กยังเปิดค่ะ แล้วมีเปิดให้ฟรีสำหรับพนักงานที่ทำงานในโรงพยาบาลด้วย
ตอนนี้เมืองแทบจะเรียกว่าเป็นเมืองร้าง นิวยอร์คที่เคยคึกคักตอนนี้เงียบสนิท
ใครอยู่ส่วนไหนของประเทศ หรือส่วนไหนของโลกมาแชร์กันได้นะค่ะ
แชร์สถาณการในนิวยอร์คตอนนี้