altron นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ไทยที่เราคงรู้จักกันมากขึ้นแล้วในยุคนี้ครับ แน่นอนว่าเราเคยซื้อมารีวิวก่อนหน้าเป็นรุ่นแรกๆที่เปิดตลาดเลย แต่ตอนนี้ก็ยังใช้งานได้ดีอยู่นะครับตัว 43 นิ้วครั้งนั้นถือว่าโอเคเลยคุณภาพอะไรยังใช้งานได้สบายๆจนถึงตอนนี้ และแน่นอนว่าในครั้งนี้เนื่องจากทีมเราได้มีโอกาสทำ Office ใหม่เลยหาของเข้ามาใช้งานกันเพิ่มเติมครับ และเล็งๆทีวี 65 นิ้วไว้อยู่และต้องเป็นทีวีที่รองรับ 4K เลยมาโดนเจ้า altron ตัวนี้เป็นรุ่นล่าสุดครับที่เพิ่งเปิดตัว และเป็น Smart TV ที่มีปุ่ม Netflix และปุ่ม Youtube มาให้เลยพร้อมใช้งานจุดนี้แหละเลย ทำให้มันน่าโดน และระบบใหม่ใช้งานลื่นไหลขึ้นด้วย เป็นเจ้า ALTRON SmartTV LTV-6502 นั้นเองครับ โดยราคานั้นหากันได้ไม่แพงเลยแถมรับประกัน 3 ปีพร้อมจอแตกเคลมได้เช่นเดิมเลยครับ ยังคงเป็นจุดเด่นของค่ายนี้และ เราอยากสนับสนุนแบรนด์ไทยแท้ๆที่เคยทำ ธานินทร์นั้นเองครับ
altron SmartTV LTV-6502 นั้นมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 65 นิ้วในความละเอียดแบบ 4K พร้อมกับการรองรับ NETFLIX YOUTUBE รวมถึงมี Facebook Browser อะไรมากมายใส่เข้ามา และระบบ Smart TV ค่อนข้างครบแต่ไม่ได้ใช้งาน Android นะครับจะเป็นระบบปฏิบัติการลินุกซ์ บน อัลทรอน สมาร์ททีวี รวมถึงมี Ram 1 GB Rom 4 GB และรองรับ Wi-Fi และ LAN ปกติครับส่วนในแง่ของระบบเสียงนั้นรองรับระบบเสียง Dolby Audio ด้วยเช่นกัน และ รับประกัน 3 + (สามพลัส) รองรับอุบัติเหตุจอแตกอะไรเรียบร้อยครับ ส่วนทางด้านฟีเจอร์ก็รองรับการส่งออกหน้าจอมือถือ Mirror ไปได้สบายๆง่ายๆครับ เมนูภาษาไทยอะไรมีมาให้ครบๆใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก
สำหรับ ราคา Altron SmartTV LTV-6502 TV นั้นมาพร้อมกับ ราคา 31,990 บาท
DESIGN
การออกแบบตัวทีวีนั้นรู้สึกเลยว่ามีความเรียบและดูดีขึ้นจากรุ่นก่อนๆครับทั้งการดีไซน์ขอบหน้าจอ การวางหรือจะเป็นตัวแถบด้านล่างรู้สึกว่าเรียบร้อยและดูดีขึ้น ใช้เป็นสีดำแทบทั้งหมด พร้อมไฟสถานะมุมขวาล่างแบบเดิมเลยครับ ทางด้านความบางนั้นถือว่าบางมากๆ แต่ขาตั้งก็จะเป็นทรงที่เราคุ้นเคยกันดีในรุ่นก่อนๆหน้านี้
ในภาพรวมทั้งด้านหน้าและด้านหลังนั้นเน้นดีไซน์เรียบๆครับ ไม่ได้มีการปั๊มนูนอะไรหรือเล่นลวดลายอะไรในด้านหลัง การวาง Layout ต่างๆในด้านหลังยังคงเป็นเหมือนรุ่นอื่นๆของทางค่ายเลยครับไม่ได้แตกต่างกันมากนักรวมถึงการเสียบช่องสายต่างๆเช่นกัน แต่ทางด้านลำโพงนั้นโดนย้ายไปข้างล่างหน้าจอแทนแล้ว เพราะรุ่นที่เราเคยรีวิวเหมือนจะยิงออกด้านหลังครับ ส่วนความบางนั้นทำได้ดีเลยแหละ และมีส่วนฐานที่นูนออกมานิดหน่อย งานประกอบเป็นชิ้นเดียวกันมากขึ้นในด้านหลังรอยต่อน้อยลงครับ ส่วนหน้าจอนั้นมีความแข็งแรงขึ้น เคาะอะไรได้ไม่ยวบแบบรุ่นก่อนแล้ว เพราะกระจกหน้าจอเป็นแบบ IPS ครับ
แถบข้างล่างอย่างที่บอกคือมีการออกแบบเรียบหรูขึ้นครับ แต่ก็ไม่ลืมที่จะใส่โลโก้ของแบรนด์มาไว้ตรงกลางแบบเดิมสีเงินโครเมี่ยม และในด้านขวามุมนั้นจะเห็นว่าเป็น ฟีเจอร์ที่รองรับคือ 4K – DOLBY AUDIO และ ECO รวมถึง HDMI ครับ แต่น่าเสียดายว่าไม่รองรับ DOLBY VISION / ATMOSไม่งั้นจะสุดกว่านี้เลยแหละครับ ส่วนปุ่มเปิดปิด ในรุ่นนี้ไม่มีการใส่เข้ามานะครับ จะเป็น Standby ตลอดเวลาเลย สามารถกดเปิด ปิดผ่านรีโมทได้
ในด้านหลังจะเห็นส่วนที่นูนออกมาที่จะเป็นช่องระบายความร้อนและเป็นที่อยู่ของระบบทั้งหลายรวมถึงพอร์ตเชื่อมต่อด้วยเช่นกัน การวาง Layout ด้านหลังยังคงคุ้นเคยกันดีครับเหมือนกับรุ่นอื่นๆของค่ายนี้เลย ช่องระบายความร้อนจะออกมาด้านบน ด้านข้างครับ และรวมถึงด้านหลังด้วยแต่ความร้อนเท่าที่ลองก็ไม่ได้ร้อนเท่าไร ส่วนฐานด้านล่างจะเป็นพวกลำโพงครับ รวมถึงปุ่มควบคุมนั้นจะอยู่มุมขวา เมื่อหันหน้าเข้าทีวีนั้นเอง
จอภาพนั้นตามขอบเก็บงานได้สวยครับไม่ได้มีกรอบหนาๆแล้วเพราะรุ่นนี้เป็นทีวีแบบ Frameless จะเป็นเนื้อกระจกคลุมถึงขอบสุดเลยนั้นเองทำให้งานดีไซน์มันดูดีขึ้นแน่นอนและทำให้ขอบบางขึ้นด้วยเช่นกันครับ ถือว่าทำได้บางมากๆเลย ส่วนตัวหน้าจอนั้นใช้พาแนลจอดีระดับนึง มองมุมตรงๆนั้นทำได้ดีเลยครับ ทั้งสีสัน และความสว่างแต่ถ้าเวลามองด้านข้างแอบมีแสงลอดนิดหน่อย
ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อนั้นใส่มาให้เพียงพอครับทั้งด้านข้างและด้านล่าง โดยด้านข้างนั้นจะเป็นพอร์ต USB ทั้ง 2 ช่องและ VGA สำหรับเสียบสายต่อจอจากคอมพิวเตอร์ต่างๆแต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยใช้กันเท่าไร แต่ก็ยังมีมาให้ ส่วนตัวผมว่าน่าจะมี HDMIเพิ่มเข้ามามากกว่านี้ครับ ส่วนด้านล่างนั้นจะมาเต็มๆทั้ง LAN – OPTICAL – HDMI 3 ตัว จริงๆแบ่งมาด้านข้างบ้างก็จะดีมากและช่อง AV-IN ครับผม เสียดายแค่ด้านข้างน่าจะใส่ HDMI มามากกว่าเพราะได้ใช้งานบ่อยกว่าพอสมควรเลยครับ
ในด้านของปุ่มควบคุมในรุ่นนี้ไม่มีปุ่ม Power อะไรครับเป็นแค่ปุ่มควบคุม 4 ทิศทางพร้อมกดลงไปได้สามารถเข้าตั้งค่าอะไรได้เลย แต่ทั้งเครื่องมีแค่ปุ่มพวกนี้เท่านั้นเองครับไม่มีเปลี่ยนช่อง ปรับอะไรแล้ว ส่วนความรู้สึกปุ่มนั้นดูแน่นหนาแข็งแรงดีกว่ายุคแรกๆเยอะมากอันนี้ขอชมครับและใช้งานได้ไม่หน่วง ส่วนขาตั้งก็มีขนาดกลางๆทรงที่คุ้นเคย
SPEC
- Smart TV ขนาด 65 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 4K ULTRA HD LED (3840×2160)
- แรงกว่าเดิมด้วยระบบปฏิบัติการลินุกซ์ บน อัลทรอน สมาร์ททีวี
- ดู Netflix และ Youtube ที่ความละเอียดสูงสุด 4K
- Smart Remote พร้อมปุ่ม Netflix และ Youtube one touch access เข้าดูได้ง่ายๆในปุ่มเดียว
- หน่วยความจำ Ram 1 GB Rom 4 GB
- เชื่อมต่อโลกอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วผ่าน Wi-Fi และ LAN
- Youtube , Netflix – CAST
- ระบบเสียง Dolby Digital
- รับประกัน 3 + (สามพลัส)
- HDMI,USB,RF in (Terrestrial/Cable Input),Digital Audio Out(Optical),Audio Out (Mini Jack),Ethernet (LAN),Composite in (AV)
- Netflix,Youtube Wireless Connectivity,Web Browser,Android,Mobile Screen Mirroring
SCREEN
ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้มีความละเอียดจัดเต็ม 4K ครับเป็นพาแนล LED ปกติเลยแน่นอนว่าสีดำสนิทคมชัดสวยงามครับ ในมุมมองตรงๆนั้นทำได้ดีพอสมควรทั้งมิติของภาพและความคมชัดของตัวหน้าจอในการเล่นไฟล์แบบ 4K แท้ๆครับแสดงผลได้ดีน่าประทับใจความลื่นไหลของจอภาพทำได้ดีเช่นกัน รวมถึงการสู้แสงอะไรกำลังดีเลยครับ สีอิ่มดีส่วนพวกตัวหนังสืออะไรคมชัดเช่นกันแน่นอนว่าเมื่อมองตรงๆนั้นทำได้ดีกว่าที่คิดไว้พอสมควรจากแบรนด์ altron แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าถ้าหากไปเทียบพวก อินเตอร์แบรนด์ พวกนั้นแน่นอนว่าอาจจะยังสู้ได้ยากหน่อยแต่ถ้าเทียบกับยุคแรกๆนั้นต้องบอกกันตรงๆว่าดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยครับสำหรับแบรนด์ไทยอันนี้ ก็รอดูกันยาวๆเอาใจช่วยแบรนด์ไทยกันครับ ส่วนมุมมองในด้านอื่นๆจุดนี้แหละอาจจะไม่ได้ดีมากนัก
เมื่อมองในมุมมองเอียงๆหรือด้านข้างนั้นเราจะเริ่มเห็นว่าสีดำมันอาจจะไม่ได้สม่ำเสมอเท่าไรครับในตัวจอภาพทั้งด้านข้างและด้านล่างคือเมื่อหน้าจอแสดงผลสีดำแล้วมันจะเหมือนมีแสงลอดๆเข้ามาตามภาพด้านบนถ้าเราสังเกตดีๆครับ จุดนี้ยังคงเจอในหลายๆรุ่นของแบรนด์นี้อยู่บ้างและจะค่อนข้างชัดเมื่อแสดงผลสีดำครับ แต่ถ้าใช้งานปกตินั้นจะไม่ได้เห็นเท่าไรแต่หน้าจอมุมมองอื่นๆอาจจะมีดรอปลงไปพอสมควรครับ ตามภาพด้านบนที่เป็นทะเลสีน้ำเงินเมื่อเทียบมุมมองตรงๆ ก็ต้องพัฒนากันไปเรื่อยๆสำหรับตัวพาแนลหน้าจอที่ใช้แต่ถ้ามองตรงๆนั้นไม่มีปัญหาเลย
SYSTEM UI
หน้าตาระบบรุ่นนี้ไม่ได้ใช้งาน Android TV เลยทำให้ฟีเจอร์อาจจะไม่ได้เยอะเท่ารุ่นก่อนๆแต่ได้ความลื่นไหล และเรียบง่ายเข้ามาแทนครับถ้าคนไม่ได้ใช้อะไรเยอะถือว่าใช้งานได้ไวและลื่นมากๆอันนี้ชอบครับเพราะพวก Android TV เราใช้งานจริงๆไม่ได้กี่ฟีเจอร์มันจริงๆนะ และในระบบ Linux อันนี้ก็ใส่มาครบที่เราเน้นๆคือ YouTube -NETFLIX แท้ๆ-และรองรับ Screen Mirroring รวมถึงแอปจำนวนนึงที่ใส่เข้ามาครับทั้งรองรับเมนูภาษาไทย และมีแอปเล่นเกมอะไรใส่เข้ามาด้วยตามภาพด้านบนและเลื่อนลงไปได้อีกรวมถึงมี Facebook Twitter อะไรมาให้ด้วยเช่นกัน
ตัวหน้าหลักนั้นจะเป็นแถบเมนูข้างล่างครับสามารถเข้าไปใช้ได้เลยไม่ยุ่งยากแต่จะยากตรงพิมพ์รหัส เมลทั้งหลายเนี่ยแหละครับลำบากนิดนึง ส่วนระบบนั้นไม่หน่วงไม่เอ๋อเลยอันนี้ชอบมากๆลื่นไหลดีครับและเมนูนั้นรองรับภาษาไทยเรียบร้อยใช้งานได้ง่ายและสามารถตั้งค่าอะไรได้ปกติเลย แต่ WIFI นั้นรองรับแค่ 2.4Ghz เท่านั้นนะครับ แอบเสียดายนิดหน่อย ส่วนระบบเสียง ระบบภาพก็สามารถปรับได้สบายๆเลยครับทั้งรอบทิศทางต่างๆในตัวเมนูครับ
SPEAKER
ทางด้านระบบเสียงลำโพงในรุ่นนี้ใส่ลำโพงคู่มาให้ครับ อยู่ตรงฐานเครื่องยิงลงด้านล่าง ซ้ายขวา เสียงนั้นรองรับระบบเสียง DOLBY ปกติแน่นอนว่าความดังมันดังสะใจอยู่แล้วสบายๆครับ แต่เรื่องของมิติเสียงนั้นจุดนี้สำคัญเลย ผมจึงได้ทำการทดสอบทั้งการฟังเพลง ดูหนังอะไรก็ใช้ได้เลยครับเสียงสามารถปรับรอบทิศทางได้และรู้สึกแตกต่างกันจริงๆ เบสมากำลังดี เสียงคนพูดจะเด่นหน่อยเวลา ดูหนัง ถ้าฟังเพลงเสียงร้องจะชัดครับ แต่ไม่ได้แหลมบาดหูอันนี้ชอบเลย แต่มิติเสียงในภาพรวมนั้นกลางๆไปทางดีครับ ไม่ได้แน่นจัดเต็มอะไรแบบนั้นอยู่ในระดับที่ดูหนังสนุก ฟังเพลงสนุก
[CR] รีวิว ALTRON SMART TV LTV-6502 4K 65 นิ้ว รองรับ NETFLIX ประกัน 3 ปี !
altron นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ไทยที่เราคงรู้จักกันมากขึ้นแล้วในยุคนี้ครับ แน่นอนว่าเราเคยซื้อมารีวิวก่อนหน้าเป็นรุ่นแรกๆที่เปิดตลาดเลย แต่ตอนนี้ก็ยังใช้งานได้ดีอยู่นะครับตัว 43 นิ้วครั้งนั้นถือว่าโอเคเลยคุณภาพอะไรยังใช้งานได้สบายๆจนถึงตอนนี้ และแน่นอนว่าในครั้งนี้เนื่องจากทีมเราได้มีโอกาสทำ Office ใหม่เลยหาของเข้ามาใช้งานกันเพิ่มเติมครับ และเล็งๆทีวี 65 นิ้วไว้อยู่และต้องเป็นทีวีที่รองรับ 4K เลยมาโดนเจ้า altron ตัวนี้เป็นรุ่นล่าสุดครับที่เพิ่งเปิดตัว และเป็น Smart TV ที่มีปุ่ม Netflix และปุ่ม Youtube มาให้เลยพร้อมใช้งานจุดนี้แหละเลย ทำให้มันน่าโดน และระบบใหม่ใช้งานลื่นไหลขึ้นด้วย เป็นเจ้า ALTRON SmartTV LTV-6502 นั้นเองครับ โดยราคานั้นหากันได้ไม่แพงเลยแถมรับประกัน 3 ปีพร้อมจอแตกเคลมได้เช่นเดิมเลยครับ ยังคงเป็นจุดเด่นของค่ายนี้และ เราอยากสนับสนุนแบรนด์ไทยแท้ๆที่เคยทำ ธานินทร์นั้นเองครับ
altron SmartTV LTV-6502 นั้นมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 65 นิ้วในความละเอียดแบบ 4K พร้อมกับการรองรับ NETFLIX YOUTUBE รวมถึงมี Facebook Browser อะไรมากมายใส่เข้ามา และระบบ Smart TV ค่อนข้างครบแต่ไม่ได้ใช้งาน Android นะครับจะเป็นระบบปฏิบัติการลินุกซ์ บน อัลทรอน สมาร์ททีวี รวมถึงมี Ram 1 GB Rom 4 GB และรองรับ Wi-Fi และ LAN ปกติครับส่วนในแง่ของระบบเสียงนั้นรองรับระบบเสียง Dolby Audio ด้วยเช่นกัน และ รับประกัน 3 + (สามพลัส) รองรับอุบัติเหตุจอแตกอะไรเรียบร้อยครับ ส่วนทางด้านฟีเจอร์ก็รองรับการส่งออกหน้าจอมือถือ Mirror ไปได้สบายๆง่ายๆครับ เมนูภาษาไทยอะไรมีมาให้ครบๆใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก
สำหรับ ราคา Altron SmartTV LTV-6502 TV นั้นมาพร้อมกับ ราคา 31,990 บาท
DESIGN
การออกแบบตัวทีวีนั้นรู้สึกเลยว่ามีความเรียบและดูดีขึ้นจากรุ่นก่อนๆครับทั้งการดีไซน์ขอบหน้าจอ การวางหรือจะเป็นตัวแถบด้านล่างรู้สึกว่าเรียบร้อยและดูดีขึ้น ใช้เป็นสีดำแทบทั้งหมด พร้อมไฟสถานะมุมขวาล่างแบบเดิมเลยครับ ทางด้านความบางนั้นถือว่าบางมากๆ แต่ขาตั้งก็จะเป็นทรงที่เราคุ้นเคยกันดีในรุ่นก่อนๆหน้านี้
ในภาพรวมทั้งด้านหน้าและด้านหลังนั้นเน้นดีไซน์เรียบๆครับ ไม่ได้มีการปั๊มนูนอะไรหรือเล่นลวดลายอะไรในด้านหลัง การวาง Layout ต่างๆในด้านหลังยังคงเป็นเหมือนรุ่นอื่นๆของทางค่ายเลยครับไม่ได้แตกต่างกันมากนักรวมถึงการเสียบช่องสายต่างๆเช่นกัน แต่ทางด้านลำโพงนั้นโดนย้ายไปข้างล่างหน้าจอแทนแล้ว เพราะรุ่นที่เราเคยรีวิวเหมือนจะยิงออกด้านหลังครับ ส่วนความบางนั้นทำได้ดีเลยแหละ และมีส่วนฐานที่นูนออกมานิดหน่อย งานประกอบเป็นชิ้นเดียวกันมากขึ้นในด้านหลังรอยต่อน้อยลงครับ ส่วนหน้าจอนั้นมีความแข็งแรงขึ้น เคาะอะไรได้ไม่ยวบแบบรุ่นก่อนแล้ว เพราะกระจกหน้าจอเป็นแบบ IPS ครับ
แถบข้างล่างอย่างที่บอกคือมีการออกแบบเรียบหรูขึ้นครับ แต่ก็ไม่ลืมที่จะใส่โลโก้ของแบรนด์มาไว้ตรงกลางแบบเดิมสีเงินโครเมี่ยม และในด้านขวามุมนั้นจะเห็นว่าเป็น ฟีเจอร์ที่รองรับคือ 4K – DOLBY AUDIO และ ECO รวมถึง HDMI ครับ แต่น่าเสียดายว่าไม่รองรับ DOLBY VISION / ATMOSไม่งั้นจะสุดกว่านี้เลยแหละครับ ส่วนปุ่มเปิดปิด ในรุ่นนี้ไม่มีการใส่เข้ามานะครับ จะเป็น Standby ตลอดเวลาเลย สามารถกดเปิด ปิดผ่านรีโมทได้
ในด้านหลังจะเห็นส่วนที่นูนออกมาที่จะเป็นช่องระบายความร้อนและเป็นที่อยู่ของระบบทั้งหลายรวมถึงพอร์ตเชื่อมต่อด้วยเช่นกัน การวาง Layout ด้านหลังยังคงคุ้นเคยกันดีครับเหมือนกับรุ่นอื่นๆของค่ายนี้เลย ช่องระบายความร้อนจะออกมาด้านบน ด้านข้างครับ และรวมถึงด้านหลังด้วยแต่ความร้อนเท่าที่ลองก็ไม่ได้ร้อนเท่าไร ส่วนฐานด้านล่างจะเป็นพวกลำโพงครับ รวมถึงปุ่มควบคุมนั้นจะอยู่มุมขวา เมื่อหันหน้าเข้าทีวีนั้นเอง
จอภาพนั้นตามขอบเก็บงานได้สวยครับไม่ได้มีกรอบหนาๆแล้วเพราะรุ่นนี้เป็นทีวีแบบ Frameless จะเป็นเนื้อกระจกคลุมถึงขอบสุดเลยนั้นเองทำให้งานดีไซน์มันดูดีขึ้นแน่นอนและทำให้ขอบบางขึ้นด้วยเช่นกันครับ ถือว่าทำได้บางมากๆเลย ส่วนตัวหน้าจอนั้นใช้พาแนลจอดีระดับนึง มองมุมตรงๆนั้นทำได้ดีเลยครับ ทั้งสีสัน และความสว่างแต่ถ้าเวลามองด้านข้างแอบมีแสงลอดนิดหน่อย
ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อนั้นใส่มาให้เพียงพอครับทั้งด้านข้างและด้านล่าง โดยด้านข้างนั้นจะเป็นพอร์ต USB ทั้ง 2 ช่องและ VGA สำหรับเสียบสายต่อจอจากคอมพิวเตอร์ต่างๆแต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยใช้กันเท่าไร แต่ก็ยังมีมาให้ ส่วนตัวผมว่าน่าจะมี HDMIเพิ่มเข้ามามากกว่านี้ครับ ส่วนด้านล่างนั้นจะมาเต็มๆทั้ง LAN – OPTICAL – HDMI 3 ตัว จริงๆแบ่งมาด้านข้างบ้างก็จะดีมากและช่อง AV-IN ครับผม เสียดายแค่ด้านข้างน่าจะใส่ HDMI มามากกว่าเพราะได้ใช้งานบ่อยกว่าพอสมควรเลยครับ
ในด้านของปุ่มควบคุมในรุ่นนี้ไม่มีปุ่ม Power อะไรครับเป็นแค่ปุ่มควบคุม 4 ทิศทางพร้อมกดลงไปได้สามารถเข้าตั้งค่าอะไรได้เลย แต่ทั้งเครื่องมีแค่ปุ่มพวกนี้เท่านั้นเองครับไม่มีเปลี่ยนช่อง ปรับอะไรแล้ว ส่วนความรู้สึกปุ่มนั้นดูแน่นหนาแข็งแรงดีกว่ายุคแรกๆเยอะมากอันนี้ขอชมครับและใช้งานได้ไม่หน่วง ส่วนขาตั้งก็มีขนาดกลางๆทรงที่คุ้นเคย
SPEC
- Smart TV ขนาด 65 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 4K ULTRA HD LED (3840×2160)
- แรงกว่าเดิมด้วยระบบปฏิบัติการลินุกซ์ บน อัลทรอน สมาร์ททีวี
- ดู Netflix และ Youtube ที่ความละเอียดสูงสุด 4K
- Smart Remote พร้อมปุ่ม Netflix และ Youtube one touch access เข้าดูได้ง่ายๆในปุ่มเดียว
- หน่วยความจำ Ram 1 GB Rom 4 GB
- เชื่อมต่อโลกอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วผ่าน Wi-Fi และ LAN
- Youtube , Netflix – CAST
- ระบบเสียง Dolby Digital
- รับประกัน 3 + (สามพลัส)
- HDMI,USB,RF in (Terrestrial/Cable Input),Digital Audio Out(Optical),Audio Out (Mini Jack),Ethernet (LAN),Composite in (AV)
- Netflix,Youtube Wireless Connectivity,Web Browser,Android,Mobile Screen Mirroring
SCREEN
ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้มีความละเอียดจัดเต็ม 4K ครับเป็นพาแนล LED ปกติเลยแน่นอนว่าสีดำสนิทคมชัดสวยงามครับ ในมุมมองตรงๆนั้นทำได้ดีพอสมควรทั้งมิติของภาพและความคมชัดของตัวหน้าจอในการเล่นไฟล์แบบ 4K แท้ๆครับแสดงผลได้ดีน่าประทับใจความลื่นไหลของจอภาพทำได้ดีเช่นกัน รวมถึงการสู้แสงอะไรกำลังดีเลยครับ สีอิ่มดีส่วนพวกตัวหนังสืออะไรคมชัดเช่นกันแน่นอนว่าเมื่อมองตรงๆนั้นทำได้ดีกว่าที่คิดไว้พอสมควรจากแบรนด์ altron แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าถ้าหากไปเทียบพวก อินเตอร์แบรนด์ พวกนั้นแน่นอนว่าอาจจะยังสู้ได้ยากหน่อยแต่ถ้าเทียบกับยุคแรกๆนั้นต้องบอกกันตรงๆว่าดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยครับสำหรับแบรนด์ไทยอันนี้ ก็รอดูกันยาวๆเอาใจช่วยแบรนด์ไทยกันครับ ส่วนมุมมองในด้านอื่นๆจุดนี้แหละอาจจะไม่ได้ดีมากนัก
เมื่อมองในมุมมองเอียงๆหรือด้านข้างนั้นเราจะเริ่มเห็นว่าสีดำมันอาจจะไม่ได้สม่ำเสมอเท่าไรครับในตัวจอภาพทั้งด้านข้างและด้านล่างคือเมื่อหน้าจอแสดงผลสีดำแล้วมันจะเหมือนมีแสงลอดๆเข้ามาตามภาพด้านบนถ้าเราสังเกตดีๆครับ จุดนี้ยังคงเจอในหลายๆรุ่นของแบรนด์นี้อยู่บ้างและจะค่อนข้างชัดเมื่อแสดงผลสีดำครับ แต่ถ้าใช้งานปกตินั้นจะไม่ได้เห็นเท่าไรแต่หน้าจอมุมมองอื่นๆอาจจะมีดรอปลงไปพอสมควรครับ ตามภาพด้านบนที่เป็นทะเลสีน้ำเงินเมื่อเทียบมุมมองตรงๆ ก็ต้องพัฒนากันไปเรื่อยๆสำหรับตัวพาแนลหน้าจอที่ใช้แต่ถ้ามองตรงๆนั้นไม่มีปัญหาเลย
SYSTEM UI
หน้าตาระบบรุ่นนี้ไม่ได้ใช้งาน Android TV เลยทำให้ฟีเจอร์อาจจะไม่ได้เยอะเท่ารุ่นก่อนๆแต่ได้ความลื่นไหล และเรียบง่ายเข้ามาแทนครับถ้าคนไม่ได้ใช้อะไรเยอะถือว่าใช้งานได้ไวและลื่นมากๆอันนี้ชอบครับเพราะพวก Android TV เราใช้งานจริงๆไม่ได้กี่ฟีเจอร์มันจริงๆนะ และในระบบ Linux อันนี้ก็ใส่มาครบที่เราเน้นๆคือ YouTube -NETFLIX แท้ๆ-และรองรับ Screen Mirroring รวมถึงแอปจำนวนนึงที่ใส่เข้ามาครับทั้งรองรับเมนูภาษาไทย และมีแอปเล่นเกมอะไรใส่เข้ามาด้วยตามภาพด้านบนและเลื่อนลงไปได้อีกรวมถึงมี Facebook Twitter อะไรมาให้ด้วยเช่นกัน
ตัวหน้าหลักนั้นจะเป็นแถบเมนูข้างล่างครับสามารถเข้าไปใช้ได้เลยไม่ยุ่งยากแต่จะยากตรงพิมพ์รหัส เมลทั้งหลายเนี่ยแหละครับลำบากนิดนึง ส่วนระบบนั้นไม่หน่วงไม่เอ๋อเลยอันนี้ชอบมากๆลื่นไหลดีครับและเมนูนั้นรองรับภาษาไทยเรียบร้อยใช้งานได้ง่ายและสามารถตั้งค่าอะไรได้ปกติเลย แต่ WIFI นั้นรองรับแค่ 2.4Ghz เท่านั้นนะครับ แอบเสียดายนิดหน่อย ส่วนระบบเสียง ระบบภาพก็สามารถปรับได้สบายๆเลยครับทั้งรอบทิศทางต่างๆในตัวเมนูครับ
SPEAKER
ทางด้านระบบเสียงลำโพงในรุ่นนี้ใส่ลำโพงคู่มาให้ครับ อยู่ตรงฐานเครื่องยิงลงด้านล่าง ซ้ายขวา เสียงนั้นรองรับระบบเสียง DOLBY ปกติแน่นอนว่าความดังมันดังสะใจอยู่แล้วสบายๆครับ แต่เรื่องของมิติเสียงนั้นจุดนี้สำคัญเลย ผมจึงได้ทำการทดสอบทั้งการฟังเพลง ดูหนังอะไรก็ใช้ได้เลยครับเสียงสามารถปรับรอบทิศทางได้และรู้สึกแตกต่างกันจริงๆ เบสมากำลังดี เสียงคนพูดจะเด่นหน่อยเวลา ดูหนัง ถ้าฟังเพลงเสียงร้องจะชัดครับ แต่ไม่ได้แหลมบาดหูอันนี้ชอบเลย แต่มิติเสียงในภาพรวมนั้นกลางๆไปทางดีครับ ไม่ได้แน่นจัดเต็มอะไรแบบนั้นอยู่ในระดับที่ดูหนังสนุก ฟังเพลงสนุก
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้