คำเตือน***
เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องราวชีวิตที่ได้เจอะเจอและได้เรียนรู้เกี่ยวกับโรคไตนี้ ตั้งแต่ ก่อนฟอก เริ่มฟอก เปลี่ยนไต และเรื่องราวมากมายที่ต้องเจอ ถึงแม้จะเปลี่ยนไตมาแล้ว 21ปีแล้ว แต่ยังมีสารพัดอาการที่ต้องเจอ แค่อยากจะแชร์ เล่าเรื่องแค่นั้นครับ อาจจะไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี อาจจะมีบางอยางที่ดี บางอย่างไม่ควรเอาไปปฏิบัติตาม เพราะในแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ อาจจะเอาไปปรับใช้ได้ก็ลองดูครับ อยากให้ทุกเรื่องที่เล่าให้ฟังเป็นเพียงกรณีตัวอย่างเท่านั้นนะครับ อ่านนิยายก็พอนะครับ เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน
บทเรียนที่หนึ่ง “ทำไมต้องเป็นกูว่ะ”
ผมเกิดและเติบโตมาในครอบครัวชั้นกลางพ่อทำงาน แม่เป็นแม่บ้าน ท้าวแชร์ เจ้ามือหวย นั่นแหละ มีพี่น้องสามกัน ผมคนโต และมีน้องสาวสุดหวงนั่นคนเล็ก ส่วนตัวเป็นนักกีฬามาตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น ร่างกายแข็งแรง ยิ่งตอนวัยรุ่นนี่ปั๋งมาก ใช้ชีวิตปรติทั่วไป การเดินทางของชีวิมันมาเริ่มผิดปรกติอยู่ในช่วงปี2539-40 เริ่มมีอาการของคนที่ลุกขึ้นมาฉี่กลางดึกบ่อยๆและถี่ขึ้น..
จนมาในปี40 ความรุนแรงที่มันแผงอยู่เริ่มปรากฏออกมาทีละนิด คือเหนื่อยมากๆขึ้น ฉี่บ่อยมากขึ้น จนเพลียเพระไม่ได้นอน และวันที่ทุกอย่างแจ่มชัดขึ้นมันก็เดินทางมาให้เด็กหนุ่มในวัย25 ต้องตกที่นั่งลำบาก
วันนั้นเป็นวันที่ผมจำไม่ลืม อาการปวดหัวเรียกได้ว่าปวดแทบหัวจะระเบิด นอนไม่ได้ คืนนั้นเป็นคืนที่โครตทรมานที่สุดนับตั้งแต่โดนเตะหัวเข่าบิดตอนเล่นบอล....

ละกูเป็นไรว่ะ
คืนแรกที่บ้านมันจบลง ด้วยการที่สลบไปแบบไม่รู้ว่าหลับไปตอนไปแบบนั่งกอดหมอนหลับ จนค่ำคืนของอีกวัน อาการนั้นหลักขึ้นๆๆ จนร่างการไม่ไหว ผมต้องลุกไปอ้วก แทบหมดไส้ แต่มันดีขึ้น หลับได้แต่ก็ปวดทรมาน อาการมันน้อยกว่าเดิม หลับไมได้จนเช้า
...บอกแม่ว่า ไม่รุ้เป็นไรอาการเป็นแบบนี้ๆๆ แม่เลยพาผมไป รพ ใหญ่แถวบ้าน ด้วยสภาพอดนอน ปวดหัวและสารพัดอาการในตอนนั้น ระหว่ารอหมอลงตรวจก็โชว์การเป็นลม ให้พยาบาล และครอบครัวได้เห็น พยาบาลกรูกันมาเอาผมเข้าไปนอนในห้องตรวจ หลังจากการแสดงจบลง ผมก็ลงมาคุย เล่าอาการให้หมอฟังจากนั้น ก็ “ตรวจเลือด ตรวจฉี่”
...ใช่ครับ! ไม่พลาด หมอเรียกทุกคนที่อยู่ตรงนั้นมาประชุมกันแบบไม่ได้นัดหมาย ในใจนึกเลย "มันต้องเล่นใหญ่แน่ๆเลย" จริงดังนั้นแต่คุณหมอก็ปลอบประโลมว่า “ไตมีปัญหา อาจจะเสื่อม หรือ เรียกว่าไตวาย แต่ไม่ต้องกังวลครับ ไตวายมีสองแบบไตวายเฉียบพลัน กินยาสักระยะก็หาย และอีกอย่างเรียกว่าไตวายเรื้อรัอันนี้ก็เรื่องใหญ่ครับ” นั่นแหละครับ ชีวิตของผมมันก็

เลือก ตัวเลือกที่สองซะได้!!
ทุกอย่างมันดู งง ไปทั้งคณะ คำถามมากมาพุดราวดอกเห็ดในฤดูฝน อะไรคือไตวาย มีโรคแบบนี้ด้วยเหรอ แล้วยังไงต่อ กูจะตายมั๊ย พ่อแม่ผมหน้าเสียแบบเห็นได้ชัด ทำไรไม่ถูก และจากนั้นก็ ต้องนอนโรงพยาบาล ก๋อนที่ทุกคนจะเข้าใจเรื่องโรคนี้ มีเรื่องที่สำคัญมากกว่าคือ ผมต้องแอดมิต นอนโรงบาลเพื่อฟอกไตให้เร็วที่สุดเพราะของเสียในเลือดเข้าขั้นวิกฤติแล้ว ใช่!! แต่ยังงงกับคำว่า “ไตวาย”ไม่จบเลย มีคำว่า ฟอกไต เพิ่มเข้ามาอีก พระเจ้า!! อะไรหนักหนาว่ะนั่น....
…ทุกอย่างมันไวมากๆ วันที่สองผมต้องเข้าไปทำเส้นที่หน้าอกด้านซ้าย เพื่อฟอกไต โดยมีเสา สองอัน ยื่นออกมา คล้ายๆหลอดดูดน้ำ สองท่อนัน้ช่วยชีวิตผม และนั่นคือวันแรกครั้งแรกในชีวิตผมในการฟอกไต และรู้จักเครื่องฟอกไต ที่เป็นเสมอนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดกับผมในระยะเวลาสองปีกว่าหลังจากนั้น
...ในวันรุ่นขึ้น...ผมตื่นขึ้นมาบนเตียง ที่เปียกชุ่มไปด้วยสีแดงสดเต็มเตียง“ตายห่า ไรว่ะ”นึกในใจ ผมเรียกคุณพยาบาลเข้ามา ปรากฏว่าเข็มที่ให้เลือดผมหลุด วันนั้นเลยต้องให้เลือดใหม่อีกรอบ แถมพลาสม่าอีกถุง ผมฟอกเลืออยู่สองครั้ง แล้วก็นอนรอดูอาการต่างๆ อาการที่เคยเป็นเช่นปวดหัวหนักมากๆหายไป
....เหมือนจะเป็นคนเดิม แต่ไม่ใช่!!เราคือคนไข้ แล้วเราคือคนป่วยโรคเรื้อรัง ที่ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้ด้วยซ้าว่ามันคืออะไร กูเกิ้ลไม่มี เนตไม่รู้จัก หนังสือไม่มีอ่าน เรียกได้ว่ามืดบอดข้อมูลจริงๆ ยี่สิบกว่าปีก่อนมันคือความว่างเปล่าจริงๆนะสำหรับคนป่วยโรคนี้ เราต้องทำการบ้านเองหาข้อมูลต่างๆนานาสารพัด
...แต่สิ่งที่ผมมีคือกำลังใจจากคนรอบข้าง พ่อแม่พี่น้อง และที่สำคัญแฟนผมในตอนนั้นที่เรียกได้ว่า เรียนรู้ข้อมูล เรียนรู้เรื่องโรคแทนครอบครัวผมทุกคน แต่สำหรับผมนั้น ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แบบว่างเปล่า ไม่มีอะไรในหัวนอกจาก คำหนึ่งที่ผุดขึ้นมาว่า
"ทำไมต้องเป็นกูว่ะ" ไม่มีอะไรเหมือนเดิม อีกแล้วหลังจากนั้น.........
**** อาจจะมีคำพูดที่ไม่เหมาะนิดหน่อยต้องขออภัยนะครับ ไว้มาต่อในตอนถัดไปครับ ขอบพระคุณครับทุกคน
เมื่อครบรอบ21ปี ของการเปลี่ยนอวัยวะ ของฉัน
เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องราวชีวิตที่ได้เจอะเจอและได้เรียนรู้เกี่ยวกับโรคไตนี้ ตั้งแต่ ก่อนฟอก เริ่มฟอก เปลี่ยนไต และเรื่องราวมากมายที่ต้องเจอ ถึงแม้จะเปลี่ยนไตมาแล้ว 21ปีแล้ว แต่ยังมีสารพัดอาการที่ต้องเจอ แค่อยากจะแชร์ เล่าเรื่องแค่นั้นครับ อาจจะไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี อาจจะมีบางอยางที่ดี บางอย่างไม่ควรเอาไปปฏิบัติตาม เพราะในแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ อาจจะเอาไปปรับใช้ได้ก็ลองดูครับ อยากให้ทุกเรื่องที่เล่าให้ฟังเป็นเพียงกรณีตัวอย่างเท่านั้นนะครับ อ่านนิยายก็พอนะครับ เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน
บทเรียนที่หนึ่ง “ทำไมต้องเป็นกูว่ะ”
ผมเกิดและเติบโตมาในครอบครัวชั้นกลางพ่อทำงาน แม่เป็นแม่บ้าน ท้าวแชร์ เจ้ามือหวย นั่นแหละ มีพี่น้องสามกัน ผมคนโต และมีน้องสาวสุดหวงนั่นคนเล็ก ส่วนตัวเป็นนักกีฬามาตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น ร่างกายแข็งแรง ยิ่งตอนวัยรุ่นนี่ปั๋งมาก ใช้ชีวิตปรติทั่วไป การเดินทางของชีวิมันมาเริ่มผิดปรกติอยู่ในช่วงปี2539-40 เริ่มมีอาการของคนที่ลุกขึ้นมาฉี่กลางดึกบ่อยๆและถี่ขึ้น..
จนมาในปี40 ความรุนแรงที่มันแผงอยู่เริ่มปรากฏออกมาทีละนิด คือเหนื่อยมากๆขึ้น ฉี่บ่อยมากขึ้น จนเพลียเพระไม่ได้นอน และวันที่ทุกอย่างแจ่มชัดขึ้นมันก็เดินทางมาให้เด็กหนุ่มในวัย25 ต้องตกที่นั่งลำบาก
วันนั้นเป็นวันที่ผมจำไม่ลืม อาการปวดหัวเรียกได้ว่าปวดแทบหัวจะระเบิด นอนไม่ได้ คืนนั้นเป็นคืนที่โครตทรมานที่สุดนับตั้งแต่โดนเตะหัวเข่าบิดตอนเล่นบอล....
คืนแรกที่บ้านมันจบลง ด้วยการที่สลบไปแบบไม่รู้ว่าหลับไปตอนไปแบบนั่งกอดหมอนหลับ จนค่ำคืนของอีกวัน อาการนั้นหลักขึ้นๆๆ จนร่างการไม่ไหว ผมต้องลุกไปอ้วก แทบหมดไส้ แต่มันดีขึ้น หลับได้แต่ก็ปวดทรมาน อาการมันน้อยกว่าเดิม หลับไมได้จนเช้า
...บอกแม่ว่า ไม่รุ้เป็นไรอาการเป็นแบบนี้ๆๆ แม่เลยพาผมไป รพ ใหญ่แถวบ้าน ด้วยสภาพอดนอน ปวดหัวและสารพัดอาการในตอนนั้น ระหว่ารอหมอลงตรวจก็โชว์การเป็นลม ให้พยาบาล และครอบครัวได้เห็น พยาบาลกรูกันมาเอาผมเข้าไปนอนในห้องตรวจ หลังจากการแสดงจบลง ผมก็ลงมาคุย เล่าอาการให้หมอฟังจากนั้น ก็ “ตรวจเลือด ตรวจฉี่”
...ใช่ครับ! ไม่พลาด หมอเรียกทุกคนที่อยู่ตรงนั้นมาประชุมกันแบบไม่ได้นัดหมาย ในใจนึกเลย "มันต้องเล่นใหญ่แน่ๆเลย" จริงดังนั้นแต่คุณหมอก็ปลอบประโลมว่า “ไตมีปัญหา อาจจะเสื่อม หรือ เรียกว่าไตวาย แต่ไม่ต้องกังวลครับ ไตวายมีสองแบบไตวายเฉียบพลัน กินยาสักระยะก็หาย และอีกอย่างเรียกว่าไตวายเรื้อรัอันนี้ก็เรื่องใหญ่ครับ” นั่นแหละครับ ชีวิตของผมมันก็
ทุกอย่างมันดู งง ไปทั้งคณะ คำถามมากมาพุดราวดอกเห็ดในฤดูฝน อะไรคือไตวาย มีโรคแบบนี้ด้วยเหรอ แล้วยังไงต่อ กูจะตายมั๊ย พ่อแม่ผมหน้าเสียแบบเห็นได้ชัด ทำไรไม่ถูก และจากนั้นก็ ต้องนอนโรงพยาบาล ก๋อนที่ทุกคนจะเข้าใจเรื่องโรคนี้ มีเรื่องที่สำคัญมากกว่าคือ ผมต้องแอดมิต นอนโรงบาลเพื่อฟอกไตให้เร็วที่สุดเพราะของเสียในเลือดเข้าขั้นวิกฤติแล้ว ใช่!! แต่ยังงงกับคำว่า “ไตวาย”ไม่จบเลย มีคำว่า ฟอกไต เพิ่มเข้ามาอีก พระเจ้า!! อะไรหนักหนาว่ะนั่น....
…ทุกอย่างมันไวมากๆ วันที่สองผมต้องเข้าไปทำเส้นที่หน้าอกด้านซ้าย เพื่อฟอกไต โดยมีเสา สองอัน ยื่นออกมา คล้ายๆหลอดดูดน้ำ สองท่อนัน้ช่วยชีวิตผม และนั่นคือวันแรกครั้งแรกในชีวิตผมในการฟอกไต และรู้จักเครื่องฟอกไต ที่เป็นเสมอนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดกับผมในระยะเวลาสองปีกว่าหลังจากนั้น
...ในวันรุ่นขึ้น...ผมตื่นขึ้นมาบนเตียง ที่เปียกชุ่มไปด้วยสีแดงสดเต็มเตียง“ตายห่า ไรว่ะ”นึกในใจ ผมเรียกคุณพยาบาลเข้ามา ปรากฏว่าเข็มที่ให้เลือดผมหลุด วันนั้นเลยต้องให้เลือดใหม่อีกรอบ แถมพลาสม่าอีกถุง ผมฟอกเลืออยู่สองครั้ง แล้วก็นอนรอดูอาการต่างๆ อาการที่เคยเป็นเช่นปวดหัวหนักมากๆหายไป
....เหมือนจะเป็นคนเดิม แต่ไม่ใช่!!เราคือคนไข้ แล้วเราคือคนป่วยโรคเรื้อรัง ที่ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้ด้วยซ้าว่ามันคืออะไร กูเกิ้ลไม่มี เนตไม่รู้จัก หนังสือไม่มีอ่าน เรียกได้ว่ามืดบอดข้อมูลจริงๆ ยี่สิบกว่าปีก่อนมันคือความว่างเปล่าจริงๆนะสำหรับคนป่วยโรคนี้ เราต้องทำการบ้านเองหาข้อมูลต่างๆนานาสารพัด
...แต่สิ่งที่ผมมีคือกำลังใจจากคนรอบข้าง พ่อแม่พี่น้อง และที่สำคัญแฟนผมในตอนนั้นที่เรียกได้ว่า เรียนรู้ข้อมูล เรียนรู้เรื่องโรคแทนครอบครัวผมทุกคน แต่สำหรับผมนั้น ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แบบว่างเปล่า ไม่มีอะไรในหัวนอกจาก คำหนึ่งที่ผุดขึ้นมาว่า
"ทำไมต้องเป็นกูว่ะ" ไม่มีอะไรเหมือนเดิม อีกแล้วหลังจากนั้น.........
**** อาจจะมีคำพูดที่ไม่เหมาะนิดหน่อยต้องขออภัยนะครับ ไว้มาต่อในตอนถัดไปครับ ขอบพระคุณครับทุกคน