[CR] ฤดูทะเล ที่เอวา เกาะช้าง AWA Koh Chang จ.ตราด

ห่างหายกันไปนานมากกกก กับการรีวิวที่พักในพันทิป มัวแต่อัพลงเฉพาะในเพจ ช่วงนี้ไวรัสระบาดหนักมาก สายเที่ยวอย่างเราก็ต้องนั่งเลื่อนดูรูปที่เที่ยวไปพลางๆ ค่ะ รอไว้โควิด19 ดีขึ้นเมื่อไหร่ เจอกัน~

วันนี้เรามีที่พักมาแนะนำ ไปพักมาช่วงก่อนที่เจ้าไวรัสจะระบาดหนักหน่วง T^T ชื่อที่พักว่า เอวา เกาะช้าง ได้ยินชื่อผ่านๆ มานานและเห็นรีวิวจากเพจดังๆ มาเยอะ จนในที่สุดก็มีเวลาว่างไปพักจนได้ เราไปนอนมา 3 วัน 2 คืนค่ะ เรียกได้ว่าทิ้งตัว ก่อนอื่นเลยจริงๆ ก็เป็นคนที่เที่ยวมาหลายจังหวัด แต่ว่าจ.ตราดยังไม่เคยมาเลย และนี่คือการมาเยือนเกาะช้างครั้งแรกค่ะ พอข้ามเรือนมาปุ๊ปให้ฟิลแบบ เหมือนเกาะที่ส่วนตัวมากๆ อารมณ์คล้ายๆ ภูเก็ตเหมือนกันนะ แต่คนไม่เยอะเท่าค่ะ และที่สำคัญร้านขายยาเยอะมาก จริงๆ เข้าใจเลยเพราะว่านักท่องเที่ยวเยอะเกิดแพ้อะไรขึ้นมาจะได้ทันท่วงทีอ่ะเนอะ

หลังจากที่เราข้ามเรือโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เราขึ้นเรือข้ามฝากที่อ่าวธรรมชาติ มีตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม ค่าเรือ 160 บาท/2คน ค่ารถยนต์ 240/คัน ไปกลับ ก็เปิด google maps ด้วยใจมุ่งหมายจะถึงที่พัก อยากไปเล่นน้ำ อยากไปเสพบรรยากาศแล้วจ้าาาาาา พร้อมถ่ายรูปมาก 55555555  ถนนที่เกาะช้างถ้าเกิดมาขับไปไม่ถึงจุดชมวิวจะยังไม่ชันมาก แต่ก็ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ เราไม่ชินถนนขับด้วยใจไม่ประมาทจะดีกว่า ไม่นานมากก็มาถึงที่พัก เราจอดรถและมีพนักงานมาช่วยขนกระเป๋า



ด้านหน้าของตัวที่พักจะเป็นสีขาวหมด ขาวหมด มินิมอลถูกใจมากพูดเลยย มีหลังคาที่สูงโปร่งทำให้รู้สึกเหมือนอารยสถาปัตย์ที่อลังการประมาณนึงเลย ทางเข้าเป็นประตูสีขาวหลายบานติดกัน มีที่นั่งตรงล็อบบี้เช็คอินยาวมาก รวมถึงมีเวมคัมดริ๊งด้วย แหม่...มันชื่นใจอ่ะเนอะ

หลังจากเช็คอินเรียบร้อย เราก็ขอขึ้นห้องไปเก็บของสักหน่อย เราถึงประมาณช่วงบ่ายๆ ก็กะว่าจะทิ้งตัวบนเตียงแปปและค่อยออกมาดูทะเลที่ตราดสักหน่อย และก็เดินถ่ายรูปเล่นยาวๆ วนไปค่า



ห้องนอนค่อนข้างกว้างเลยแหละ มีอ่างอาบน้ำในห้องน้ำด้วย ห้องน้ำใหญ่ถูกใจพวกคลั่งไคล้ห้องน้ำแบบเรา 555555 คุมโทนด้วยสีขาวเป็นหลักค่ะ


สระว่ายน้ำขนาดใหญ่จะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องพักและก็ห้องทานอาหาร มีทางเดินปูนเปือยให้เราเดินผ่านแบบไม่เปียกน้ำ แต่ได้รูปถ่ายรูปสวยๆ ด้วยนะ มีที่นั่งริมน้ำชิวๆ น่าอยู่อีกสักคืนจริงๆ เล้ยยย บริเวณของที่พักค่อนข้างกว้างเลยค่ะ ข้างๆ สระว่ายน้ำจะมีเตียงผ้าใบ รวมถึงเมื่อเดินไปตรงหาดก็จะเป็นเตียงผ้าใบนั่งชิวและก็ที่รับประทานอาหาร รวมถึงเราสามารถเล่นเซิฟบอร์ด พายเรือคายัคและมีนวดสปาด้วยน้า



คืนแรกเราทานอาหารเย็น เป็นซีฟู้ด แหม่...มาทะเลทั้งที่จะพลาดได้ไง และการันตีว่าสดมากกกกก แงงง จะร้องไห้แล้ว ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา และปลาหมึกหวานฉ่ำ คือเราอ่ะเคยคลั่งปลาหมึกมากๆ ตอนเรียน เพราะมหาลัยติดทะเลมันจะสดชะมะ แต่พอไปทำงานในกรุงเทพฯ หาที่สดๆ แบบถูกใจยากพอสมควรเลยอ่ะ เลยพักก่อน แต่พอมาลองกินที่นี่ ก็คือดีมากกกกก กลับมากินปลาหมึกได้อย่างชื่นใจอีกครั้ง 55555555  และกิมมิคก็คือพวกค็อกเทล ม็อกเทลและน้ำมะพร้าวค่ะ ได้ดื่มแล้วเย็นสบายไปถึงข้างใน

คืนแรกไม่มีไรมาก พอข้าวเย็นเรียบร้อยเราก็นั่งชิวๆ รับลมทะเลพักนึงและขึ้นห้องไปนอนแช่น้ำ เข้านอน พรุ่งนี้ตื่นไปกินอาหารเช้ากัน

สำหรับอาหารเช้าของที่นี่ ลายบุฟเฟต์หลากหลายดีค่ะ และที่นั่งก็สามารถนั่งได้ทั้งด้านในและด้านนอกเลย พอทานเสร็จก็เลยไปเดินเล่นรับแสงเช้าๆ สักหน่อย ก่อนจะต่อด้วยอาหารกลางวัน เอ่ะ...มาว่ายน้ำหรือมากิน แหม่...มันก็คู่ๆ กันไปเนอะ 55555555



สำหรับอาหารกลางวัน บอกก่อนว่าเรากะจะไม่ขับรถออกไปไหนเลย ยกเว้นวันกลับที่จะไปขับรถชิวๆ ดูวิวนู้นนี่นิดหน่อย นอกนั้นก็คืออยู่แต่ที่พักจริงๆ อยากพักผ่อนค่า ก็เลยสั่งอาหารกลางวันของที่โรงแรมเป็นเซ็ตฝั่งตะวันตกแหละ หน้าตาดี และอร่อย ฮี่ๆ



พอทานข้าวกลางวันเสร็จ รออิ่มรอย่อยก็ได้เวลาไปทำกิจกรรมกัน เรามีพายเรือคายัค และมีนวดสปา มันคือสวรรค์ที่แท้ทรู ตัวสปาของที่นี่มีทั้งแบบ indoor และ outdoor นะคะ แต่ outdoor จะเต็มบ่อยมาก เนื่องจากเห็นวิวทะเลแล้วก็มีลมพัดโกรกตลาดเวลา เราก็เลยเลือกข้างในละกัน เรียกว่าแทบจะไพรเวทเลยแหละ งุงิ ส่วนเรือคายัคหรือเซิฟบอร์ดก็สามารถติดต่อได้ใกล้ๆ ตรงจุดสปาเลยค่ะ มีค่าบริการแตกต่างกันรายชั่วโมง และเหมาตลอดทั้งวัน สำหรับใครที่มุ่งมั่นมาเล่น มานวดแนะนำให้โทรฯ เช็ครอบกับเคาเตอร์ล่วงหน้า เพราะคิวเต็มไวเด้อ



 

พอเล่นเสร็จก็ได้เวลาอาหารเย็น วันนี้เรามาแนวปิ้งย่างจ้าแม่ เป็นบาร์บีคิวและบุฟเฟต์อาหารแบบจุกๆ เดินวนยาวมากกว่าจะครบ เยอะสุดๆ ชิมทุกอย่างเลยละกัน มีดนตรีสดและมีการแสดงไฟ แบบเขาจะปิดไฟให้มืดสนิทและใช้แสงไฟจากที่เขาแสดงเท่านั้น อธิบายไม่ถูกว่าเรียกว่าไร ให้ภาพเล่าเรื่องละกัน



หลังจากนั้นก็แยกย้ายเข้าห้องค่ะ ส่วนเรา 2 คนก็กะว่าตอนเช้าจะตื่นไปถ่ายรูปเล่นอีก สายถ่ายรูปกันอ่ะเนอะก็ถ่ายไม่พักเลยจ้า และพอเที่ยงๆ ก็เช็คเอาท์ออกมาจากที่พัก เราไปเก็บพวกจุดชมวิวและตลาดบางเบ้ามาประปราย แต่ก็ไม่ได้ถ่ายภาพตรงนันมาเท่านั้น เพราะน้องเมารถ T^T  พอบ่ายแก่ๆ เราก็กลับมาขึ้นเรือที่ท่าเรือเดิม ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ จ้าาา



เป็นทริปที่ได้พักผ่อนแบบสุดๆ ไม่ต้องคอยเก็บแลนมาร์คอะไรมาก แค่กิน นอน กิน เล่น นวด พาย กิน นอน วนไป ฉ่ำใจเลยเกิน สำหรับใครที่อยากเที่ยวแบบนี้ลองไปพักเอวาดูได้น้า ไปสัก 3 วัน 2 คืนกำลังดี เล็งๆ ไว้เลย รอไวรัสซาแล้วเที่ยวกันนนน