คือ วันนี้เราทำผิดกฎหมายโดยไม่ได้ตั้งใจมา (แต่ก็ผิด ไม่มีอะไรแก้ตัว) เนื่องจากเรา ไม่เห็นป้าย และบริเวณที่เราจอดไม่มีการทาเส้นใดๆ และเราเห็นมีร้านข้าวมากมาย คิดว่าคงจอดกินข้าวกันได้ปกติ เราจึงแวะกินข้าว ประมาณ 20นาที กลับมาเจอโดนล๊อคล้อ และใบสั่งปรับ
เหตุการณ์ต่อไปนี้ ไม่เกี่ยวกับป้ายแล้ว เป็นการบ่น
สิ่งแรกที่เราทำ หลังเจอเหตุการณ์ คือ เราโทรไป ยังเบอร์ที่ให้ไว้. สรุปโทรไม่ติดจ้า
สิ่งที่สอง มีมอไซ คันนึง ที่ไม่ใช่มอไซ รับจ้าง เสนอตัวจะไปจ่ายค่าปรับให้. ให้ฝากค่าปรับและคิดค่ารถไว้กับเขาได้เลย.-- นี่ไม่เอาจ้า เดี๋ยวโดนมากกว่าค่าปรับ. แต่ทำให้เห็นว่า การล็อคล้อเป็นเรื่องปกติ เพราะพอเรากลับมาที่รถ เราก็เจอคนนี้วนมาถามพอดี สร้างงาน สร้างอาชีพไปอีก
สิ่งที่สาม โทรเข้า 1197 ศูนย์ตำรวจจราจร -- ให้ข้อมูลค่าปรับได้เฉยๆ ถ้าเจอแบบเรา ไม่ต้องโทรไปก็ได้
สิ่งที่สี่ มีคนที่โดนปรับเหมือนกัน จอดเวลาไล่เลี่ยกัน และเห็นตำรวจล็อคล้อ ตอนกินข้าวพอดี แต่ตำรวจก็ยังล็อคอยู่ดี แม้ว่าพี่เค้าพร้อมจะเลื่อนรถเลย
สิ่งที่ห้า การเสียค่าปรับ เป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก เพราะจากจุดที่โดนล็อคล้อ กับจุดที่ไปเสียค่าปรับ ห่างกันมากพอควร ตรงแถวใกล้รพ วิชัยยุทธ ไปยังตรงข้ามหมอชิต2 (ค่อนข้างไกลนะ และเวลาเที่ยงร้อนๆ ด้วย)
เรายังโชคดี ที่มีพี่ที่โดนล็อคล้อ แต่เสียค่าปรับก่อนหน้าเราไปแล้ว ช่วยพาเราไปที่จุดเสียค่าปรับ และมาส่งเรากลับที่รถ ทำให้ทุกอย่างไม่แย่จนเกินไป
สิ่งที่หก พอถึงจุดจ่ายค่าปรับ สิ่งที่สงสัยได้รับการเฉลย หลายๆอย่าง เช่น
เบอร์โทรที่ให้ไว่ เสียพอดี ( แนะนำควรมีหลายๆ เบอร์)
ตอนจะจ่ายเงิน เราไม่มีเงินสดเลย แต่ห้ามโอน เพราะจะมีการร้องเรียนเกิดขึ้นได้ ( แนะนำว่าควรมีหน่วยบัญชีที่เป็นของตำรวจ โดยตรง ให้โอนเข้าได้ ไม่ใช่เป็นชื่อบุคคล )
โชคดีที่พี่คนที่มาส่ง ให้เราโอนเงินให้เขา และให้เงินสดเรามา เราเลยพอมีจ่าย
สิ่งที่หก. รู้สึกfailมากที่ร้านกินข้าว ไม่บอกเลยว่าตรงนี้จอดไม่ได้ เพราะเราเชื่อว่า ถ้าจุดดังกล่าวเป็นจุดต้องห้าม คงไม่มีใครเจตนาฝ่าฝืนกฎหมายแน่นอน
สิ่งที่เจ็ด วันนี้ไม่ใช่วันของเราจริงๆ ไม่เคยคิดเลยว่า การกินข้าวข้างทางวันนี้ จะกลายเป็นมื้อที่แพงที่สุดในการกินข้าวข้างทาง
ป้ายแบบนี้ถือว่าใช้งานได้หรือไม่
เหตุการณ์ต่อไปนี้ ไม่เกี่ยวกับป้ายแล้ว เป็นการบ่น
สิ่งแรกที่เราทำ หลังเจอเหตุการณ์ คือ เราโทรไป ยังเบอร์ที่ให้ไว้. สรุปโทรไม่ติดจ้า
สิ่งที่สอง มีมอไซ คันนึง ที่ไม่ใช่มอไซ รับจ้าง เสนอตัวจะไปจ่ายค่าปรับให้. ให้ฝากค่าปรับและคิดค่ารถไว้กับเขาได้เลย.-- นี่ไม่เอาจ้า เดี๋ยวโดนมากกว่าค่าปรับ. แต่ทำให้เห็นว่า การล็อคล้อเป็นเรื่องปกติ เพราะพอเรากลับมาที่รถ เราก็เจอคนนี้วนมาถามพอดี สร้างงาน สร้างอาชีพไปอีก
สิ่งที่สาม โทรเข้า 1197 ศูนย์ตำรวจจราจร -- ให้ข้อมูลค่าปรับได้เฉยๆ ถ้าเจอแบบเรา ไม่ต้องโทรไปก็ได้
สิ่งที่สี่ มีคนที่โดนปรับเหมือนกัน จอดเวลาไล่เลี่ยกัน และเห็นตำรวจล็อคล้อ ตอนกินข้าวพอดี แต่ตำรวจก็ยังล็อคอยู่ดี แม้ว่าพี่เค้าพร้อมจะเลื่อนรถเลย
สิ่งที่ห้า การเสียค่าปรับ เป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก เพราะจากจุดที่โดนล็อคล้อ กับจุดที่ไปเสียค่าปรับ ห่างกันมากพอควร ตรงแถวใกล้รพ วิชัยยุทธ ไปยังตรงข้ามหมอชิต2 (ค่อนข้างไกลนะ และเวลาเที่ยงร้อนๆ ด้วย)
เรายังโชคดี ที่มีพี่ที่โดนล็อคล้อ แต่เสียค่าปรับก่อนหน้าเราไปแล้ว ช่วยพาเราไปที่จุดเสียค่าปรับ และมาส่งเรากลับที่รถ ทำให้ทุกอย่างไม่แย่จนเกินไป
สิ่งที่หก พอถึงจุดจ่ายค่าปรับ สิ่งที่สงสัยได้รับการเฉลย หลายๆอย่าง เช่น
เบอร์โทรที่ให้ไว่ เสียพอดี ( แนะนำควรมีหลายๆ เบอร์)
ตอนจะจ่ายเงิน เราไม่มีเงินสดเลย แต่ห้ามโอน เพราะจะมีการร้องเรียนเกิดขึ้นได้ ( แนะนำว่าควรมีหน่วยบัญชีที่เป็นของตำรวจ โดยตรง ให้โอนเข้าได้ ไม่ใช่เป็นชื่อบุคคล )
โชคดีที่พี่คนที่มาส่ง ให้เราโอนเงินให้เขา และให้เงินสดเรามา เราเลยพอมีจ่าย
สิ่งที่หก. รู้สึกfailมากที่ร้านกินข้าว ไม่บอกเลยว่าตรงนี้จอดไม่ได้ เพราะเราเชื่อว่า ถ้าจุดดังกล่าวเป็นจุดต้องห้าม คงไม่มีใครเจตนาฝ่าฝืนกฎหมายแน่นอน
สิ่งที่เจ็ด วันนี้ไม่ใช่วันของเราจริงๆ ไม่เคยคิดเลยว่า การกินข้าวข้างทางวันนี้ จะกลายเป็นมื้อที่แพงที่สุดในการกินข้าวข้างทาง