ตามแนวจริยาธรรมของทุกๆศาสนา:
"การกระทำใดๆก็ตามที่ฝ่าฝืน กฏบัญญัติของ ศาสนา ถือว่าเป็น "การทำบาป"
ตัวอยางเช่น...
ศีล 5 เป็น กฏบัญญัติควบคุมความประพฤคิของมนุษยชาตทางจรรยาธรรม
ที่มีคำสั่งห้าม หรือ งดเว้น ที่คล้ายกัน ทั้งสามศาสนา พุทธ คริสต์ และอิสลาม
ในที่นี้ขอนำศีล 5 หลักปฏิบัติสำคัญของชาวพุทธ มาเป็นตัวอย่าง คือ:
ข้อที่ 1 ตั้งใจงดเว้นจากการฆ่าสัตว์
ข้อที่ 2 ตั้งใจงดเว้นจากการลักขโมย
ข้อที่ 3 ตั้งใจงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
ข้อที่ 4 ตั้งใจงดเว้นจากการพูดเท็จ (พูดคำหยาบ คำส่อเสียด เพ้อเจ้อ)
ข้อที่ 5 ตั้งใจงดเว้นจากดื่มสุรา
สำหรับคริสตศาสนานั้น ไม่มีบัญญัติห้ามในการดื่มสุรา แต่มีอยู่หลายบัญญัติในคัมภีร์ไบเบิล "ที่ห้ามการเมา"
คริสต์ศาสนาถือว่า "อาการเมา" มีบาปเท่าๆกับการเคารพรูปปั้น และการผิด
ประเวณี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข้อแตกต่าง:
1. การ ฆ่าชีวิตมนุษย์อย่างมีเหตุผลในการป้องกันตัวเองและป้องกันชุมชน และ การฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหาร
โดยการอนุมัติจากพระเจ้าไม่เป็นบาป
แต่สำหรับศาสนาพุทธ การฆ่าคนและสัตว์ถือว่าเป็นบาป
2.
การเที่ยวโสเภณ็ การโกหก การลักทรัพย์ การดื่มสุรา/การเสพย์สิ่งมึนเมา.
อาการมึนเมา เป็นสิ่งที่เป็น "บาป"
ในทั้งสามศาสนา
A. ส่วนคำว่า "บุญ" สำหรับศาสนาอิสลาม อยู่ในดุลพินิจของพระเจ้า ที่จะทรงรางวัลให้ในปรโลก แก่ผู้ที่มีคุณธรรมและ
จรรยาธรรม และผู้ที่ใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ ตามแนวทางที่พระเจ้าได้ประทานให้ไว้ในอัลกุรอาน
B. สำหรับคริสต์: บุญและบาป อธิบายได้อย่างสั้นๆ จาก Mark 16:16 He that believeth and is baptized shall be
saved;
but he that believeth not shall be
damned.(16 ผู้ใดเชื่อและรับบัพติศมา ผู้นั้นจะรอด แต่ผู้ใดไม่เชื่อจะต้องปรับโทษ)
C. สำหรับพุทธศาสนา อานิสงส์ผลบุญของการรักษาศีล 5 อย่างสมบูรณ์มีอธิบายไว้ดังนี้:
https://www.sanook.com/horoscope/98197/
สรุป: ทั้งสามศาสนา พุทธ, คริสต์, และอิสลาม.
1.ถ้าผู้ใด ประพฤติฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติ ตาม "หลักคุณธรรมและจรรยาธรรมของ หลักธรรมที่บัญญัติไว้ในศาสนาแล้วถือว่าเป็น "บาป" (ทุกข์)
2.ถ้าผู้ใด ประพฤติ และ ปฏิบัติตาม "หลักคุณธรรมและจรรยาธรรมของ หลักธรรมที่บัญญัติไว้ในศาสนาแล้วถือว่าเป็น "บุญ" (สุข)
บุญ และ บาป ในสามศาสนาโดยสังเขป
"การกระทำใดๆก็ตามที่ฝ่าฝืน กฏบัญญัติของ ศาสนา ถือว่าเป็น "การทำบาป"
ตัวอยางเช่น...
ศีล 5 เป็น กฏบัญญัติควบคุมความประพฤคิของมนุษยชาตทางจรรยาธรรม
ที่มีคำสั่งห้าม หรือ งดเว้น ที่คล้ายกัน ทั้งสามศาสนา พุทธ คริสต์ และอิสลาม
ในที่นี้ขอนำศีล 5 หลักปฏิบัติสำคัญของชาวพุทธ มาเป็นตัวอย่าง คือ:
ข้อที่ 1 ตั้งใจงดเว้นจากการฆ่าสัตว์
ข้อที่ 2 ตั้งใจงดเว้นจากการลักขโมย
ข้อที่ 3 ตั้งใจงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
ข้อที่ 4 ตั้งใจงดเว้นจากการพูดเท็จ (พูดคำหยาบ คำส่อเสียด เพ้อเจ้อ)
ข้อที่ 5 ตั้งใจงดเว้นจากดื่มสุรา
สำหรับคริสตศาสนานั้น ไม่มีบัญญัติห้ามในการดื่มสุรา แต่มีอยู่หลายบัญญัติในคัมภีร์ไบเบิล "ที่ห้ามการเมา"
คริสต์ศาสนาถือว่า "อาการเมา" มีบาปเท่าๆกับการเคารพรูปปั้น และการผิด
ประเวณี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข้อแตกต่าง:
1. การ ฆ่าชีวิตมนุษย์อย่างมีเหตุผลในการป้องกันตัวเองและป้องกันชุมชน และ การฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหาร
โดยการอนุมัติจากพระเจ้าไม่เป็นบาป แต่สำหรับศาสนาพุทธ การฆ่าคนและสัตว์ถือว่าเป็นบาป
2. การเที่ยวโสเภณ็ การโกหก การลักทรัพย์ การดื่มสุรา/การเสพย์สิ่งมึนเมา. อาการมึนเมา เป็นสิ่งที่เป็น "บาป" ในทั้งสามศาสนา
A. ส่วนคำว่า "บุญ" สำหรับศาสนาอิสลาม อยู่ในดุลพินิจของพระเจ้า ที่จะทรงรางวัลให้ในปรโลก แก่ผู้ที่มีคุณธรรมและ
จรรยาธรรม และผู้ที่ใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ ตามแนวทางที่พระเจ้าได้ประทานให้ไว้ในอัลกุรอาน
B. สำหรับคริสต์: บุญและบาป อธิบายได้อย่างสั้นๆ จาก Mark 16:16 He that believeth and is baptized shall be saved;
but he that believeth not shall be damned.(16 ผู้ใดเชื่อและรับบัพติศมา ผู้นั้นจะรอด แต่ผู้ใดไม่เชื่อจะต้องปรับโทษ)
C. สำหรับพุทธศาสนา อานิสงส์ผลบุญของการรักษาศีล 5 อย่างสมบูรณ์มีอธิบายไว้ดังนี้:
https://www.sanook.com/horoscope/98197/
สรุป: ทั้งสามศาสนา พุทธ, คริสต์, และอิสลาม.
1.ถ้าผู้ใด ประพฤติฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติ ตาม "หลักคุณธรรมและจรรยาธรรมของ หลักธรรมที่บัญญัติไว้ในศาสนาแล้วถือว่าเป็น "บาป" (ทุกข์)
2.ถ้าผู้ใด ประพฤติ และ ปฏิบัติตาม "หลักคุณธรรมและจรรยาธรรมของ หลักธรรมที่บัญญัติไว้ในศาสนาแล้วถือว่าเป็น "บุญ" (สุข)