การรับมือ-การจัดการ COVID-19 แต่ละที่ และข้อคิดหลายๆอย่างที่ผ่านมา

ไวรัส COVID-19 เป็นเชื้อติดง่ายกระจายเร็ว แต่ก็รักษาหายง่ายเหมือนกัน เรียกว่าติดแล้วอัตราการตายน้อย โอกาสตายน้อย ทีนี้ปัญหามันอยู่ตรงที่มันแพร่เร็วนี่แหละ คนไม่อยากป่วยกัน เศรษฐกิจโลกชะงัก ธุรกิจเจ๊ง วงการบันเทิงวงการกีฬาหยุดชะงักหมด ฉะนั้นมันต้องแก้ปัญหาให้เร็ว

~ บรูไน, มาเลเซีย สั่งปิดประเทศ คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้า

~ แคนาดา, รัสเซีย ปิดประเทศแล้วเช่นกัน

~ ฟิลิปปินส์ ปิดแค่เมืองหลวง งดเข้าออก

~ ฝรั่งเศส, สเปน, อิตาลี ปิดประเทศ

~ ฝรั่งเศส สั่งปิดภัตตาคารและสถานบันเทิง

~ อเมริกาปิดโรงเรียน ขอความร่วมมือผู้คนไม่ออกจากบ้าน ไม่รวมตัวชุมนุมเกิน 10 คน

~ อิหร่านรณรงค์ไม่ให้ผู้คนออกจากบ้าน

~ ประเทศในตะวันออกกลางรณรงค์ลดการรวมตัวในศาสนสถาน

> นอกนั้นหลายๆประเทศยังไม่ได้จัดการอะไรมากนัก ไม่ปิดเมือง ไม่ปิดประเทศ บ้างก็ปิดแค่สถานที่ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ ปิดผับบาร์ หรือเปิดปิดให้สั้นลง และส่วนมากก็ยังไม่ได้ปิดโรงเรียน

ส่วนไทยก็อย่างที่ทราบ ปิดโรงเรียน สถานบันเทิง สถานที่ที่มีการรวมตัวตามนี้




คลิปนี้เป็นสถานการณ์แพนิคในสหรัฐ เล่าจากคนไทยที่นั่น พร้อมข้อคิดและคำแนะนำดีๆ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

พูดถึงเรื่องแพนิคแล้ว เรื่องของความคิดกับการปฏิบัติของสังคมเรามันสวนทางกัน ที่จริงเราต้องทำกลับกันนะ

-> ดูแลป้องกันตัวเองอย่างเข้มงวด แต่ไม่แพนิค
แต่นี่ทำกลับกัน
-> แพนิค แต่กลับละเลยในการป้องกันตัวเอง


พูดถึงเรื่องสื่อแล้วเนี่ย มีผลอย่างมากต่อการสร้างความตื่นตูม แพนิคหรือหลอนเกินจริง

เรามองรอบตัวเราไม่มีใครเจ็บป่วยล้มตาย มันไม่ได้เป็นแพนิคที่เกิดจากการเห็นหรือประสบด้วยตัวเอง แต่เป็นแพนิคที่เกิดจากการได้ยิน คือฟังข่าวอ่านข่าว แล้วก็เกิดมโนภาพ เรียกว่าเป็นการใช้ความรู้สึก

แน่นอนว่าสื่อต้องรายงานทุกวันอยู่แล้ว ข้อนึงคือมันขายข่าวได้ ข้อต่อมาคือมันเป็นสถานการณ์สำคัญที่สื่อต้องอัพเดททุกวัน ฉะนั้นไอ้ตรงนี้มันไม่ผิด มันคือธุรกิจ แต่สื่อควรรายงานให้เกิดบาลานซ์ และให้ผู้คนมีมโนภาพ มีความเข้าใจตามจริง

สื่อมีการรายงานเวลามียอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม อันนี้ถูกแล้ว แต่สื่อจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรายงานยอดผู้รักษาหายด้วย ตรงนี้แหละครับ ที่จะทำให้ผู้คนมีอีโมชั่น มีความรู้สึกและเข้าใจสถานการณ์อย่างถูกต้อง  (จริงๆสถิติมันมีบอกตลอด สื่อต้องรายงาน เพราะมีน้อยคนที่จะเจาะหาข้อมูลเอง)



(คนตุนอาหารและของใช้ ผมไม่ว่านะ คิดอีกมุมก็มองว่ามีประโยชน์ ถ้าคุณตัดสินใจจะลดการออกนอกบ้าน หรือกักตัวเองในบ้าน อันนี้จะเป็นการดูแลตัวเองที่ดีมาก)




ที่ผ่านมาคนไทยและคนชาติอื่นด้วย แปลกอยู่อย่างคือปากอ้างว่ากลัว แต่พฤติกรรมกลับอยู่ไม่ติดบ้าน กินเที่ยวแทบทุกวัน รวมตัวกับเพื่อนฝูง

แล้วถ้าไม่มีคำสั่งออกมา คอนเสิร์ตก็ไม่เลิกจัดกัน จริงมั้ยครับ บ้างก็บ่นหรือรอรัฐบาลช่วย แต่ไม่จัดการหรือดูแลตัวเอง



(ยกภาพมาเป็นตัวอย่างนะว่ามีการแสดงอยู่จริง ไม่ได้ว่า ศิลปินเหล่านี้ผมก็ชอบ)




พอทำจริงๆขึ้นมาเราต้องรู้นะทีนี้ สถานบันเทิงที่กินที่เที่ยวเสียรายได้นะ นักร้องนักดนตรีทั้งหลาย คุณไม่มีงานทำยาวๆนะช่วงนี้ คอหนัง คนดูหนัง YouTuber ต่างๆ งานคุณจะลดลงนะ

คนกินเที่ยวก็เหมือนกัน นั่งร้านอาหาร จิบเหล้าเข้าผับที่นั่นที่นี่ ถ้ามีใครติดเชื้อขึ้นมา คุณจะหาแพะมาโทษไม่ได้นะ

รายการบันเทิงที่มีคนดู มีผู้ชมเยอะๆ ที่ต้องพาคนไปกรี๊ดไปปรบมือ ต่อไปนี้ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ งดพาคนไปรวมตัวกันนะ

พวกสถาบันสอนพิเศษเด็กๆ คอร์สเรียนคอร์สอบรมอะไรต่างๆ คุณต้องพักธุรกิจตัวเองก่อนนะ

เห็นมั้ยครับ บางอย่างมันไม่ต้องมาคอยหาแพะรับผิด หรือครวญหาให้คนมารับผิดชอบ บางเรื่องเราต้องมีความรับผิดชอบด้วยตัวเอง

ที่จริงผู้ปกครองควรจะดร็อป เบรคการเรียนของลูกด้วยตัวเองนานแล้ว ไม่ต้องรอให้รัฐสั่ง นโนบายรัฐออกมาช้ามาก แต่เอาหละมีออกมามันก็ดีแล้ว


ผมไม่ได้เหมารวมนะ แจงแบบแยกๆประเภท บางประเภทก็แค่ขี้บ่น แต่ไม่ได้กลัวจริง คือชอบปั่น ชอบบ่นสังคม บ่นรัฐบาล บ่นชีวิต ปั่นเรตติ้งโซเชียลเฉยๆ

อย่างหน้ากากอนามัย บางคนก็ไม่เคยจะซื้อ ไม่ได้หา ไม่ได้จะใช้หน้ากากอนามัย ก็บ่นว่าหาซื้อไม่ได้ (แค่หลอนตามๆกัน ไม่ได้ตั้งใจจะใช้จริง)

แล้วเป็นเรื่องแปลกที่คนเราสามารถกินข้าวได้วันละหลายร้อย กินบุฟเฟ่ต์ 299 ได้ กินชาบู 399 ได้ แต่ผ้าปิดจมูกกับแอลกอฮอล์ล้างมือ สิ่งที่จะช่วยรักษาชีวิตกลับบ่นว่าแพง แล้วโอดครวญรอการช่วยเหลือ

เราลองดูเกาหลีใต้ คนที่นั่นมีประสบการณ์เคยผ่านโรคระบาดมาแล้ว เรื่องวินัยการดูแลตัวเองเขามี มีผ้าปิดจมูกแฟชั่นออกมาขาย หน้ากากอนามัยมีเอกชนผลิตมาขาย ไม่ต้องมารอของถูกหรือของฟรีของรัฐ  (แล้วยิ่งมีคอรัปชั่นนี่กลายเป็นปัญหาไปอีก อั้นนั้นให้เขารับโทษทางกฎหมายไป)

-> ตรงนี้รัฐบาลควรส่งเสริมหรือปล่อยเอกชนเขานำเข้าหรือผลิตขายกัน รัฐมีหน้าที่เพียงตรวจสอบคุณภาพ เช่นเจลล้างมือ มันก็ต้องผ่าน อย./สคบ.อยู่แล้ว

ตอนนี้เกาหลีใต้กราฟลง จีนกราฟลง พ้นช่วงวิกฤติละ แล้วมีข่าวดีว่าจีนอาจผลิตแอนตี้ไวรัสได้ก่อนสหรัฐซะอีก ไม่รู้จะสำเร็จสมราคาคุยมั้ย แต่ที่แน่ๆการจัดการและคุมการระบาดเขาถือว่าทำได้สำเร็จ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่