พรุ่งนี้ กำพระรอด...ตอนเปิดตลาดฮะ...

คิดมานานวีคสองวีค ว่าจะเอายังไง ท้ายสุด วันนี้ผมขายตัวสุดท้ายหมด แล้วจบกันฮะ แล้วเอาเงินออกจากพอร์ต นั่งคิดนอนคิดว่า ตัวเลขลอยๆ ในอากาศ unrealized ไม่ได้ช่วยอะไร กำเงินสดจริงๆดีกว่า ยังไงโชคดีมีชัยฮ

เงินจะไหลเข้าตลาดอีกมาก ยิ่งผมประชุมสองทีี่มา เงินลงทุนจ้อง TFIFF กันตาเขม็ง เงินคงโยกจากตราสารหนี้ที่เจอภาษีมาเยอะแน่ๆ ไหนจะ BGC OSP เข้าตลาดอีก สนุกสนานแน่ฮะ ปล. ผมสายมองโลกสวย มองนิวไฮอีก ไหนเ

ตลาดน่าจะเหวี่ยงดีกว่าเมื่อวาน เพื่อนักลงทุนมีกำไรไว้กิน ไว้เที่ยวพรุ่งนี้ ปล.อย่าลืมคาดเข็มขัดตอนนั่งรถทุกคนนะฮะ วันนี้เจอด่านแต่เช้า แต่ไม่ได้กินผมหนอก สถิติไม่เคยโดนจับปรับสิบปี ไม่ยอมถูกทำลายง่าย

เวลาพูดถึงการลงทุนระยะยาว หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า DCA (Dollar-Cost Averaging) และอาจได้ยินคำใหม่อย่าง VA (Value Averaging) ด้วย แต่ทั้งสองแบบต่างกันยังไง? และแบบไหนเหมาะกับสไตล์การลงทุนของคุณมากกว่ากัน

เข้าก่อน กองทุนพาขึ้น ถือกินกำไรเป็นกอบเป็นกำ ก็คิดว่าตัวเองเก่งละ  แต่พอตลาดลงเท่านั้นหล่ะ ไม่ยอมคัทจุดที่ถึงแนวที่คิดรอบนี้ทั้ง PTT SCCC CRC  ก็กระอัก -17% ไปแล้ว ตอน 2016 ตลาดลง correct

อย่างที่ได้เรียนว่า กำเงินสด ย้ายโบรก....พอถึงเป้าทางการเงินแล้ว ความกลัวว่าสิ่งที่หามาได้จะหายไปยิ่งเยอะขึ้น ระวังมากขึ้น ข้อเตือนใจของผมคือ 12-13 มีค ที่ผ่านมา ถ้าผมคิดคัทพอร์ท แวบเดียว เงินผมหายไป

ตลาดนัดเจ้าใหญ่คนเดินเยอะแต่ไม่มีกำลังซื้อ ร้านค้าออนไลน์ก็อยู่ยากถ้าไม่เจ๋งจริง ที่เห็นลงทุนน้อยแล้วอยู่รอดก็พวกของกินอยู่รอดทุกสภาพแวดล้อม ยุคนี้ทำอะไรรุ่งฮะ มาวิเคราะห์เล่นๆกัน :)