คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
พี่พอฝึกปฏิบัติธรรมได้บ้างไหมครับอ่านดู ดูแล้วผมว่าพอไหวนะ บางคนมีกรรมเป็นมากๆเช่นผู้พิการทางสมองบางประเภทเขาจะปฏิบัติไม่ได้เลยนะ แรกเริ่มไม่ต้องเอามาก ลองบอกให้พี่นึก พุทโธๆๆ ดู เอาแค่ 1 นาทีก่อนก็ได้ แต่ให้ทำบ่อยๆ ถ้ารู้สึกว่าดีก็เพิ่มเวลามากขึ้น นึกตอนไหนก็ได้ และก่อนนอนก็ให้ฝึกนั่งสมาธิ นั่งสมาธิก็ไม่ยาก ก็แค่นั่งให้สบายนะครับ หลับตาลง (ถ้าหลับตาแล้วง่วงฟุ้งซ่านมากก็ลืมตาก็ได้) แล้วก็นึกพุทโธๆเหมือนที่ทำมาทั้งวันน่ะแหละ อย่าไปนึกอย่างอื่น เดี๋ยวถ้าทำได้พอจิตสงบก็จะสบายเอง เผลอๆหายจาคโรคทางประสาทด้วย เพราะก็ถ้ามีสติ รู้ตัวอยู่ ก็จะไม่ทำร้ายตนเองใช่ไหมล่ะครับ ที่ให้มาปฏิบัติคือให้มาฝึกสตินั่นเอง
เพราะถ้าจิตเรานึกคำภาวนาอยู่เสมอๆเวลาเราไปนึกอย่างอื่นเราจะรู้ทันทีเลยนะครับ อย่างเรานึกพุทโธๆๆ อยู่ซักพักเผลอไป แวบไป ไปนึกอยากทำร้ายตัวเองอีกแล้ว นี่ตอนนี้เรารู้ตัวแล้วเพราะว่าเราคอยดูพุทโธอยู่และมันหลุดจากพุทโธไป ต่างจากเมื่อก่อนที่ไม่รู้ตัวพอนึกปุ๊บก็ทำตามความคิดเลยแต่ตอนนี้เรามาภาวนาเมื่อแวบไปคิดไม่ดีปุ๊บแล้วทำอย่างไร ก็ไม่ยากเลยปล่อยไปเลย แล้วมานึกพุทโธๆๆต่อ อย่าไปปรุงแต่งความคิดที่ไม่ดีเพิ่ม เมื่อรู้ตัวแล้วให้หยุดความคิดแย่ๆทันทีเลยหยุดเร็วเท่าไรยิ่งดี แล้วก็มาบริกรรมภาวนาต่อ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนชิน ต่อไปจะเก่ง ในวันทั้งวันจิตใจจะสบายไปทั้งวัน เพราะเราเหมือนมียามคือสติ โจรมาเราก็รู้ เราก็ไม่ให้มันเข้า เราก็ให้แต่สิ่งดีๆเข้ามาในใจแทน ไม่ดีก็ไม่ให้เข้า
แต่ต้องคอยดูถ้าเครียดต้องหยุด โรคพวกนี้เวลานั่งสมาธิ ฝึกสมาธิ ฝึกสติ ต้องคอยดูความเครียดให้ดี เพราะผู้ป่วยโรคจิตประสาทถ้าเครียดมันจะยิ่งแย่ การฝึกสติ ฝึกสมาธิ ถ้ายังไม่ชำนาญ ยังทำไม่เป็น อาจทำให้เครียดได้บ้างในช่วงเริ่มต้นเพราะบางทีไปกดไปตั้งใจอยากสงบมากเกินไปจนอึดอัด แต่ถ้าทำจนเก่งแล้วจะแก้ความเครียดได้ดีมาก พอหลังนั่งสมาธิเสร็จก็อย่าลืมอุทิศส่วนบุญกุศลด้วย จะบอกว่าการปฏิบัติเนี่ยเป็นบุญอันยิ่งเลยนะครับ ได้บุญมากทีเดียว ไม่ต้องลงทุนอะไรมากด้วย แค่ลงใจเท่านั้นเอง จิตสงบแม้เพียงนิดเดียวก็ได้บุญมากๆๆๆแล้ว
เรื่องผีเผอ ปล่อยมันไป มันจะอยู่ก็ให้มันอยู่ไปมันจะไปก็ให้มันไป มันจะมีจริงหรือไม่มีก็ตามก็เป็นเรื่องของมันครับ อย่าให้ตรงนี้มามีอิทธิพลกับเรา ขอแค่เรามีสติอะไรก็ทำอะไรใจเราไม่ได้ พี่คุณน่ะ สตินี้เอง ขอแค่มีสติก็หายแล้ว ดังนั้นฝึกสติซะ
ปล คำบริกรรม เอาคำอื่นก็ได้นะครับ แต่เอาที่มันเป็นกุศล จะบาลีหรือภาษาไทยก็ได้หมด ให้หาเอาที่ชอบ เปิดหนังสือสวดมนต์หาดูก็ได้ ฟุ้งมากก็เอายาวๆหน่อยจิตจะได้จดจ่ออยู่กับการนึกได้ง่ายขึ้น (แต่อย่ายาวมากเดี๋ยวมันจะเครียด) พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ก็ได้
ปล 2 ให้หาหมอควบคู่กับการปฏิบัติธรรมไปด้วยนะครับ ไม่เอาหมอไสยศาสตร์นะครับ โรคบางอย่างเกิดขึ้นเพราะร่างกายผิดปกติก็มีเพราะจิตกับกายของปถุชนมันยึดกันและกันอยู่เมื่อร่างกายผิดปกติ จิตใจก็แย่ไปด้วย ก็ต้องรักษาร่างกายไปด้วย จะทำให้ปฏิบัติธรรมได้ง่ายขึ้น
เพราะถ้าจิตเรานึกคำภาวนาอยู่เสมอๆเวลาเราไปนึกอย่างอื่นเราจะรู้ทันทีเลยนะครับ อย่างเรานึกพุทโธๆๆ อยู่ซักพักเผลอไป แวบไป ไปนึกอยากทำร้ายตัวเองอีกแล้ว นี่ตอนนี้เรารู้ตัวแล้วเพราะว่าเราคอยดูพุทโธอยู่และมันหลุดจากพุทโธไป ต่างจากเมื่อก่อนที่ไม่รู้ตัวพอนึกปุ๊บก็ทำตามความคิดเลยแต่ตอนนี้เรามาภาวนาเมื่อแวบไปคิดไม่ดีปุ๊บแล้วทำอย่างไร ก็ไม่ยากเลยปล่อยไปเลย แล้วมานึกพุทโธๆๆต่อ อย่าไปปรุงแต่งความคิดที่ไม่ดีเพิ่ม เมื่อรู้ตัวแล้วให้หยุดความคิดแย่ๆทันทีเลยหยุดเร็วเท่าไรยิ่งดี แล้วก็มาบริกรรมภาวนาต่อ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนชิน ต่อไปจะเก่ง ในวันทั้งวันจิตใจจะสบายไปทั้งวัน เพราะเราเหมือนมียามคือสติ โจรมาเราก็รู้ เราก็ไม่ให้มันเข้า เราก็ให้แต่สิ่งดีๆเข้ามาในใจแทน ไม่ดีก็ไม่ให้เข้า
แต่ต้องคอยดูถ้าเครียดต้องหยุด โรคพวกนี้เวลานั่งสมาธิ ฝึกสมาธิ ฝึกสติ ต้องคอยดูความเครียดให้ดี เพราะผู้ป่วยโรคจิตประสาทถ้าเครียดมันจะยิ่งแย่ การฝึกสติ ฝึกสมาธิ ถ้ายังไม่ชำนาญ ยังทำไม่เป็น อาจทำให้เครียดได้บ้างในช่วงเริ่มต้นเพราะบางทีไปกดไปตั้งใจอยากสงบมากเกินไปจนอึดอัด แต่ถ้าทำจนเก่งแล้วจะแก้ความเครียดได้ดีมาก พอหลังนั่งสมาธิเสร็จก็อย่าลืมอุทิศส่วนบุญกุศลด้วย จะบอกว่าการปฏิบัติเนี่ยเป็นบุญอันยิ่งเลยนะครับ ได้บุญมากทีเดียว ไม่ต้องลงทุนอะไรมากด้วย แค่ลงใจเท่านั้นเอง จิตสงบแม้เพียงนิดเดียวก็ได้บุญมากๆๆๆแล้ว
เรื่องผีเผอ ปล่อยมันไป มันจะอยู่ก็ให้มันอยู่ไปมันจะไปก็ให้มันไป มันจะมีจริงหรือไม่มีก็ตามก็เป็นเรื่องของมันครับ อย่าให้ตรงนี้มามีอิทธิพลกับเรา ขอแค่เรามีสติอะไรก็ทำอะไรใจเราไม่ได้ พี่คุณน่ะ สตินี้เอง ขอแค่มีสติก็หายแล้ว ดังนั้นฝึกสติซะ
ปล คำบริกรรม เอาคำอื่นก็ได้นะครับ แต่เอาที่มันเป็นกุศล จะบาลีหรือภาษาไทยก็ได้หมด ให้หาเอาที่ชอบ เปิดหนังสือสวดมนต์หาดูก็ได้ ฟุ้งมากก็เอายาวๆหน่อยจิตจะได้จดจ่ออยู่กับการนึกได้ง่ายขึ้น (แต่อย่ายาวมากเดี๋ยวมันจะเครียด) พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ก็ได้
ปล 2 ให้หาหมอควบคู่กับการปฏิบัติธรรมไปด้วยนะครับ ไม่เอาหมอไสยศาสตร์นะครับ โรคบางอย่างเกิดขึ้นเพราะร่างกายผิดปกติก็มีเพราะจิตกับกายของปถุชนมันยึดกันและกันอยู่เมื่อร่างกายผิดปกติ จิตใจก็แย่ไปด้วย ก็ต้องรักษาร่างกายไปด้วย จะทำให้ปฏิบัติธรรมได้ง่ายขึ้น
แสดงความคิดเห็น
มีคนทักว่าพี่สาวมีผีตาม มีวิธีแก้ไขมั้ยคะ โมโหมากๆ
เข้าเรื่องเลยวันนี้แม่เราถูกชวนให้ไปในโบสถ์ซึ่งแกไม่ค่อยปลื้มพิธีเท่าไหร่ เพราะทำให้แม่เราอึดอัด พี่สาวก็อึดอัดจนทำร้ายตัวเองแต่แม่เชื่ออย่างนึ่ง เพราะมีใครสักคนในโบสถ์เราไม่แน่ใจว่าเรียกอะไร แต่น่าจะสอนในโบสถ์มาบอกแม่เราว่ามีคนตามพี่เรา 3-4 คนประมาณว่ามาอยู่ในร่าง ทำให้ตอนนี้พี่เราไม่เป็นตัวเอง และเหนื่อยมากๆ ตอนแม่บอกแบบนี้เราที่ชอบรำคาญพี่ใจเหลวเลยค่ะ สงสารมากๆ ซึ่งแม่ที่เกือบจะไม่เชื่อก็เชื่อเลย เพราะพิธีของพุทธก็เคยบอกแม่แบบนี้ เราเลยถามแม่ว่ารู้ได้ไงแม่ก็เล่าคร่าวๆว่าเคยทำแท้ง กับหลายเหตุการณ์ที่พี่เราแสดงออกตอนเด็กว่าเค้าตามมา เราที่ได้ยินเราโกรธมากๆ จนถึงขั้นด่าผีที่ตามออกมา เราเชื่อเรื่องผีนะคะ กลัวด้วย แต่เราไม่โอเคมากๆที่จะมาตามแบบนี้แล้วทำให้คนอื่นเหนื่อยและลำบาก มันน่าโมโหมากๆ ทำไมต้องทำแบบนั้น เราเลือกส้นทางหลังความตายที่ดีกว่านั้นไม่ได้เหรอ หรือผีมีซิกเนเจอร์คือหนึ่งคนหนึ่งบ่วงความแค้น ตายแล้วต้องแก้ ไม่แก้ไม่เกิด ทำไมในเมื่อเข้ามาแฝงร่างได้แล้วถึงเข้าฝันมาบอกแม่เราไม่ได้ว่าต้องการอะไรจากแม่และพี่ เราด่าอยู่นานมากๆ พูดคนเดียวเหมือนบ้า แต่เราโมโหจริงๆ เลยอยากทราบวิธีทำยังไงก็ได้ที่ทำให้เบาลงพี่เราไม่ต้องเหนื่อย หรือเป็นไปได้ก็อยากให้ช่วยแนะนำโรงบาลแถบภาคเหนือที่หมอทางประสาทเก่งๆ เราอยากสองวิธีนี้ทางวิทยาศาสตร์และศาสนาควบคู่กันไปด้วย เผื่อหลายๆอย่างอาจจะดีขึ้น ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ