สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนาของเรือ Grand Princess ประเทศอเมริกา

จากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาบนเรือสำราญ Grand Princess ของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เป็นอีกต้นเหตุหนึ่ง ที่ทำให้การแพร่กระจากของเชื้อไวรัสในรัฐแคริฟลอเนีย และรัฐวอชิงตัน รวมถึงพื้นที่ต่างๆตามชายฝั่งตะวันตกของประเทศอเมริกา เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ขอสรุปเหตุการณ์จากบทความเรื่อง

Grand Princess Cruise Ship :  
A 15-night vacation to Hawaii, the trip of a lifetime, came to an end with a global pandemic and a detour into quarantine
ของ Mario Koran ร่วมด้วย Erin McCormick และ Vivian Ho contributed รายงานจาก The Gardian.Com
ในวันที่ 14 มีนาคม 2020 



-ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ชายวัย 75 ปี จากเมือง Placer รัฐ California ลงจากเรือ Grand Princess Cruise หลังจากที่เดินทางท่องเที่ยวกับเรือลำนี้ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 3,500 คน และต่อมาในวันที่ 4 มีนาคม ชายผู้นี้ได้เสียชีวิตลง ที่โรงพยาบาล ในเมืองซานฟรานซิสโก และหมอยืนยันว่า เขาเสียชีวิตเพราะติดเชื้อไวรัสโคโรนา ซึงชายผู้นี้ เป็นคนไข้รายแรก และเสียชีวิตด้วยเชื้อไวรัสโคโรนา ในรัฐแคลิฟอร์เนีย 

-ทางบริษัท Princess Cruises บริษัทแม่ของ The Dimond Princess ที่ก่อนหน้านี้ ได้พบปัญหาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา บนเรือมากกว่า 700 คน และถูกกันไว้ในทะเลที่น่านน้ำญี่ปุ่น  และ เรือ Grand Princess ที่กำลังประสบปัญหาเดียวกับเรือในบริษัทเดียวกัน ทางบริษัทแม่ออกมากล่าวว่า ชายวัย 75 ปี ที่เสียชีวิตนั้น ก่อนหน้าที่จะลงเรือลำนี้ไปเขาได้เดินทางไปกับเรือลำนี้ ไปท่องเที่ยวในเส้นทางไปกลับประเทศแม็กซิโก คาดว่าน่าจะไปติดเชื้อในช่วงระยะเวลานั้น เพราะเขามีอาการคล้ายคนเป็นไข้ ตลอดเวลาที่อยู่บนเรือ 

-ทางสาธารณสุขของรัฐแคลิฟอร์เนีย ออกมาแถลงข่าวว่า ความจริงแล้ว ชายวัย 75 ปีนี้ อาจจะติดเชื้อไวรัส ก่อนหน้าที่จะขึ้นเรือลำนี้ไปเที่ยวที่แม็กซิโกเสียอีก และยังยืนยันว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ในเขตพื้นที่ริมชายฝั่งของซานฟรานซิสโก น่าจะมีมานานแล้ว แต่ยังไม่มีใครออกอาการ ซึ่งในการตรวจสอบประวัติของผู้โดยสารของเรือลำนี้ พบว่า มีผู้โดยสารที่เป็นญาติของคนไข้ ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่อยู่ที่รัฐวอชิงตัน ซึ่งผู้ป่วยรายแรกของอเมริกา จากไวรัสโคโรนานั้นอยู่ที่รัฐวอชิงตัน และได้เดินทางไปยังหวูฮั่น ประเทศจีน ซึ่งการติดเชื้อของผู้โดยสารบนเรือ อาจจะมาจากคนที่ติดเชื้อจากรัฐวอชิงตัน เดินทางมาที่รัฐแคลิฟอร์เนีย และเอามาติดผู้โดยสารของเรือลำนี้ก่อนที่จะขึ้นเรือเสียอีก     



-แต่สิ่งที่แน่ใจได้ก็คือ ผู้โดยสาร 60 คน ที่เดินทางไปเที่ยวประเทศแม็กซิโก พร้อมกับ ชายวัย 75 ปี จากเมือง Placer ที่ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาในวันที่ 4 มีนาคมนั้น ไม่ได้ลงจากเรือลำนี้ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ แต่ได้เดินทางต่อ เพื่อที่จะมุ่งหน้าไปยังรัฐฮาวาย ร่วมกับผู้โดยสารและลูกเรือรวม 3,500 คน บนเรือลำนี้ 

-ในเช้าวันที่ 4 มีนาคม เมื่อทางเรือ Grand Princess ได้รับข่าวการเสียชีวิตของผู้โดยสารที่เพิ่งลงจากเรือ เสียชีวิตลง ทางเรือได้ทำการขอให้ผู้โดยสารทั้ง 60 คน ที่ก่อนหน้านี้เดินทางไปยังประเทศแม็กซิโก เข้ารับการตรวจหาอาการขั้นต้น ของผู้ป่วยไวรัสโคโรนาทันที แต่หลังจากตรวจแล้วเมื่อไม่พบว่ามีอาการใดๆ ก็ปล่อยให้แขกทั้ง 60 คน สามารถออกไปใช้สระว่ายน้ำ และทำกิจกรรมอื่นๆได้ตามปกติ ร่วมกับผู้โดยสารอื่นๆ หากแต่ทางเรือระงับกิจกรรมหมู่ ที่มีการรวมตัวของคนหมู่มาก อย่างเช่น งดการแสดงโชว์ต่างๆ แต่ยังไม่มีสื่อสารบอกแขกผู้โดยสารถึงเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด  


  
- ในช่วงบ่ายของวันที่ 4 มีนาคม นาย Gavin Newsom ซึ่งเป็น California’s governor ได้ออกแถลงการภาวะฉุกเฉินเนื่องจากการะระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา และสั่งการให้เรือ Grand Princess กลับลำมุ่งหน้ากลับทันที ซึ่งเรือลำดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเทียบท่า เมื่อกลับมาถึงน่านน้ำของเมืองซานฟรานซิสโก เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัส ทาง US coast guard ได้ใช้วิธีหย่อนอุปกรณ์ และเครื่องมือการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา จากเฮลิคอร์ปเตอร์ ลงสู่ชั้นดาดฟ้า ที่เป็นสระน้ำของเรือลำนี้ ผลการตรวจจาก 45 ราย ลูกเรือ 19 คน และ แขกผู้โดยสาร 2 คน มีผลเป็นบวก และแขกผู้โดยสารประมาณ 100 คน เริ่มมีอาการเริ่มแรกของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา   



- Dr Amesh Adalja จาก Johns Hopkins Center for Health Security เปิดเผยว่าการแยกกักกันผู้ป่วยเพื่อดูอาการ หรือ quarantine ระหว่าง คนที่ติดเชื้อและแสดงอาการแล้ว, คนที่ติดเชื้อแต่ยังไม่แสดงอาการ, และคนที่ไม่ได้ติดเชื้อ ในเรือลำเดียวกันนั้น เป็นการกระทำที่ไม่ได้ผล ซึ่งเห็นได้จากผลการกักกันผู้โดยสารและลูกเรือ จากเรือ Diamond Princess ที่มีแต่จะทำให้ ยอดของผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น หากแต่ในขณะนั้น ประธานาธิบดี ของสหรัฐ นาย Donald Trump ยังไม่อนุญาตให้เรือกลับเข้าฝั่ง เพราะไม่อยากให้คนในประเทศติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการแพร่กระจายจากคนที่ติดเชื้อจากเรือลำนี้  
 
-ในที่สุด ในวันที่ 9 มีนาคม เรือ Grand Princess ได้รับอนุญาตให้เทียบท่า แต่เปลี่ยนท่าเรือจากท่าซานฟรานซิสโก เป็น โอคแลนด์ เนื่องจาก ท่าเรือที่ซานฟรานซิสโก มีคนพลุกพล่านมากกว่าที่ โอคแลนด์ หลังที่เรือเทียบท่า แขกผู้โดยสารและลูกเรือที่ติดเชื้อไวรัสและต้องการ การรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน ถูกลำเลียง และนำตัวออกจากเรือก่อน และนำขึ้นรถบัสใหญ่ มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่เตรียมไว้ทันที ส่วนแขกผู้โดยสารที่ยังไม่มีอาการ ถูกนำตัวไปดูอาการที่โรงแรม และค่ายทหารเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งการทยอยคัดแยกผู้ป่วย และทยอยนำส่ง โรงพยาบาล โรงแรม และค่ายทหาร จะต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 3 วันถึงจะแล้วเสร็จ

 
 
- ในวันที่ 13 มีนาคม 5 วันจากที่เรือลำนี้ได้เทียบท่า นักท่องเที่ยวต่างชาติ 14 คน ยังคงอยู่บนเรือ ทางฝ่ายอเมริกาทำการติดต่าไปยังประเทศของเขา เพื่อที่รอให้ประเทศของเขานำตัวกลับไป ซึ่งคาดว่าพวกเขาอาจจะได้กลับไปยังประเทศของเขาในวันเสาร์และอาทิตย์นี้ ส่วนลูกเรือกว่าพันชีวิต ยังคงถูกกักตัวอยู่บนเรือ ซึ่งลูกเรือส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ตามปกติจะไม่ได้รับอนุญาตให้ไปออกนอกท่าเรืออยู่แล้ว ดังนั้นจึงต้องรอเวลาเพื่อที่ทางการจะหาท่าเรื่อที่เหมาะสม ให้เขาได้ขึ้นฝั่ง ในเวลาต่อไป 




เครดิตรูปภาพ และ บทความเรื่อง Grand Prince Cruise Ship :  
A 15-night vacation to Hawaii, the trip of a lifetime, came to an end with a global pandemic and a detour into quarantine
โดย Mario Koran ร่วมด้วย Erin McCormick และ Vivian Ho contributed จาก The Gardian.Com ในวันที่ 14 มีนาคม 2020 

https://www.theguardian.com/world/2020/mar/13/from-paradise-to-coronavirus-the-grand-princess-and-the-cruise-from-hell
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่