ตั้งแต่ทำงานมาสิบกว่าปี ทำงานมาก็หลายแห่งหลายที่ ไม่เคยมีปัญหากับผจก.หรือหัวหน้างานเลย หัวหน้างานส่วนใหญ่ที่เจอมามักจะแสดงความโดดเด่นออกมาเหนือลูกน้อง มีความเป็นมืออาชีพมาก และไม่เคยสวมหัวโขนหรือ มานั่งรักษาภาพลักษณ์ตลอดเวลา สรุปก็คือหัวหน้าที่เราเจอ น่ารัก นิสัยดีทุกคน
จนกระทั่ง....เราได้ลาออกจากงานประจำมาทำงานกับญาติ พี่เค้าเปิดสำนักงานบัญชีเป็นของตัวเองมาเกือบสิบปีแล้วแต่
ไม่ได้ทำเต็มเม็ดเต็มหน่วยเนื่องจากมีงานประจำด้วย ตอนนี้เขาก็อายุมากขึ้นก็เลยมองหารายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน เขาจึงขอร้องเราให้ออกจากงานมา
ทำสำนักงานด้วยกัน ส่วนตัวเขานั้นยังอยากจะทำงานจนกว่าจะเกษียนด้วยตำแหน่งที่สูง เงินเดือนแพง ตอนแรกก็สองจิตสองใจกลัวว่าจะไปไม่รอด
กลัวโน่นนั่นนี่สารพัด แต่สุดท้ายก็ยอมลาออกมาช่วยพี่เขา ด้วยความที่เราเป็นญาติกัน
.......
แต่ในความเป็นญาติกึ่งเจ้านาย มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ปีแรกที่ทำงานกับเขาเราเริ่มจะเข้าใจเลยว่า ทำไมเพื่อนๆเขาถึงไม่อยากจะลงขัน ลงทุนเปิด
สำนักงานบัญชีร่วมกับเขา ทำไมถึงหันไปเปิดหรือทำกันเอง แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องที่เคยทำงานร่วมกับพี่เขายังเตือนเลยว่าเราคิดผิด ที่ลาออกจากงาน
แน่ะ มาโยนระเบิดตูมให้เราคิดมากอีก แต่เราก็พยายามมองในแง่บวกนะ
........
ปีที่สองพี่เขาได้ลาออกจากงานประจำมาลุยสำนักงานบัญชีของตัวเอง แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ลาออกจากงานประจำทั้งๆที่รายได้ในส่วนสำนักงาน
เดือนนึงไม่ถึงห้าหมื่น ถ้าหักค่าเช่า เงินเดือนเรา แล้วเขาจะเอาที่ไหนกิน บ้าน และรถก็ต้องผ่อน ไหนจะมีหนี้สินอีก
ทีนี้ความเครียดก็ตกลงมาอยู่ที่เราแทน.... "แล้วตูจะรอดไหม...หรือตูต้องกลับไปทำงานประจำเหมือนเดิม" งานเข้าล่ะสิ ช่วงนั้นงานหายากบวก
กับอายุที่เยอะขึ้น แล้วเงินเดือนก็คงไม่ได้เรทเดิมที่เคยทำ
และหวยมาออกตรงที่ "โบนัส" ยังไม่มีให้ เงินไม่พอขอผลัดผ่อนเลื่อนไปก่อน แต่ว่าเขาดันมีเงินซื้อโทรศัพท์แพงๆใช้ถึงสองเครื่อง
เราก็เข้าใจแหละ ....พยายามนะ พยายามเข้าใจ
ปีที่สาม.....
แต่ยิ่งทำงานไปยิ่งดูเหมือนไม่มีอะไรดีขึ้นมา แถมงานที่มอบหมายให้เยอะกว่าเดิมอีก ในขณะที่ตัวเองก็อ้างว่ามีงานเยอะ
เยอะแต่ไม่เคยเสร็จซักอย่าง บางทีของเราเสร็จแล้ว ต้องมาช่วยเขาอีก ที่มากไปกว่านั้นคือชอบทำงานแบบไฟลนก้น
ถ้าไม่รีบจะไม่ทำ ไม่มีหรอกที่จะเคลียร์วันต่อวัน หรืองานเสร็จก่อนกำหนด ไม่มี๊.....ทำงานกับเค้ามาสามปี นิสัยเดิมไม่เคยเปลี่ยน
จัดลำดับความสำคัญของงานไม่เป็น บริหารงานไม่เป็น หยิบโหย่งและทำงาน ตามสไตล์ใจชอบ พร้อมจะพลิกลิ้นได้ตลอดเวลา
วันนี้สั่งอีกอย่าง เดือนต่อมาเปลี่ยนเป็นอีกอย่าง เอาแต่ความสะดวกและถนัดของตัวเอง และมักจะโยนปัญหามาให้เราแก้เสมอ
โดยเฉพาะปัญหาเฉพาะหน้า เวลาลูกค้าด่า หรือคอมเพลนเรามักจะโดนก่อนเป็นด่านแรก
ในส่วนงาน ถ้าเราไม่อยู่เขาซึ่งเป็นหัวหน้า ....เวลาลูกค้าถามมาเขามักจะรอเรามาจัดการให้เสมอ ไม่ทางที่จะทำเอง หรือลงมือตอบสนองความต้องการ
ของลูกค้าได้ในขณะนั้น บางทีเราก็คิดนะว่า คุณมีศักยภาพในการเป็นเจ้านายคนพอแล้วหรือ
........แล้วที่ผ่านมาคุณก้าวไปเป็นหัวหน้าคนได้ยังไง......
ตั้งแต่เกิดมาเจอหัวหน้างานที่ไม่ใช่ญาตินะ แต่บอกเลยดียิ่งกว่าญาติเสียอีก
ตอนนี้ทำงานกับพี่เขามาเกือบจะสี่ปีแล้ว ได้โบนัสปีแรกปีเดียว ปีที่สองโบนัสในรูปแบบผ่อนจ่าย ปีที่สามยังให้ไม่ครบ ปีที่4 ไม่มีให้จ่ะ
ลาออกจากงานประจำ มาทำงานกับญาติ คิดผิดคิดใหม่ได้นะ!!!!
จนกระทั่ง....เราได้ลาออกจากงานประจำมาทำงานกับญาติ พี่เค้าเปิดสำนักงานบัญชีเป็นของตัวเองมาเกือบสิบปีแล้วแต่
ไม่ได้ทำเต็มเม็ดเต็มหน่วยเนื่องจากมีงานประจำด้วย ตอนนี้เขาก็อายุมากขึ้นก็เลยมองหารายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน เขาจึงขอร้องเราให้ออกจากงานมา
ทำสำนักงานด้วยกัน ส่วนตัวเขานั้นยังอยากจะทำงานจนกว่าจะเกษียนด้วยตำแหน่งที่สูง เงินเดือนแพง ตอนแรกก็สองจิตสองใจกลัวว่าจะไปไม่รอด
กลัวโน่นนั่นนี่สารพัด แต่สุดท้ายก็ยอมลาออกมาช่วยพี่เขา ด้วยความที่เราเป็นญาติกัน
.......
แต่ในความเป็นญาติกึ่งเจ้านาย มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ปีแรกที่ทำงานกับเขาเราเริ่มจะเข้าใจเลยว่า ทำไมเพื่อนๆเขาถึงไม่อยากจะลงขัน ลงทุนเปิด
สำนักงานบัญชีร่วมกับเขา ทำไมถึงหันไปเปิดหรือทำกันเอง แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องที่เคยทำงานร่วมกับพี่เขายังเตือนเลยว่าเราคิดผิด ที่ลาออกจากงาน
แน่ะ มาโยนระเบิดตูมให้เราคิดมากอีก แต่เราก็พยายามมองในแง่บวกนะ
........
ปีที่สองพี่เขาได้ลาออกจากงานประจำมาลุยสำนักงานบัญชีของตัวเอง แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ลาออกจากงานประจำทั้งๆที่รายได้ในส่วนสำนักงาน
เดือนนึงไม่ถึงห้าหมื่น ถ้าหักค่าเช่า เงินเดือนเรา แล้วเขาจะเอาที่ไหนกิน บ้าน และรถก็ต้องผ่อน ไหนจะมีหนี้สินอีก
ทีนี้ความเครียดก็ตกลงมาอยู่ที่เราแทน.... "แล้วตูจะรอดไหม...หรือตูต้องกลับไปทำงานประจำเหมือนเดิม" งานเข้าล่ะสิ ช่วงนั้นงานหายากบวก
กับอายุที่เยอะขึ้น แล้วเงินเดือนก็คงไม่ได้เรทเดิมที่เคยทำ
และหวยมาออกตรงที่ "โบนัส" ยังไม่มีให้ เงินไม่พอขอผลัดผ่อนเลื่อนไปก่อน แต่ว่าเขาดันมีเงินซื้อโทรศัพท์แพงๆใช้ถึงสองเครื่อง
เราก็เข้าใจแหละ ....พยายามนะ พยายามเข้าใจ
ปีที่สาม.....
แต่ยิ่งทำงานไปยิ่งดูเหมือนไม่มีอะไรดีขึ้นมา แถมงานที่มอบหมายให้เยอะกว่าเดิมอีก ในขณะที่ตัวเองก็อ้างว่ามีงานเยอะ
เยอะแต่ไม่เคยเสร็จซักอย่าง บางทีของเราเสร็จแล้ว ต้องมาช่วยเขาอีก ที่มากไปกว่านั้นคือชอบทำงานแบบไฟลนก้น
ถ้าไม่รีบจะไม่ทำ ไม่มีหรอกที่จะเคลียร์วันต่อวัน หรืองานเสร็จก่อนกำหนด ไม่มี๊.....ทำงานกับเค้ามาสามปี นิสัยเดิมไม่เคยเปลี่ยน
จัดลำดับความสำคัญของงานไม่เป็น บริหารงานไม่เป็น หยิบโหย่งและทำงาน ตามสไตล์ใจชอบ พร้อมจะพลิกลิ้นได้ตลอดเวลา
วันนี้สั่งอีกอย่าง เดือนต่อมาเปลี่ยนเป็นอีกอย่าง เอาแต่ความสะดวกและถนัดของตัวเอง และมักจะโยนปัญหามาให้เราแก้เสมอ
โดยเฉพาะปัญหาเฉพาะหน้า เวลาลูกค้าด่า หรือคอมเพลนเรามักจะโดนก่อนเป็นด่านแรก
ในส่วนงาน ถ้าเราไม่อยู่เขาซึ่งเป็นหัวหน้า ....เวลาลูกค้าถามมาเขามักจะรอเรามาจัดการให้เสมอ ไม่ทางที่จะทำเอง หรือลงมือตอบสนองความต้องการ
ของลูกค้าได้ในขณะนั้น บางทีเราก็คิดนะว่า คุณมีศักยภาพในการเป็นเจ้านายคนพอแล้วหรือ
........แล้วที่ผ่านมาคุณก้าวไปเป็นหัวหน้าคนได้ยังไง......
ตั้งแต่เกิดมาเจอหัวหน้างานที่ไม่ใช่ญาตินะ แต่บอกเลยดียิ่งกว่าญาติเสียอีก
ตอนนี้ทำงานกับพี่เขามาเกือบจะสี่ปีแล้ว ได้โบนัสปีแรกปีเดียว ปีที่สองโบนัสในรูปแบบผ่อนจ่าย ปีที่สามยังให้ไม่ครบ ปีที่4 ไม่มีให้จ่ะ