[CR] แชร์ประสบการณ์สอบ IELTS ฉบับละเอียดยิบ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราตั้งใจจะมาแชร์ประสบการณ์สอบ IELTS อาจจะยาวไปสักหน่อย หรือถ้าเขียนตรงไหนไม่เข้าใจสามารถถามได้ค่ะ ถ้าเราพอแนะนำได้จะช่วยตอบให้ค่ะ santa

เริ่ม!! เนื่องจากเรามีเวลาค่อนข้างน้อยและไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ IELTS เลยนอกจากมีสอบทั้ง 4 ทักษะคือ ฟัง พูด อ่าน เขียน 555   เราจึงคิดว่าเราควรหาที่เรียนพิเศษดีกว่า เพื่อที่จะได้รู้แนวและวิธีสอบภายในระยะเวลาที่เราตั้งไว้ค่ะ (หากใครไม่อยากลงเรียนเพิ่มเติม แนะนำให้ข้ามไปข้อ 7 ได้เลยค่ะ)

1. เราเริ่มจาก search หาที่เรียนว่าคนส่วนใหญ่เรียนที่สถาบันไหน โดยเราตั้งไว้ส่วนตัวว่าจะต้องเรียนกับ native speaker เพื่อที่จะได้ฝึกทั้งฟังและพูดไปในตัวค่ะ พอลองหาดูพบว่าส่วนใหญ่คนจะเรียนที่ 2 สถาบันคือ BC (ใน Siam Square) และ NC (ใน Central World) เราจึงไปลองคุยกับทั้ง 2 ที่ค่ะ
จริงๆทั้ง 2 ที่ค่อนข้างต่างกันเลย จากที่เราลองไปทดสอบเพื่อวัดระดับก่อนเรียนมา

ของ BC จะสอบแค่ Listening, Speaking (นิดหน่อยมากๆ พูดกับเจ้าหน้าที่คนไทยค่ะ แค่ดูว่าเราพอฟังออกไหม แต่ไม่มี grading คะแนนส่วนนี้ให้) และ Reading passage ค่ะ ใช้เวลาสอบแค่ประมาณ 40 นาที เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะรวมคะแนนให้แล้วแนะนำคอร์สให้เราค่ะ คะแนนนี้เก็บได้ 2 เดือน เผื่อเราสอบเสร็จแล้วแต่ยังไม่สะดวกเริ่มเรียน ประมาณนั้นค่ะ
ส่วนของ NC จะสอบ Reading passage ความยาว ความยาก และเวลา เหมือนสอบจริงค่ะ แต่อ่านแค่ 1 passage ต่อมาเป็น Writing ค่ะ ให้เขียน passage เสมือนเป็น writing part 2 ในข้อสอบจริง (ซึ่งจะอธิบายเพิ่มเติมต่อไปค่ะ) เช่นกัน พาร์ทนี้เหมือนสอบจริงทุกอย่างค่ะ พอหมดเวลาพี่เจ้าหน้าที่จะรวมคะแนนให้ และรอสอบ speaking ต่อ เราจะพูดกับอาจารย์ที่สอนในนั้นประมาณ 5 นาที สไตล์ชวนคุย ไม่ซีเรียสค่ะ แต่อาจารย์จะ grade คะแนนให้ เสร็จแล้วอาจารย์จะเห็นคะแนนทั้ง 3 part และแนะนำว่าเราควรเรียนคอร์สไหนค่ะ รายละเอียดคอร์สเยอะมาก ยังไงแนะนำให้ลองไปคุยกับพี่เจ้าหน้าที่เพิ่มเติมค่ะ

ส่วนที่ทั้ง 2 ที่มีเหมือนกันที่เราทราบคือ อาจารย์เกือบทั้งหมดจะเป็น Examiner และทั้ง 2 ที่เป็นศูนย์สอบ IELTS ในไทย ค่อนข้างน่าเชื่อถือค่ะรักคุณ

2. สรุปแล้วเราเลือก NC ค่ะ เพราะระยะเวลาที่เรียนกระชับกว่าและถ้าจำไม่ผิดค่าคอร์สต่อชั่วโมง (ถ้าเราใช้สิทธิ์อื่นๆครบ) จะถูกกว่าค่ะ
3. ระยะเวลาเรียนจริง 6 สัปดาห์ค่ะ โดยเราเลือกเรียนเสาร์-อาทิตย์ เพราะวันธรรมดาเวลาเลิกงานเอาแน่เอานอนไม่ได้ค่ะ นอกจากนี้ก็จะมี bonus ต่างๆเสริมให้ ยังไงลองถามกับสถาบันเพิ่มได้ค่ะ
4. ส่วนตัวเรารู้สึกว่าดีนะคะ class เล็กดี มีแค่พาร์ทเดียวที่เราว่าเฉยๆคือพาร์ทพูดค่ะ จริงๆอาจารย์สอนทริคและคำเก๋ๆเยอะมาก แต่เนื่องจากไม่ได้เรียนตัวต่อตัว ก็จะได้จับคู่กับคนในคลาสแทนค่ะ จะมีแค่บางครั้งที่ได้พูดกับอาจารย์เพราะจำนวนคนเป็นเลขคี่ ดังนั้นส่วนใหญ่ที่เราพูดไปก็ไม่ได้มีใครกล้า comment หรือแก้ให้เราหรอกค่ะ แต่อาจารย์แกก็จะมาฟังนะคะว่าแต่ละคู่คุยอะไรกัน แล้วจดมาอธิบายเพิ่ม (อันนี้เราเดาว่าคงเป็นทุกที่)
5. วันสุดท้ายที่เรียนจะมีการสอบเสมือนจริงทุกอย่าง สำหรับเลื่อนไปคอร์สที่สูงขึ้น คือ detail ค่อนข้างเยอะเลย ถ้าสนใจแนะนำให้ลองถามพี่ๆเจ้าหน้าที่ค่ะ
6. เหนือสิ่งอื่นใด การเรียนเป็นแค่ตัวช่วยเรื่องการได้มาซึ่งข้อมูลภายในเวลาจำกัดค่ะ สุดท้ายเราว่ายังต้องพึ่งตัวเองในการอ่านและฝึกทำข้อสอบเรื่อยๆค่ะ
7. ขอแนะนำว่าให้ลองซื้อข้อสอบเก่ามาทำค่ะ หนังสือชื่อ Cambridge English IELTS เล่มสีดำๆค่ะ classic มากกก ส่วนใหญ่คนก็จะใช้เล่มนี้แหละค่ะ ปัจจุบันน่าจะมี 14 Edition
8. ควรเริ่มจากเล่มล่าสุดแล้วทำย้อนไปเพราะมันจะใกล้เคียงข้อสอบปัจจุบันมากกว่า ตอนแรกอาจจะเริ่มจากทำเพื่อให้ชินก่อนแล้วค่อยจับเวลาตามจริงค่ะ
9. ยังไงขอให้ลองจับเวลานะคะ ถ้าใครที่เคยสอบจะรู้ว่า ข้อสอบยังไม่ยากเท่าเวลาที่มีอย่างจำกัดมากๆๆๆค่ะพ่นน้ำหมาก  เราว่าฝึกสัก 3-4 เล่มก็น่าจะพอค่ะ
10. Source อื่นๆ เราแนะนำให้ดู channel "English Lessons with Adam" ใน YouTube ค่ะ ฟังง่ายมากๆและสอนดี อาจจะไม่ได้เน้นสอบ IETLS แต่เราว่ามีประโยชน์มากๆค่ะ อีกช่องที่แนะนำคือ "Fastrack IELTS" ที่เป็นผู้หญิงสอน แต่คนนี้จะสอนเน้น IELTS โดยเฉพาะ และทริคว่าทำอย่างไรให้ได้คะแนนเยอะๆ ดีทั้งคู่ค่ะ

ข้อต่อๆไปจะเป็นการบอก detail เกี่ยวกับข้อสอบนะคะ happy
11. อย่างที่บอกค่ะ IELTS จะสอบทั้ง 4 part คือ ฟัง พูด อ่าน เขียนค่ะ มี 2 แบบคือ Academic กับ General Test หากใครอยากไปเรียนต่อหรือใช้คะแนนเพื่อการสอบเข้าสถาบันต่างๆจะต้องสอบ Academic ซึ่งจะยากกว่าค่ะ สามารถเลือกสอบ online หรือ paper ก็ได้แล้วแต่ถนัด แค่ online จะมีข้อดีคือรู้ผลภายใน 5 วันค่ะ หาก paper จะรู้ผลภายใน 14 วัน
12. ข้อไล่ไปทีละ part นะคะ ส่วนที่เราว่าง่ายที่สุดคือ Listening ค่ะ ทั้งหมดจะมี 40 ข้อ แบ่งเป็น 4 part part 1-2 จะเป็นคนคุยกัน แค่ 2 คนค่ะ

part แรกส่วนใหญ่จะถามเรื่องการสมัครอะไรสักอย่าง เช่น สมัครเป็นสมาชิก สมัครงาน สมัครเป็น Volunteer ฯลฯ คำถามจะค่อนข้างวนๆ เช่น ชื่อ นามสกุลอะไร ที่อยู่ที่ไหน (จะมีการสะกดให้ฟัง เราแค่เขียนตามค่ะ) เริ่มงานได้เมื่อไหร่ หากเป็นสมาชิกจะมีสิทธิพิเศษอะไรบ้าง ส่วนใหญ่จะให้เขียนแค่ one word only หรือมากสุด 3 คำค่ะ
part 2 คำถามจะหลากหลาย ส่วนใหญ่จะให้เลือก choice หรือให้เอาจับคู่ item ข้างบนมาใส่แต่เนื้อเรื่องจะยังเป็นเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ยากค่ะ
part 3 จะเริ่มยากค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นบทสนทนาเกี่ยวกับการเรียน เช่น นักศึกษาคุยกับอาจารย์เรื่องทำวิจัย หรือ นักเรียนปรึกษากันเรื่อง Project / การ present งาน ส่วนใหญ่เป็น choice ค่ะ มีแค่ 3 choice 
part 4 คนส่วนใหญ่ว่ายากที่สุด แต่ส่วนตัวเราว่าง่ายกว่า part 3 ค่ะ พาร์ทนี้จะมีคนพูดแค่คนเดียว และจะพูดเรื่องวิชาการ พูดยาวๆเลยประมาณ 5-10 นาทีค่ะ เราว่าที่มันยากคือคำพูดกับข้อความที่เราอ่านในข้อสอบจริงจะไม่เหมือนกันค่ะ แต่จะใช้คำ Synonym (แต่คำที่เราต้องเขียนลงไปต้องเป็นคำที่คนบรรยายพูดเป๊ะๆ นะคะ) ซึ่งต้องอาศัยความไวในการแปลและสมาธิในการจับคำพูดด้วยความไวแสงค่ะmoonstar
โดยรวม Part Listening แน่นอนว่าสำเนียง British ค่ะ และการสะกดคำสำคัญมากๆๆๆ ถึงแม้ว่าเราจะฟังออกแต่เขียนผิดรูป เช่น นามเอกพจน์หรือพหูพจน์จะถือว่าผิดเลยค่ะ หรือบางทีเราอาจได้ยินเค้าพูดเป็นเอกพจน์แต่ต้องตอบพหูพจน์ก็มีค่ะ เราต้องดูว่าตามหลัก Grammar ช่องนั้นควรเติมยังไง แต่เราจะสะกดแบบ British หรือ American ก็ได้นะคะ Part นี้ ความไวเป็นของปีศาจค่ะปราสาทมืด   ขอให้อ่านคำถามล่วงหน้าเสมอ หลังจากที่จบ part นึง เค้าจะมีเวลาให้เราทวนคำตอบครึ่งนาที ช่วงนั้นแหละค่ะ จงอ่านคำถามข้อถัดไปเรื่อยๆแล้ววงคำที่สำคัญไว้ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเราต้องฟังส่วนไหนค่ะ Choice ทุก Choice ที่มี จะมีคำพูดในบทสนทนาเสมอ อาจจะผิดหรือถูกแต่มีแน่ๆค่ะ ใครฟังเบลอๆ ฟังเจอคำนี้แล้ววงเลย (แบบเรา) ผิดมาเยอะแล้วค่ะ ดังนั้น จงมีสติในทุกขณะจิตค่ะ สำคัญที่สุด อ่านคำถามว่าให้เขียนกี่คำค่ะ หาก one word only ให้เลือกคำหลักมาใช้ ไม่ต้องพ่วง Adj หรือ Adv มา เพราะต่อให้เขียนถูกก็จะถือว่าเสียคะแนนเพราะไม่ทำตามคำสั่งค่ะ และหากฟังพลาดแล้วอย่ากังวลค่ะ ให้ฟังต่อเพื่อตอบข้อถัดไป การจดจ่อกับข้อเดิมอาจทำให้เราพลาดข้อถัดๆไปซึ่งไม่คุ้มเลยค่ะ เรากลับมาเดาทีหลังช่วง transfer คำตอบลงกระดาษได้ค่ะ ปลอบ

*Part อื่นๆ ขอมาเขียนต่อครั้งหน้าค่ะ *
ชื่อสินค้า:   IELTS
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่