JJNY : 4in1 ญาติวีรชนพฤษภา35 จี้รบ.เคลียร์/สุดารัตน์แนะ4ข้อ/วิโรจน์ยัน"ก้าวไกล"เข้มเหมือนเดิม/น้ำชาวอนแก้โควิดให้ตรงจุด

ญาติวีรชนพฤษภา35 จี้รัฐบาลเคลียร์ข้อครหาปม ‘หน้ากากอนามัย’ แนะตรวจโควิดฟรีทุกกรณี
https://www.matichon.co.th/politics/news_2057720
 
ญาติวีรชนพฤษภา35 จี้รัฐบาลเคลียร์ข้อครหาปม ‘หน้ากากอนามัย’ แนะตรวจโควิดฟรีทุกกรณี
 
เมื่อวันนี้ 15 มีนาคม 2563 ที่ห้องประชุมสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จัดประชุมก่อนร่วมกันแถลงประเด็นการหาทางออกจากวิกฤตประเทศไทย นำโดย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 นายเมธา มาสขาว เลขาธิการ  นายปรีดา เตียสุวรรณ์ นายพิภพ ธงไชย และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ปรึกษาญาติวีรชนพฤษภาฯ ได้
 
เนื้อหาดังนี้
 
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองในสังคมไทยในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดความขัดแย้งทางความคิดและความแตกแยกทางสังคม เกิดวิกฤติทางการเมืองทำให้ประชาชนแบ่งเป็นฝักฝ่ายและเกิดความรุนแรงทางสังคมจนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากนับเป็นความสูญเสียที่น่าเศร้าเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งกองทัพเข้ามายึดอำนาจก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ปัจจุบันถึงแม้จะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว แต่รัฐบาลก็ยังไม่ได้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งและสร้างความปรองดองสมานฉันท์คนในชาติ ปัจจุบันเป็นที่น่ากังวลว่าได้เกิดเงื่อนไขความขัดแย้งใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกพร้อมกับวิกฤติรอบด้าน ครอบครัวญาติวีรชนพฤษภา 35 จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลดังต่อไปนี้
 
1. ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แก้ไขปัญหาความขัดแย้งและสร้างความปรองดองสมานฉันท์คนในชาติให้สำเร็จลุล่วง สร้างความรักสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในชาติ  และขอให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อเสนอของคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ของผู้คนในชาติในระยะยาว
 
2. ขอให้นายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นผู้นำในการบริหารประเทศอย่างกล้าหาญ โดยเฉพาะในยามที่บ้านเมืองกำลังประสบเหตุการณ์วิกฤติรอบด้านทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ภัยแล้ง การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ผู้นำจำเป็นจะต้องทำงานเชิงรุกและหลอมรวมจิตใจของคนในชาติปลุกพลังจากทุกภาคส่วนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันโดยไม่แบ่งฝ่ายเพื่อฝ่าวิกฤติร่วมกันไปให้ได้ และเรียกร้องให้หยุดฉวยโอกาสใช้วิกฤติของชาติเอื้อประโยชน์ทางการเมือง
 
3. ขอให้นายกรัฐมนตรีจัดการกับปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันด้วยมาตรการเด็ดขาดโดยไม่เห็นแก่พวกพ้อง โดยเฉพาะบุคคลที่มีตำแหน่งในรัฐบาลหากมีข่าวพัวพันกับการทุจริตจะต้องสั่งพักงานหรือให้ลาออกไปก่อนจนกว่าการสอบสวนจะเป็นที่ยุติ เพราะหากปล่อยไว้จะกลายเป็นความขัดแย้งทางสังคมจนประชาชนทนไม่ไหวออกมาชุมนุมต่อต้านลุกลามบานปลายเหมือนเหตุการณ์ในอดีต โดยเฉพาะข้อครหาเรื่องหน้ากากอนามัย ที่เกี่ยวข้องกับนายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ และนายธรรมนัส พรหมเผ่า จะต้องตอบคำถามสังคมให้ได้
 
4. ขอให้รัฐบาลสร้างบรรทัดฐานการทางการเมืองกรณีเหตุการณ์พฤษภา 2535 เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจทางประวัติศาสตร์ให้แก่สังคมไทย โดยหาหนทางยุติเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ทั้งในเรื่องบุคคลที่ยังสูญหาย การชดใช้ค่าทดแทนหรือค่าเสียหายอัตราก้าวหน้า และการสร้างอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรมให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว
 
คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 เชื่อว่า หากรัฐบาลดำเนินการทุกอย่างเสร็จสิ้นจะทำให้เกิดบรรทัดฐานทางการเมืองและคนในชาติทุกสาขาอาชีพเกิดความรักสมัครสมานสามัคคีกันมากขึ้น
 
นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวว่า สถานการณ์วิกฤติไวรัสระบาดและปัญหาเศรษฐกิจวันนี้ รัฐบาลต้องมีมาตรการเชิงรุก ไม่ใช่มีแต่มาตรการเชิงรับตลอดจนเราจะเข้าเฟส 3 แล้ว อิตาลี อินเดีย ปิดประเทศเพื่อไม่ให้มีการเดินทางจากภายนอกเพื่อป้องกันพลเมืองติดเชื้อ ที่จีน ที่เวียดนาม มีขบวนรถและอุโมงค์พ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออยู่ทั่วเมือง แต่เมืองไทยยังมีปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยอยู่ เพราะมีคนกักตุนสินค้าไว้โก่งราคา
 
ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลรายงานข้อมูลต่อประชาชนอย่างเป็นระบบแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ประชาชนรู้ทันสถานการณ์เท่าเทียมกัน และเปิดให้มีการตรวจไวรัสโควิด-19 ฟรีทั่วประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แม้ไม่เข้าข่ายที่กำหนดก็ตาม เพราะช่วงแรกที่ไม่แสดงอาการผู้ป่วยก็สามารถแพร่เชื้อได้ คนไทยต่างต้องการรับทราบว่า ตนเองติดเชื้อหรือไม่จะได้รีบเข้ารับการรักษา ถ้าปล่อยให้อยู่ในระยะบานปลายคนไทยอาจต้องตายกันหมดก่อนเศรษฐกิจพัง” นายเมธากล่าว
 

 
'สุดารัตน์' แนะ 4 ข้อที่ผู้นำรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการรับมือวิกฤต 'โควิด-19'
https://voicetv.co.th/read/qE0kRfAC5
 
"คุณหญิงสุดารัตน์" แนะ 4 ข้อที่ผู้นำรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ เพื่อเตรียมรับมือวิกฤต "โควิด-19" ระบุการระบาดจะอยู่นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการจัดการที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล และความร่วมแรงร่วมใจของคนไทย
 
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กระบุว่า 

มาถึงจุดที่เราต้องยอมรับความจริงว่า การระบาดของ Covid-19 จะมีมากขึ้น และ Covid-19 จะต้องอยู่กับเราไปอีกระยะหนึ่ง เราจึงต้องพร้อมรับมือด้วยความมีสติ ไม่ประมาท และต้องไม่ตระหนก ส่วนจะอยู่นานแค่ไหน และระบาดมากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการจัดการที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล และความร่วมแรงร่วมใจของพวกเราคนไทย
 
ด้วยความห่วงใยต่อการรับมือกับวิกฤต Covid-19 ของรัฐบาล ดิฉันเห็นว่า เรื่องเร่งด่วนที่ผู้นำรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ ณ ขณะนี้ คือ
 
1. ระดมทุกสรรพกำลังยกระดับ เตรียมความพร้อม เพื่อรับมือกับการระบาด และจำนวนผู้ป่วยที่จะเพิ่มมากขึ้น ทั้งเรื่องสถานที่ที่จะรองรับผู้ป่วย และผู้ต้องสงสัยที่ต้องเฝ้าระวังพิเศษ ที่จะมีจำนวนมากขึ้น ทั้งในส่วนกลางและในภูมิภาคต่างๆ การเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ และเวชภัณฑ์ให้มีความพร้อม ทั้งหน้ากากอนามัย น้ำยาฆ่าเชื้อ ชุดป้องกันสำหรับแพทย์ พยาบาล เครื่องช่วยหายใจ ยาต่างๆ ที่ต้องใช้สำหรับผู้ติดเชื้อ โดยต้องไม่ปล่อยให้เกิดความไม่พร้อม และการขาดแคลนเหมือนการบริหาร จัดการหน้ากากอนามัย เพราะชีวิตคนไทยสำคัญที่สุด
 
2. การค้นหาผู้ติดเชื้อต้องรวดเร็ว เพราะเป็นกุญแจสำคัญของการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 รัฐบาลต้องให้ประชาชนที่คิดว่าตนเองมีปัจจัยเสี่ยง เกิดอาการไอ เจ็บคอ มีไข้ สามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อ Covid-19 ได้อย่างรวดเร็ว ภายใต้การวินิจฉัยของแพทย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
 
โดยการจัดงบประมาณในการตรวจ Covid-19 ผ่านบัตรทอง หรือบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมทั้งการให้ผู้ประกันตน สามารถเบิกค่าตรวจ Covid-19 จากกองทุนประกันสังคมได้ ส่วนข้าราชการเบิกจากสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลได้ เพราะการตรวจพบคนที่ติดเชื้อได้มาก และได้เร็วที่สุด คือปัจจัยสำคัญที่จะควบคุมการระบาดได้อย่างดี
 
"ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือ กรณีคุณแมทธิว ที่มีความรอบคอบ และมีสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม เมื่อเริ่มมีอาการป่วย ก็รีบไปตรวจร่างกาย พบการติดเชื้อได้เร็ว เป็นการป้องกันการแพร่ระบาดได้อย่างดี ดิฉันต้องขอแสดงความชื่นชม คุณแมทธิว มา ณ ที่นี้ด้วย" คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ
 
    แต่ถ้าเป็นผู้มีรายได้น้อย จะไม่สามารถจ่ายค่าตรวจได้ เพราะราคาสูงมาก ทำให้รัฐขาดโอกาสในการรู้ตัวผู้ป่วยได้เร็ว
 
3. การควบคุมการระบาดต้องรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากกว่าปัจจุบัน หัวใจสำคัญอีกประการคือ การที่รัฐต้องบอก "ความจริง" และข้อมูล กับประชาชนอย่างรวดเร็ว ตรงไปตรงมา ไม่ปิดบัง นอกจากจะช่วยให้การควบคุมการระบาดได้มีประสิทธิภาพขึ้น ยังจะช่วยลดความตระหนกของประชาชนที่กระทบจิตใจ และไปซ้ำเติมต่อภาวะเศรษฐกิจให้หนักขึ้นไปอีก
 
4. ถึงเวลาที่รัฐบาลจะต้องเตรียม มาตรการสนับสนุนให้ภาครัฐและเอกชน มีการทำงานจากบ้าน และการเรียนออนไลน์ เพื่อหลีกเลี่ยงการไปอยู่ร่วมกันมาก ๆ ในอาคารปิด
 
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุทิ้งท้ายว่า สำหรับพี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน เราต้องตั้งสติรับมือสถานการณ์อย่างไม่ประมาท แต่ไม่ตระหนก โดยมีความรับผิดชอบต่อตนเอง และสังคม ช่วยกันป้องกันและลดการแพร่ระบาด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน หมั่นล้างมือ กินร้อน ช้อนกลาง และหากเดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ต้องแยกสังเกตอาการตัวเอง โดยไม่ออกมาสังคมกับคนภายนอก 14 วัน อย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยกันดูแลตนเอง และคนที่เรารัก รวมทั้งพี่น้องคนไทยให้ปลอดภัยจาก Covid-19
 
ร่วมแรงร่วมใจฝ่าฟันวิกฤต Covid-19 ไปด้วยกันนะคะ
 
https://www.facebook.com/sudaratofficial/posts/2784581018287340
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่