https://pantip.com/topic/39693375
https://pantip.com/topic/39706153
...............หลายวันต่อมา เตี่ยฮ้งได้ขอติดรถลูกสาวมาที่คุ้มวงศ์สะหวันด้วย เตี่ยไม่มีอาชีพแต่เป็นนักพนันตัวยง ฉายาในวงการพนันคือฮ้งเก้านิ้ว ครั้งหนึ่งเคยถูกจับโกงไพ่จึงถูกตัดนิ้ว นิสัยกะล่อน ช่างพูดและสร้างภาพเป็นคนรวย แต่รักลูกสาวคนเดียวมาก
“พูดก็พูดเถอะนา เคยมีชินแสมาทัก เตี่ยกำลังราศีจับจะมีคนมาอุปถัมภ์ ให้สุขสบาย สงกะสัยจะเป็นลูกเขยที่ชื่อเจ้าวงศ์สะวานซะแร้ว”
“ชื่อเขาเจ้าวงศ์สะหวัน เรียกให้ถูก แล้วหยุดแซวหนูซะทีเรื่องลูกเขย”
ตอนนี้เจมทำหน้าที่นิติกรของห้างหุ้นส่วนเพราะเรียนมาสายนี้ ส่วนเนยลาออกจากโชว์รูมมาเป็นพยาบาลของเจ้าปู่ตามคำชักชวนของเจ้า สองคนนี้น่าจะคบกันจริง ถึงได้พูดจาสอเลาะปากหวานใส่กันจนเอียน ที่เจมแอบเจ็บใจคือเนยมีอาร์ตแฟนหนุ่มอยู่ทั้งคนยังแอบนอกใจ
รถยนต์จอดแอบไว้ใต้เงาของต้นรังแล้ง ลุงฉายถือจอบพรวนดินอยู่แถวนั้น ต้นไม้ใหญ่ที่เบ้ามาปลูกไว้เพื่อภูมิทัศน์น่ามอง ต้นไทรเกาหลีที่ตัดแต่งเป็นรูปทรงพุ่มไว้ริมทางตลอดแนว เป็นเส้นสายตาสีเขียวหรึ่มตรงไปยังบ้านไม้หลังใหญ่ เตี่ยฮ้งต้องร้องอู้ฮู แม้สภาพจะเก่าแก่แต่ยังมั่นคงแข็งแรงด้วยได้รับการดูแลรักษาอย่างดี รสนิยมคนรวยที่อนุรักษ์ของเก่าเอาไว้
ฟังที่เตี่ยพร่ำมาตลอดทางราวกับไม่เคยสำนึกผิด เจมส่ายหน้าเรื่องที่แอบเอาโฉนดไปจำนองจนเกือบโดนยึดบ้าน โชคดีแค่ไหนที่เธอแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน ไม่งั้นคงไม่มีที่ซุกหัวนอนเป็นแน่ นึกเสียดายก็แต่พระสมเด็จฐานแซมที่ต้องปล่อยไป
“บ้านนี้รวยจริงโว้ย! ชำบายแล้วเรา ลูกเขยจ๋า รอพ่อตาก่อน ฮ่าฮ่า”
เอี๊ยด! ลูกสาวถึงกับแตะเบรกแทบไม่ทัน หันมามองตาขวางใส่
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงหิวเงินนะเตี่ย จะให้ไปไล่จับผู้ชายได้ไง”
“อย่าทำหน้าบางเลยลูก บัดเดี๋ยวไอ้เนยก็คว้าไปซะหรอก ผู้ชายทั้งหล่อทั้งรวย ได้มาเป็นลูกเขยเตี่ย อูย...แค่คิด สบายไปทั้งชาติ”
"อ๋อ จะได้ให้เงินเตี่ย ไปเข้าบ่อนเสี่ยโก้อีกใช่มั้ย”
ลูกสาวกระแทกประตูออกไปงอนแล้ว ตั้งแต่อายุสิบแปดที่เธอหาเงินเองได้ สาบานจะมีบ้านเป็นของตนเอง ไม่ขอเร่ร่อนอีก นับจากจำความได้ เตี่ยทำเป็นอย่างเดียวคือนักพนัน เที่ยวเสี่ยงโชคไปทุกบ่อนทั้งในและนอกประเทศ บางช่วงรวยมีกินมีใช้ฟุ่มเฟือย บางช่วงก็จน ต้องเอาลูกสาวไปฝากเลี้ยง บ้านก็ขายเอาไปทำทุน เร่ร่อนไปทั่ว นิสัยก็กะล่อนเที่ยวไปหยิบยืมเงิน พอไปเจอมาเฟียเงินกู้โหดตามทวง ถึงขั้นจะจับลูกสาวไปขายซ่องชายแดนเพื่อใช้หนี้ สองพ่อลูกต้องหนีคนพวกนั้นมาตลอด และนั่นคือความทรงจำแย่ๆ ของเจม
“มาเช้าจังเลยนะครับ คุณเจม”
ลุงฉายวางมือจากเสียมทักทายก่อน ฉีกยิ้มเห็นฟันหลอเหงือกคล้ำ
“สวัสดีจ้ะลุงฉาย”
“แล้วนี่ใครครับ”
“เตี่ยของฉันเอง เตี่ยอยากมาดูที่ทำงานของฉัน”
“หรือครับคุณเจม มิน่ามีเค้าหน้าตาคล้ายกันอยู่” ลุงฉายเข้ามาน้อมตัวยกมือไหว้ นิสัยแกชอบประจบ เตี่ยฮ้งแม้อายุเกือบหกสิบ รูปร่างสูงใหญ่ผิวพรรณดีเพราะไม่ได้ทำงานหนัก แต่งกายดีมีเครื่องประดับทำให้มีสง่าราศีเหมือนคนรวย
“ลูกสาวของฉัน หน้าตาดีเหมือนพ่อนั่นแหละ” เตี่ยฮ้งระเบิดเสียงหัวเราะ
“เสี่ยมาเป็นหุ้นส่วนของเจ้าวงศ์สะหวันใช่ไหมครับ เจ้าเป็นคนหนุ่มไฟแรงตอนนี้กำลังเร่งเปิดสาขาทั้งในและนอกประเทศ คงต้องระดมทุนอีกมาก”
“ถูกต้องแล้ว สมัยนี้มีเงินเก็บไว้อย่างเดียว ไม่เอาออกมาลงทุนก็แย่สิ เคยได้ยินไหมคำสุภาษิต คนโง่เก็บเงิน แต่คนฉลาดเอาเงินมาลงทุนต่อยอด แต่ฉันเอง ให้ลูกสาวคนเดียวมาทำงานกับเจ้าวงศ์สะหวันด้วยก็แอบหนักใจ ไอ้ตัวฉันยังไม่รู้จักนิสัยใจคอเจ้าเป็นคนอย่างไรนี่สิ” เตี่ยฮ้งพูดจาเสียงดังวางก้ามเหมือนเสี่ย นิ้วมือกระดิกพราวด้วยแหวนเพชร อยากล้วงความลับของเจ้าวงศ์สะหวันเต็มที เริ่มถามจากคนสวนในบ้านก่อนคนแรก
“เตี่ย! จะยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขาทำไม จะเอารถฉันไปทำธุระในเมืองก็ไปสิ” เจมสะพายกระเป๋าได้ จะเดินเข้าสำนักงานแล้วยังไม่วายหันมา
“เรื่องของเจ้านาย ผมไม่พูดหรอกครับ” ลุงฉายพูดจาอ้อมแอ้ม
“ไม่เอาน่า พูดคุยแบบกันเองหน่อย” เสี่ยฮ้งมองร่างผอมบางของลุงฉาย มือที่ถือเสียมสั่นเทา ท่าทางเหมือนคนลงแดงเพราะติดเหล้า ท่าจะซื้อด้วยเงินได้อยู่ จึงควักแบ้งร้อยออกมา ลุงฉายหูอื้อแล้ว รีบคว้าหมับจับยัดใส่กระเป๋าเสื้อ สายตาแลหาป้าแขกเมียของแกจะมองมาทางนี้ ป้าแขกเก็บเงินไว้หมดป้องกันไม่ให้เอาไปซื้อเหล้า อาศัยว่าเป็นคนเก่าแก่มานาน เจ้าจึงไม่ไล่ออก ตอนปกติก็ขยันขันแข็งดีอยู่หรอก ยกเว้นเวลาลงแดง
“ผมว่า เราไปนั่งคุยที่ม้านั่งตรงนั้นดีกว่าครับ”
“ฉันก็แค่อยากรู้ ตามประสาพ่อที่รักลูกสาว เจ้าคนนี้ เจ้าชู้หรือเปล่า”
“ผมไม่ได้อวยเจ้านะ เจ้านิสัยดี ไม่ได้เจ้าชู้เลย”
“ไม่จริงหรอก! เจอยัยเนยวันแรก หูตาแพรวพราวออกอย่างนั้น ไม่กี่วันก็คบกันเป็นแฟนแล้ว ต้องเป็นคนเจ้าชู้แน่ๆ ” เจมเดินย้อนกลับมาอีก หูเรด้าของหล่อนไวมากกับเรื่องของเจ้าวงศ์สะหวัน
“คุ้มนี้คนที่เจ้าชู้คือเจ้าไตรภพ เจ้าพ่อของเจ้าวงศ์สะหวัน แต่เจ้าไตรภพสิ้นแล้ว สบายใจได้ เจ้าอินทร์ก็นิสัยดีมากไม่ถือตัวเลย ครอบครัวนี้ไม่มีคนเจ้าชู้แน่นอน”
“แล้วจะรู้ได้ไง ลุงฉายเคยตามเขาไปทุกที่รึไง” คนที่ป้อนคำถามกลับเป็นเจม
“สมัยเป็นเด็ก เจ้าอยู่กับแม่สองคน ไม่ได้ใช้ชีวิตสุขสบายมาก่อนเลยครับ ทุกวันนี้ถึงรวยแล้ว จึงเข้าใจหัวอกคนจน”
“อืม เจ้าเคยลำบากมาก่อนสินะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าชู้ไม่เจ้าชู้” เตี่ยฮ้งพูด
“แล้วที่ว่าตอนเด็กเคยลำบาก ไหนเล่ามาอีกสิ” คนที่เคยห้ามเตี่ยถามเรื่องส่วนตัวของเจ้า กลับกระสันอยากรู้เสียเอง ควักธนบัตรสีแดงจากกระเป๋าถือมานับสิบใบ ลุงฉายแกมองตาเป็นมัน เม้มปากกลืนน้ำลาย หล่อนจึงยื่นมาให้หนึ่งใบ
“ผมพูดเรื่องส่วนตัว ของเจ้านายมากกว่านี้ไม่ได้เเล้วครับ” ลุงฉายพูดเสียงอ่อย คนสวยขี้ตืด เห็นนับธนบัตรเป็นพัน กลับหาใบละยี่สิบบาทมายื่นให้ จะถอนหงอกแกหรือไง
“ร้อยนึงพอมั้ย เล่าประวัติคุ้มวงศ์สะหวันไปด้วยเลย ฉันว่าที่นี่มันแปลกๆ นะ”
“ผะ... ผมพูดยากจริงๆ” แกทำท่าลุกเดินหนี
“เอ้า! ห้าร้อย ทุ่มแล้วนะ”
“ผมพูดได้บางเรื่อง”
ลุงแกไม่วายหันมามองเงินในมือ
“ฮึ่ม! เอาไปหมดเลย พูดมา”
เตี่ยฮ้งหัวเราะฟันกระทบกันดังกึกๆ ให้มันได้แบบนี้สิ กล้าได้กล้าเสีย ถึงจะสมกับเป็นลูกสาวเซียนฮ้งเก้านิ้ว (นิ้วมือถูกตัดเพราะถูกจับได้ว่าโกง)
แล้วตาลุงขี้เมาก็ร่ายยาวเท้าความตั้งแต่สมัยเจ้าไตรภพ ผู้เป็นเจ้าพ่อของเจ้าวงศ์สะหวันได้สมรสกับเจ้าบัวเขียว แต่คนเป็นใหญ่ในคุ้มแห่งนี้ คือเจ้าแสงหล้าที่เป็นแม่เลี้ยงได้คุมการเงินในคุ้มไว้ทั้งหมด ท่านหวงทรัพย์สินมาก มองว่าสองผัวเมียนิสัยฟุ้งเฟ้อ เอาเงินไปลงทุกกิจการใดก็ขาดทุน ทำให้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับสองผัวเมียมาตลอด ส่วนเจ้าปู่วงศ์สะหวันท่านวางตัวเป็นกลาง มักหาเวลาไปเข้าวัดทำบุญ เจมนั่งฟังเพลินมองดูนาฬิกาข้อมือ อีกครึ่งชั่วโมงค่อยเข้าสำนักงานก็ยังทัน มองไปยังด้านหน้าสำนักงาน เห็นเจ้าสวมสูทสีเทายืนเหมือนคุยโทรศัพท์อยู่
ต่อมาเจ้าแสงหล้าก็สิ้นกะทันหัน หมอตรวจรู้เพียงหัวใจวายเฉียบพลัน แต่ ลุงฉายที่ขึ้นไปดูศพด้วยบอกว่าโดนยาสั่ง ทำให้เจ้าไตรภพกับเจ้าบัวเขียวมีเงินทองขาดคนควบคุม เบิกจ่ายเงินมาใช้ไม่ขาดมือ
เมื่ออยู่กินกันมานานไม่มีทายาทด้วยกัน เจ้าบัวเขียวเบื่อหน่ายสามีเจ้าชู้ จึงขอแยกบ้านอยู่ แต่เจ้าไตรภพจับได้ว่าแอบไปมีชายอื่น มีการฟ้องร้องแบ่งสมบัติ เจ้าบัวเขียวมาสิ้นจากอุบัติเหตุเรือล้มเสียก่อน ทรัพย์สินในบ้านที่ยักยอกเอาไปจึงถูกนำกลับมา ล้วนเป็นของหวงแหนของเจ้าแสงหล้า ไม่นานเจ้าไตรภพก็สิ้นจากอุบัติเหตุเรือล้มที่ท่าน้ำเดียวกัน พวกบ่าวในบ้านต่างลือกันว่า ผีเจ้าแสงหล้าทำให้สองผัวเมียมีอันเป็นไป ในตอนนั้นเหมือนว่าเจ้าปู่จะสิ้นไร้ลูกหลานจึงให้คนสืบหาทายาท จนได้พบกับหลานชายทั้งสองคน
พอสิ้นประโยคให้ลุงฉายเว้นวรรคหายใจ คิ้วเข้มได้รูปสวยของเจมขมวดเข้าหากัน มือเผลอลูบเส้นผมสีน้ำตาลดัดเป็นลอน ด้วยนึกจินตนาการเรื่องราวในหัวไปด้วย
หุ้นส่วนที่รัก_บทที่3
https://pantip.com/topic/39706153
...............หลายวันต่อมา เตี่ยฮ้งได้ขอติดรถลูกสาวมาที่คุ้มวงศ์สะหวันด้วย เตี่ยไม่มีอาชีพแต่เป็นนักพนันตัวยง ฉายาในวงการพนันคือฮ้งเก้านิ้ว ครั้งหนึ่งเคยถูกจับโกงไพ่จึงถูกตัดนิ้ว นิสัยกะล่อน ช่างพูดและสร้างภาพเป็นคนรวย แต่รักลูกสาวคนเดียวมาก
“พูดก็พูดเถอะนา เคยมีชินแสมาทัก เตี่ยกำลังราศีจับจะมีคนมาอุปถัมภ์ ให้สุขสบาย สงกะสัยจะเป็นลูกเขยที่ชื่อเจ้าวงศ์สะวานซะแร้ว”
“ชื่อเขาเจ้าวงศ์สะหวัน เรียกให้ถูก แล้วหยุดแซวหนูซะทีเรื่องลูกเขย”
ตอนนี้เจมทำหน้าที่นิติกรของห้างหุ้นส่วนเพราะเรียนมาสายนี้ ส่วนเนยลาออกจากโชว์รูมมาเป็นพยาบาลของเจ้าปู่ตามคำชักชวนของเจ้า สองคนนี้น่าจะคบกันจริง ถึงได้พูดจาสอเลาะปากหวานใส่กันจนเอียน ที่เจมแอบเจ็บใจคือเนยมีอาร์ตแฟนหนุ่มอยู่ทั้งคนยังแอบนอกใจ
รถยนต์จอดแอบไว้ใต้เงาของต้นรังแล้ง ลุงฉายถือจอบพรวนดินอยู่แถวนั้น ต้นไม้ใหญ่ที่เบ้ามาปลูกไว้เพื่อภูมิทัศน์น่ามอง ต้นไทรเกาหลีที่ตัดแต่งเป็นรูปทรงพุ่มไว้ริมทางตลอดแนว เป็นเส้นสายตาสีเขียวหรึ่มตรงไปยังบ้านไม้หลังใหญ่ เตี่ยฮ้งต้องร้องอู้ฮู แม้สภาพจะเก่าแก่แต่ยังมั่นคงแข็งแรงด้วยได้รับการดูแลรักษาอย่างดี รสนิยมคนรวยที่อนุรักษ์ของเก่าเอาไว้
ฟังที่เตี่ยพร่ำมาตลอดทางราวกับไม่เคยสำนึกผิด เจมส่ายหน้าเรื่องที่แอบเอาโฉนดไปจำนองจนเกือบโดนยึดบ้าน โชคดีแค่ไหนที่เธอแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน ไม่งั้นคงไม่มีที่ซุกหัวนอนเป็นแน่ นึกเสียดายก็แต่พระสมเด็จฐานแซมที่ต้องปล่อยไป
“บ้านนี้รวยจริงโว้ย! ชำบายแล้วเรา ลูกเขยจ๋า รอพ่อตาก่อน ฮ่าฮ่า”
เอี๊ยด! ลูกสาวถึงกับแตะเบรกแทบไม่ทัน หันมามองตาขวางใส่
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงหิวเงินนะเตี่ย จะให้ไปไล่จับผู้ชายได้ไง”
“อย่าทำหน้าบางเลยลูก บัดเดี๋ยวไอ้เนยก็คว้าไปซะหรอก ผู้ชายทั้งหล่อทั้งรวย ได้มาเป็นลูกเขยเตี่ย อูย...แค่คิด สบายไปทั้งชาติ”
"อ๋อ จะได้ให้เงินเตี่ย ไปเข้าบ่อนเสี่ยโก้อีกใช่มั้ย”
ลูกสาวกระแทกประตูออกไปงอนแล้ว ตั้งแต่อายุสิบแปดที่เธอหาเงินเองได้ สาบานจะมีบ้านเป็นของตนเอง ไม่ขอเร่ร่อนอีก นับจากจำความได้ เตี่ยทำเป็นอย่างเดียวคือนักพนัน เที่ยวเสี่ยงโชคไปทุกบ่อนทั้งในและนอกประเทศ บางช่วงรวยมีกินมีใช้ฟุ่มเฟือย บางช่วงก็จน ต้องเอาลูกสาวไปฝากเลี้ยง บ้านก็ขายเอาไปทำทุน เร่ร่อนไปทั่ว นิสัยก็กะล่อนเที่ยวไปหยิบยืมเงิน พอไปเจอมาเฟียเงินกู้โหดตามทวง ถึงขั้นจะจับลูกสาวไปขายซ่องชายแดนเพื่อใช้หนี้ สองพ่อลูกต้องหนีคนพวกนั้นมาตลอด และนั่นคือความทรงจำแย่ๆ ของเจม
“มาเช้าจังเลยนะครับ คุณเจม”
ลุงฉายวางมือจากเสียมทักทายก่อน ฉีกยิ้มเห็นฟันหลอเหงือกคล้ำ
“สวัสดีจ้ะลุงฉาย”
“แล้วนี่ใครครับ”
“เตี่ยของฉันเอง เตี่ยอยากมาดูที่ทำงานของฉัน”
“หรือครับคุณเจม มิน่ามีเค้าหน้าตาคล้ายกันอยู่” ลุงฉายเข้ามาน้อมตัวยกมือไหว้ นิสัยแกชอบประจบ เตี่ยฮ้งแม้อายุเกือบหกสิบ รูปร่างสูงใหญ่ผิวพรรณดีเพราะไม่ได้ทำงานหนัก แต่งกายดีมีเครื่องประดับทำให้มีสง่าราศีเหมือนคนรวย
“ลูกสาวของฉัน หน้าตาดีเหมือนพ่อนั่นแหละ” เตี่ยฮ้งระเบิดเสียงหัวเราะ
“เสี่ยมาเป็นหุ้นส่วนของเจ้าวงศ์สะหวันใช่ไหมครับ เจ้าเป็นคนหนุ่มไฟแรงตอนนี้กำลังเร่งเปิดสาขาทั้งในและนอกประเทศ คงต้องระดมทุนอีกมาก”
“ถูกต้องแล้ว สมัยนี้มีเงินเก็บไว้อย่างเดียว ไม่เอาออกมาลงทุนก็แย่สิ เคยได้ยินไหมคำสุภาษิต คนโง่เก็บเงิน แต่คนฉลาดเอาเงินมาลงทุนต่อยอด แต่ฉันเอง ให้ลูกสาวคนเดียวมาทำงานกับเจ้าวงศ์สะหวันด้วยก็แอบหนักใจ ไอ้ตัวฉันยังไม่รู้จักนิสัยใจคอเจ้าเป็นคนอย่างไรนี่สิ” เตี่ยฮ้งพูดจาเสียงดังวางก้ามเหมือนเสี่ย นิ้วมือกระดิกพราวด้วยแหวนเพชร อยากล้วงความลับของเจ้าวงศ์สะหวันเต็มที เริ่มถามจากคนสวนในบ้านก่อนคนแรก
“เตี่ย! จะยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขาทำไม จะเอารถฉันไปทำธุระในเมืองก็ไปสิ” เจมสะพายกระเป๋าได้ จะเดินเข้าสำนักงานแล้วยังไม่วายหันมา
“เรื่องของเจ้านาย ผมไม่พูดหรอกครับ” ลุงฉายพูดจาอ้อมแอ้ม
“ไม่เอาน่า พูดคุยแบบกันเองหน่อย” เสี่ยฮ้งมองร่างผอมบางของลุงฉาย มือที่ถือเสียมสั่นเทา ท่าทางเหมือนคนลงแดงเพราะติดเหล้า ท่าจะซื้อด้วยเงินได้อยู่ จึงควักแบ้งร้อยออกมา ลุงฉายหูอื้อแล้ว รีบคว้าหมับจับยัดใส่กระเป๋าเสื้อ สายตาแลหาป้าแขกเมียของแกจะมองมาทางนี้ ป้าแขกเก็บเงินไว้หมดป้องกันไม่ให้เอาไปซื้อเหล้า อาศัยว่าเป็นคนเก่าแก่มานาน เจ้าจึงไม่ไล่ออก ตอนปกติก็ขยันขันแข็งดีอยู่หรอก ยกเว้นเวลาลงแดง
“ผมว่า เราไปนั่งคุยที่ม้านั่งตรงนั้นดีกว่าครับ”
“ฉันก็แค่อยากรู้ ตามประสาพ่อที่รักลูกสาว เจ้าคนนี้ เจ้าชู้หรือเปล่า”
“ผมไม่ได้อวยเจ้านะ เจ้านิสัยดี ไม่ได้เจ้าชู้เลย”
“ไม่จริงหรอก! เจอยัยเนยวันแรก หูตาแพรวพราวออกอย่างนั้น ไม่กี่วันก็คบกันเป็นแฟนแล้ว ต้องเป็นคนเจ้าชู้แน่ๆ ” เจมเดินย้อนกลับมาอีก หูเรด้าของหล่อนไวมากกับเรื่องของเจ้าวงศ์สะหวัน
“คุ้มนี้คนที่เจ้าชู้คือเจ้าไตรภพ เจ้าพ่อของเจ้าวงศ์สะหวัน แต่เจ้าไตรภพสิ้นแล้ว สบายใจได้ เจ้าอินทร์ก็นิสัยดีมากไม่ถือตัวเลย ครอบครัวนี้ไม่มีคนเจ้าชู้แน่นอน”
“แล้วจะรู้ได้ไง ลุงฉายเคยตามเขาไปทุกที่รึไง” คนที่ป้อนคำถามกลับเป็นเจม
“สมัยเป็นเด็ก เจ้าอยู่กับแม่สองคน ไม่ได้ใช้ชีวิตสุขสบายมาก่อนเลยครับ ทุกวันนี้ถึงรวยแล้ว จึงเข้าใจหัวอกคนจน”
“อืม เจ้าเคยลำบากมาก่อนสินะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าชู้ไม่เจ้าชู้” เตี่ยฮ้งพูด
“แล้วที่ว่าตอนเด็กเคยลำบาก ไหนเล่ามาอีกสิ” คนที่เคยห้ามเตี่ยถามเรื่องส่วนตัวของเจ้า กลับกระสันอยากรู้เสียเอง ควักธนบัตรสีแดงจากกระเป๋าถือมานับสิบใบ ลุงฉายแกมองตาเป็นมัน เม้มปากกลืนน้ำลาย หล่อนจึงยื่นมาให้หนึ่งใบ
“ผมพูดเรื่องส่วนตัว ของเจ้านายมากกว่านี้ไม่ได้เเล้วครับ” ลุงฉายพูดเสียงอ่อย คนสวยขี้ตืด เห็นนับธนบัตรเป็นพัน กลับหาใบละยี่สิบบาทมายื่นให้ จะถอนหงอกแกหรือไง
“ร้อยนึงพอมั้ย เล่าประวัติคุ้มวงศ์สะหวันไปด้วยเลย ฉันว่าที่นี่มันแปลกๆ นะ”
“ผะ... ผมพูดยากจริงๆ” แกทำท่าลุกเดินหนี
“เอ้า! ห้าร้อย ทุ่มแล้วนะ”
“ผมพูดได้บางเรื่อง”
ลุงแกไม่วายหันมามองเงินในมือ
“ฮึ่ม! เอาไปหมดเลย พูดมา”
เตี่ยฮ้งหัวเราะฟันกระทบกันดังกึกๆ ให้มันได้แบบนี้สิ กล้าได้กล้าเสีย ถึงจะสมกับเป็นลูกสาวเซียนฮ้งเก้านิ้ว (นิ้วมือถูกตัดเพราะถูกจับได้ว่าโกง)
แล้วตาลุงขี้เมาก็ร่ายยาวเท้าความตั้งแต่สมัยเจ้าไตรภพ ผู้เป็นเจ้าพ่อของเจ้าวงศ์สะหวันได้สมรสกับเจ้าบัวเขียว แต่คนเป็นใหญ่ในคุ้มแห่งนี้ คือเจ้าแสงหล้าที่เป็นแม่เลี้ยงได้คุมการเงินในคุ้มไว้ทั้งหมด ท่านหวงทรัพย์สินมาก มองว่าสองผัวเมียนิสัยฟุ้งเฟ้อ เอาเงินไปลงทุกกิจการใดก็ขาดทุน ทำให้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับสองผัวเมียมาตลอด ส่วนเจ้าปู่วงศ์สะหวันท่านวางตัวเป็นกลาง มักหาเวลาไปเข้าวัดทำบุญ เจมนั่งฟังเพลินมองดูนาฬิกาข้อมือ อีกครึ่งชั่วโมงค่อยเข้าสำนักงานก็ยังทัน มองไปยังด้านหน้าสำนักงาน เห็นเจ้าสวมสูทสีเทายืนเหมือนคุยโทรศัพท์อยู่
ต่อมาเจ้าแสงหล้าก็สิ้นกะทันหัน หมอตรวจรู้เพียงหัวใจวายเฉียบพลัน แต่ ลุงฉายที่ขึ้นไปดูศพด้วยบอกว่าโดนยาสั่ง ทำให้เจ้าไตรภพกับเจ้าบัวเขียวมีเงินทองขาดคนควบคุม เบิกจ่ายเงินมาใช้ไม่ขาดมือ
เมื่ออยู่กินกันมานานไม่มีทายาทด้วยกัน เจ้าบัวเขียวเบื่อหน่ายสามีเจ้าชู้ จึงขอแยกบ้านอยู่ แต่เจ้าไตรภพจับได้ว่าแอบไปมีชายอื่น มีการฟ้องร้องแบ่งสมบัติ เจ้าบัวเขียวมาสิ้นจากอุบัติเหตุเรือล้มเสียก่อน ทรัพย์สินในบ้านที่ยักยอกเอาไปจึงถูกนำกลับมา ล้วนเป็นของหวงแหนของเจ้าแสงหล้า ไม่นานเจ้าไตรภพก็สิ้นจากอุบัติเหตุเรือล้มที่ท่าน้ำเดียวกัน พวกบ่าวในบ้านต่างลือกันว่า ผีเจ้าแสงหล้าทำให้สองผัวเมียมีอันเป็นไป ในตอนนั้นเหมือนว่าเจ้าปู่จะสิ้นไร้ลูกหลานจึงให้คนสืบหาทายาท จนได้พบกับหลานชายทั้งสองคน
พอสิ้นประโยคให้ลุงฉายเว้นวรรคหายใจ คิ้วเข้มได้รูปสวยของเจมขมวดเข้าหากัน มือเผลอลูบเส้นผมสีน้ำตาลดัดเป็นลอน ด้วยนึกจินตนาการเรื่องราวในหัวไปด้วย