การจัดกระเป๋าเดินทาง เมื่อมาเรียนต่อต่างประเทศย่

กระทู้สนทนา
ก่อนอื่น ขออนุญาตบอกกติกา ก่อน นะว่า กระทู้นี้ เขียนจากประสบการณ์ บางครั้งผู้เขียนใส่ความคิดเห็นลงไปด้วย
หากไม่สบอารมณ์ผู้อ่านท่านใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ และขอให้ท่าน ไม่ต้องตำหนิ หรือ ดราม่า ใดๆ ให้เสียกำลังใจ
เพราะตั้งใจจะมาแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นประโยชน์ หากความเห็นของเรา (ผู้อ่าน-ผู้เขียน) ไม่ตรงกัน ขอให้ท่านไม่ต้องเสียเวลาอ่าน
อ้อ ลืมบอกที่มาก่อนว่า..
ผู้เขียนเคยอ่านกระทู้ที่นศ.ไทยเรียนหนังสือในต่างประเทศ เขียนเล่าประสบการณ์ไว้ เมื่อเราอ่านก็เกิดกำลังใจ
และเมื่อเรามีโอกาสได้มาเรียนหนังสือที่ต่างประเทศ เราก็อยากจะแชร์ ประสบการณ์ให้เพื่อนๆฟังต่อบ้าง ... 
จึงคิดว่า น่าจะดีกว่าถ้าเราจะแชร์ ประสบการณ์นี้ ไว้ที่กระทู้พันทิพน่าจะดีที่สุด  
(มีหลายเรื่องที่อยากเล่า บางเรื่องก็ลุ้นระทึกมากจะแยกกระทู้ต่างหากนะ เดี๋ยว เรื่องจัดกระเป๋าจะไม่จบสักที)
 
ขอเริ่ม.. แชร์ประสบการณ์ เลยนะ จะได้ไม่เสียเวลาคนที่อยากได้ข้อมูล ..
การจัดกระเป๋าเดินทางมาเรียนต่างประเทศซึ่งนศ.ต้องใช้เวลาอยู่ต่างประเทศนานอย่างน้อย 1 ปี นั้น
สิ่งสำคัญอย่างนึง คือ ของที่ขนใส่กระเป๋าเดินทาง เพื่อมาใช้ชีวิตในต่างประเทศ
อย่างแรกที่อยากจะแนะนำ คือ 
# การเลือก เอเจนซี่ที่ดูแล เรา (กรณีคุณไม่ได้ติดต่อมหาวิทยาลัยด้วยตนเอง)
บางคนอ่านมาถึงตรงข้อความนี้แล้ว ก็คิดในใจว่า จัดกระเป๋า เกี่ยวอะไรกับเอเจนซี่ (วะ) !!!
จะบอกว่าเกี่ยว เพราะเขาจะมีคำแนะนำดีๆให้เรา รวมถึงแนะนำของที่เราต้องนำไป  แต่ก็ขึ้นกับประสบกาณ์ของผู้จัดกระเป๋าละกระเป่าเดินทางด้วย
ว่าจะจัดอย่างไร ให้นำของใช้ที่จำเป็นไปให้ครบ ซึ่งกระเป๋าเดินทางแต่ละใบก็มีความสำคัญต่างกันนะ !!
แล้วคุณจะประหยัดเงินในกระเป๋า เมื่อเวลาบินมาใช้ชีวิตที่ต่างประเทศแล้วจะได้มีเงินไว้ shopping ด้วย 555
# สิ่งของที่เราจะขนใส่กระเป๋าเดินทาง นี้ ขึ้นกับน้ำหนักกระเป๋าที่เราสามารถขนไปตามประเภทตั๋วเครื่องบินที่เราซื้อ 
ผู้เขียน ซื้อตั๋วเครื่องบินประเภทนักเรียน ได้น้ำหนักกระเป๋า 40 กิโลกรัม ผู้เขียนใช้บริการบิน "รักคุณเท่าฟ้า" นะ 
เพื่อบางคนถามว่า บินไปอังกฤษ ทำไม ไม่ซื้อตั๋วของ บริติชแอร์เวย์  เราจะบอกว่า เงื่อนไขตั๋วเครื่องบินประเภทตั๋วนักเรียนแต่ะละสายการบิน
จะให้น้ำหนักกระเป๋าไม่เท่ากันนะ  และราคาตั๋วมีส่วนลดอีก ถ้านศ.อายุเกินจากที่สายการบินบริติชแอร์ฯ กำหนดสำหรับตั๋วนักเรียน ก็ซื้อตั๋วนร.ไม่ได้นะ
อ้อ ! เกือบลืม แต่ละสายการบิน ราคาตั๋วถูกแพง ไม่เท่ากัน ขึ้นกับประเภทตั๋วด้วย บางสายการบิน ตั๋วถูกน้ำหนักกระเป๋าก็น้อยไปด้วย
เช่น ตั๋วโดยสารปกติ ให้น้ำหนัก 30 กก. ตั๋วนักเรียน 40 กก. เพราะจะได้สิทธิพิเศษในการเพิ่มน้ำหนักกระเป๋าด้วย แต่ก็ขึ้นกับเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน และประเภทของตั๋วเครื่องบินที่เราซื้อด้วย  เช่น ตั๋วเครื่องบินนักเรียน แต่ละสายการบินก็ให้น้ำหนักกระเป๋าโหลดได้เครื่อง ก็ให้ไม่เท่ากันนะ
ระหว่าง สายการบิน บริติชแอร์เวย์กับการบินไทย (BA กับ TG) 
ขอพูดเรื่อง ราคาตั๋วเครื่องบินก่อน เดี๋ยวจะลืม !!
ราคาตั๋วก็แตกต่างกัน ขึ้นกับว่า เลือกซื้อแบบ บินตรง หรือ ต่อเครื่อง แนะนำว่า สำหรับสาวๆ ที่ไม่เคยบินไกล หรือ เดินทางคนเดียว
ควรจะซื้อตั๋วเครื่องบินแบบ บินตรง Direct flight จะปลอดภัยกว่า แนะนำว่า "อย่า งก"  
(ผญ.บางคนเวลาซื้อเครื่องสำอางค์กับเสื้อผ้า หละสติแตก รูดบัตรกระจาย แต่ไป งก กับค่าตั๋วเครื่องบิน อันนี้ไม่ควรทำนะค่ะ เพื่อนๆ) 
อ้อ อีกอย่าง คือ สายการบิน รักคุณเท่าฟ้า เนี่ย เขาบริการดี นะ ไม่ละเลย คนไทย (เราแค่ประทับใจ)
คือ เราลืมเอาแปรงสีฟัน ใส่ในกระเป๋าถือ เราขอสจ๊วตเค้าให้มาทั้งซองเลย มี แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และหวี นะถ้าจำไม่ผิด
แต่เราจำไม่ได้ว่ามี cotton bud หรือป่าว เทคนิคการขอรับบริการ คือ ก่อนเขาเสริฟอาหาร หรือ หลังจากที่เข่าเสริฟอาหาร อย่าเพิ่งขอ
ถ้าสิ่งที่ขอนั้นไม่เกี่ยวกับอาหารหรือเครื่องดื่ม อันนี้จำเป็นต้องดูสถานการณ์ด้วย  บางคนไม่ดูเวลา ขอ เขาก็ยุ่ง คุณก็อารมณ์เสีย
หาว่าเขาบริการคนไทย ไม่ดี อีก (นี่เรา ไม่ได้ค่าโฆษณาจากสายการบินนะ อย่าเข้าใจว่าเรามาเชียร์ให้ซื้อตั๋วเขา ) 
ปล. มีกระทู้ใหม่แยกต่างหากเพื่อแนะนำวิธีการเลือกเอเจนซี่เพื่อเรียนต่อต่างประเทศ ด้วยนะ 
ถ้าใครสนใจก็ควรอ่านเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เพื่อเตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศ ถ้าเลือกเอเจนซี่ดี
ถ้าเรามีปัญหา เอเจนซี่ก็ติดต่อสอบถามง่าย พ่อแม่ก็สบายใจ่ว่าลูกไม่อยู่โทรคุยกับเอเจนซี่ได้
(ฝากหิ้วของไปฝากลูกได้ : กรณีถ้าจังหวะดี ที่เอเจนซี่บินมาเยี่ยมลูกค้านะ)
  
อ้าว พิมพ์มายาว ยังไม่ได้เริ่ม เรื่องประเภทของในกระเป๋าสักที .. ไปเริ่มกันเลยนะ
1. กะเวลาจัดกระเป๋าก่อนวันเดินทาง อย่างน้อย 1 สัปดาห์ (กรณีไม่เคยไปอยู่ต่างประเทศนานเกิน 1 สัปดาห์)
2. เลือกซื้อกระเป๋าเดินทางที่น้ำหนักตัวกระเป๋าเบา เพื่อให้สามารถนำของบรรจุไปได้เพิ่มขึ้น
3. เขียนจากประสบการณ์เดินทางที่ผู้เขียนไม่ต้องถูกเรียกตรวจเนื่องจากนำกระเป๋ามาหลายใบ (5ใบ) !!!
กระเป๋าเดินทางควรใช้แบบตั้งรหัสได้ และต้องจำรหัสให้ได้ด้วย เพราะถ้าจำไม่ได้ ก็นำของออกมาไม่ได้  
กระเป๋าเดินทางควรซื้อแบบไมโครไฟเบอร์ ไม่ใช้แบบผ้า เนื่องจากกระเป๋าผ้าน้ำหนักมาก ถูกกรีดง่าย
กระเป๋าล้อลากควรใช้แบบ 4 ล้อ จำนวน 3 ใบ ประกอบด้วย ใบใหญ่สุด 2 ใบ ใบเล็กที่นำขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ
และเป้สะพายหลัง 1 ใบ และผญ.ถ้ามีกระเป๋าสะพาย 1 ใบก็ได้แต่ต้องใส่ในเป้ตอนเดินเข้าจุดตรวจ
กระเป๋าเดินทางมี 2 แบบ คือ มี ซิป กับไม่มีซิป
กระเป๋าแบบที่มี่ซิป ควรใส่ของที่ไม่มีมูลค่ามาก
กระเป๋าแบบที่ไม่มีซิป แต่มีตัวกดปิดล๊อค ควรใส่ของที่มีราคา เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เดี๋ยวจะแนะนำว่า ควรต้องนำเครื่องอะไรไปบ้าง 

4. สำหรับของที่ใส่ในกระเป๋าแต่ละใบ (รวมทั้งสิ้น 5 ใบ) จะแบ่งดังนี้  (กระเป๋าเดินทาง 3 ใบ แต่มี 2 แบบ คือ มี ซิป กับไม่มีซิป )
กระเป๋าใบใหญ่ให้เลือกซื้อขนาดใหญ่สุด 2 ใบ  ควรใช้ 2 แบบ  คือ มีซิปและไม่มีซิป  เพราะกระเป๋าลากแบบไม่มีซิป ขนาดกระเป๋า
ความหนาจะไม่กว้างมาก ประมาณคืบกว่าๆ แต่ของไม่หาย เพราะโจรสนามบินไม่สามารถกรีดกระเป๋าได้ 
สำหรับแบบมีซิป ขนาดกระเป๋าจะหนา (ความกว้าง) จะมาก ใส่ของได้จุกว่า
ของที่ใส่ในกระเป๋าแต่ละใบ แยกประเภท ได้ดังนี้
4.1 กระเป๋าแบบที่มี่ซิป ควรใส่ของที่ไม่มีมูลค่ามาก หรือ ใส่เสื้อผ้า ชุดชั้นใน และรองเท้า เพราะของเหล่านี้ ที่มี size 
ทำให้กระเป๋าจะไม่ค่อยถูกกรีด จากโจรสนามบิน 
4.2 กระเป๋าแบบที่ไม่มีซิป แต่มีตัวกดปิดล๊อค ควรใส่ของที่มีราคา
ข้อ 4.1- 4.2 คือกระเป๋าล้อลากใบใหญ่สุด สำหรับโหลดใต้ท้องเครื่องบิน
ข้อ 4.3 คือ กระเป๋าล้อลากใบเล็ก สำหรับลากขึ้นเครื่องบิน
4.4 เป้สะพายหลัง ให้สะพายไว้ไม่ควรถือ เป้นี้ใส่ของมีค่า นำขึ้นเครื่องไปกับเราปลอดภัยของไม่หาย 
4.5 กรณี ผญ. ควรมีกระเป๋าสะพายใบเล็กใส่ในเป้ใบใหญ่อีกที เพราะเป้ที่สะพายหลังไม่ต้องชั่งน้ำหนัก ดังนั้น จึงมีแค่ กระเป๋าเดินทางล้อลาก 3 ใบ
ที่ต้องชั่งน้ำหนักและต้องจัดของใส่ให้เพียงพอกับน้ำหนักกระเป๋า 3 ใบ ไม่เกิน 40 กก. จากที่สายการบินกำหนดไว้  (ตามตั๋วเครื่องบินที่เราซื้อไว้)
จากข้อ 4.4 เมื่อเดินผ่านด่านตรวจกระเป๋าที่ขึ้นเครื่องแล้ว ระหว่างนั่งรอเครื่องบินออก ก็ตรวจสอบความเรียบร้อยของกระเป๋าลากใบเล็ก(ใบที่ 3) ด้วยว่าซิปแตกไหม
เพราะเราต้องยกขึ้นวางบนชั้นวางของบนศีรษะเราไง (สิ่งของจะได้ไม่หลุดออกมาให้เราอายคน 555)

5 # รายการของในกระเป๋า แยกประเภท ตามข้อ 4.1 - 4.4 ดังนี้
 -  สิ่งของในกระเป๋าใบใหญ่สุด แบบมีซิป (4.1)
1 เสื้อแขนยาว ผ้าหนา 3 ตัว 
2 กางเกงยีนส์ 3 ตัว กางเกงผ้าหนา 2 ตัว ชุดนอนแขนยาว ขายาว 1 ชุด
3 ผ้าพันคอแบบกันลมหนาว 1 ผืน (ไม่ใช่ผ้าพันคอเก๋ แบบแอร์โอสเตสใช้นะ สวย แต่ไม่กันลมหนาว)
4 ชุดชั้นใน 3 ชุด
5 ชุดกีฬา 1 ชุด และถุงเท้า 2 คู่ (สำหรับผญ. : ถุงน่องให้นำไปแค่ 2 คู่ ไปซื้อที่นั่นถูกกว่า มีหลายสี หลายแบบ)
6 รองเท้าผ้าใบ 1 คู่ (อีก 1 คู่ ใส่วันเดินทาง) ส้นสูง 1 คู่ รองเท้าแตะ 1 คู่ สำหรับใช้งานใส่ในห้องนอน-ห้องครัว-ห้องน้ำ
7 ครกไม้ ขนาดเล็กสุด แบบที่ขายที่เกาะเกร็ด (สำหรับคนที่กินอาหารฝรั่งไม่ได้  ครกใบเล็กที่ประเทศอังกฤษราคา 17 ปอนด์)
****ห้ามนำมีดไป ให้ไปซื้อที่ประเทศที่เราอยู่ ถ้านำไปกระเป๋าจะถูกเรียกตรวจ ทำให้เสียเวลาและต้องทิ้งไว้ที่สนามบินเพราะเป็นของต้องห้าม !!

 -  กระเป๋าแบบที่ไม่มีซิป แต่มีตัวกดปิดล๊อค ควรใส่ของที่มีราคา (4.2)
1 หม้อหุงข้าว ขนาดเล็ก แบบธรรมดาฝาสเตนเลส (รายการนั้สำคัญมากห้ามลืมนำไปเด็ดขาด)
  เพราะนร.ไทยที่อังกฤษบ่นกันว่าหม้อหุ้งข้าวแพงและเชย ก็ฝรั่งเค้าไม่กินข้าวจะให้ห้างขายหม้อหุงข้าวทันสมัยได้ไง 
 โปรดจำไว้ว่า สิ่งของใดที่ไทยขายแพง ที่ตปท.จะถูก เช่น ชอคโกเลต สตอว์เบอรี่ น้ำหอม เครื่องสำอางค์ (ราคาจะถูกกว่าไทย)
2 ไดร์เป่าผม แบบพับได้
3 ที่หนีบ/ม้วน ผม ควรซื้อแบบ 2 in 1
4 ชุดเครื่องนอน : หมอน(แบบที่ยังไม่แกะจากแพ็คสูญากาศ)/ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ขนาด 5 ฟุต และผ้าห่มแบบขน (blanket micro fiber)
5 เครื่องดูดฝุ่นแบบพกในรถยนต์ แบบแกนสั้น (ถ้าใครกระเป๋ายังมีที่เหลือ) เพราะหอพักนศ. เครื่องดูดฝุ่นมักจะเต็ม จึงไม่มีกำลังดูด
  สำหรับข้อนี้ไม่จำเป็นนะ แต่ถ้าใครมีที่ว่างในกระเป๋าเหลือก็ควรนำไปสะดวกเรา ไม่ต้อง่ไปรอคิวตอนทำความสะอาดห้องนอน
# วันเดินทาง ควรใส่กางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบ  เพราะเดินทางไกล ป้องกันกางเกงเป้าแตก ถ้าใส่กางเกงผ้า เผื่อเดินไปเกี่ยวอะไร
หรือใครเดินมาชน กางเกงยีนส์เปื้อนยาก ทนทาน กระเป๋าหน้า-หลังเยอะ 
ก่อนขึ้นรถไปสนามบิน ถ้าเป็นผญ.เดินทางคนเดียว ให้นำตั๋วเครื่องบิน มาใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายใส่ในกระเป๋าสตางค์นะ
# สำหรับผช. ถ้าใครจะใส่ตั๋วเครื่องบินในกระเป๋ากางเกงให้ใส่กระเป๋ากางเกงด้านหน้านะ ป้องกันการถูกล่วงกระเป๋า
หรือ เวลาเข้าห้องน้ำเอกสารจะได้ไม่หล่นลงส้วม
# และเมื่ออยู่ที่สนามบิน อย่ารีบจนลืมปิดซิป/กระดุม กระเป๋า เวลาเดินอย่ามัวแต่คุยโทรศัพท์ และเวลานั่งรอให้สังเกตุรอบตัวอย่ามัวแต่แชท !! 
 
ไว้จะมาต่อคราวหน้า นะค่ะ สำหรับกระเป๋า ล้อลากใบเล็กและกระเป๋าเป้สะพายหลัง และกระเป๋าสะพายผญ. (ข้อ 4.3 - 4.5)
เดี๋ยวตัวอักษรจะเกินจากที่กำหนดไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่