ขออนุญาติตั้งเป็นกระทู้คำถามนะคะ
วันนี้ เราโทรศัพท์คุยกับแม่
แม่ถามเราว่า "อยากให้แม่กลับบ้านมั้ย"
เราที่เป็นลูกก็คงอยากให้กลับแหละ แต่ถ้าแม่ไม่อยากกลับเราก็ไม่ว่าอะไร
แม่เราจองตั๋วเดินทางกลับบ้านทางเครื่องบิน และทำงานนวดที่ภูเก็ต อาของเราซึ่งทำงานอยู่กรุงเทพและงานถูกปิดกิจการ จึงจะเดินทางกลับเหมือนกัน แต่อาเราเลือกที่จะเดินทาง โดยรถทัวร์ หรือรถตู้นี่แหละ เพราะสัมภาระเยอะด้วย กลัวโควิด19ด้วย
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า อาโทรคุยกับแม่เรา บอกแม่เราว่า "อย่าเพิ่งกลับดีมั้ย ถ้ามาเดี๋ยวก้นำเชื้อโรคกลับมาด้วย ติดคนที่บ้านทำยังไง " ประมาณนี้ (อันนี้แม่เล่าให้ฟัง)
คนได้ยินแบบนี้มันก้ต้องทุกข์ใจใช่มั้ย ว่า
เออ...ฉันเป็นตัวอันตรายหรอ
-ฉันอาจจะนำโรคนะ
-ฉันจะสร้างความเดือดร้อนให้กลับคนอื่น
-ทำความอื่นกลัว และระแวง
แม่เลยโทรมาหาเรานี่แหละ จริงๆ แม่บอกว่าถ้าแม่จะกลับ แม่คงจะกักตัวดูอาการก่อน
ส่วนอาถ้าแบบกลัวแม่นำไวรัสมา ก้แบบไม่ต้องมาหากันก็ได้ อยู่บ้านใครบ้านเราไป
เราเลยบอกแม่ว่า เออไม่ต้องคิดมากหรอก
แม่ยังไม่เป็นอะไรเลย(แม่เรากลับมาน่าจะอยู่ยาวเลย) พยายามบอกต่างๆ ว่าไม่ต้องคิดมาก มันไม่เป็นไร เรายกตัวอย่าง
เรื่องมิททิวดีนขึ้นมาด้วย ว่าไม่อยากให้แม่ตีตนไปก่อน ถ้าเกิดเป็นมาก็ไม่เป็นไร รีบไปรักษาไรเอา
แม่เราเลยบอกว่า เวลาแม่กักตัวอยู่บ้าน ก็ไม่ต้องอยู่ใกล้กัน ไม่สัมผัสกัน บลาๆๆ
เราไม่ได้ว่าอาเราไม่ดีนะ แต่แบบเฮ้ย!จากกรณีแบบนี้อะ ไม่ใช่ว่าอาเขาพูดไม่ถูกหรอกนะ แต่มันทำร้ายจิตใจคนฟังเกินไปมั้ย
ถ้าเราทำในกรณีเดียวกันละ แบบอาก็อยู่กรุงเทพมันก็เสี่ยง ถึงเดินทางมาโดยรถทัวร์อาจจะเสี่ยงน้อยกว่า แต่ถ้านั่งกับคนที่ติดมาละ แล้วเขาไม่รู้ตัว ก็สามารถติดได้เหมือนกันรึป่าว
เราเลยอยากบอกว่าให้เราตื่นตัวแต่อย่าแตกตื่น หรือตื่นตนไปก่อนไข้อะ เพราะตัวคนฟังที่เราพูดให้เขาไป มันทำร้ายความรู้สึกกันมากนะ
อาเราตื่นตัวมันเป็นเรื่องที่ดีแหละ แต่อย่าตื่นตนจนทำทำให้คนอื่นเสียความรู้สึกเลย
#ไม่บูลลี่ #covid19 #ตื่นตัวแต่อย่าตื่นตน
เหตุจาก covid-19
วันนี้ เราโทรศัพท์คุยกับแม่
แม่ถามเราว่า "อยากให้แม่กลับบ้านมั้ย"
เราที่เป็นลูกก็คงอยากให้กลับแหละ แต่ถ้าแม่ไม่อยากกลับเราก็ไม่ว่าอะไร
แม่เราจองตั๋วเดินทางกลับบ้านทางเครื่องบิน และทำงานนวดที่ภูเก็ต อาของเราซึ่งทำงานอยู่กรุงเทพและงานถูกปิดกิจการ จึงจะเดินทางกลับเหมือนกัน แต่อาเราเลือกที่จะเดินทาง โดยรถทัวร์ หรือรถตู้นี่แหละ เพราะสัมภาระเยอะด้วย กลัวโควิด19ด้วย
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า อาโทรคุยกับแม่เรา บอกแม่เราว่า "อย่าเพิ่งกลับดีมั้ย ถ้ามาเดี๋ยวก้นำเชื้อโรคกลับมาด้วย ติดคนที่บ้านทำยังไง " ประมาณนี้ (อันนี้แม่เล่าให้ฟัง)
คนได้ยินแบบนี้มันก้ต้องทุกข์ใจใช่มั้ย ว่า
เออ...ฉันเป็นตัวอันตรายหรอ
-ฉันอาจจะนำโรคนะ
-ฉันจะสร้างความเดือดร้อนให้กลับคนอื่น
-ทำความอื่นกลัว และระแวง
แม่เลยโทรมาหาเรานี่แหละ จริงๆ แม่บอกว่าถ้าแม่จะกลับ แม่คงจะกักตัวดูอาการก่อน
ส่วนอาถ้าแบบกลัวแม่นำไวรัสมา ก้แบบไม่ต้องมาหากันก็ได้ อยู่บ้านใครบ้านเราไป
เราเลยบอกแม่ว่า เออไม่ต้องคิดมากหรอก
แม่ยังไม่เป็นอะไรเลย(แม่เรากลับมาน่าจะอยู่ยาวเลย) พยายามบอกต่างๆ ว่าไม่ต้องคิดมาก มันไม่เป็นไร เรายกตัวอย่าง
เรื่องมิททิวดีนขึ้นมาด้วย ว่าไม่อยากให้แม่ตีตนไปก่อน ถ้าเกิดเป็นมาก็ไม่เป็นไร รีบไปรักษาไรเอา
แม่เราเลยบอกว่า เวลาแม่กักตัวอยู่บ้าน ก็ไม่ต้องอยู่ใกล้กัน ไม่สัมผัสกัน บลาๆๆ
เราไม่ได้ว่าอาเราไม่ดีนะ แต่แบบเฮ้ย!จากกรณีแบบนี้อะ ไม่ใช่ว่าอาเขาพูดไม่ถูกหรอกนะ แต่มันทำร้ายจิตใจคนฟังเกินไปมั้ย
ถ้าเราทำในกรณีเดียวกันละ แบบอาก็อยู่กรุงเทพมันก็เสี่ยง ถึงเดินทางมาโดยรถทัวร์อาจจะเสี่ยงน้อยกว่า แต่ถ้านั่งกับคนที่ติดมาละ แล้วเขาไม่รู้ตัว ก็สามารถติดได้เหมือนกันรึป่าว
เราเลยอยากบอกว่าให้เราตื่นตัวแต่อย่าแตกตื่น หรือตื่นตนไปก่อนไข้อะ เพราะตัวคนฟังที่เราพูดให้เขาไป มันทำร้ายความรู้สึกกันมากนะ
อาเราตื่นตัวมันเป็นเรื่องที่ดีแหละ แต่อย่าตื่นตนจนทำทำให้คนอื่นเสียความรู้สึกเลย
#ไม่บูลลี่ #covid19 #ตื่นตัวแต่อย่าตื่นตน