เลือกอะไรดี ระหว่างลูก กับความสุขของตัวเอง

มีลูกอายุ3 ขวบกว่า  เพิ่งมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกับสามีที่ ตปท 2ปี ก่อนหน้านี้เลี้ยงลูกคนเดียวที่ไทยเกือบ 2 ปี
ระหว่างที่มาอยู่ ตปท คือมีปัญหากันตลอด 
สามีป่วยเป็นโรคขี้ระแวง คิดมาก และติดเหล้า (ตอนนี้เลิกแล้ว) ติดกัญชา ชอบมีอาการหลอนตลอดเวลา
อยากเลิกมากค่ะ แต่ติดที่ว่าถ้าเลิก เค้าจะไม่ให้ลูกกับเรา  เค้าจะให้เรากลับไทยคนเดียว ส่วนลูกเค้าไม่ให้
ชอบดูถูกเรา  หาว่าเราไม่ทำงาน คอยแต่จะเอาเงินกับเค้า (ไม่เคยขอเงินใช้ค่ะ เพราะตอนนี้ก็พอขายของออนไลน์ในไทยได้บ้างแต่แค่ไม่มีเงินใช้ที่นี่เท่านั้นเอง) คอยแต่จะหาเรื่อง เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่
มันสุดจะทนค่ะ ทนมา2 ปีแล้ว  เริ่มจะกลายเป็นโรคซึมเศร้า
ก่อนมาอยู่ที่นี่ได้มีการตกลงกันไว้แล้วว่า  เราจะไม่ทำงาน  ถ้าจะให้ทำงานเราจะอยู่ไทย เพราะที่เมืองไทยหน้าที่การงานเราดีอยู่แล้ว
เงินเราพอใช้  ไม่เคยขอใคร  บ้านเรามี รถเรามี
ถ้าเรามาอยู่นี่ เงินเธอพอที่จะดูแลเรา 3 คนหรอ  เค้ารับปากว่าพอ  เราเลยตัดสินใจมา
แต่เมื่อมาแล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด  เค้าเป็นคนงกมาก จะกินอะไร จะซื้ออะไร จะต้องถามและคอยตรวจตลอดว่าซื้ออะไร
แต่ถ้าเป็นเรื่องตัวเอง เหล้า บุหรี่ ไม่เคยขาด  พอย้อนกลับไป ก็จะได้คำตอบที่ว่า ก็เงินเค้า เค้าทำงานหามาเอง เค้าจะใช้อะไรก็เรื่องของเค้า
ส่วนเราไม่ได้ทำงานหามันมา  ก็ต้องกินต้องใช้ตามที่เค้าเห็นด้วย

ความอึดอัดเริ่มเกิดขึ้น  จากคนที่เคยหาเงินเอง  จะกิน จะใช้อะไรก็ไม่เคยต้องถามใคร กลายเป็นตัดสินใจอะไรไม่ได้
ก่อนหน้านี้อยากซื้ออะไรก็ซื้อ เสื้อผ้า แต่งตัวเรามีงบสำหรับเรื่องนี้ทุกเดือน ไม่เคยขาดแคลน 
อยากไปเที่ยวไหนก็ขับรถไป  ทุกอาทิตย์  หรือทุกเย็นที่ว่าง
มาอยู่นี้ไม่มีรถส่วนตัว ไปไหนก็รถเมล์ รถไฟ เสื้อผ้าไม่เคยซื้อใหม่มา 2 ปีละ รองเท้าก็คู่เดิมตั้งแต่มาอยู่นี้ 
 แต่เรื่องมันไม่ได้แค่มีเรื่องนี้เรื่องเดียว ยังต้องรับมือกับความเมาเหล้า และความหลอนของกัญชา 
ซึ่งเป็นอะไรที่เราไม่เคยเจอมาก่อน  มันหนักมากจริงๆ จนคิดหาทางหนี  แต่ก็ปรึกษาพี่ๆเพื่อนๆหลายๆคนว่า
มันยากนะ  เพราะ ถ้าเค้าจับได้เค้าจะส่งเรากลับไทย แต่ลูกไม่ได้กลับนะ  ต้องขึ้นศาลว่าใครจะได้เป็นผู้ดูแล
เค้าก็จะคอยเอาเรื่องนี้มาขู่เราว่า  เราไม่ได้ทำงาน ไม่มีเงินเดิอน  ยังไงศาลก็ต้องให้ลูกกับเค้า
คิดทุกวิธีทาง  จนหาทางออกไม่เจอ  เหลือทางเดียว คือทิ้งลูกไว้กับเค้า แล้วเอาตัวเองออกไปจากนรกนี้
แต่ก็คิดไม่ตกว่า สุดท้ายแล้วจะทำแบบนั้นได้จริงหรอ เพราะดูแล้วเค้าเลี้ยงลูกไม่ได้ค่ะ ที่เค้าบอกว่าเลี้ยงได้
คือเงินของเค้าต่างหากที่เลี้ยงลูกได้  แต่รายละเอียดยิบย่อยเรื่องเลี้ยงเด็ก  ใครเป็นพ่อ-แม่ จะรู้ดีค่ะ ว่ามันหนัก และเหนื่อยแค่ไหน
แต่มันก็เป็นความเหนื่อยที่มีความสุข แต่สำหรับเค้า เลี้ยงลูกได้แค่ประเดี๋ยวประด๋า  ไม่ได้อยู่ตลอด 24 ชม.แบบเรา
ขนาดเค้ากลับมาหลังเลิกงาน  ใช้เวลาอยู่กับลูกยังไม่ถึง ชม.นึงก็โมโหกับความไร้เดียงสาของเด็กละ
แล้วก็เอาตัวเองไปหมกอยู่ในห้องน้ำ สูบบุหรี่ ดูดกัญชาต่อไป  เวลาส่วนใหญ่ของเค้าเวลากลับบ้านคือ หมกตัวดูดควันอยู่แต่ในห้องน้ำ
แล้วถ้าเราทิ้งลูกไว้ลูกจะอยู่ยังไง  

เครียดค่ะ มากด้วย กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก เหตุผลที่มาตั้งกระทุ้  เพราะ อยากได้ความเห็นของพี่ๆน้องๆเพื่อเป็นแนวทาง
อยากได้กำลังใจให้สู้ได้ต่อไป  หรือใครที่เคยมีประสบการณ์ที่ต้องตัดสินใจแบบนี้  มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังหน่อยค่ะ
จะได้รู้ว่าไม่ได้มีแค่เรานะ  ที่ต้องยืนอยู่ ณ จุดนี้ อย่างท้อแท้ และเริ่มหมดใจ

วันนี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะมาเขียนกระทู้นี้  ถ้าให้เขียนจริงๆน่าจะยาวเป็นบึกเหมือนเล่มรายงาน
เขียนแบบฉุกละหุก เขียนด้วยอารมณ์ของคนที่เหมือนมองไม่เห็นทางเพราะหมอกหนาเหลือเกิน

ถึง ทุกคนที่ผ่านมาเจอและได้อ่านกระทู้นี้
ขออย่างเดียวเลยนนะคะ ว่าอย่าซ้ำเติม เพราะที่เจอมามันก็หนักมากพออยู่แล้ว
แค่อยากได้กำลังใจจากคนที่ไม่เคยรู้จัก  หรือประสบการณ์ตรง  หรือวิธีแก้ไขหาทางออก
ขอบคุณค่ะ

ตัวอย่างของเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่เราไม่ไหวนะ
1. หาว่าเราอยู่บ้าน กินกับกิน แล้วก็อ้วน  (จากน้ำหนักก่อนท้อง 45 ตอนที่โดนด่าว่าอ้วนคือ 50 เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว
ปัจจุบัน 45 เท่าเดิม  ) 
พอพูดย้อนกลับไปว่า  แล้วทีตัวเองละไม่อ้วนเลยใช่ไหม (จาก 70 ขึ้นมาตอนนี้เกือบ 20 โล แถมพุงมาแบบคุณลุง)
แค่นั้นแระค่ะ นางปรี๊ดแตกเลย  หาว่า พูดแบบนี้ได้ไง มาว่าฉันอ้วนได้ไง  ฉันไม่ได้อ้วน เธอควรจะเคารพฉัน เธอจะมาว่าฉันอ้วนไม่ได้ เธอไม่มีสิทธิ์
เอ้า...แล้วทีตัวเองว่าคนอื่นก่อนล่ะ  เรายังไม่โกรธเลย
2. ตัวเองกินพิซซ่าและทิ้งจานไว้บนโต๊ะทำงานตัวเอง นานกี่วันไม่รู้ เราก็ไม่เคยไปยุ่งที่โต๊ะทำงาน ก็ไม่เห็นว่ามีจานวางอยู่
มาวันนึง นางถามว่าเห็นจานวางบนโต๊ะแล้วทำไมไม่เก็บ  เราเลยตอบกลับไปว่าก็ไม่เห็นเลยไม่ได้เก็บ
แค่นั้นแระค่ะ  จะไม่เห็นได้ไง  พูดได้ไงว่าไม่เห็น  ก็จานมันวางอยู่บนโต๊ะ  อ้าว...ตัวเองกินเอง  เห็นเอง แล้วทำไมไม่เก็บ
ก็บอกแล้วไงว่าไม่เห็น  ถ้าเห็นก็เก็บ แล้วนางก็บ่นบลาๆๆๆๆ  ไล่เรากลับบ้านบ้าง ไล่เราไปทำงานบ้าง เหมือนมนุษย์ป้าค่ะ
คือเรื่องของเรื่องนางต้องการให้เราเป็นแม่บ้านเฟอร์เฟ็ค ให้คุ้มกับค่าข้าว ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเนตที่นางจ่าย 
เผอิญเราไม่ใช่ค่ะ เราเป็น working woman ผู้หญิงบ้างาน  งานบ้านได้ กับข้าวได้ แต่ไม่ชอบทำ
3.ล่าสุดเมื่อคืนดูหนังซอมบี้เกาหลีด้วยกัน  นางฟังภาษานาง เราอ่านซับไทย
ถึงตอนที่พระเอกเขียนอะไรสักอย่างเป็นภาษาเกาหลี  นางหันมาถามว่าเค้าเขียนว่าอะไร
เราตอบกลับไปว่าไม่รู้ นางตอบกลับมาว่าไม่รู้ได้ไง  อ้าว...ก็ไม่รู้จะให้รู้ได้ไงก็มันไม่ได้แปล แล้วมันก็เขียนภาษาเกาหลี
นางเถึยงว่าเขียนซิ  เลยย้อนกลับไปดู ก็ไม่เห็นว่าเขียนซับ  ไม่ขอโทษสักคำ แถมมาหาว่าเราขึ้นเสียงใส่
สรุป
นางน่าจะมีปัญหาเรื่องการเป็นลูกน้อง เจอแต่เจ้านายสั่ง  ออกคำสั่งไม่ได้  เลยต้องมาใหญ่กับเมียที่บ้าน
ไอ้เราก็ไม่เคยถูกใครสั่ง  เพราะทั้งชีวิตก็ไม่เคยเป็นลูกน้องใคร  เป็นครูก็สั่งแต่เด็ก
ขนาดเรื่องไม่เป็นเรื่องยังขนาดนี้  แล้วเรื่องที่ไม่ได้เล่าหนักกว่านี้จะขนาดไหน  ลองจินตนาการดูนะคะ
ว่าคนเมาเวลาบ้าคลั่ง  อาการเป็นยังไง  ตำรวจมาบ้านบ่อยค่ะ เพราะถ้าเสียงดัง เพื่อนบ้านจะโทรแจ้งตำรวจ
ตำรวจที่นี่ก็จะมาเร็วมาก  นางก็จะกลัวๆตำรวจเพราะนางมีสิ่งเสพติดไว้ในครอบครอง  นางก็จะระแวงและหาว่าเราโทรแจ้งบ้าง
 _ _!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่