ชวนมาอัปเดตสถานการณ์โรค COVID-19 ในประเทศที่คุณอยู่กัน ว่าเป็นยังไงบ้าง
จากลอนดอน วันที่ 12/03/20
จำนวนคนติดเชื้อล่าสุด 456
เสียชีวิตแล้ว 6 คน
คนที่นี่ไม่ตื่นตัวเท่าไหร่ รวมทั้งรัฐบาลด้วย โดยรวมแล้วยังดำเนินชีวิตกันเหมือนเดิม
ไม่ค่อยเห็นใครใส่หน้ากาก ซึ่งยังพอหาซื้อได้จาก eBay ในราคาสูง แต่แทบไม่มีคนใส่
เจลขวดเล็กๆหาซื้อไม่ได้แล้ว สบู่ล้างมือเริ่มหายาก
ร้านอาหารบางแห่งมีแอลกอฮอล์เจลวางให้กด
โรงเรียนและมหาลัยยังเปิดทำการกันเหมือนเดิม บางที่เหมือนจะมีการเตรียมตัวให้นักเรียน ทำ e-learning แต่ก็ยังไม่ออกมาประกาศอะไร
มหาลัยในลอนดอน นักเรียนส่วนใหญ่อยู่หอ เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ และบางทีนั่งเรียนห้องละเป็นร้อยคน
ในความคิดเราสถานที่แรกที่ควรปิด คือโรงเรียนและมหาลัย
การเดินทางโดย tube ทุกอย่างเหมือนเดิม รู้สึกว่าช่วงนี้ช่วง rush hour คนจะบางตาลง ไม่รู้คิดไปรึเปล่า
ร้านต่างๆใน Chinatown ดูเงียบๆมาสักพัก เหมือนเริ่มกลับมามีคนเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา
บริษัทเอกชนใหญ่ เริ่มมีมาตรการแยกออฟฟิศ คืออาจจะให้ 50% ทำงานที่บ้าน ที่เหลือมาออฟฟิสตามเดิม หรือแยกคนกระจายไปตามออฟฟิสต่างๆ
เพื่อนเบอร์ 1 ทำงานธนาคารขนาดใหญ่ ตอนที่พนักงานกระจายกันไป 4 ออฟฟิศ คือจะไม่ทำงานรวมกัน เวลามีคนติดจะได้ไม่มีผลกระทบมาก เริ่มอาทิตย์หน้าจะมีการส่งคอมพิวเตอร์ไปที่บ้าน เพื่อให้ทำงานที่บ้านได้
เพื่อนเบอร์ 2 ทำงานบริษัทเอกชนขนาดเล็ก ในตึกมีคนติดไวรัสไปเรียบร้อยแล้ว แต่ทางบริษัทยังไม่มีมาตรการใดๆ ไม่มีการฆ่าเชื้อใหญ่อะไรทั้งสิ้น ให้ไปทำงานเหมือนเดิม ขณะนี้เพื่อนทำงานจากบ้านไม่ได้ เพราะไม่มีแลปท็อป
เพื่อนเบอร์ 3 ทำงานแผนกเภสัชในโรงพยาบาลแห่งนึง ในโรงพยาบาลมีคนเสียชีวิตจากไวรัสโคโรน่าแล้ว มีเภสัชกรบางคนบอกว่าได้ใกล้ชิดกับผู้ป่วย อีกทั้งผู้ป่วยก็มีคนมาเยี่ยม แต่ทางแผนกก็บอกให้มาทำงานเหมือนเดิมหากมีอะไรเปลี่ยนแปลงจะแจ้งอีกที ไม่มีการบอกให้กักตัวใดๆทั้งสิ้น
บริษัทของเราเป็นบริษัทเอกชนที่ทำงานก็ใกล้ชิดกับหน่วยงานรัฐมาก(อยู่ตึกเดียวกัน) สิ่งเดียวที่บริษัทแจ้งมา ณ ตอนนี้คือ ให้ติดตั้ง application ส่งข้อความในมือถือหรือ laptop เผื่อว่าต้องทำงานจากบ้าน และงดการ briefing ทั้งหมด (ปกติจะมี briefing ทุกอาทิตย์ ซึ่งไปกันประมาณ 50 คน) บริษัทเราสามารถทำงานจากบ้านได้ทันทีเพราะทุกคนมี laptop แต่บริษัทภาครัฐส่วนใหญ่ไม่มี
ล่าสุดที่ได้ยินข่าว หากไม่ได้มีประวัติใกล้ชิดกับคนติดไวรัสโดยตรง หรือ เพิ่งกลับมาจากประเทศเสี่ยง จะไม่ได้หาไวรัสโคโรน่าให้
นี่อาจ ทำให้ตัวเลขไม่สูงนัก รัฐมนตรีบางคนตรวจเจอไวรัสโคโรน่าแล้ว แต่รัฐสภายังทำงานเหมือนเดิม
ส่วนตัวคิดว่า รัฐบาลอังกฤษกลัวผลกระทบทางเศรษฐกิจและกลัวคน panic มากกว่ากลัวคนติดโรค
รัฐบาลเพิ่งออกงบเยียวยาช่วยเหลือคนจากผลกระทบ แต่ยังไม่ได้ออกมาตรการป้องกันอะไร
คำแนะนำล่าสุดยังคงเป็น ถ้าไม่ป่วยไม่ต้องใส่หน้ากาก
ที่อังกฤษแค่ปัจจุบัน โรงพยาบาลก็ไม่พออยู่แล้ว น่าจะรับมือกับโรคได้ลำบาก
การจะบอกให้คนเมืองหนาแน่นอย่างลอนดอนกักตัวหากรู้สึกป่วย เป็นไปได้ยาก
อย่างเรา ในบ้านแชร์กัน 7 คน จะเลี่ยงยังไง
เท่าที่เห็น ประเทศที่ควบคุมโรคได้ เขามีมาตรการแบบ active มากๆ คือไม่ต้องรอให้คนเดินเข้ามาบอกว่าป่วย แต่เข้าไปจัดการทันที
ในขณะที่ฝั่งยุโรปดูจะนั่งรอให้ตัวเลขพุ่งสูงขึ้นก่อน
ชวนมา update สถานการณ์ COVID-19 ในยุโรป: ที่อังกฤษเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จากลอนดอน วันที่ 12/03/20
จำนวนคนติดเชื้อล่าสุด 456
เสียชีวิตแล้ว 6 คน
คนที่นี่ไม่ตื่นตัวเท่าไหร่ รวมทั้งรัฐบาลด้วย โดยรวมแล้วยังดำเนินชีวิตกันเหมือนเดิม
ไม่ค่อยเห็นใครใส่หน้ากาก ซึ่งยังพอหาซื้อได้จาก eBay ในราคาสูง แต่แทบไม่มีคนใส่
เจลขวดเล็กๆหาซื้อไม่ได้แล้ว สบู่ล้างมือเริ่มหายาก
ร้านอาหารบางแห่งมีแอลกอฮอล์เจลวางให้กด
โรงเรียนและมหาลัยยังเปิดทำการกันเหมือนเดิม บางที่เหมือนจะมีการเตรียมตัวให้นักเรียน ทำ e-learning แต่ก็ยังไม่ออกมาประกาศอะไร
มหาลัยในลอนดอน นักเรียนส่วนใหญ่อยู่หอ เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ และบางทีนั่งเรียนห้องละเป็นร้อยคน
ในความคิดเราสถานที่แรกที่ควรปิด คือโรงเรียนและมหาลัย
การเดินทางโดย tube ทุกอย่างเหมือนเดิม รู้สึกว่าช่วงนี้ช่วง rush hour คนจะบางตาลง ไม่รู้คิดไปรึเปล่า
ร้านต่างๆใน Chinatown ดูเงียบๆมาสักพัก เหมือนเริ่มกลับมามีคนเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา
บริษัทเอกชนใหญ่ เริ่มมีมาตรการแยกออฟฟิศ คืออาจจะให้ 50% ทำงานที่บ้าน ที่เหลือมาออฟฟิสตามเดิม หรือแยกคนกระจายไปตามออฟฟิสต่างๆ
เพื่อนเบอร์ 1 ทำงานธนาคารขนาดใหญ่ ตอนที่พนักงานกระจายกันไป 4 ออฟฟิศ คือจะไม่ทำงานรวมกัน เวลามีคนติดจะได้ไม่มีผลกระทบมาก เริ่มอาทิตย์หน้าจะมีการส่งคอมพิวเตอร์ไปที่บ้าน เพื่อให้ทำงานที่บ้านได้
เพื่อนเบอร์ 2 ทำงานบริษัทเอกชนขนาดเล็ก ในตึกมีคนติดไวรัสไปเรียบร้อยแล้ว แต่ทางบริษัทยังไม่มีมาตรการใดๆ ไม่มีการฆ่าเชื้อใหญ่อะไรทั้งสิ้น ให้ไปทำงานเหมือนเดิม ขณะนี้เพื่อนทำงานจากบ้านไม่ได้ เพราะไม่มีแลปท็อป
เพื่อนเบอร์ 3 ทำงานแผนกเภสัชในโรงพยาบาลแห่งนึง ในโรงพยาบาลมีคนเสียชีวิตจากไวรัสโคโรน่าแล้ว มีเภสัชกรบางคนบอกว่าได้ใกล้ชิดกับผู้ป่วย อีกทั้งผู้ป่วยก็มีคนมาเยี่ยม แต่ทางแผนกก็บอกให้มาทำงานเหมือนเดิมหากมีอะไรเปลี่ยนแปลงจะแจ้งอีกที ไม่มีการบอกให้กักตัวใดๆทั้งสิ้น
บริษัทของเราเป็นบริษัทเอกชนที่ทำงานก็ใกล้ชิดกับหน่วยงานรัฐมาก(อยู่ตึกเดียวกัน) สิ่งเดียวที่บริษัทแจ้งมา ณ ตอนนี้คือ ให้ติดตั้ง application ส่งข้อความในมือถือหรือ laptop เผื่อว่าต้องทำงานจากบ้าน และงดการ briefing ทั้งหมด (ปกติจะมี briefing ทุกอาทิตย์ ซึ่งไปกันประมาณ 50 คน) บริษัทเราสามารถทำงานจากบ้านได้ทันทีเพราะทุกคนมี laptop แต่บริษัทภาครัฐส่วนใหญ่ไม่มี
ล่าสุดที่ได้ยินข่าว หากไม่ได้มีประวัติใกล้ชิดกับคนติดไวรัสโดยตรง หรือ เพิ่งกลับมาจากประเทศเสี่ยง จะไม่ได้หาไวรัสโคโรน่าให้
นี่อาจ ทำให้ตัวเลขไม่สูงนัก รัฐมนตรีบางคนตรวจเจอไวรัสโคโรน่าแล้ว แต่รัฐสภายังทำงานเหมือนเดิม
ส่วนตัวคิดว่า รัฐบาลอังกฤษกลัวผลกระทบทางเศรษฐกิจและกลัวคน panic มากกว่ากลัวคนติดโรค
รัฐบาลเพิ่งออกงบเยียวยาช่วยเหลือคนจากผลกระทบ แต่ยังไม่ได้ออกมาตรการป้องกันอะไร
คำแนะนำล่าสุดยังคงเป็น ถ้าไม่ป่วยไม่ต้องใส่หน้ากาก
ที่อังกฤษแค่ปัจจุบัน โรงพยาบาลก็ไม่พออยู่แล้ว น่าจะรับมือกับโรคได้ลำบาก
การจะบอกให้คนเมืองหนาแน่นอย่างลอนดอนกักตัวหากรู้สึกป่วย เป็นไปได้ยาก
อย่างเรา ในบ้านแชร์กัน 7 คน จะเลี่ยงยังไง
เท่าที่เห็น ประเทศที่ควบคุมโรคได้ เขามีมาตรการแบบ active มากๆ คือไม่ต้องรอให้คนเดินเข้ามาบอกว่าป่วย แต่เข้าไปจัดการทันที
ในขณะที่ฝั่งยุโรปดูจะนั่งรอให้ตัวเลขพุ่งสูงขึ้นก่อน