ถ้าเราเอาเค้ามาเป็น "แฟน" ไม่ได้ ก็สิงคำว่า "เพื่อน" ไปจนตายเลยค่ะ เจ๊คันปากอยากจะเตือนเพื่อนสาวคนหนึ่ง ซึ่งเคยทำงานที่เดียวกัน แต่ไม่มั่นหน้าเกินกว่าจะบอกกล่าว เลยได้แต่เผือกห่างๆอย่างห่วงๆ
ชะนีเพื่อนร่วมงานขอเรียกนางว่า ชะนีแง้ว เพราะนางมีนิสัยเหมือนแมวมาก เสียงนางจะแอ๊วๆออดอ้อน ติงต๊อง ดิ๊งด๊อง โก๊ะเปิ่นเอ๋อแต่งตัวเชย และเหมือนไม่เคยมีแฟนนะเท่าที่ได้ยินมา
เรื่องมันมีอยู่ว่านางโพสเฟซแนวอินเลิฟทุกวัน คนทั้งบริษัทก็งงกันมันโพสถึงใครหว่า แฟนก็ยังไม่มีนี่นา เอ๊ะหรือว่าจะซุ่มเงียบ ลองเลียบๆเคียงๆถามดู ก็บอกว่าไม่ใคร
เพื่อนแผนกเดียวกันก็เมาส์มันส์ในการนินทา ต่างชี้เป้าไปที่หนุ่มตี๋หน้าเกาหลีคนหนึ่งในบริษัท
ชะนี้แง้วนางแอ่วคนนี้อยู่จ้า แต่ชายหนุ่มคนนั้นนางเย็นชา ออกเนิร์ดๆ อึนๆ มึนๆหน่อย ไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้หญิง เหมือนจะหยิ่ง แต่จริงๆเป็นเกย์ (อ้าว! ไม่ใช่ ไม่แน่ใจ ไม่รู้ค่า เรดาร์เกย์เจ๊ดูไม่ออก)
หนุ่มเย็นชานางบอกว่านางเรื่องมากกะการมีแฟน นางเลยแขวนตัวไว้ในความโสดมานานมาก ชะนี้แง้วนางคงไม่อยากให้ชายหนุ่มคนนี้เฉา นางเลยไปเฝ้า เอ๊ย! ไปรอกินข้าว ไปชวนดูหนัง ไปนั่งดูบอลเป็นเพื่อน ไปปั่นงานที่ห้อง ในฐานะเพื่อนเฉยๆจ้ะไม่เคยเป็นอื่น
พอใครถามว่าเป็นแฟนกันเหรอ ต่างคนก็ต่างเหวอ ทำหน้าเบลอๆ ปฏิเสธจนลิ้นพันกัน
"ไม่ใช่จ้ะไม่ใช่ เป็นเพื่อนกันเฉยๆ ไม่เคยคิดเรื่องนั้นเลย"
"โอ๊ย ไม่เอามันเป็นแฟนหรอก มันออกจะเนิร์ด"
"เพื่อนนนน เพื่อนจริงๆ นี่มันยังเอาเรื่องคนที่แอบชอบมาปรึกษาอยู่เลย"
เพื่อนก็ลงความเห็นกันว่า หนุ่มเย็นชาน่ะไม่ได้ชอบชะนีแง้ว แต่ชะนีแง้วนะชอบเขาแน่ๆ แต่จะให้แถเข้าไปจีบเธอทำไม่ได้ เธอเลยแฝงตัวเป็นเพื่อน เนียนๆกลบเกลื่อนความขวยอาย รู้สึกตัวอีกที ก็เป็นเพื่อนกันมาจะหกปีแล้วเธอเอ๊ย ไม่เคยขยับจากมิตรไปเป็นคนรู้ใจสักที
ขนาดบริษัทแตก เพื่อนฝูงแยกย้ายไปทำงานที่อื่นตามมีตามเกิด ชะนีแง้วก็ยังเกาะหนุ่มหน้าตี๋ไปทำงานที่ใหม่กะเขาด้วย คอยช่วยเหลือเอื้ออาทรกันตลอด และยังคงหยอดเสต็ปหวานผ่าน status
ทุกคนที่เห็นอาการก็ออกแนวเป็นห่วง อยากให้หนุ่มตี๋ควงชะนีแอ๊วเป็นแฟนสักที จะได้คุ้มกะที่ตามติดไปทุกที่อย่างปาท่องโก๋ หนุ่มตี๋นางก็ตอบแบบโก้ๆ
"โหพี่ผมไม่เคยคิดกะเค้าเกินเพื่อนเลยจริงๆ"
ชะนีแง้วนางก็คงหวังอยู่ลึกๆอะนะว่าสักวันเค้าอาจจะเปลี่ยนใจ แต่เธอจ๋าผู้ชายน่ะมันแพ้คนใกล้ ต่อให้ไม่สเป็ค แค่เฉียดกรายมาให้เห็นทุกวัน มันก็ต้องมีสปาร์คติด แต่ชะนีแง้วเดินเอาแขนชนกันทุกวันมาห้าหกปี ยังจุดไม่ติด ก็แสดงว่าเขาไม่คิดกะเธอเกินเพื่อนจริงๆ หรือถึงเขาจะคิด เขาก็ไม่ให้สิทธิ์ในการเป็นแฟน
ผู้ชายถ้าเขาโสดและชอบเราจริง เขาคงไม่ปล่อยให้เราสิงคำว่าเพื่อนไปดูหนัง กินข้าว แก้เหงาไปเรื่อยๆ เขาคงจะเอื้อนเอ่ยอะไรหวานๆมานานแล้ว ไม่ใช่ปล่อยให้กินแห้ว นั่งแกร่วจิต คิดไม่ซื่อ ตาปรือฝันหวาน สุดท้ายต้องขึ้นคาน เพราะไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบ แล้วก็จะมารู้ทีหลังว่าชะนีแง้วเธอน่ะไม่ได้เป็นเพื่อนสนิท
เธอเป็นนก…….
เพื่อนชอบผู้ชายคนนึง ไปไหนมาไหนด้วยกันตัวติดกันตลอด 5ปี ผ่านไปยังได้แค่คำว่าเพื่อน
ชะนีเพื่อนร่วมงานขอเรียกนางว่า ชะนีแง้ว เพราะนางมีนิสัยเหมือนแมวมาก เสียงนางจะแอ๊วๆออดอ้อน ติงต๊อง ดิ๊งด๊อง โก๊ะเปิ่นเอ๋อแต่งตัวเชย และเหมือนไม่เคยมีแฟนนะเท่าที่ได้ยินมา
เรื่องมันมีอยู่ว่านางโพสเฟซแนวอินเลิฟทุกวัน คนทั้งบริษัทก็งงกันมันโพสถึงใครหว่า แฟนก็ยังไม่มีนี่นา เอ๊ะหรือว่าจะซุ่มเงียบ ลองเลียบๆเคียงๆถามดู ก็บอกว่าไม่ใคร
เพื่อนแผนกเดียวกันก็เมาส์มันส์ในการนินทา ต่างชี้เป้าไปที่หนุ่มตี๋หน้าเกาหลีคนหนึ่งในบริษัท
ชะนี้แง้วนางแอ่วคนนี้อยู่จ้า แต่ชายหนุ่มคนนั้นนางเย็นชา ออกเนิร์ดๆ อึนๆ มึนๆหน่อย ไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้หญิง เหมือนจะหยิ่ง แต่จริงๆเป็นเกย์ (อ้าว! ไม่ใช่ ไม่แน่ใจ ไม่รู้ค่า เรดาร์เกย์เจ๊ดูไม่ออก)
หนุ่มเย็นชานางบอกว่านางเรื่องมากกะการมีแฟน นางเลยแขวนตัวไว้ในความโสดมานานมาก ชะนี้แง้วนางคงไม่อยากให้ชายหนุ่มคนนี้เฉา นางเลยไปเฝ้า เอ๊ย! ไปรอกินข้าว ไปชวนดูหนัง ไปนั่งดูบอลเป็นเพื่อน ไปปั่นงานที่ห้อง ในฐานะเพื่อนเฉยๆจ้ะไม่เคยเป็นอื่น
พอใครถามว่าเป็นแฟนกันเหรอ ต่างคนก็ต่างเหวอ ทำหน้าเบลอๆ ปฏิเสธจนลิ้นพันกัน
"ไม่ใช่จ้ะไม่ใช่ เป็นเพื่อนกันเฉยๆ ไม่เคยคิดเรื่องนั้นเลย"
"โอ๊ย ไม่เอามันเป็นแฟนหรอก มันออกจะเนิร์ด"
"เพื่อนนนน เพื่อนจริงๆ นี่มันยังเอาเรื่องคนที่แอบชอบมาปรึกษาอยู่เลย"
เพื่อนก็ลงความเห็นกันว่า หนุ่มเย็นชาน่ะไม่ได้ชอบชะนีแง้ว แต่ชะนีแง้วนะชอบเขาแน่ๆ แต่จะให้แถเข้าไปจีบเธอทำไม่ได้ เธอเลยแฝงตัวเป็นเพื่อน เนียนๆกลบเกลื่อนความขวยอาย รู้สึกตัวอีกที ก็เป็นเพื่อนกันมาจะหกปีแล้วเธอเอ๊ย ไม่เคยขยับจากมิตรไปเป็นคนรู้ใจสักที
ขนาดบริษัทแตก เพื่อนฝูงแยกย้ายไปทำงานที่อื่นตามมีตามเกิด ชะนีแง้วก็ยังเกาะหนุ่มหน้าตี๋ไปทำงานที่ใหม่กะเขาด้วย คอยช่วยเหลือเอื้ออาทรกันตลอด และยังคงหยอดเสต็ปหวานผ่าน status
ทุกคนที่เห็นอาการก็ออกแนวเป็นห่วง อยากให้หนุ่มตี๋ควงชะนีแอ๊วเป็นแฟนสักที จะได้คุ้มกะที่ตามติดไปทุกที่อย่างปาท่องโก๋ หนุ่มตี๋นางก็ตอบแบบโก้ๆ
"โหพี่ผมไม่เคยคิดกะเค้าเกินเพื่อนเลยจริงๆ"
ชะนีแง้วนางก็คงหวังอยู่ลึกๆอะนะว่าสักวันเค้าอาจจะเปลี่ยนใจ แต่เธอจ๋าผู้ชายน่ะมันแพ้คนใกล้ ต่อให้ไม่สเป็ค แค่เฉียดกรายมาให้เห็นทุกวัน มันก็ต้องมีสปาร์คติด แต่ชะนีแง้วเดินเอาแขนชนกันทุกวันมาห้าหกปี ยังจุดไม่ติด ก็แสดงว่าเขาไม่คิดกะเธอเกินเพื่อนจริงๆ หรือถึงเขาจะคิด เขาก็ไม่ให้สิทธิ์ในการเป็นแฟน
ผู้ชายถ้าเขาโสดและชอบเราจริง เขาคงไม่ปล่อยให้เราสิงคำว่าเพื่อนไปดูหนัง กินข้าว แก้เหงาไปเรื่อยๆ เขาคงจะเอื้อนเอ่ยอะไรหวานๆมานานแล้ว ไม่ใช่ปล่อยให้กินแห้ว นั่งแกร่วจิต คิดไม่ซื่อ ตาปรือฝันหวาน สุดท้ายต้องขึ้นคาน เพราะไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบ แล้วก็จะมารู้ทีหลังว่าชะนีแง้วเธอน่ะไม่ได้เป็นเพื่อนสนิท
เธอเป็นนก…….