วันที่สาม ปั่นจักรยานไปดูแชมป์ชูถ้วยที่ลิเวอร์พูล

สวัสดีครับ เพื่อนพี่น้องทุกท่าน วันนี้ผมปั่นเข้าพม่าวันแรก ก็หนีตายกันทีเดียว หนีตายในภาษานักปั่นทางไกลก็คือการโดนคัตอ็อฟเพราะว่าไปไม่ทันเวลา จากแม่สอดไป พะอาน ระยะทางประมาณ 140 โล  ช่วงแรก ออกจากด่านมา กอกาแรด ประมาณ 40 โล ปั่นข้ามเขา สองสามลูกืซึ่งวันนี้กว่าผมจะผ่านด่านและกินข้าวเสร็จก็เกือบ เก้าโมง ผมปั่นมาุถึง กอกาแรค ประมาณ11โมง ดูแล้ว สบายๆ เหลืออีกร้อยโล ขำๆเลย รู้ว่าเค้าทำถนน ก็คิดว่าน่าจะเสร็จบ้างแล้ว  เพราะปีก่อนปั่นมาก็เห็นทำกันอยู่ พอหลุดจาก กอกาแรค เท่านั้นแหละ นรกชัดๆ ผมปั่นกินฝุ่นกับถนนพังๆ และรถวิ่งเร็วๆ   จนจะถอดใจโบกรถกันทีเดียว แต่ศักดิ์ศรีค้ำคออยู่ ใครไม่รู้ผมรู้ ดังนั้นจึงต้องปั่นๆจูงๆกันไป สามสิบโล ผมใช้เวลาไป ห้าชั่วโมงครึ่ง นรกป่ะครับแบบนี้...555|




เอาเป็นว่า สภาพผมนี่ มอมเป็น หมาเลยทีเดียว




แต่น้ำใจสองข้างทางที่พี่น้องชาวพม่าที่ส่วนใหญ่จะเป็นศิษย์เก่าประเทศไทย ก็จะทักทายและควักมือเรียกใก้ผมจอดกินน้ำตลอดทาง แม้กระทั่ง จนท.ตม. ยังบอกว่าไม่บ้าก็เมาเมื่อรู้ว่าผมจะปั่นไปไหน พอยื่นหนังสือเดินทางให้บันทึกเสร็จแล้ว พี่แกก็บอกถ่ายรูปเก็บไว้ไปให้ภรรยาดู




ปั่นๆจูงๆ จนเที่ยง เจอร้านข้าว ผมแวะก่อนเลย เพราะการแั่นจักรยานทางไกล ต้องดื่มก่อนกระหายและกินก่อนหิว ไม่งั้นตะคริวจะมาเยือน ฤ ไม่ก่อ ไม่มีร้านให้กิน เจอแล้วต้องกิน การกินแบบประหยัด คือเดินไปที่หม้อแกงที่วางเรียงกันอยู่ หลายๆอย่าง แล้วสั่งกับมาแค่อย่างเดียว ย้ำครับว่าอย่างเดียว เพราะวิถีการกินของพี่น้องพม่าจะมีเครื่องเคียงมากมาย ผมสั่ง แกงหมูคล้ายแกงฮังเลบ้านเรา หนึ่งถ้วย ที่เหลือบนโต๊ะ คือเครื่องเคียง ประกอบด้วย น้ำพริก ผักสด ยำหน่อไม้ ยำข้าวโพด และซุปมะรุมใส่มันฝรั่ง แล้วข้าวหนึ่งโถ ก้นไปเถอะจะอิ่มจนจุก เค้าก็คิดแค่ 2000 จ๊าด ก็ประมาณ 50 บาท ผมมาปั่นในพม่าบ่อยๆ ผมชอบมากๆกับวิถีแบบนี้




กินอิ่มแล้วก็รีบออกปั่นเพราะดูแล้ว ขืนช้ามีมืดแน่ๆ ออกมาก็กินฝุ่นไป แต่ดีหน่อย ที่สองข้างทางมีร้านค้าตั้งอยู่แบบไม่ห่างกันมาก แบบว่ากินฝุ่นจนคอแห้ง ก็แวะเข้าร้านหาน้ำกิน โค้กขวดนึงก็ พันจ๊าต สปอนเซอร์กระป๋องนึงก็แปดร้อย จ๊าต มาเจอทีเด็ดร้านขายน้ำอ้อย แต่พอจอดแล้วชี้ไปก็บอกว่ากมดแล้วนำเหนอ น้ำแข็งใสสไตล์พม่า โดยใส่อะไรลงไปบ้างก็ไม่รู้ แบบว่ากินแล้วมันไม่ "คือ" เลยครับ




กินเสร็จก็ออกปั่นต่อ จนสี่โมงเย็นเหลือระยะทางอีด สี่สิบโล กับเวลาที่ฟ้าจะมืด จึงเป็นเวลาที่ต้องหนีตายกันทีเดียวืโชคดีที่ ถนนในช่วงท้ายทำเสร็จแล้ว เลยได้ควงขาและมีเวลาเก็บภาพวิถีสองข้างทางไว้ได้บ้าง ภาพนี้คือถั่วทอด




ช่วงหลังๆได้มีเวลาหยิบโกโปรออกมาถ่ายบรรยากาศสองข้างทางที่เป็นเทือกเขาหินปูน เดี๋ยวทีมตัดต่อทำเสร็จผมจะนำมาให้ชมครับ














แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่