เชื่อว่า "ไม่มีใคร ไม่เคยอกหัก" เรื่องอกหักถือเป็นเรื่องปกติของทุกคนไม่ว่าจะหญิงหรือชาย เพียงแค่แต่ละคนจะมีวิธีรับมือและพาตัวเองให้ผ่านสถานการณ์นั้นไปยังไง แต่ละคนแต่ละวัยก็มีวิธีรับมือที่แตกต่างกันออกไป
ถ้าเป็นวัยรุ่น ก็อาจจะรู้สึกว่าเรื่อง "อกหัก" ช่างเป็นปัญหาที่หนักและยากที่จะรับมือ ประมาณว่าขาดเธอหรือเขา ชีวิตเราเดินต่อไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ว่ากันเพราะวัยรุ่นประสบการณ์ยังน้อย การรับมือกับสิ่งที่เจอก็น่าจะลำบาก เพียงแต่ขอฝากถึงวัยรุ่นว่า "แล้วในที่สุดน้องๆก็จะผ่านมันไปได้" ไม่ผิดถ้าตอนนั้นจะคิดว่า มันไม่ไหว ไม่มีแรงเดินต่อ วันๆไม่อยากกิน ไม่อยากนอน ในหัวมีแต่เรื่องเธอหรือเขาวนเวียนไม่เว้นแต่ละวินาที ปล่อยน้ำตาไหลออกมาเลยจ้า ไม่ต้องยั้ง อยากร้อง ร้องไป ร้องให้พอ ร้องให้เหนื่อย บางวันอาจจะหลับไปพร้อมน้ำตาที่เปียกชุ่ม ปล่อยให้ได้ปลดปล่อยอารมณ์เสียใจนั้นออกมา เชื่อเถอะ "น้ำตาต้องมีวันหายต้องมีวันแห้ง" อาจจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน เมื่อเสียใจจนถึงที่สุด เราจะหยุดร้องเอง แล้วจะหันกลับมามองว่า "เฮ้ย! เราร้องมาพอแล้ว ควรหยุดแล้วเดินหน้าต่อได้แล้ว" นั่นแหละเมื่อไหร่ที่เราคิดถึงจุดนั้น เราจะสลัดสะบัดความเสียใจทั้งหมด แล้วลุกขึ้นเดินต่อ ชีวิตเรายังต้องเจอคนอีกมาก ไหนจะสังคมในมหา'ลัยที่จะทำให้เราได้เจอคนอีกมากมายเข้ามาให้เราได้เลือก สังคมการทำงานซึ่งจะทำให้เราย้อนมองกลับไปว่า "เออ! ดีนะที่วันนั้น วันที่เขาหรือเธอทิ้งไป เราไม่ด่วนสรุปปัญหา แล้วแก้ปัญหาด้วยการคิดสั้น" ชีวิตยังต้องได้เจอ ได้เรียนรู้คนอีกมาก
ถ้าเป็นวัยทำงาน ก็อาจจะทำให้การใช้ชีวิตเสียศูนย์ไปบ้าง ทั้งๆที่เคยผ่านประสบการณ์อกหักจากช่วงวัยรุ่นมาแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า "ความเจ็บช้ำไม่ได้ลดลงเลยแม้จะไม่ใช่อกหักครั้งแรก" ความผูกพัน ความทรงจำที่มีต่อกันในแต่ละช่วงวัย มันแตกต่างกัน บางคู่อาจจะคิดว่าอุตส่าห์ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ร่วมกันก่อร่างสร้างตัวกันมา ไม่น่าจะต้องจบลงด้วยการแยกทาง อะไรในชีวิตล้วนไม่แน่นอน อยากให้ลองคิดว่า "ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน เราต่างมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่กันก็พอแล้ว" ถ้าวันนึงข้างหน้าไม่ได้ไปต่อ เราก็จะไม่เสียใจเพราะที่ผ่านมาเราพยายามทำดีที่สุดแล้วที่จะทำให้ความรักดำเนินอยู่ได้ แต่ในเมื่อไปต่อไม่ได้ เราก็แค่ยอมรับ และใช้ชีวิตของเราต่อไป ถึงแม้จะเป็นวัยทำงานก็ยังสามารถให้เวลากับการเสียใจได้ไม่ต่างจากวัยรุ่นหรอก อยากร้องไห้ ปล่อยให้ร้อง หัวใจอยากร้องแค่ไหนก็ปล่อยตามใจ สุดท้ายเราเชื่อว่าเมื่อได้เสียใจที่สุด ได้ร้องไห้เยอะสุด แล้วเราก็จะหยุดร้องเอง จากนั้นเหมือนร่างกายจะรับรู้ได้อัตโนมัติว่า "เออ! พอแล้ว เสียใจมาพอแล้ว เลิกร้อง เลิกเสียใจ แล้วใช้ชีวิตต่อซะ"
เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังอกหักทุกคน ไม่ว่าจะช่วงวัยไหนก็ตาม ขอให้ทุกคนเชื่อว่า "แล้วมันก็จะผ่านไป" มันจะกลายเป็นประสบการณ์ เป็นบทเรียนอีกบทนึงของชีวิตที่เราได้เรียนรู้ ได้เติบโต ได้ยอมรับ และใช้ชีวิตต่อไป
ไม่ได้ห้ามว่าไม่ให้ร้องไห้ ไม่ให้เสียใจนะ เรากลับสนับสนุนให้ร้องไห้ให้พอ เสียใจให้สุด แล้วหยุดที่ "กลับมารักตัวเอง"
เชื่อสิ "อกหักไม่ถึงตาย" สุดท้ายการอกหักมันจะกลายเป็นภูมิคุ้มกันเราอีกอย่างนึงที่ทำให้เราแข็งแรงขึ้น
เชื่อสิ "อกหักไม่ถึงตาย" ไม่มีใครรักก็กลับมารักตัวเอง
ถ้าเป็นวัยรุ่น ก็อาจจะรู้สึกว่าเรื่อง "อกหัก" ช่างเป็นปัญหาที่หนักและยากที่จะรับมือ ประมาณว่าขาดเธอหรือเขา ชีวิตเราเดินต่อไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ว่ากันเพราะวัยรุ่นประสบการณ์ยังน้อย การรับมือกับสิ่งที่เจอก็น่าจะลำบาก เพียงแต่ขอฝากถึงวัยรุ่นว่า "แล้วในที่สุดน้องๆก็จะผ่านมันไปได้" ไม่ผิดถ้าตอนนั้นจะคิดว่า มันไม่ไหว ไม่มีแรงเดินต่อ วันๆไม่อยากกิน ไม่อยากนอน ในหัวมีแต่เรื่องเธอหรือเขาวนเวียนไม่เว้นแต่ละวินาที ปล่อยน้ำตาไหลออกมาเลยจ้า ไม่ต้องยั้ง อยากร้อง ร้องไป ร้องให้พอ ร้องให้เหนื่อย บางวันอาจจะหลับไปพร้อมน้ำตาที่เปียกชุ่ม ปล่อยให้ได้ปลดปล่อยอารมณ์เสียใจนั้นออกมา เชื่อเถอะ "น้ำตาต้องมีวันหายต้องมีวันแห้ง" อาจจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน เมื่อเสียใจจนถึงที่สุด เราจะหยุดร้องเอง แล้วจะหันกลับมามองว่า "เฮ้ย! เราร้องมาพอแล้ว ควรหยุดแล้วเดินหน้าต่อได้แล้ว" นั่นแหละเมื่อไหร่ที่เราคิดถึงจุดนั้น เราจะสลัดสะบัดความเสียใจทั้งหมด แล้วลุกขึ้นเดินต่อ ชีวิตเรายังต้องเจอคนอีกมาก ไหนจะสังคมในมหา'ลัยที่จะทำให้เราได้เจอคนอีกมากมายเข้ามาให้เราได้เลือก สังคมการทำงานซึ่งจะทำให้เราย้อนมองกลับไปว่า "เออ! ดีนะที่วันนั้น วันที่เขาหรือเธอทิ้งไป เราไม่ด่วนสรุปปัญหา แล้วแก้ปัญหาด้วยการคิดสั้น" ชีวิตยังต้องได้เจอ ได้เรียนรู้คนอีกมาก
ถ้าเป็นวัยทำงาน ก็อาจจะทำให้การใช้ชีวิตเสียศูนย์ไปบ้าง ทั้งๆที่เคยผ่านประสบการณ์อกหักจากช่วงวัยรุ่นมาแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า "ความเจ็บช้ำไม่ได้ลดลงเลยแม้จะไม่ใช่อกหักครั้งแรก" ความผูกพัน ความทรงจำที่มีต่อกันในแต่ละช่วงวัย มันแตกต่างกัน บางคู่อาจจะคิดว่าอุตส่าห์ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ร่วมกันก่อร่างสร้างตัวกันมา ไม่น่าจะต้องจบลงด้วยการแยกทาง อะไรในชีวิตล้วนไม่แน่นอน อยากให้ลองคิดว่า "ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน เราต่างมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่กันก็พอแล้ว" ถ้าวันนึงข้างหน้าไม่ได้ไปต่อ เราก็จะไม่เสียใจเพราะที่ผ่านมาเราพยายามทำดีที่สุดแล้วที่จะทำให้ความรักดำเนินอยู่ได้ แต่ในเมื่อไปต่อไม่ได้ เราก็แค่ยอมรับ และใช้ชีวิตของเราต่อไป ถึงแม้จะเป็นวัยทำงานก็ยังสามารถให้เวลากับการเสียใจได้ไม่ต่างจากวัยรุ่นหรอก อยากร้องไห้ ปล่อยให้ร้อง หัวใจอยากร้องแค่ไหนก็ปล่อยตามใจ สุดท้ายเราเชื่อว่าเมื่อได้เสียใจที่สุด ได้ร้องไห้เยอะสุด แล้วเราก็จะหยุดร้องเอง จากนั้นเหมือนร่างกายจะรับรู้ได้อัตโนมัติว่า "เออ! พอแล้ว เสียใจมาพอแล้ว เลิกร้อง เลิกเสียใจ แล้วใช้ชีวิตต่อซะ"
เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังอกหักทุกคน ไม่ว่าจะช่วงวัยไหนก็ตาม ขอให้ทุกคนเชื่อว่า "แล้วมันก็จะผ่านไป" มันจะกลายเป็นประสบการณ์ เป็นบทเรียนอีกบทนึงของชีวิตที่เราได้เรียนรู้ ได้เติบโต ได้ยอมรับ และใช้ชีวิตต่อไป
ไม่ได้ห้ามว่าไม่ให้ร้องไห้ ไม่ให้เสียใจนะ เรากลับสนับสนุนให้ร้องไห้ให้พอ เสียใจให้สุด แล้วหยุดที่ "กลับมารักตัวเอง"
เชื่อสิ "อกหักไม่ถึงตาย" สุดท้ายการอกหักมันจะกลายเป็นภูมิคุ้มกันเราอีกอย่างนึงที่ทำให้เราแข็งแรงขึ้น